ตอนที่1 สาวน้อยบ้านนา
บขส. กรุงเทพฯ
พิมพลอยหรือชื่อเล่นที่พวกชาวบ้านเรียกกันติดปากว่าอีพลอย สาวบ้านนาใบหน้าสวยหวาน สะพายกระเป๋าเป้ใบเก่าก้าวเท้าลงจากรถประจำทางมองซ้ายมองขวา ลักษณะท่าทางตื่นๆ เธอเดินผ่านกลุ่มคนมากมายที่กำลังเบียดเสียดเดินขวักไขว่
เสียงพูดคุยของคนนับพันดังโหวกเหวกแทบฟังไม่ได้ศัพท์ บ้านนาบ้านไร่อันเป็นบ้านเกิดเรือนนอนของพลอยนับวันยิ่งแห้งแล้งหนักฝนฟ้าไม่ตก ครั้นจะทนอยู่ทำไร่ทำนาต่อไปก็เห็นทีว่าจะอดตายกันยกครัวซึ่งมีด้วยกันสามชีวิต ประกอบด้วยยายพิณหญิงชราวัยไม้ใกล้ฝั่งและน้องชายวัยแตกเนื้อหนุ่มนมเพิ่งจะแตกพานหมาดๆ ชื่อว่าไอ้ผีเบื่อ
นามผีเบื่อนี้มีที่มาที่ไปก็เพราะตอนเด็กมันมักเจ็บออดๆ แอดๆ ป่วยไข้จวนตายอยู่หลายรอบ ผู้เฒ่าผู้แก่เลยถือเคล็ดเปลี่ยนชี่อมันซะใหม่ว่าไอ้ผีเบื่อเพื่อให้บรรดาผีสางนางไม้ไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่อยากเอาไปเป็นเพื่อน น่าแปลกพอเปลี่ยนชื่อแล้วไอ้ผีเบื่อก็ไม่เคยเจ็บป่วยอีกเลย
มาต่อกันที่สาวพลอยพี่สาวผู้เสียสละทำงานหนักเพื่อครอบครัวมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ หญิงสาวใสซื่อที่ชีวิตนี้แทบไม่เคยก้าวออกจากจังหวัดบ้านเกิด เพื่อหนีความจนจึงตัดสินใจเด็ดเดี่ยวขอไปตายเอาดาบหน้า เก็บเสื้อผ้าที่มีเพียงไม่กี่ชุดมุ่งหน้าเข้าเมืองกรุงศิวิไลซ์ตามคำชวนของอีแมวเพื่อนรักที่เข้ามาทำงานได้ดิบได้ดีในกรุงเทพเมืองฟ้าอมร
“วู้… ทางนี้พลอย”
เสียงเรียกชื่อของเธออันดังคุ้นหูแทรกเสียงพูดคุยแว่วมา พลอยหันไปก็เห็นแมวเพื่อนสมัยเรียนโรงเรียนวัดยืนโบกไม้โบกมือให้
“แมว”
สาวบ้านนอกเข้ากรุงยิ้มร่าด้วยความดีใจ เนื่องจากเริ่มใจเสียคิดว่าจะถูกเพื่อนลอยแพเสียแล้ว
“จุ๊ๆๆ ฟังนะพลอยที่นี่มึงต้องเรียกกูว่าแคท กูเปลี่ยนชื่อแล้วโอเคไหม”
เพื่อนสาวยกมือขึ้นแนบริมฝีปาก
“แคทงั้นเหรอ ได้ๆ”
“เป็นไงมั้งมึงนั่งรถเมล์มาหัวฟูเชียว”
“เหนื่อยแล้วก็กลัว มองไปทางไหนก็มีแต่คนแปลกหน้าท่าทางไม่น่าไว้ใจ”
พลอยตอบออกไปประสาซื่อ
“ที่นี่มันก็แบบนี้แหละ คนร้อยพ่อพันแม่ มึงต้องเรียนรู้อีกเยอะ เออแล้วหิวเหรอเปล่า”
“หิว”
หญิงสาวยกมือลูบท้อง ตั้งแต่ขึ้นรถมาข้าวสักคำก็ยังไม่ตกถึงท้องเลยอาศัยดื่มน้ำที่พกติดตัวมาด้วยประทังความหิว
“มึงเนี่ยนะคงงกจนไม่กล้าซื้ออะไรกินล่ะสิ”
เพื่อนสาวส่ายหน้าไปมา
“มากับกู เราเอาของไปเก็บที่หอพักกันก่อนแล้วกูจะพาออกมาหาอะไรกิน”
แมวหรือแคทขยับกระเป๋าสะพายสีสดของหล่อน พลอยเพิ่งสังเกตว่าเพื่อนในวัยเด็กของเธอแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีฉูดฉาดแถมยังน้อยชิ้นโชว์เนื้อหนังมังสาขาวเนียน ซึ่งขืนเธอแต่ตัวแบบนี้มีหวังถูกยายตีด้วยสากกระบือตายตั้งแต่ยังไม่ได้ออกนอกบ้านแน่ๆ แต่ด้วยความที่เธอไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารแฟชั่นเลยคิดเองเออเองไปว่าสาวชาวกรุงเทพเขาคงนิยมแต่งตัวกันแบบนี้
“มาสิพลอยยืนเหม่ออยู่ได้เดี๋ยวก็หลงทางกันพอดีแท็กซี่มาแล้ว”
“ขอโทษๆ”
แคทคว้าข้อมือของพลอยพาเดินไปยังรถแท็กซี่คันหนึ่ง รถแท็กซี่พาแล่นไปตามท้องถนนแห่งความเจริญและสวยงาม
สิ่งแวดล้อมรอบตัวของพลอยเต็มไปด้วยความแปลกใหม่ละลานตา ห้างสรรพสินค้าใหญ่โตดูทันสมัยเหมือนเธอหลุดออกมาจากอีกโลกที่มีแต่ทุ่งนาป่าเขา โลกใบใหม่ที่จากนี้ต่อไปมันจะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล…