ตอนที่ 6

1087 คำ
“สวัสดีค่ะน้าปัถย์ ลุงปูรณ์”             เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กสาวหน้าแฉล้มเปล่งทักทายทันทีที่เห็นหน้ากันชัดๆ ทว่าคนถูกเรียกไม่ได้ยินดีสักนิด ปูรณ์เม้มปากหน้านิ่ง ส่วนปัถย์เปลี่ยนเป็นขรึมตามพี่ชาย คิดโกรธคนที่ทำให้หนูหน่อยเรียกพวกเขาแบบนี้             “ทำ… ทำไมอาไวทย์เมาแบบนี้ล่ะคะ”             “ครายเมา… ม่ายเมาสักนิด แค่สนุกนิดหน่อย เอิ้ก! จริงมั้ยปัถย์ พี่ปูรณ์”             คนปฏิเสธความเมาหันถามคนด้านข้างทั้งสอง ก่อนจะหันมองเจ้าของหน้าจิ้มลิ้มที่ยืนอยู่ด้านหน้า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดวาบบนใบหน้า สายตาไล่มองต่ำลงต่ำลงเรื่อยๆ จากใบหน้าสู่ปลายคาง สู่ทรวงอก และไปถึงหน้าท้อง จนหนูหน่อยสะท้านเฮือก ฝ่ามือกระชับสาบเสื้อคลุมชุดนอนเข้าหากันอัตโนมัติ ทั้งหมดนั้นปูรณ์กับปัถย์เห็น             “อย่าเพิ่งถามเลย หนูหน่อยนำไปที่ห้องของนายไวทย์เถอะ ฉันกับนายปัถย์จะพาไปส่งถึงห้อง ไม่งั้นหนูหน่อยพาไปไม่ไหวแน่”             “ค่ะ ลุงปูรณ์กับน้าปัถย์ ตามหนูหน่อยมาทางนี้นะคะ”             หนูหน่อยหันหลังเดินนำไป จึงไม่ทันเห็นใบหน้าตึงๆ ของสุดหล่อสองพี่น้อง ต่างฝ่ายต่างคิดไปคนละอย่าง ปัถย์คิดหาทางแก้เผ็ดคนที่สอนให้หนูหน่อยเรียกเขาเบบนี้ ส่วนปูรณ์นั้นคิดไปถึงคอร์สนวดหน้าที่เขาหลวมตัวซื้อช่วยญาติไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เห็นทีคงได้ใช้บริการสักที               ห้องนอนขนาดใหญ่อยู่ทางปีกซ้ายของตัวบ้านคือวิมานของไวทย์ ห้องที่ไวทย์สั่งห้ามขาด ห้ามหนูหน่อยมาเฉียดใกล้เพราะเขากับหล่อนแบ่งพื้นที่กันชัดเจนแล้ว หนูหน่อยใช้พื้นที่ทางด้านปีกขวาทั้งหมด ส่วนเขาก็ใช้พื้นที่ทางด้านปีกซ้ายทั้งหมดเช่นเดียวกัน มีแค่ห้องนั่งเล่นและห้องครัวเท่านั้นที่ใช้ร่วมกันได้ นอกนั้นห้ามยุ่ง! แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูราวหมอไวทย์สุดหล่อจะใช้แค่พื้นที่ในห้องนอนตัวเองเท่านั้น เขาไม่เฉียดไปใช้อะไรร่วมกับหล่อนสักนิด แต่ตอนนี้หนูหน่อยได้มีโอกาสเข้ามาในห้องนี้เป็นครั้งแรก             ดวงตาสวยหวานมองสิ่งรอบด้านแบบตื่นๆ เพราะนอกจากพ่อ นี่คือห้องนอนของผู้ชายคนแรกที่หล่อนได้เห็นและยังเป็นห้องนอนของผู้ชายที่หล่อนแอบชอบมาตั้งแต่อายุ 10 ปี หล่อนเฝ้าฝันถึงวันที่จะได้ใกล้ชิดกับเขา จนตอนนี้หล่อนได้มีโอกาส แต่เขากลับทำเหมือนหล่อนเป็นตัวปัญหา ทุกสิ่งทุกอย่างดูราวจะกันหล่อนออกห่างจากเขาทุกทาง ทั้งที่พ่อกับอาวิวสั่งนักหนาให้เขาคอยดูแลหล่อนให้ดี แต่เขาล่ะ...             ตั้งแต่หล่อนมาอยู่ที่นี่ หล่อนไม่เคยเห็นเขากลับบ้านก่อนตะวันตกดินเลย เขาคอยจะหลบหน้าหล่อนทุกทาง มีเพียงช่วงเวลาทำงานเท่านั้นที่เขาให้หล่อนเข้าใกล้เพราะเขาต้องคอยสอนงาน ซึ่งหล่อนก็เข้าใจดีว่านั่นคือหน้าที่ หากว่าหล่อนไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษกับเขา ประโยชน์ก็คงจะตกอยู่กับหล่อน เพราะนายสัตวแพทย์ไวทย์สอนงานหล่อนได้เป็นอย่างดี เขาให้หล่อนทำไปพร้อมๆ กับสอน นั่นทำให้หล่อนเรียนรู้งานได้ดีและพอจะมองออกว่าชีวิตนักศึกษาต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง หล่อนจะต้องเผชิญกับอะไร และตกช่วงเย็นเขาก็ให้หล่อนมีอิสระในการใช้พื้นที่ใช้สอยในบ้านหลังนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ก้าวก่ายกันและกัน             แต่เพราะหล่อนอยากให้เขาก้าวก่าย สิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นประโยชน์ แต่หล่อนกลับไม่ต้องการ เพราะหล่อนรู้ดีว่าเป้าหมายของการมาอยู่ที่นี่คืออะไร การศึกษางานจริงก่อนเริ่มเรียนคือผลพลอยได้ แต่สิ่งที่หล่อนตั้งใจมาทำก็คือได้ใกล้ชิดกับเขา ซึ่งตรงนี้พ่อกับอาวิวก็รับทราบแล้วด้วย             ‘พ่อไม่ห้ามหนูหน่อยเหรอคะ ที่คิดแบบนี้’             ‘ไม่… เพราะพ่อรู้จักลูกสาวตัวเองดี ถ้าหนูหน่อยคิดจะทำแบบนั้น พ่อก็ไม่ห้าม แม้มันจะแปลกๆ ไปหน่อยก็ตาม’             แน่ล่ะแปลกแน่เพราะหล่อนบอกพ่อว่า อยากค้นพบหัวใจตัวเองก่อนที่จะเริ่มเรียนในระดับชั้นอุดมศึกษาเพราะหมอไวทย์คือคนจุดประกายความฝันให้หล่อนอยากเป็นสัตวแพทย์ หล่อนเห็นเขาเป็นฮีโร่ในดวงใจตั้งแต่เมื่อ 8 ปีก่อน             ในเวลานั้นพ่อของหล่อนแต่งงานกับพี่สาวของหมอไวทย์             ณ เวลานั้นเขายังเป็นสัตวแพทย์มือใหม่ แต่เขากลับสร้างความประทับใจให้กับหล่อน ด้วยการช่วยปฐมพยาบาลลูกนกตกจากบนต้นไม้ เขาขับรถพาหล่อนและเจ้านกน้อยไปส่งถึงคลินิกรักษาสัตว์ในเมือง             หล่อนมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่สื่อสารกับคุณหมอในคลินิก ภาษาหมอที่สื่อสารกันบอกเล่าอาการของเจ้านกน้อยทำให้หล่อนทึ่ง แต่ไม่ใช่เพราะภาษาอังกฤษพวกนั้นหรอก ที่หล่อนทึ่งก็คือ น้ำเสียงอ่อนโยนและนิ้วมือที่ลูบสัมผัสเจ้านกน้อยอย่างทะนุถนอมต่างหาก เวลานั้นหล่อนอยากเป็นนก             ความรักที่หล่อนฟูมฟักในหัวใจโดยมี ‘วิเวียน’ แม่เลี้ยงของหล่อนและเป็นพี่สาวของหมอไวทย์รับรู้ แต่อาวิวก็บอกว่าถ้าหล่อนอยากสานต่อความฝันกับหมอไวทย์หล่อนต้องตั้งใจเรียน             ในตอนนั้นความที่หล่อนยังเด็ก หล่อนจึงคิดว่าอาวิวสนับสนุน แต่เมื่อโตขึ้นหล่อนถึงได้รู้ว่านั่นคือกุศโลบายของผู้ใหญ่ที่อยากให้หล่อนหันไปตั้งใจเรียนมากกว่าอย่างอื่น ซึ่งหล่อนก็ทำได้สำเร็จ และตอนนี้หล่อนขอทำตามความฝันของตัวเองสักที             ‘แล้วอาวิวล่ะคะ หนูหน่อยทำให้อาวิวผิดหวังหรือเปล่า’             ‘อาไม่เคยผิดหวังกับสิ่งที่หนูหน่อยทำนะลูก แต่หนูต้องเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเอง แม้อาไวทย์จะเป็นน้องชาย แต่หนูหน่อยเป็นลูก อาห่วงหนูมากกว่า หนูหน่อยต้องสัญญากับอา ว่าหนูหน่อยจะไม่พาตัวเองไปเสี่ยงเด็ดขาด ถ้าสถานการณ์ไม่ดี หนูต้องถอย ห้ามรุกก่อนเด็ดขาด หนูหน่อยเข้าใจที่อาพูดมั้ย เพราะชีวิตคู่มันต้องเริ่มต้นจากความรักนะลูก ไม่ใช่เซ็กซ์’             ‘หนูหน่อยจะจำไว้ให้ดีค่ะ’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม