...ม่านฟ้าพยายามเรียกสติตัวเองให้ได้มากที่สุดเพื่อจะได้กลับไปทำงาน เธอมีความเป็นมืออาชีพมากพอไม่อย่างนั้นคงไม่มาถึงจุดนี้ได้ หญิงสาวเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้า กรอบหน้าเล็กไร้เครื่องปรุงแต่งทำให้เธอดูโทรมมาก แถมการแต่งตัวของเธอยังเชยอีกหากเทียบกับผู้หญิงคนนั้น
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“บอสให้มาเอาตารางงานครับ” เสียงทุ้มของเลโก้ทำให้ม่านฟ้าหันไปมอง เธอเดินออกจากห้องพักไปหาเขา
“เดี๋ยวฉันบอกตารางงานกับเขาเอง”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวคุณส่งต่องานให้ผมได้เลย”
“ไม่ค่ะ ฉันจะไปบอกเขาเอง” ม่านฟ้าสบตากับเลโก้ ดูท่าแล้วเลโก้จะไม่เข้าข้างเธออีกต่อไป “ฉันไม่ได้บอกว่าตัวเองดีนะคะ แต่ฉันมั่นใจว่าตัวเองดีกว่าผู้หญิงคนนั้นแน่นอน”
“บอสไม่ได้ชอบคนดีหรอกครับ ถ้าเขาชอบคนดีเขาก็คงไม่ชอบคุณ” ม่านฟ้ากะพริบตาถี่ ๆ เมื่อถูกลูกน้องของเขาคนนั้นหลอกด่า
“หึ เข้าใจแล้วล่ะค่ะ” กระนั้นสาวเจ้าก็ไม่ยอมให้ตารางงานไปง่าย ๆ ม่านฟ้าคว้าไอแพดของเธอขึ้นมาถือก่อนจะเดินไปที่ห้องทำงานของเขา
...งานคืองาน เรื่องส่วนตัวคือเรื่องส่วนตัว
เธอท่องในใจก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของท่านรองฯ
เขาสบตากับเธอทันที
สายตาคมจ้องมองใบหน้าซีดเซียวของม่านฟ้าด้วยสีหน้านิ่งเรียบ เขาไม่พอใจสักเท่าไรที่เธอไม่เคาะประตู
“ที่ผ่านมาฉันคงใจดีกับเธอมาก เธอถึงไม่เคารพฉันในฐานะเจ้านาย”
“_” ปกติแล้วเขาไม่เคยดุเธอเรื่องนี้ ม่านฟ้าเข้าออกห้องของเขาบ่อยครั้งโดยไม่ได้เคาะประตู เจ้าของห้องยิ้มรับอยู่เสมอแต่มันไม่ใช่คราวนี้ “ขอโทษค่ะ ฉันแค่ชินน่ะค่ะ”
“ทีหลังไม่ต้องเข้ามาถ้าฉันไม่ได้สั่ง”
“_” ม่านฟ้ารู้สึกหนักอึ้ง อยากรู้ว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไรเวลาเอื้อนเอ่ยประโยคใจร้ายเหล่านี้ เขาจะรู้ไหมว่าบางสิ่งมันกะทันหันไปและเธอตั้งรับไว้ไม่ทัน
“ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็ออกไป”
“อึก...คือฉันเข้ามาทำหน้าที่ของตัวเองค่ะ ฉันมาแจ้งตารางงานวันนี้” เธอพยายามพูดไม่ให้เสียงสั่นแต่ก็ช่วยไม่ได้มากนัก ทว่า
“ฉันรู้ว่าลึก ๆ แล้วเธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยคิดให้เธอมาเป็นเลขาฯเพราะอยากให้เธอทำงาน” ม่านฟ้ารู้ดีว่าเขาให้เธอมาเป็นเลขาฯเพราะแค่อยากเอารัดเอาเปรียบเธอ แต่ไม่คิดว่าเขาจะพูดมันออกมา “เอางานให้เลโก้ แล้วเธอก็ออกไป”
“พาคินณ์...” ริมฝีปากเล็ก ๆ นั้นพึมพำเรียกชื่อเขาเบา ๆ ม่านฟ้าอธิบายความสัมพันธ์เหล่านี้ไม่ได้ เธอรู้สึกเหมือนกับถูกบอกเลิกแม้นว่าความจริงแล้วนั้น...เธอกับเขานั้นไร้สถานะ
“_”
“เย็นนี้ที่ร้านที่นายพาไปบ่อย ๆ ฉันจะบอกทุกอย่างที่นายอยากรู้ ถ้านายอยากรู้...นายไปหาฉันนะ” ระหว่างที่พูดน้ำตาก็ร่วงลงมา ม่านฟ้ากำฝ่ามือจนเล็บคม ๆ ปักลงกลางมือแต่มันก็ไม่เจ็บเท่ากับใจของเธอตอนนี้
“ฉันมีนัดแล้ว...กับอิงฟ้า” พาคินณ์ว่าโดยไม่ได้มองหน้าเธอ เขาไม่อยากรู้อะไรอีกแล้ว พาคินณ์เคยคิดว่าม่านฟ้าไม่ยอมรับเขาเรื่องผู้หญิง แต่มันก็ไม่ใช่...ถ้าเธอมีเหตุผลอีก ถึงคราวนี้...ชายหนุ่มไม่อยากรับฟัง
“ฉันจะรอ...อึก ฉันจะรอจนกว่านายจะไป” หญิงสาวเม้มริมปากที่สั่นระริก เขามีนัดกับคนอื่น พาคินณ์ไม่เคยนัดกับผู้หญิงคนไหน ถ้าเขาไม่มาตามนัดหญิงสาวรู้ทันทีว่าเขาตัดสินใจแล้ว...
...ม่านฟ้าเดินออกจากห้องของเขาหลังจากถูกไล่ เธอยื่นไอแพดให้กับเลโก้ที่รออยู่
“ฉันทำตารางงานทุกอย่างของเขาแล้วในหน้าปฏิทิน...”
“ครับ” ชายหนุ่มรับมาก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของคนเป็นนาย ปล่อยให้เจ้าของร่างบางจมกับความคิดของตัวเอง
...ความเจ็บปวดนี้มันคือะไรกันแน่ หญิงสาวรู้สึกผูกพันกับเขา เธอเป็นน้องของเขาสองปี พาคินณ์ไม่ได้สนิทกับพี่น้องของเขาเพราะใช้เวลาส่วนใหญ่เล่นกับเธอ...ตั้งแต่เด็กจนโต
ตอนเรียนมหา’ลัยเขาบังคับให้เธอย้ายมาอยู่คอนโดฯเดียวกันแม้ว่าเธอจะตกลงหมั้นหมายกับพี่ชายของเขาแล้วก็ตาม
พาคินณ์กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่แม้แต่เธอเองก็ไม่เคยจินตนาการว่าเขาจะทิ้งเธอไป ม่านฟ้าเดินเข้าไปในห้องพักของตัวเอง เธอยังอยากทำงานที่นี่ เพื่อนของเธออยู่ที่นี่ รุ่นพี่ที่สนิทกันก็อยู่ที่นี่หมด ทุกคนล้วนสนิทกับเธอตลอดแปดปีที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าบริษัทนี้เป็นครอบครัวของตัวเองไปแล้วจริง ๆ และไม่คิดย้ายไปอยู่ที่อื่น ไว้ใจแข็งกว่านี้เธอจะคุยเรื่องนี้กับเขาอีกครั้ง
ตกเย็น...
อิงฟ้ารีบสแกนนิ้วออกจากที่ทำงานหลังจากได้รับข้อความว่าท่านรองฯออกไปทำงานข้างนอก และเขาจะแวะมารับเธอที่หน้าบริษัทก่อนกลับคอนโดมิเนียมที่พักของเขา
ภายในรถยนต์คันหรู...เปลือกตาหนาข่มปิดลงด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง เขาเพิ่งกลับมาจากสำนักงานกฎหมายเอกชนในเครือบริษัทของเขา โดยเจ้าของไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นคุณลุงของเขาเอง พาคินณ์ยังคงวางแผนตามหาคนร้ายที่ทำร้ายพี่ชายคนโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีหลายเรื่องที่วนเข้ามาในหัวไม่หยุด
“บอสจะขับเองไหมครับ” เลโก้เอ่ยถามเมื่อจอดรถที่หน้าบริษัท เผื่อว่านายอยากได้ความเป็นส่วนตัว
“อืม...เดี๋ยวมึงไปหาไอ้ธนกิตด้วยก็แล้วกัน” เขาว่าก่อนจะลงจากรถ แผนที่จะให้พนักงานบัญชีกลับมาทำงานเพื่อจับสังเกตคนร้ายยังคงดำเนินอยู่ พาคินณ์ลงจากรถเป็นจังหวะพอดีที่อิงฟ้าออกมาจากบริษัท
“พี่คินณ์!” ร่างเล็กรีบวิ่งมาหาเขา เธอสวมกอดเขาทั้ง ๆ ที่เจ้าของร่างหนายังไม่ได้อ้าแขนรับ กระนั้นเขาก็ไม่ได้ผลักออก
“เธอทำให้คนมอง”
“เหรอคะ...งั้นเราขึ้นรถกันดีกว่า” อิงฟ้าอารมณ์ดีแม้ว่าการฝึกงานวันนี้จะไม่ได้ราบรื่นสักเท่าไร
“เราจะไปไหนกันคะ” หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อเขาขึ้นรถมาฝั่งคนขับ พาคินณ์มองเห็นม่านฟ้าที่มองเขาอยู่หน้าบริษัทพอดี กระนั้นเขาก็เลือกที่จะขึ้นรถมาดังเดิม
“คอนโดพี่” ชายหนุ่มตอบเสียงนิ่งเรียบ วันนี้เขารู้สึกเหนื่อยและอยากนอนไว ๆ พาคินณ์ขับรถไปตามท้องถนนโดยมีเสียงแจ้ว ๆ ของอิงฟ้าพูดไม่หยุดอยู่ข้างกาย
“ฉันว่าพี่นกต้องหาเรื่องไล่ฉันออกแน่เลยค่ะ”
“_”
“พี่นกชอบดุเสียงดัง...”
“เธอไม่เหมาะกับการทำงานหรอก เธอต้องค้นหาตัวเองอีกเยอะ...” พาคินณ์ว่าขึ้น อิงฟ้าไม่เหมาะกับการทำงานในองค์กรใหญ่ พี่นกที่เธอพูดถึงก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เคยสอนงานเขาเช่นกัน หากผ่านพี่นกไม่ได้ก็รู้ชะตาชีวิตแล้ว
“เหรอคะ จริงด้วย...ฉันอยากอยู่บ้านเฉย ๆ เลี้ยงลูกอยู่บ้านค่ะ”
“หึ...” เขาหัวเราะให้กับความคิดไร้เดียงสา หากเธอไม่มีพ่อหาเงินให้ก็คงไม่คิดแบบนี้
“วันนี้เหนื่อยไหมคะ” รถยนต์คันหรูเสียจังหวะเพียงเล็กน้อย ไม่เคยมีใครถามเขาแบบนี้มาก่อน ชายหนุ่มพยักหน้าเบา ๆ
“เหรอคะ ฉันแอบเห็นพี่เดินออกจากบริษัทแล้วก็เข้ามาแล้วก็ออกไปอีก”
“_”
“ให้ฉันนวดให้นะคะ...คืนนี้” เธอว่าพร้อมกับขยับเข้าหาเขา ใบหน้าเล็กนั้นฉีกยิ้มจนแก้มแทบจะปริแตก ขณะที่เสียงของม่านฟ้าที่บอกให้ไปหาคืนนี้ยังคงดังแทรกเข้ามาในหู ชายหนุ่มส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะตอบรับอิงฟ้าไป
“อืม...” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับอิงศีรษะลงที่ไหล่หนา อิงฟ้ายังคงพูดไม่หยุดเช่นเดิม และมีเสียงหัวเราะของเขาดังตามเป็นระยะ ๆ เช่นกัน
เวลาต่อมา...
ภัตตาคารหรูใจกลางกรุง หากว่าพาคินณ์ไม่ติดงานค้างเขาจะมาที่นี่และติดสอยเธอมาด้วยทุกครั้ง ม่านฟ้านั่งอยู่บนเก้าอี้ทางด้านที่ติดกับกระจกของร้าน เธอมองรถหลายคันที่ทยอยเข้ามาจอดหน้าร้านและรถหลายคันที่ผลัดเปลี่ยนออกไป
“วันนี้รับอะไรเหรอคะ หรือว่ารอใครอยู่หรือเปล่าคะ”
“สักครู่นะคะ...”
“คุณผู้ชายไม่มาด้วยเหรอคะวันนี้...” ม่านฟ้ากลืนน้ำลายลงคอ แววตาของเธอทำให้พนักงานสาวนั้นรีบหุบปากทันที ด้วยความที่สาวเจ้ามาบ่อยและคุ้นชินกับพนักงาน พอเจอคำถามนี้ก็พลอยทำให้อยากลุกออกจากร้านไป แต่ก็กลัวว่าเขาจะมาและไม่เห็นเธอ
...ม่านฟ้ายังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เวลาที่ค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ นั้นทำให้คนบางตาลง รถที่แล่นอยู่บนท้องถนนก็ไม่ค่อยจะมีแล้ว รอบดวงตาของเธอร้อนผ่าว
“อึก...” ภาพที่เขาขึ้นรถไปกับอิงฟ้ายังคงติดตาอยู่ มันตอกย้ำซ้ำ ๆ ว่าที่เขาไม่มาเพราะอยู่กับเธอคนนั้น บนโต๊ะภายในร้านอาหารมีทิชชูเต็มไปหมด หญิงสาวดึงทิชชูมาซับน้ำตาจนใกล้จะหมดกล่อง แต่ป่านนี้เขาก็ยังไม่มา
...ภายในร้านอาหารไร้ผู้คนแล้ว มีเพียงพนักงานที่รอเธออยู่คนเดียว หญิงสาวก้มมองฝ่ามือของตัวเองที่ชื้นเหงื่อ ม่านฟ้าตัดสินใจกดโทรศัพท์หาเขาในที่สุด
และเขาก็กดตัดสายในทันทีเช่นเดียวกัน
ดวงตาคู่สวยมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกว่างเปล่า หัวใจของเธอนั้นทำงานอย่างหนัก มันเจ็บหน่วงเมื่อเขากดตัดสายซ้ำแล้วซ้ำเล่ากระทั่งกดปิดเครื่องไปในที่สุด
“ฮึก ฮือออ~” ไหล่บางสั่นเทา เธอยกฝ่ามือขึ้นปิดริมฝีปากเพื่อไม่ให้เสียงร้องไห้นั้นดังมากเกินไป แต่มันก็ห้ามไม่ได้อยู่ดี
...ม่านฟ้าไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน ไม่เคยมีสักครั้งหรือสักวินาทีเดียวที่เขาจะทำแบบนี้ ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าให้เธอทำใจเลยสักนิด อยู่ ๆ มันก็เกิดขึ้นเพียงเพราะเขาเปลี่ยนใจไปหาคนอื่น ความรู้สึกที่รู้มาตลอดว่าเขาไม่เคยรักตอกย้ำเข้ามาในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่เคยรักเธอเลยจริง ๆ อย่างที่เธอรู้มาโดยตลอด...
...เสียงโทรศัพท์นั้นเงียบหายไปหลังจากปิดเครื่อง ฝ่ามือหนาโยนโทรศัพท์ลงข้างเตียงนอน เขาหันกลับมาจัดการร่างเล็กที่ดิ้นเร้า ๆ อยู่ใต้ร่าง
“อืม...ใครโทรมาขนาดนี้คะ” พาคินณ์ไม่ได้ตอบแต่อิงฟ้าก็พอเดาออก เป็นผู้หญิงคนเมื่อเช้าอย่างไม่ต้องสงสัย
...ชายหนุ่มเปลื้องอาภรณ์ของคนตัวเล็กออกด้วยความรวดเร็ว เขาอยากลืมม่านฟ้า อยากจบทุกอย่างลงเพียงแค่นี้ ชายหนุ่มไม่คิดจะไปหาเธอ เขาไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว
“อืมม~ ใจเย็น ๆ สิคะ” พาคินณ์กำลังใส่อารมณ์รุนแรง เขาโน้มหน้าลงไปจูบริมฝีปากเล็กของเธอแรง ๆ เช่นเดียวกับคนตัวเล็กที่จูบตอบกลับ กลิ่นแอลกอฮอล์จากไวน์ราคาแพงนั้นตีขึ้นจมูก ทั้งคู่เพิ่งดื่มไวน์กันเสร็จได้ไม่นานก่อนจะลากกันขึ้นเตียง
...อิงฟ้าพลิกตัวมาอยู่ข้างบน ค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของเขาออกอย่างมีชั้นเชิง ร่างบางนั่งที่หน้าท้องแก่รง หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัวนั้นทำให้เขายกมือขึ้นเคล้นคลึงอย่างอัตโนมัติ
“ชอบเหรอคะ บีบแรง ๆ เลยค่ะ อื้ม...” อิงฟ้าครางเสียวไม่หยุด เธอกระเถิบตัวลงทางด้านล่าง ปลดหัวเข็มขัดออกพร้อมกับเปลื้องปราการสุดท้ายของเขาออกจนหมด
...อิงฟ้าอ้าปากรับแก่นกายแข็งชันขนาดใหญ่อย่างรู้งาน ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วทุกอณูกายของร่างหนา พาคินณ์หยัดกายขึ้นนั่งพลางลูบศีรษะของเธอไปด้วย
“ชอบไหมคะ...” เขาไม่ตอบ เพียงแค่โน้มหน้าลงไซ้ซอกคอระหง เปลี่ยนให้เธอนอนราบลงบนที่นอน ก่อนจะสวมเครื่องป้องกันด้วยความรวดเร็ว
“อื้มม...” พาคินณ์จ่อความใหญ่โตที่ร่องรักสีสวย ค่อย ๆ ดันเข้าไปก่อนจะกระแทกแรง ๆ อย่างไม่ปรานี
“อ๊ะ! พี่คะ...” อิงฟ้าหน้าเหยเก เธอรู้สึกแปลก ๆ เมื่อเขาเอาแต่กระแทกอย่างไร้จังหวะราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ พาคินณ์กำลังโกรธอะไรเธอหรือเปล่า
“อึก พะ พี่คินณ์...อึก จุกค่ะ อ๊ะ! อื้ออ~” ร่างเล็กดิ้นพล่าน แก่นกายของเขาเข้ามาข้างในนั้นมันกระแทกจนจุกไปหมด อิงฟ้าตกใจที่อยู่ ๆ บทรักแสนหวานก็กลับกลายเป็นดุดัน
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊ะ! เจ็บ...พี่คินณ์! อึก...” ฝ่ามือหนาจับต้นขาเล็กของเธออ้ากว้างขึ้น เขาทำเหมือนกับว่าเธอเป็นที่ระบายอารมณ์เสียมากกว่ากำลังร่วมรัก ยิ่งจังหวะในอารมณ์ห้วงสุดท้ายของเขายิ่งแรงขึ้นเรื่อย ๆ อิงฟ้ากำผ้าปูที่นอนแน่น เธอรู้สึกจุกไปเสียหมด
ปึก! ปึก! ปึก!
“ม่านฟ้า เธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่” อยู่ ๆ คนตัวโตก็เค้นเสียงออกมา แต่มันกลับเป็นชื่อของผู้หญิงคนอื่น
“อ๊ะ! พี่คินณ์...”
“อ่า...เสียวฉิบหาย” อิงฟ้าหอบหายใจอย่างหนักกับบทรักที่เต็มไปด้วยความรุนแรง เธอมองใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับกัดฟันเข้าหากันด้วยความโกรธเมื่อนึกขึ้นได้ว่าจริง ๆ เขาไม่ได้คิดว่ากำลังมีเซ็กส์อยู่กับเธอ แต่กำลังคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ชื่อม่านฟ้า...