ถ้าคนที่ชื่นชอบความเร็วของรถซุปเปอร์คาร์แล้วมาเจอ Aston Martin คันนี้ในเวลานี้ต้องรู้สึกเสียเซลฟ์แน่นอน ช้ากว่าจักรยานก็ซุปเปอร์เต่าคันนี้นี่ลjะค่ะ T_T
“เธอ~ ขับเร็วๆ ไม่เป็นเหรอวะ~” เสียงคุณคริชดังขึ้น มาขับเองไหมล่ะ ฉันกลัวชนเพราะมันไม่คุ้นมือคุ้นเท้าเลยค่ะ เหยียบนิดเดียวก็พุ่งเหมือนจรวดแล้วเลยไปช้า ๆ แต่ชัวร์ดีกว่า
“นับไม่เคยขับนี่คะ” ฉันตอบด้วยเสียงเกร็ง อย่าเพิ่งมากวนสมาธิได้ไหม ขับรถครั้งล่าสุดก็เมื่อปีที่แล้วนะ ตอนที่พี่อาร์ตสอนขับรถที่สนามโรงเรียนแถวบ้านแล้วก็พาฉันขับออกถนนไม่กี่ครั้งหลังจากนั้นนับเงินก็ไม่ได้แตะต้องรถยนต์อีกเลย พอมาขับอีกครั้งก็เจอของยากจะให้ขับเร็วขึ้นก็ทำไม่ได้หรอก
“มันมีประกันน่า~” เสียงคุณคริชดังขึ้น เป็นคนรวยทำไมทุกอย่างมันดูง่ายจังเลยวะ รถราคาเป็นสิบ ๆ ล้านยังไม่ต้องห่วง
“ประกันเคลมรถได้ แต่เคลมชีวิตคนไม่ได้ค่ะ นับกลัวขับชนคน” ฉันบอกเสียงแผ่วเพราะพ่อแม่ฉันเสียจากอุบัติเหตโดนรถชนวันนั้นพวกท่านไปซื้อของที่ตลาดกำลังเดินจูงมือกันข้ามถนนเพื่อกลับไปที่รถแล้วก็จะไปรับฉันที่โรงเรียนแต่แล้วฉันกลับต้องเป็นคนไปรับพ่อกับแม่เอง ฉัน...ต้องไปทำเรื่องพาพ่อกับแม่กลับบ้าน
ตำรวจเอารูปที่เกิดเหตุให้ดู ฉันเห็นพ่อกับแม่นอนอยู่ข้างกัน ข้าวของที่ซื้อมากระจัดกระจาย ของที่ซื้อเพื่อเตรียมทำมื้อเย็นทานกันในครอบครัวรวมถึงเค้กวันเกิดที่เละไม่เป็นท่าอยู่ข้าง ๆ ท่านทั้งสองคน เค้กวันเกิดครบรอบ 17 ปี ที่พ่อกับแม่กำลังจะไปรับฉันกลับบ้านเพื่อไปเป่าเทียนในวันนั้น...
“ถึงแล้วค่ะ” หลังจากขับรถแบบคลานมาเกือบ 45 นาทีฉันก็ขับรถมาถึงคอนโดของเขา ตามที่เขาได้บอกเอาไว้แต่พอหันไปดูก็เห็นเขาหลับไม่เป็นท่า
“คุณคริชคะ คุณคริช” เฮ้อ! ถึงจะชอบคุณคริชแค่ไหนแต่นับขอพูดตรง ๆ เลยนะคะว่าตอนนี้คุณคริชเมาเละ เมาเหมือนหมามาก -_-
“ฮื้อ! อย่ากวนสิวะ!” พอฉันเขย่าแขนปฏิกิริยาที่ได้กลับมาคือความฉุนเฉียวที่มาแค่เสียงของคนเมา ส่วนการขยับร่างกายนี่โคตรสโลว์ ไร้เรี่ยวแรงใด ๆ ทั้งสิ้น หมดกันค่ะภาพผู้ชายสุดแบดที่เอาปืนจ่อไอ้พี่จ๊อดในวันนั้น
ฉันไม่รู้จะปลุกเขายังไงเพราะคนเมาก็คือคนเมา ไม่มีสติ แต่ถึงยังไงคนเมาก็คงไม่อยากตาย พอจะตายต่อให้เมาก็คงจะสะดุ้งอยู่มั้งก็เลยเอามือไปบีบจมูกเขาเต็มแรงไม่ให้หายใจได้ บีบไปก็กลัวดั้งเขาเบี้ยว มันโด่งมากแล้วก็ทรงสวยมากจนไม่แน่ใจว่าทำมารึเปล่า
“อึ๊ก!” บีบไม่นานคุณคริชก็ลืมตาขึ้นเหมือนคนจะหมดอากาศหายใจ เมาได้จัญไรมากจริง ๆ เมาจนไม่รู้ว่าควรใช้ปากหายใจแทนจมูก วิธีมั่ว ๆ ของฉันก็เลยได้ผลแบบงง ๆ
“เธอทำอะไรวะ~” พอหายใจเข้าปอดได้ปกติเสียงเมามายของเขาก็หันมาถามฉัน
“ถึงคอนโดคุณแล้วค่ะ”
“อื้อ” พาขึ้นไปหน่อยเดินไม่ไหว~” เขาสะเปะสะปะขยับร่างกายให้นั่งตรง ๆ แล้วก็หันมาบอกฉัน ซึ่งดูจากสภาพฉันก็คิดว่าจะทำแบบนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ ดีนะที่วันนี้เป็นวันเสาร์ไม่อย่างนั้นฉันตายแน่ถ้าต้องไปเรียนต่อเพราะนี่มันจะเช้าอยู่แล้ว
“โอเคค่ะ ไปค่ะฉันอยากกลับบ้านไปนอนแล้ว” ถ้าไม่ติดว่าเขาเคยช่วยและที่สำคัญฉันแอบชอบเขาเชื่อเถอะว่าฉันไม่มาส่งผู้ชายคนไหนให้เสียเวลาการพักผ่อนของตัวเองแน่นอน
“ชั้นไหนคะ” ฉันพยุงเขาเข้ามาด้านในตรงล็อบบี้คอนโด หรูมาก ต้องเงินเหลือแค่ไหนกันถึงจะซื้อได้
“ยี่สิบ...สอง~ ชั้น 22 ห้อง 2204 อ่ะคีย์การ์ด~” ยังดีที่จำห้องตัวเองได้ฉันก็เลยรับคีย์การ์ดจากเขามาแล้วก็ใช้มันพาฉันกับเขาขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่ 22
ตุ๊บ!
เสียงร่างใหญ่ของเขาล้มลงไปที่เตียงเต็มแรงเพราะฉันปล่อยให้เขาร่วงลงไปที่เตียงเอง ตอนที่พยุงเขามันหนักแล้วก็เหนื่อยจนแทบจะไม่มีแรงเหลือให้วางเขาลงที่เตียงอย่างนุ่มนวลได้
พอทิ้งเขาลงที่เตียงก็พอได้มองสำรวจห้องของเขา ห้องนี้สมกับเป็นห้องของผู้ชายจริง ๆ ทุกอย่างแทบจะมีแต่สีดำกับเทาทั้งเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ผ้าปู ผ้าห่ม คลุมโทนดาร์คจนไม่น่าอยู่ ไม่รู้เขาอยู่ลงไปได้ยังไง แต่เอาเถอะยังไงดีกว่าห้องอีนับเยอะ ฮ่า ๆๆ
“อึก~ นับเงิน~” พอล้มลงไปคุณคริชก็เรียกชื่อฉัน
“คะ”
“รีบไหม เหนียวตัวว่ะ~” รีบไหม เหนียวตัวว่ะ คืออะไรหมายความว่าเขาจะอาบน้ำ หรือจะใช้ให้ฉันเช็ดตัวให้แบบนั้นเหรอ?
“มันก็จะเช้าแล้วนะคะนอน ๆ ไปเถอะค่ะ” ฉันบอกเขาไปแบบเลี่ยง ๆ แต่เขาเมาไม่รู้เขาจะเข้าใจคำพูดของฉันรึเปล่า
“เธอก็นอนนี่ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปส่ง~” สรุปว่าเข้าใจสินะ แต่จะให้ฉันนอนที่นี่น่ะเหรอให้นอนในห้องกับผู้ชายสองต่อสองเหรอคะ ไม่มีทางฉันไม่เอาด้วยหรอก
“เดี๋ยวนับเช็ดหน้าเช็ดตาให้คุณแล้วค่อยกลับก็ได้ค่ะ” ฉันบอกเขาแล้วก็หันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาห้องน้ำ ก่อนที่จะเดินไปหาผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวให้เขา
“อื้อ~ เย็น~” พอโดนผ้าชุบน้ำแตะลงที่แก้มคุณคริชก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้า ทำไมคนเมาต้องเรื่องมากด้วยนะ
“แป๊บเดียวค่ะ คุณจะได้สบายตัว” ฉันพูดแค่นั้นแล้วก็รีบเช็ดหน้าให้เขาถึงจะเมาเละแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มองหน้าเขาใกล้ ๆ ชัด ๆ มันก็เลยสั่นทั้งมือทั้งใจ
...คนเรามันจะหล่อขนาดนี้ได้จริง ๆ เหรอ เกิดมาเคยมีสิวไหม เคยมีรูขุมขนที่กว้าง 0.000000001 มิลเมตรเหมือนชาวบ้านชาวช่องบ้างรึเปล่า
ฉันเช็ดหน้าให้เขาสักพักก็หยุดมือลงเพราะใบหน้าหล่อตรงหน้ามันมีพลังดึงดูดให้ฉันมองไม่วางตา ขอฉันมองหน้าเขาแบบนี้สักพักก่อนนะคะเพราะคงไม่มีโอกาสมามองหน้าเขาใกล้ ๆ แบบนี้บ่อยนักหรอก หรือบางทีอาจจะไม่มีอีกเลยก็ได้
“อือ~ เธอตัวหอมว่ะ~” ฉันสำรวจใบหน้าเขาอยู่สักพักคุณคริชก็ปรือตาขึ้นแล้วก็พูดเสียงเบาแต่ฉันได้ยินชัดเจน คนที่แอบชอบชมแบบนี้ฉันก็เลยเขินไปกันใหญ่ ถึงเขาจะเมาก็ตามเถอะนะมันก็เขินอยู่ดี -///-
"คะ อะไรนะคะ" ฉันแกล้งถามใหม่เหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเขาเพื่อชวนคุยไปเรื่อยให้ความเขินมันลดลง
"ตัวเธอหอม ใช้น้ำหอมอะไร~" ท่าทางเขาต้องเมามากก็เลยได้กลิ่นความหอมที่มาจากไหนก็ไม่รู้เข้า สงสัยกลิ่นในห้องเขาแล้วมาเหมาว่าเป็นกลิ่นตัวฉันมั้งคะ คนเมาบางทีก็ตลกดีเหมือนกัน
"ไม่ได้ใช้ค่ะ" ฉันตอบยิ้ม ๆ
"ทำไมหอมล่ะ หอมมาก~" คุณคริชตอบด้วยเสียงอ้อแอ้เหมือนเดิมแต่สายตาเขากลับจ้องมาที่ฉันแบบฉ่ำเยิ้มสุด ๆ ไปเลย
“เดี๋ยวไปชุบน้ำใหม่ก่อนนะคะ จะเสร็จแล้ว” ฉันบอกเขาเพราะดันเผลอสบตากันนานเกือบสิบวินาที กร้าวใจจนทนไม่ไหวก็เลยหาทางเลี่ยงตัวออกมา คนเมานับเงิน มองตากับคนเมาจะเขินทำไม เขาเมาท่องเอาไว้สิ
“เดี๋ยว~ ไม่ต้องเช็ดแล้ว นอนเถอะ~”
“ว๊าย!” พอเขาพูดจบคุณคริชก็จับข้อมือฉันกระชากลงไปนอนข้าง ๆ แล้วกกอดฉันแน่น ตอนนี้ใจฉันตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะกลัวเขาจะทำอะไรตัวเองขึ้นมา
“ฉันไม่ทำอะไรหรอกน่า เธอตัวหอมดี แค่อยากนอนดม~” ขนาดเมาเขายังมีสติรู้ว่าฉันกลัวเขาปล้ำเหรอคะ แต่มันจะดีเหรอที่ฉันมานอนให้คนเมากอดแบบนี้ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยแล้วกับคนเมาเราไว้ใจได้แค่ไหนกัน
“คุณคริชปล่อยก่อนค่ะ ฉันจะกลับบ้านแล้ว” ฉันพยายามจะลุกขึ้นแต่เขากลับเอาขามาเกี่ยวตัวฉันไว้
“เธอกลัวฉันปล้ำเหรอ~” เสียงอ้อแอ้ดังขึ้นมาทำให้ฉันหยุดพยายามดิ้นเพราะโดนขาหนัก ๆ ของเขาเกี่ยวเอาไว้ พอดิ้นแล้วมันเจ็บ
“ก็กลัวสิคะ คุณเมาไม่มีสติขนาดนี้” ฉันยอมรับไปตรง ๆ ฉันเวอร์จิ้นนะคะ ถึงจะชอบคุณคริชแต่มันก็แค่ชอบไหม ฉันไม่ได้อยากมีอะไรกับเขาสักหน่อย เกิดเขาเมาหนักจนหน้ามืดปล้ำฉันขึ้นมาฉันจะทำยังไง
“ไม่ต้องกลัวหรอก นอนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปส่ง~” เขาบอกแล้วก็กอดฉันแน่นขึ้น แถมยังเอาหน้ามาซุกลงที่ต้นคอของฉันอีก แบบนี้ใครมันจะไปหลับได้ล่ะ ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขามันรินรดอยู่ที่ต้นคอของฉันนะคะ มันรู้สึกสะท้านแบบแปลก ๆ -///-
“คุณคริช ปล่อยค่ะ” ฉันไม่ยอม ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันจะมานอนกอดได้ยังไง แล้วพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาฉันจะทำหน้ายังไง เขาจะจำได้รึเปล่าก็ไม่รู้ว่าเป็นคนให้ฉันขับรถมาส่ง
“เธอ! เอิ๊ก~ ไม่รู้เหรอวะว่าฉันเมาแล้วเละ เอิ๊ก~” ฮะ! อะไรของเขาเนี่ย เมาหนักจนพูดไปเรื่อยเปื่อยขนาดนี้เลยเหรออะไรคือเมาแล้วเละ นับเงินงงมากนะคะ แต่ที่งงหนักกว่าคือทำไมฉันต้องมานอนคุยกับคนเมาแล้วให้เขากอดอยู่แบบนี้ ตอนแรกแทบไม่มีแรงยืนแต่ทำไมตอนนี้แรงเขาเยอะจังเลย
“คุณคริชเมาเละจริงค่ะ ยิ่งเมาหนักยิ่งไม่น่าไว้ใจ ปล่อยนับเถอะนะคะ” ฉันบอกแล้วก็บิดตัวออก สาบานว่านี่คือคนเดียวกันกับที่ฉันพยุงซากขึ้นห้องเมื่อกี้ นี่เขาแกล้งเมารึเปล่า!
“ฉันไม่ทำหรอก~”
“คุณคริช!” ฉันเรียกเขาด้วยเสียงตกใจเพราะพอเขาพูดจบเขาก็ซุกหน้าลงที่ต้นคอฉันหนักกว่าเดิม นี่นะไม่ทำ นี่ขั้นเริ่มต้นของการเร้าอารมณ์รึเปล่า
“อื้อ~ ดมเฉย ๆ เธอตัวหอม นอนไปเหอะ~” เขาพูดอ้อแอ้ด้วยน้ำเสียงที่ติดจะรำคาญฉันแล้ว แต่มันไว้ใจไม่ได้อยู่ดี
“ปล่อยค่ะ เกิดคุณไม่ทำแค่ดมล่ะคะ ฉันไม่ไว้ใจคนเมาหรอกนะ!” ฉันพยายามดึงแขนเขาออกแต่เขากอดแน่นมาก
“ไม่ทำจริง ๆ บอกว่าเมาแล้วเละไงวะ~”
“มันเกี่ยวอะไรกับเมาเละล่ะ ยิ่งเมานี่แหละตัวดีเลย!” ฉันเริ่มวีนเพราะทนไม่ไหวแล้ว คนเมาข่มขืนผู้หญิงมีเยอะแยะไป ฉันไม่อยากตกเป็นเหยื่อที่น่าสงสารหรอกนะ
“น้องชายเละจนไม่แข็งเข้าใจไหม~ อึก~ เขาแล้วนกเขาไม่ขันน่ะ ได้ยินชัดรึยัง~”