บทที่ 15 ธุรกิจสีเทา

1758 คำ
บทที่ 15 ธุรกิจสีเทา หลายวันผ่านไป การที่ไตรพัฒน์มาเยือนโกดังเก็บอาวุธผิดกฎหมาย นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เหล่าลูกน้องถึงกับขวัญผวาขั้นสุด ชายชุดดำนับสิบยืนเรียงเป็นหน้ากระดานเมื่อตัวรถยนต์คันหรูจอดเทียบด้านหน้า พลันเมื่อประตูถูกเปิดออก ร่างสูงตระหง่านของผู้ทรงอิทธิพลก็ปรากฏตัว ตามมาด้วยมือขวาคนสนิทอย่างมารุตที่เดินประชิดตัวของผู้เป็นนาย “หน้าซีดแบบนี้แปลว่าพวกมึงทำงานไม่เสร็จตามกำหนดสินะ” มาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยความเรียบนิ่ง ในขณะนั้นสายตาคมดุดันก็กวาดมองลูกน้องของตัวเองทุกคน ที่ตอนนี้ก้มหน้าก้มตาหลบหลีกกันยกใหญ่ แม้ว่าจะไม่ได้คำตอบแต่ก็มั่นใจแล้วว่าสิ่งที่คาดคิดไว้นั้นเป็นเรื่องจริง ไตรพัฒน์เดินทางมาที่โกดังเก็บสินค้าที่ตั้งอยู่แถบปริมณฑลพร้อมกันกับมารุต น้อยครั้งนักที่เขาจะมาตรวจสอบงานด้วยตัวเอง หากแต่ครั้งนี้เขากลับได้รับรายงานว่าสินค้าที่มีกำหนดส่งตามวันเวลานั้นถูกเลื่อนออกไป เหตุเพราะความล่าช้าของตัวลูกน้องเองทั้งนั้น นั่นจึงทำให้เขาใจเย็นที่จะอยู่เฉยแล้วปล่อยให้เครดิตตัวเองเสียชื่อไม่ได้ “เอ่อ...ใกล้เสร็จแล้วครับนาย อีกนิดเดียวจริง ๆ ครับ” หนึ่งในชายชุดดำใจกล้าที่จะตอบกลับ แม้ว่าคำพูดนั้นจะสั่นเทาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น แต่ในฐานะที่เป็นหัวหน้าคอยคุมหน้าที่ภายในโกดัง ย่อมต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น “มันเลยกำหนดส่งของมาสองวันแล้ว รู้ไหมว่ากูเสียหายเท่าไหร่กับความสะเพร่าของพวกมึง!” คราวนี้ความดุดันโหดเหี้ยมก็ปรากฏผ่านกระแสน้ำเสียงเข้ม พานทำให้กลุ่มคนตรงหน้าต่างก็ตัวสั่นเทารีบก้มหน้างุดจนแทบชิดพื้นดิน “คะ...คือ ผมขอโทษครับนาย! ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัว แต่จะพยายามเร่งให้เสร็จภายในคืนนี้ครับ แล้วในวันพรุ่งนี้สินค้าก็จะส่งไปถึงมือเสี่ยยศแน่นอน!” “คราวก่อนที่นายถูกล่อยิงที่ร้านคุณเวย์ วันนั้นทำให้ลูกน้องของเราบาดเจ็บกันเยอะเลยครับ เลยทำให้จำนวนคนไม่เพียงพอกับการทำงาน งานมันก็เลยออกมาล่าช้าแบบนี้” เป็นมารุตที่เอ่ยต่อจากนั้นเมื่อเห็นสภาพของเหล่าลูกน้องที่ตื่นกลัวจนพูดลิ้นพัวพันไม่ได้ศัพท์ จากที่ไตรพัฒน์ถูกล่อยิงที่ร้านดาร์กไนต์ซึ่งมีเวย์คินเป็นเจ้าของ เหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นทำให้ลูกน้องนับสิบได้รับความบาดเจ็บและต้องรับการรักษาตัว การผลิตและส่งออกสินค้าจึงเกิดความล่าช้าอย่างที่เห็นแบบนี้ “แต่ผมรับรองว่าเสร็จทันวันนี้แน่นอนครับนาย เหลือระเบิดกับกระสุนปืนอีกอย่างละห้าสิบลังเท่านั้นครับ!” ไตรพัฒน์ปรายสายตามองมือขวาคนสนิทก่อนจะเบนไปมองผู้รับผิดชอบที่ยืนอยู่ตรงหน้า พอได้ทราบเหตุผลของความล่าช้าก็ทำให้เขาเข้าใจถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พลอยรู้สึกผิดกับแรงตะคอกเมื่อครู่ เพราะนอกจากพวกคนเหล่านี้จะเป็นลูกน้องที่ดูแลความปลอดภัยตัวของเขาแล้ว การดูแลสินค้าในโกดังรวมถึงส่งออกสู่มือลูกค้าก็ย่อมอยู่ในหน้าที่ความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน “กูจะบอกกับเสี่ยยศเองว่าจะส่งของให้ภายในวันจันทร์หน้า เหลืออีกสี่วันพวกมึงก็จัดการให้เรียบร้อย ถ้าช้ากว่านี้อีกพวกมึงโดนดีแน่!” เสียงผ่อนลมหายใจดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะตัดสินใจเลื่อนวันส่งสินค้าตามกำหนด ถึงแม้ว่าชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือจะสูญเสียไปบ้าง แต่เหตุผลที่ได้รับนั้นก็สำคัญไม่แพ้กันเลย “ขะ...ขอบคุณครับ! ขอบคุณมากเลยครับ ไม่ช้าไปกว่านี้แน่นอนครับนาย ไปเว้ยพวกมึง อีกไม่กี่ลังก็เสร็จแล้ว!” อาการดีใจแสดงออกมาจนออกนอกหน้า มารุตหัวเราะออกมา เฉกเช่นเดียวกับไตรพัฒน์ที่สั่นหน้าน้อย ๆ ให้กับสิ่งที่เห็น แน่นอนว่าคำนิยามของมาเฟียไตรพัฒน์ล้วนแต่มีความโหดเหี้ยมดุดัน แต่เขาไม่ใช่คนไร้เหตุผลที่จะทำตามแต่ใจตัวเองจนไม่สนใจเหตุผลและคนรอบข้าง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไตรพัฒน์มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ เหล่าลูกน้องก็รักใคร่ภักดี “ลูกสามเมียสองแล้วมันยังทำตัวเป็นเด็ก” มารุตแค่นหัวเราะเมื่อมองตามหัวหน้าคุมโรงงานที่ออกอาการดีใจกับโอกาสที่ผู้เป็นนายยื่นให้ “มึงนี่รู้ดีจริง ๆ นะไอ้รุต เรื่องลูกไม่เท่าไหร่ แต่มึงรู้ได้ไงว่ามันมีเมียสองคน” ไตรพัฒน์ล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินเข้าไปด้านในโกดัง ขณะนั้นก็กวาดสายตามองไปยังอาวุธมากมายที่วางตามไลน์ผลิตเตรียมพร้อมสำหรับการส่งออกในไม่ช้า “มันเป็นลูกน้องผมอีกที ผมก็ต้องรู้สิครับ ขนาดนายยังรู้เลยว่าผมไปเที่ยวอ่างทุกวัน” “มึงติดต่อกลับไปหาเสี่ยยศว่าขอเลื่อนกำหนด แล้วก็อย่าลืมจ่ายส่วยให้พวกตำรวจด้วย การส่งของจะได้ไม่มีปัญหา” มาเฟียหนุ่มเข้าประเด็นสำคัญถึงเรื่องการส่งสินค้าที่กำลังจะเกิดขึ้น เบื้องหน้าเขาทำธุรกิจสีขาวสะอาดอย่างการเป็นดีลเลอร์นำเข้ารถหรูซูเปอร์คาร์ หากแต่เบื้องหลังกลับเป็นงานสีเทานั่นก็คือการผลิตและส่งออกอาวุธผิดกฎหมาย และที่สำคัญมันยังเป็นการผลิตรายใหญ่ของเอเชียที่มีอาชีพสีกากีคอยหนุนหลัง การส่งออกสินค้าจนกลายเป็นฐานการผลิตรายใหญ่ได้ตราบทุกวันนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไตรพัฒน์สูญเสียเงินมากมายสำหรับการจ่ายส่วยและยัดเงินให้กับผู้ผดุงธรรมยศใหญ่ทั้งนั้น นั่นจึงทำให้ไตรพัฒน์เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่ใครต่อใครต่างก็หมายหัว นอกจากเขาจะร่ำรวยเงินทองแล้ว อำนาจบารมีของเขาก็ยังค้ำฟ้า จนทำให้บุคคลในเงามืดหวังพรากเอาชีวิตให้สิ้น! “ผมเกริ่นกับท่านรองไว้แล้วครับ ส่วนเรื่องเงินคราวนี้ผมคิดว่าน่าจะต้องมากกว่ารอบก่อนเท่าตัวเลย” มารุตขมวดคิ้วมุ่นเมื่อนึกถึงบทสนทนากับนายตำรวจยศใหญ่ สำหรับการช่วยเปิดทางในการส่งสินค้าผิดกฎหมายในล็อตนี้ “อืม มันอยากได้เท่าไหร่ก็ให้มันไป ตอนนี้กูยังต้องพึ่งพามันอยู่” ไตรพัฒน์พยักหน้ารับบาง ๆ เมื่อล่วงรู้ถึงความคิดของมือขวา การมีนายตำรวจยศใหญ่คอยหนุนหลังนับว่าเป็นเรื่องดี แถมยังช่วยส่งเสริมบารมีให้ใครต่อใครคิดเกรงกลัว แต่ในวงจรมาเฟียที่มีแต่มุมมองสีเทาไตรพัฒน์ไม่คิดไว้ใจใครทั้งนั้น เขาได้ผลประโยชน์ด้วยก็จริง แต่อีกฝ่ายก็ย่อมได้ไปจากเขาไม่น้อยเช่นกัน นั่นจึงทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างก็ย่อมเกื้อกูลกันและกัน จนทำให้ธุรกิจผิดกฎหมายประเภทนี้ยังคงไปต่อได้ในปัจจุบัน “นายครับ เดือนนี้คุณตุลย์รูดบัตรเกินวงเงินไปสามใบแล้วนะครับ” อีกหนึ่งหน้าที่ของมารุตนั่นก็คือการจับตาดูแลน้องชายของผู้เป็นนาย ตุลธรเป็นนักศึกษา อยู่ในวัยที่กำลังคึกคะนองพร้อมทำสิ่งใหม่ ๆ ให้ปวดหัวได้ทุกเมื่อ ไตรพัฒน์จึงสั่งให้มารุตช่วยจับตาดูอีกแรง และเรื่องที่นำพาความกังวลใจมาให้มากที่สุดก็เห็นจะเป็นความฟุ้งเฟ้อของน้องชายที่ใช้เงินเหมือนเศษกระดาษ “อีกแล้วเหรอ ไอ้น้องเวร” มาเฟียหนุ่มถึงกับยกมือขึ้นนวดขมับ เป็นครั้งที่เท่าไหร่ของปีนี้แล้วก็ไม่รู้ที่เขาปวดหัวกับน้องชายในเรื่องแบบนี้ แต่พอเจอลูกอ้อนบวกกับการมีน้องชายเพียงคนเดียวก็ทำให้ไตรพัฒน์ใจอ่อนให้ทุกครั้ง “วัยกำลังโต คุณตุลย์ก็คงเอาไปเปย์สาว ๆ แหละครับ ธรรมดาของวัยรุ่น” “เหอะ...วัยรุ่น! แล้วช่วงบ่ายนี้บริษัทบัญชีจะเข้ามารายงานยอดใช่ไหม” ไตรพัฒน์เลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เพราะไม่อยากหงุดหงิดกับน้องชายจนพาลอารมณ์เสียไปทั้งวัน ความรับผิดชอบของเขามีนับสิบ เบื้องหลังที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายก็สามารถคลี่คลายได้แล้ว เบื้องหน้ากับงานสุจริตเขาก็ต้องเต็มที่ไปกับมันด้วย “ใช่ครับนาย แต่ทางคุณนุ้ยเธอแจ้งมาว่าจะมีเด็กฝึกงานตามมาดูงานด้วย ทางนั้นส่งประวัติและข้อมูลมาให้เรียบร้อยแล้วครับ” การที่จะนัดพบกับไตรพัฒน์ได้ย่อมต้องนัดหมายล่วงหน้า และรวมถึงการส่งประวัติทั้งชื่อและรูปถ่ายมาให้มารุตคัดกรองก่อน เหตุเพราะเขาไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าคนที่จะเข้าประชิดตัวเจ้านายนั้นมาดีหรือร้าย ดีไม่ดีก็อาจจะทำงานให้ศัตรูและใช้งานบังหน้าหวังลอบฆ่า “นายต้องตกใจแน่ ๆ เลยครับถ้ารู้ว่าเด็กฝึกงานคนนั้นเป็นใคร” มารุตพูดต่อ หากแต่ครั้งนี้รอยยิ้มของเขากลับหยัดขึ้น เช่นเดียวกับดวงตาคมที่มองไปยังผู้เป็นนายราวกับต้องการจะสื่อถึงอะไรบางอย่าง “ใคร” มารุตไม่ได้ตอบ แต่เขาเลือกที่จะส่งยื่นโทรศัพท์ของตัวเองที่เปิดรูปหน้าและประวัติของนักศึกษาฝึกงานที่กำลังพูดถึง เพียงการมองผ่าน ๆ กลับทำให้ไตรพัฒน์ชะงักงันไปในทันที เขาหยิบโทรศัพท์มาถือไว้ในมือก่อนจะซูมไปถึงรูปและชื่อนามสกุลที่ปรากฏ นางสาว สายป่าน สิทธิสวัสดิ์... “ผมคิดว่านายน่าจะอยากเจอเธอ ผมเลยอนุญาตให้เธอเข้าพบด้วย เป็นไงครับ ผมเป็นลูกน้องที่ดีไหมครับ” มารุตหัวเราะออกเสียง ทั้งตกใจที่ต้องเจอกับเหตุการณ์บังเอิญอีกครั้ง แล้วอีกอย่างก็ตั้งใจหยอกเย้าผู้เป็นนายให้ได้พบเจอกับสาวเจ้าที่ทิ้งท้ายคำพูดเจ็บแสบตอกหน้าเมื่อหลายวันก่อน มารุตไม่รู้ว่าเจ้านายและผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์กันแบบใด หากแต่ความใจกล้าบ้าบิ่นของเธอกลับทำให้ลูกน้องอย่างเขาออกตัวเชียร์ไปเสียแล้ว “มึงมันแส่ไม่เข้าเรื่องไอ้รุต!” ไตรพัฒน์สั่นหน้าเบา ๆ พลางนึกถึงทฤษฎีโลกกลม ที่เขาอยากนิยามให้ใหม่เป็นทฤษฎีโลกเล็กแทน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม