บทที่ 11
วางยา (2) NC
“ผมเซ็นครบหมดแล้วใช่ไหมครับคุณไตร ขาดตกตรงไหนไปหรือเปล่า” เสี่ยยศเอ่ยถามหลังจากส่งหนังสือสัญญาการสั่งซื้อให้กับไตรพัฒน์ได้ตรวจสอบ
“เรียบร้อยครับเสี่ย ขอบคุณมากครับที่ไว้วางใจ หลังจากนี้ก็รอรับของสบาย ๆ ได้เลย” ไตรพัฒน์กวาดสายตามองเร็ว ๆ ก่อนจะเก็บพับเอกสารแล้ววางลงที่โซฟาข้างตัว
เมื่อเสร็จสิ้นการเจรจา วิธีส่งท้ายคู่ค้าก็คือการจับมือแล้วจึงแยกย้าย ซึ่งจังหวะนั้นมารุตลูกน้องคนสนิทก็เดินเข้ามาพอดิบพอดี สายตาคมเข้มมองไปยังลูกน้อง เห็นการโค้งศีรษะรับน้อย ๆ ที่แม้แต่ไม่ต้องเอ่ยเอื้อนคำใดก็เป็นอันเข้าใจ
“อ้าวไอ้รุต ไปไหนมาวะเนี่ย ไม่อยู่กินเหล้าด้วยกัน”
“ผมไปจัดการงานให้นายมาน่ะครับ แล้วนี่เสี่ยจะกลับแล้วเหรอครับ” มารุตค้อมศีรษะลงเมื่อถูกมือใหญ่ตบเบา ๆ ที่บ่าแกร่ง
“จะกลับแล้วล่ะ กูจะไปขึ้นสวรรค์ ไว้เจอกันนะ ผมไปนะครับคุณไตร” ทิ้งท้ายคำพูดเป็นเสียงหัวเราะชอบใจที่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งร้าน
เสี่ยยศเดินออกไปพร้อมกับลูกน้องสองคนที่ตามติด สีหน้าแช่มชื่นรื่นเริงเหมือนว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ดั่งคำพูดจริง ๆ และการกระทำนั้นกลับทำให้มารุตถึงกับอดที่จะขำออกมาไม่ได้ เพราะล่วงรู้การณ์ข้างหน้าว่าเสี่ยหัวงูคนนี้คงได้ตกนรกแทนแน่นอน
“ขำอะไรวะไอ้รุต” มาเฟียหนุ่มถามลูกน้อง หากแต่ในใจกลับรู้ดีว่าเสียงหัวเราะนั้นหมายถึงสิ่งใด
“ก็ขำไอ้เสี่ยนั่นแหละครับ แม่งเลวเสมอต้นเสมอปลาย ก่อนจะขึ้นสวรรค์คงได้ตกนรกก่อน”
ไตรพัฒน์ยิ้มน้อย ๆ ให้กับคำพูดที่ได้ยิน เขาหยัดตัวขึ้น เก็บเอกสารสำคัญขึ้นมาถือและส่งยื่นให้มารุตจัดการต่อเป็นลำดับถัดไป เนื่องจากเขาเองก็มีเรื่องที่ต้องสะสางนับต่อจากนี้เช่นกัน
“เธออยู่ไหน”
“ผมพาเธอไปที่บ้านนายแล้วครับ ไอ้เสี่ยนั่นเลวใช่ย่อย ถึงกับวางยาเลยครับนาย”
ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับทำให้ไตรพัฒน์รีบหันขวับมองมือขวาอย่างนึกขุ่นข้องใจ
“อะ...อ้าว ทำไมมองหน้าผมงั้นล่ะครับนาย” มารุตเกาหัวแกรก ๆ เห็นสายตาของเจ้านายเป็นต้องผวาเมื่อรู้ว่าการกระทำของตัวเองน่าจะขัดหูขัดตาไปเสียแล้ว
“ทำไมพายัยนั่นไปที่บ้านกูวะ! ห้องพักก็มีเยอะแยะทำไมมึงไม่พาไป”
“เอ้า ตอนเธอถูกยิงนายยังพาไปที่บ้านเลย ผมก็นึกว่า...”
“นั่นมันฉุกเฉิน! เวรจริง ๆ ทำงานกับกูมาตั้งกี่ปีแล้วยังไม่รู้ มึงจะไปไหนก็ไป กูรำคาญ!” เสียงตวาดกร้าวทำเอามารุตถึงกับรีบก้มหน้างุด
“งั้นผมจะรีบพาเธอออกมาจากบ้านเดี๋ยวนี้เลยครับ นายจะ...”
“มึงจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวกูจัดการต่อเอง!” คำสั่งคำรามดังลั่นก่อนที่มือขวาจะรีบเผ่น หากแต่ความหงุดหงิดว้าวุ่นที่ก่อสุมอยู่ในใจกลับพลุกพล่านจนเจ้าตัวเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้เช่นกันว่าทำไม
ไตรพัฒน์ถอนลมหายใจ ก่อนจะก้าวฉับตรงไปยังรถยนต์คันหรูและขับเคลื่อนมันไปตามหนทาง ซึ่งจุดหมายก็คือบ้านหลังใหญ่ที่มีหญิงสาวหลับใหลอยู่
จากที่คิดว่าคนถูกวางยาน่าจะกำลังหลับใหลเป็นต้องคิดใหม่ เพราะตอนนี้ภายในห้องนอนกว้างขวางมีข้าวของมากมายที่ถูกขว้างปาจนเกลื่อนไปทั้งหมด...
ไตรพัฒน์รีบเดินมายังห้องนอนของตัวเอง ได้ยินเสียงโวยวายและของบางอย่างที่ถูกทุ่มลงพื้น แม้ไม่ต้องเปิดไปก็รู้ว่าห้องนอนของตัวเองจะอยู่ในสภาพใด
แกร๊ก!
มือใหญ่เปิดประตูและกระชากออกก็พบว่าห้องนอนในตอนนี้มีสิ่งของมากมายที่วางเกลื่อนระเกะระกะ เขาได้ยินเสียงก๊อกแก๊กจากมุมห้อง เห็นเงาราง ๆ ของหญิงสาวที่พยายามพรางตัวหลบซ่อน แต่มันก็ไม่สามารถบดบังสายตาเฉียบคมของเขาไปได้อยู่ดี
“ออกมา!” คำสั่งดุดันตะคอกออกมา ในขณะที่สองขาก็ก้าวเข้าไปช้า ๆ เพื่อรอคอยให้คนตัวเล็กยอมรับผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำ
หากแต่ความคิดของสายป่านกลับตาลปัตรไปอีกทาง ทันทีที่เธอได้ยินเสียงเปิดประตูก็ทำให้เธอหยุดการกระทำตัวเองทุกอย่างและรีบหาที่หลบหนี
หญิงสาวซุกตัวที่มุมห้องติดกับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ หยิบเศษผ้ามาคลุมกายทั้งที่ร้อนรุ่มไม่ต่างจากเปลวเพลิงที่กำลังสาดสุม สติของเธอมีน้อยนิดมาก เพราะมันถูกฤทธิ์ยาครอบงำจนไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเจ้าของเสียงทุ้มโหดเหี้ยมนั้นเป็นใคร
“ฮึก...อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ฮึกฮือ...ปะ...ปล่อยฉันไปเถอะ” แสงจากโคมไฟหัวเตียงส่องสว่างเพียงครึ่ง ทำให้ภายในห้องมืดสลัวและไม่สามารถมองเห็นได้ว่าคนที่กำลังคืบคลานเข้ามานั้นเป็นใคร
แต่เธอรู้ดีว่าเขาเป็นผู้ชายที่ตัวใหญ่มาก น้ำเสียงที่ได้ยินก็น่ากลัว แถมจังหวะการเดินก็ยังน่าเกรงขามจนต้องถดตัวหนี
“ฮึก ยะ...อย่าเข้ามา ฮึก...ปล่อยฉันไปเถอะ”
เธอเห็นปลายเท้าหยุดยืนอยู่ตรงหน้าซึ่งเว้นระยะห่างไม่ถึงหนึ่งเมตร มันใกล้มากจนเธอได้ยินเสียงลมหายใจ หากแต่สายตาของเธอกลับพร่าเลือนจนจับจดไม่ได้ว่าคนตรงหน้าเป็นใครกันแน่
กระทั่งร่างสูงย่อตัวลงเพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกัน จากนั้นมือใหญ่ก็จับคางมนให้เชยขึ้น และเพียงเสี้ยววินาทีร่างแบบบางก็ถูกกระชากรั้งให้อยู่ในวงแขนแกร่ง จนรู้สึกตัวอีกทีร่างกายของเธอก็ถูกวางลงบนเตียงเป็นที่เรียบร้อย
“ปล่อยฉัน! อื้อ...อะ...ออกไปนะ อย่าฮึก...อย่าทำ” มือเล็กยกขึ้นปัดป้องจากสัมผัสร้ายที่เวียนวนตามผิวกาย หากแต่ฤทธิ์ที่แพร่กระจายกลับทำให้เรี่ยวแรงของเธอน้อยลงทุกที ก่อนที่มันจะถูกครอบงำด้วยความหวามไหวที่ทำเอาเธอสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย
“โดนยาเหรอวะ!” เสียงทุ้มห้าวสบถเบา ๆ ก่อนจะรีบผละตัวออกจากร่างเนียนนุ่ม
เพียงเขาย่างกรายเข้ามาก็เห็นถึงความผิดปกติ จนมั่นใจว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ถูกวางยาธรรมดา หากแต่มันเป็นยาปลุกเซ็กซ์ที่ทำให้เธอร้อนเร่าไปทั้งตัว
“ฮื้อ...มะ...ไม่ไหว อะ...อื้อ” จากการผลักไสแปรเปลี่ยนเป็นการเรียกรั้งให้สัมผัส
สายป่านหยัดตัวขึ้น จับมือใหญ่ของคนตรงหน้าให้สัมผัสลูบไล้ตามผิวกาย ในขณะที่เรือนร่างบิดเร้าพร้อมกับเสียงครางพร่าที่ดังเล็ดลอดออกมา
“s**t! อยู่เฉย ๆ ได้ไหมวะ!” ไตรพัฒน์ปัดมือเล็กออก ก่อนจะใช้มือสองข้างกดตรึงให้ร่างกายของเธอนอนราบไปกับเตียง
“ฮื้อ...ไม่ไหวแล้ว อึก...ช่วยฉันที ฉันร้อน ร้อนไปหมด ฮื้อ...ร้อนไม่ไหวแล้วอ๊า!”
“แม่งเอ๊ย!” มาเฟียหนุ่มคำรามลั่นห้องก่อนจะผละตัวออกแล้วรีบเดินไปหยิบตัวยาชนิดหนึ่งที่สามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ได้
จากนั้นก็เดินกลับมาจับรั้งให้คนตัวเล็กนอนหนุนแล้วกรอกยาพร้อมกับน้ำให้เธอดื่มกลืนลงคอ แต่จนแล้วจนเล่าอาการของเธอกลับไม่บรรเทา ทั้งยังส่งเสียงครางไม่หยุดจนไตรพัฒน์ถึงกับปวดขมับ
ตอนนี้เสื้อผ้าของสายป่านถูกถอดออกไปบางส่วน มันหลงเหลือชั้นในและเสื้อตัวนอกเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ส่วนกางเกงขายาวของเจ้าหล่อนก็ถูกโยนทิ้งไปอย่างไร้ทิศทางตั้งแต่ตอนที่เขาผละตัวไปหยิบยาแล้ว
“คุณ...คุณช่วยฉันด้วย ฉันไม่ไหวแล้ว”
ไตรพัฒน์ตัดสินใจดึงรั้งร่างหญิงสาวมากอดไว้ เขาเห็นเม็ดเหงื่อผุดตามกรอบหน้าเป็นจำนวนมากจึงพอเบาใจได้ว่ายาที่กินไปนั้นเริ่มออกฤทธิ์ แต่ด้วยยากระตุ้นกลับมีฤทธิ์แรงกว่าจึงต้องใช้เวลาและความอดทนหลายเท่า
“ป่าน ตั้งสติ! เธอต้องตั้งสติ!” ผู้ชายที่มีร่างสาวสวยมายั่วเย้าอยู่ตรงหน้า ใครบ้างจะอดทนไหว เฉกเช่นเดียวกับไตรพัฒน์ที่ตอนนี้ปวดตุบไปทั้งหมด ปวดทั้งหัวปวดทั้งตัว แล้วก็ปวดกลางกายด้วย!
“คะ...คุณไตร คุณไตรเหรอ อึก...คุณเหรอคะ” ความใกล้ชิดจึงทำให้สายตาอันพร่าเบลอพอมองเห็นว่าบุคคลตรงหน้านั้นเป็นใคร
สายป่านพยายามตั้งสติตามคำพูดที่ได้ยิน หากแต่ฤทธิ์ยาที่เข้าสู่ร่างกายกลับเล่นงานจนความหวิวหวามครอบงำ และไม่อาจสนใจสิ่งใดได้นอกจากความต้องการปลดปล่อยอารมณ์ที่ค้างคา
“ช่วยฉันด้วยค่ะคุณไตร ฮึก...ฉันไม่ไหว ฉันไม่ไหวแล้ว ช่วยฉันที”
“เธอต้องตั้งสติ เธอจะปล่อยให้ยานรกนั่นควบคุมไม่ได้! ฉันให้เธอกินยาไปแล้ว อีกเดี๋ยวก็ดีขึ้น”
“ฮื่อ แต่ฉันไม่ไหว ช่วยฉันทีค่ะคุณไตร ช่วยฉันเถอะนะ ฉันไม่ไหว” สายป่านส่ายหน้าจนเรือนผมสยาย ตอนนี้เธอไม่สนใจกับอะไรทั้งนั้นนอกจากการปล่อยความหวามไหวที่มีอยู่เต็มอก
ร่างเล็กผละออกจากวงแขนแกร่ง เปลี่ยนมาเป็นการคร่อมทับและบดสะโพกทิ้งตัวลง เพื่อให้กลางกายสาวเสียดสีกับความแข็งขืนที่อยู่ภายในกางเกง
“เธอทำบ้าอะไรวะเนี่ย อยู่เฉย ๆ ดิวะ!”
“คุณไตรช่วยฉันด้วย ฉันไม่ไหวแล้วค่ะ ฉันไม่ไหวจริง ๆ” เพื่อเป็นการย้ำเตือนความต้องการของตัวเอง สายป่านโอบคล้องคอหนาเอาไว้ก่อนจะแอ่นหน้าอก แล้วกดริมฝีปากทาบทับยังกลีบปากหยักคล้ำของไตรพัฒน์โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
ความไม่ประสีประสาแต่ยามถูกฤทธิ์ยาควบคุมกลับทำให้คนช่ำชองเสียหลักได้เหมือนกัน
จูบบางเบาเพิ่มทวีเป็นความรุนแรง สายป่านกดย้ำตอกตรึงดั่งใจปรารถนา กระทั่งได้การตอบรับจากคนตรงหน้าเสียงครางหวิวก็ดังเล็ดลอด ตามมาด้วยมือหนาที่เคลื่อนขึ้นมาบีบขยำยังอกอวบของเธอ
ไตรพัฒน์ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกของตัวเองได้อีกต่อไป ถูกยั่วเย้าบดเบียดซึ่งหน้ามีหรือจะทนไหว เขาจูบตอบแถมรุกเกมเหนือชั้นให้เธอได้เห็น ทั้งยังส่งมือไล่ต้อนกวาดไล้สัมผัสไปทุกตารางผิว โดยมีเสียงหยาบโลนเคล้าคลออยู่ข้างหู
“อือ...” สายป่านร้องเบา ๆ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบภายในโพรงปาก ยามถูกเรียวลิ้นกระหวัดดูดดึง ฟันคมขบกัด เธอทั้งเจ็บทั้งเสียว จนเผลอจิกเกร็งลงบนบ่าแกร่งของเขา
นิ้วเรียวยาวลากวนเวียนไม่ห่าง ก่อนจะลงต่ำไปสัมผัสยังกลีบกุหลาบที่ถูกปกปิดด้วยแพนตี้ตัวจิ๋ว
มาเฟียหนุ่มใช้ความช่ำชองนำพาให้เธอเคลิ้มลอย ในขณะที่ข้อมือก็ไล้ต่ำลงเพื่อทักทายกับจุดอ่อนไหวที่เธอต้องการให้เขาปรนเปรอมากที่สุด
เพียงเสี้ยววินาทีไตรพัฒน์ก็จัดการกับชั้นในของเธอได้สำเร็จ เขาเกี่ยวมันลงตามเรียวขา เผยให้เห็นสิ่งสวยงามที่ทำให้คนอย่างเขาตะลึงตาได้เหมือนกัน
จากความอดทนอดกลั้นที่พึงมีอยู่น้อยนิด ทว่าในตอนนี้หายสิ้นหลงเหลือเพียงกามารมณ์ที่ครอบงำจนหูตาพร่าเบลอไปหมด
นิ้วเรียวปาดไล้เบา ๆ แต่กลับทำให้สายป่านสะดุ้ง เป็นครั้งแรกที่มันถูกรุกล้ำ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเองก็ต้องการมันเช่นกัน
“ทำเลยค่ะคุณไตร ช่วยป่านนะคะ ป่านไม่ไหว” สายป่านเปลี่ยนสรรพนามเพื่อหวังอ้อนวอนให้เขาช่วยเหลือ แถมยังบดเบียดสะโพกให้กลางกายแนบสัมผัสกับเขาอย่างแนบแน่น หากแต่เธอเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าการช่วยเหลือของเขานั้นจะเป็นวิธีใด
ไตรพัฒน์ไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ทำตามใจต้องการของตัวเอง เขาผละริมฝีปากออก เปลี่ยนมาเป็นการคลอเคล้าที่ต้นคอขาวสลับกับอกอวบอิ่มที่ยังมีเสื้อกำบัง แล้วจังหวะนั้นก็ส่งนิ้วเรียวยาวเข้าไปทักทายกับจุดอ่อนไหว
หยอกเอินอยู่ชั่วครู่แล้วจึงสอดแทรกเข้าไปในช่องทาง ทว่ามันคับแน่นจนเขาต้องถอดถอนแล้วรุกล้ำเข้าไปใหม่ ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ จนแทรกซึมเข้าไปได้ เท่านั้นแหละเสียงครางกระเส่าหยาบโลนจึงเกิดขึ้น พร้อมกันนั้นเสียงหวานอันไพเราะก็คลอคลึงทำเอามาเฟียหนุ่มเคลิบเคลิ้มจนลืมตัว
“อ๊า คุณไตร เสียวมาก ฮื่อ! อ๊ะ...สะ...เสียวไม่ไหว อื้อ!” สายป่านบิดเร้าเอวและสะโพกเมื่อถูกข้อมือคว้านจนสองนิ้วที่สอดแทรกแตะถูกจุดกระสัน แต่ก่อนที่คำพูดถัดไปจะถูกเปล่งออกมาเธอก็ถูกกดจูบปิดทาบด้วยริมฝีปากที่มันทั้งดูดดึงและหนักหน่วงจนตั้งตัวไม่ได้
ไตรพัฒน์คำรามต่ำยามได้ยินเสียงหวานกระเส่าข้างหู ในขณะที่มือก็เร่งจังหวะหวังส่งสาวเจ้าให้ถึงฝั่งฝัน
จนกระทั่ง...
“คุณไตรขา ป่าน อ๊ะ...อ๊าย!!!” ร่างเล็กเกร็งกระตุกเมื่อถึงฝั่งฝันด้วยสัมผัสช่ำชองของไตรพัฒน์
เธอซบอิงใบหน้าลงกับบ่าแกร่ง หอบหายใจเข้าปอดหนัก ๆ พลางหลับพริ้ม เนื่องจากอ่อนล้าและเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะเปิดเปลือกตาไหว
กระทั่งรู้สึกตัวว่าร่างกายของตัวเองถูกวางให้นอนราบลงบนเตียงนุ่มนั่นแหละเธอถึงได้ลืมตาขึ้นมา ตอนนี้ความต้องการลดน้อยลงแล้ว และมันถูกแทนที่ด้วยความอ่อนล้าของร่างกายที่มันแทรกเข้ามาทดแทน
“คุณไตร...”
“นอนซะ” มาเฟียหนุ่มทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น แต่ก็ไม่วายจัดการห่มผ้าคลุมร่างกายของเธอให้อยู่ใต้ความอบอุ่น ก่อนที่เขาจะหยัดตัวและเดินออกไปจากห้อง
ปล่อยให้ความมืดมิดขับกล่อมคนตัวเล็กหลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทรา...