เหตุการณ์เมื่อวานก่อน
สถานบันเทิงใจกลางกรุง แก้วแล้วแก้วเล่าที่ถูกยกขึ้นกรอกใส่ปาก การตัดสินใจในครั้งนี้มันยากสำหรับเขา ไม่เคยมีความคิดสักวินาทีเดียวที่เขาจะคิดว่าตนควรจะพอได้แล้ว
...แต่มันก็นานจนเขาก็ลืมไปเสียสนิทว่านั่นเป็นเวลาที่เขากำลังเสียไปอย่างไร้ประโยชน์ ม่านฟ้าไม่ได้รักเขาไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน หรือจะทำทุกวิถีทางเธอก็ไม่ยอมใจอ่อนรักเขาเสียที เหล้าย้อมใจในวันนี้จึงถูกยกขึ้นดื่มไม่หยุด
น้องชายของเขากำลังวางแผนแต่งงานกับคนรัก พาวินท์มีลูกและกำลังมีครอบครัวที่น่าอิจฉา ในขณะที่เขาเหมือนกับน้ำที่วนอยู่ในอ่าง ไม่ไปไหนและไม่มีความสุข ชายหนุ่มถึงกับตาสว่างว่าจริง ๆ แล้วเขาก็สามารถมีความสุขและมีครอบครัวได้ แม้นจะไม่ใช่ม่านฟ้าก็ตามที
หากจะต้องตัดใจจากเธอและเริ่มต้นใหม่ มันยากสำหรับเขา ซึ่งการให้เธอออกจากที่ทำงานนั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากไม่เจอ หากไม่พบแล้วเขาก็ไม่ต้องเจ็บปวดอยู่ทุกวัน คำสั่งให้เขียนจดหมายคำสั่งเลิกจ้างจึงเกิดขึ้นและเหล้าที่เขากินในวันนี้ก็คือเหล้าย้อมใจ ทว่า
“ท่านรองคะ...” เสียงหวานหยดไม่คุ้นหูดังขึ้นจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มขมวดคิ้วที่มีคนเรียกตำแหน่งของเขาในเวลานี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหน้าไปมอง
“ครับ...” เขาเอียงคอเล็กน้อยเมื่อสาวสวยตรงหน้านี้มีใบหน้าคุ้น ๆ อย่างน่าประหลาดใจ ราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนสักที่
“จำไม่ได้ใช่ไหมคะ ฉันอิงฟ้าค่ะ เราเจอกันเมื่อเดือนก่อนที่บริษัทค่ะ” ภาพเหตุการณ์ในวันวานค่อย ๆ แล่นเข้ามาในหัว ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับเบา ๆ เพิ่งนึกได้ว่าเธอคือเด็กฝึกงานในบริษัทที่มีปัญหาจนทำให้เกิดเรื่องตบตีกัน “ขอนั่งด้วยนะคะ”
“ตามสบายครับ” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ทว่า
“ฉันอยากขอบคุณที่ท่านรองมาช่วยไว้น่ะค่ะ แต่ว่าพอท่านรองมาช่วยใช่ไหมคะ ฉันก็ถูกหัวหน้าสั่งพักงานเลยค่ะ” เธอว่าหน้าเศร้าแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้สนใจก็ตามที จำได้ว่าวันนั้นตนแค่ไม่พอใจที่เธอเป็นแค่พนักงานฝึกงาน แต่กลับถูกต่อว่ารุนแรง ถึงแม้จะผิดจริงแต่ก็ควรพูดคุยกันดี ๆ เขาก็เลยเข้าไปช่วยเธอ
“วันนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจตบหน้าหัวหน้าเลยนะคะ เธอด่าฉันแรงมากเลยค่ะ”
“_”
“ฉันถูกสั่งพักงานหนึ่งเดือนเลยค่ะ เศร้ามากที่ไม่ได้เจอท่านรองเลย และก็...”
“เฮ้อ...เธอพูดมากจังวะ” พาคินณ์เงยหน้าขึ้นมองสาวเจ้าพร้อมกับสบถออกมาอย่างคนนึกหงุดหงิด ทว่า
“คือคุณพ่อ เอ่อ...บอกว่าจะทำความรู้จักกับท่านรองให้ แต่...”
“พ่อ?”
“ค่ะ พ่อเดช...พ่อเดชคุณ” อิงฟ้าเม้มริมฝีปากเพื่อลุ้นว่าเขาคนนี้จะจำพ่อของเธอได้หรือไม่ ทว่าเขากลับเงียบไปนานมาก แถมยังมองเธอนิ่งราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“เอ่อ..คุณพาคินณ์คะ”
“ลุงเดชคุณน่ะเหรอ?”
“ใช่ค่ะ แต่คุณพ่อบอกว่าท่านรองฯไม่ว่างเลย ไหนจะปัญหาในบริษัท ทั้งการประท้วงเรื่องงานแต่งของประธานบริษัทคนใหม่ ทั้งเรื่องนั่นนี่...คุณพ่อก็เลยไม่ได้ไปคุยให้สักที ฉันรอมานานแล้วค่ะ และเมื่อกี้...ดีใจมากที่เห็นคุณอีก”
เธอพูดมากน่ารำคาญฉิบหาย
พาคินณ์เพียงแค่คิดในใจ ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา จริงอย่างที่เธอพูด เมื่อสองเดือนที่แล้วเขาวุ่นมากตั้งแต่พี่ชายหายตัวไปกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อนที่เพิ่งจับตายคนที่ทุจริตเงินได้ เขาไม่ให้ใครเข้าพบเลยในตอนนั้น ไม่แปลกที่จะไม่มีโอกาสได้คุยอะไรกับเธอคนนี้
...ชายหนุ่มไม่ได้ตอบเธอในทันที เพียงแค่ยกมือเรียกบาร์เทนเดอร์มาชงเหล้าให้เธอเพียงเท่านั้น
“สั่งสิ”
“เอ่อ คะ...ค็อกเทลค่ะ” อิงฟ้าตกใจไม่คิดว่าเขาจะยอมคุยด้วย ท่าทีเย่อหยิ่งของเขาทำให้สาวเจ้าหวั่นใจแต่พอเห็นเขาเรียกบาร์เทนเดอร์ให้ก็รู้สึกดีใจขึ้นมา
อิงฟ้าชื่นชอบเขาตั้งแต่วันแรกพบ อาจจะเป็นเพราะเขาเข้ามาเคลียร์ปัญหาของเธอกับรุ่นพี่ที่ทำงาน ซึ่งเขาคนนี้เข้าข้างเธอแม้ว่าเธอจะทำผิด
“ไม่คิดว่า...ท่านจะให้ฉันนั่งด้วย”
“ท่านอะไรกันล่ะ หึ ถ้าเธอเป็นลูกของลุงเดชคุณ เราก็ไม่ได้ห่างเหินกัน” เดชคุณเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารในบริษัทเขา และพ่อของเขาก็ไว้ใจมากอีกด้วย
“จะ จริงด้วย...จริง ๆ แล้วคุณพ่อบอกว่าคุณพ่อไปคุยกับคุณพ่อของคุณให้ด้วย แต่คุณพ่อบอกว่า เอ่อ...คุณกับพ่อมีปัญหากัน”
“หึ ปัญหาเหรอ...ปัญหาใหญ่เลยล่ะ” ชายหนุ่มว่าพลางหัวเราะ พาคินณ์มีปัญหากับพ่อตั้งแต่วันที่ท่านหนุนหลังให้พี่ชายคนโตเป็นประธานบริษัทแทนที่จะเป็นเขาด้วยความที่เจ้าตัวทำงานมานานกว่าพี่ชาย ทว่ากลับได้แค่ตำแหน่งรองประธานบริษัทเพียงเท่านั้น...
“ว่าแต่ทำไมเธอต้องให้พ่อเธอไปคุยกับพ่อฉัน” พาคินณ์มองใบหน้าของเธอ อิงฟ้ามีใบหน้าจิ้มลิ้ม ผมของเธอมีสีน้ำตาลที่ตอนนี้ถูกม้วนเป็นลอนยาวถึงกลางหลัง ร่างของเธอเล็กนิดเดียวแต่กลับมีสัดส่วนที่น่าพึงพอใจ
“คือ...เอ่อ ฉัน...” จะให้เธอบอกได้อย่างไรกันเล่าว่าต้องตาต้องใจเขา “คืออยากให้พ่อไปขอบคุณพี่ที่พี่ช่วยน่ะค่ะ”
“_”
“เอ่อ ขอโทษค่ะ ฉันไม่ควรเรียกคุณว่าพี่สินะ”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ว่าอะไร” อิงฟ้าว่าพลางเขินอาย เธอยื่นมือไปคว้าเอาแก้วค็อกเทลที่บาร์เทนเดอร์ชงให้มาดื่มแก้เขิน
“แล้วฉันเรียกคุณว่าพี่ได้หรือเปล่าคะ”
“หึ เธออยากเป็นน้องฉันเหรอ ฉันนึกว่าเธออยากเป็นอย่างอื่น” พาคินณ์ยกยิ้มให้กับท่าทีเหนียมอายของเจ้าหล่อน ใบหน้าเล็กแดงซ่านทันที
“ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ แค่...อยากเรียกพี่ มันจะทำให้เราสนิทกันมากขึ้นน่ะค่ะ”
“เหรอ...” ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักรับ ก่อนจะยกแก้วเหล้าสีอำพันขึ้นดื่ม เขาเป็นคนคอแข็งมาก ไม่ได้เมาง่าย ๆ แม้นจะนั่งดื่มมานานแสนนาน
“อึก...คือฉันอยากจะกลับไปฝึกงานแล้วน่ะค่ะ”
“หืม...เธอไม่ไปบอกพ่อเธอล่ะ”
“คุณพ่อบอกว่าเดี๋ยวจะไปคุยให้ แต่ว่าช่วงนี้คุณพ่อแปลก ๆ ค่ะ ท่านดูวุ่นวายแล้วก็เครียด” พาคินณ์กระตุกยิ้มมุมปากออกมาอย่างคนมีเลศนัย เขาหันไปหาเธออีกครั้ง
“ดื่มอีกสิ...เผื่อเธออยากเล่าอะไรให้ฉันฟัง”
“หืม...ดะ ได้ค่ะ” อิงฟ้ายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง เธอเริ่มเมาแล้วแม้จะยกไปแค่ไม่กี่แก้ว “จริง ๆ แล้วฉันเพิ่งกลับมาจากเรียนที่ต่างประเทศค่ะ พอมาถึงคุณพ่อก็ให้มาฝึกงานเลย ฉันไม่คุ้นชินกับระบบที่นี่ก็เลยมีปากเสียงกัน แล้วหัวหน้าก็ด่าฉันแรงมาก ๆ ฉันก็เลยพลั้งมือตบไปแบบไม่ได้ตั้งใจ”
“_” พาคินณ์ไม่ได้ฟังเรื่องเล่าไร้สาระอะไรของเธอ เขาเพียงแค่นึกอะไรบางอย่างอยู่ในหัว ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยนั่งคุยกับผู้หญิงหน้าไหนสองต่อสองในเชิงชู้สาวเลยยกเว้นกับม่านฟ้า นี่เป็นครั้งแรก และเขาก็อยากลอง
“เธออยากมีอะไรกับฉันไหม”
“คะ...”
“หืม?”
“มะ หมายถึงอะไรคะ เอ่อ...”
“ฉันคิดว่าเธอรู้” อิงฟ้ายังตกใจไม่ทันหาย ด้วยความที่เขาเป็นคนเข้าถึงตัวได้ยากทำให้เธอไม่เคยมีโอกาสเข้าใกล้เขาได้เลย ได้แต่รอให้พ่อไปคุยให้แต่ท่านก็ไม่ค่อยว่าง แต่ตอนนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว
“รู้ค่ะ ฉันตื่นเต้นมากเลย” ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก ไล่สายตามองสาวเจ้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอสวยใช้ได้เลยทีเดียว...