“เตรียมของหรือยัง นี้ถ้าคุณยายไม่มีธุระด่วนที่ต่างประเทศนะแกได้กลับไทยตั้งแต่วันนี้แล้วยัยสกาว ยัยเด็กดื้อกล้าลั้นคำสั่งคุณยายถือว่าเก่งมากน้องสาวพี่ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ” ใช้แล้วละคุณยายมีธุระด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋าที่ต่างประเทศเพราะบริษัทมีปัญหาใหญ่ แน่นอนว่าฉันไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้แน่นอน รอพี่สการับปริญญาปัญหาภายในบริษัทจะแก้ไขเสร็จหรือเปล่าก็ไม่รู้
“นี้ชมหรือด่าเอาสักอย่างเถอะน่า กาวเตรียมเสร็จแล้วพี่เองเหอะน้ำยังไม่ได้อาบมายังมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอว่าเตรียมของเสร็จยัง” ฉันมองพี่ชายที่ใส่ชุดนอนที่มีแค่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงในสีดำที่เลยง้ามขามาแค่หนึ่งนิ้ว! เป็นภาพที่ชินตามาตั้งแต่มัธยมต้นยันมหาลัย ไม่รู้ชอบอะไรกับการอยู่บ้านลุคนี้นักหนา
“ดูสะภาพตัวเองต่างกันตรงไหน ไอชุดนอนไม่ได้นอนนี้ใส่ให้ใครดูไม่ทราบผัวก็ไม่มี” ฉันฟังพี่ตอบกลับอย่างไม่สนใจมากนักหรอก
“แต่ฉันมีลูก~” ฉันตอบกลับทันทีโดนไม่สนใจคนทำตาโตด้วยความอึ้งอยู่หน้าห้อง
“เหอะให้ตายสินี้ฉันแน่ใจแล้วนะเนี่ยว่าแกจงใจตั้งท้องแถมยังแอบเลือกพ่อพันธุ์ดีอีกด้วยใช่ไหม ยอมรับมาเลยนะไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณยาย! ยัยเด็กตัวแสบ” พี่ชายหันมาพูดจาเพื่อยุเอาคำตอบแต่พี่อาจจะลืมไปว่าฉันก็เก็บความลับให้เขาอยู่เช่นกัน
“ลองดูสิกาวจะบอกคุณยายเหมือนกันว่าพี่แอบเปิดห้องเสื้อและแอบเรียนแฟชั่นดีไซน์ควบคู่กับการเรียนหมอ ถึงได้แก่เรียนไปหลายปีไม่ยอมจบกับเขาสักที เพื่อนตัวเองแต่งงานมีครอบครัวกันไปหมดแล้วเหลือแต่พี่นั้นแหละเรียนก็เรียนก่อนเพื่อนจบก็จบช้ากว่าเพื่อน แบร่~” ฉันมองพี่ชายอย่างจริงจังนี้เรายืนทะเลาะกันเพราะเรื่องอะไรไร้สาระอีกแล้วเหรอเนี่ยให้ตายสิ
“ชิยัยเด็กขี้ฟ้องฝากไว้ก่อนเถอะ” ฉันมองพี่ชายด้วยหน้าเหนือกว่าก่อนจะคิดได้ว่าไม่ควรเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระของตัวเองกับพี่ชาย
“ไปอาบน้ำเลยนะน้องก็จะไปอาบน้ำแล้ว เนี่ยคุยกับพี่เสียเวลาแต่งไปตั้งหลายนาที” ฉันบ่นออกมาเบา ๆ แต่อยู่ในระดับตั้งใจให้พี่ชายได้ยินชัดเจนแจ่มแจ้ง
“เชอะยัยเด็กแสบฝากไว้ก่อน พี่เอาคืนเธอไม่ได้แต่กับลูกเธอก็ไม่แน่หรอก” ฉันจ้องเขม็งไปที่พี่ชายทันทีกล้าดียังไง!
“นี้หลานพี่นะคะ!” ชิฉันสะบัดหน้ากลับเข้าห้องตัวเองและก็ได้ยินเสียงหัวเราะของพี่ชายตัวเอง โอเคโดนยัวโมโหสำเสร็จแล้วไอ้พี่บ้านี้!
‘ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ’ สกายหัวเราะอย่างพึงพอใจกลับเข้าห้องตัวเองไปอาบน้ำแต่งตัว และก็ต้องมานั่งรอน้องสาวประหนึ่งคนใช้
“ชักช้าจริง ปานี้แพทย์คงมีงานทำกันหมดแล้วมั้ง” หลังจากสายตาเหลือบไปเห็นน้องสาวเดินมาทางตัวเองก็เอ่ยวาจาประชดขึ้นมาทันที อย่างไม่ได้จริงจังนัก
“ชิ ก็ทำงานไปสิเกี่ยวไรกับกาวอ่ะกาวไม่ได้ไปทำงานเข้าเสียหายสักหน่อยแค่ไปสายเองเถอะ พี่นั้นแหละเรื่องเยอะ นี้แต่งตัวขนาดนี้พี่จะไปโรงบาลหรือไปเที่ยวแดนสวรรค์วิมานบนดินฮะ” สกาวมองสำรวจพี่ชายด้วยสายตาที่แปลก ๆ จนทำให้คพี่ทำตัวไม่ถูก
นี้พี่ชายฉันเป็นวันนั้นของเดือนเหรอแต่งตัวแปลก ๆ ในครบเช็ตขนาดนี้ถ้ามีบอดี้สูท กับเน็กไทนี้คือผู้บริหารเลยนะนั่น
“มองขนาดนี้ไม่กลืนลงท้องไปเลยล่ะยัยน้องบ้า!” เหอะกลืนได้คงกลืนไปนานแล้วจะได้ไม่ต้องมาแบ่งแย่งสมบัติของคุณยาย
“ก็พี่แต่งตัวแปลก ๆ ปกติก็เห็นใส่แต่เสื้อยืดคอกลมวันนี้เกิดนึกคึกอะไรขึ้นมาแต่งตัวแบบนี้คะ” ฉันมองพี่ชายตัวเองหรือว้านัดสาวไว้นะ
"ก็เปลี่ยนลุคบ้างไม่ได้หรือไงเล่า เสร็จยังไปได้ละแวะห้างก่อนนะ" พี่สกายพูดจบก็เดินตัวปลิวออกไปเลย
"อะไรของเขา" ฉันที่มองตามก็ต้องตั้งสติรีบเดินตามออกมา จะรีบไปไหนห้างก็ไม่มีขามันก็ตั้งอยู่ที่เดิม
.
ภายในรถ
"นัดสาสไว้ละสิ ใช่ไหมยอมรับมานะ!" หลังจากเปิดประตูขึ้นรถมาฉันก็รีบหันหน้าไปถามพี่ชายตัวเองทันที
"เปล่าสักหน่อย แค่จะแวะซื้อของแกนี้ชอบจับผิดพี่ชายตัวเอง พี่แกเป็นคนแบบนั่นหรือไงยัยกาว" ร้อนรนเก่งที่หนึ่งแค่ถามเฉย ๆ แค่ทำหน้าจริงจังนิดเดียวเองนะ
"อะไรแค่ถามเฉย ๆ หรือนัดสาวไว้จริง ๆ ยอมรับมาชะดี ๆ ก่อนเรื่องจะถึงหูคุณยาย" ฉันขู่ออกมาทันทีความจริงก็รู้อยู่แล้วว่าพี่ชายตัวเองไม่กลัวหรอก ไม่ได้ปิดบังแต่แค่ยังไม่ได้บอกเฉย ๆ
"ไม่ได้นัดสาว แต่นัดทำธุรกิจเข้าใจใหม่ชะยัยหนู" พี่สกายตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแถมยัยยักคิ้วกวนประสาทอีก ชิ ตอบมาตั้งแต่แรกก็จบทำไมต้องให้คาดคั้นด้วยก็ไม่รู้
"ธุรกิจ อะไรอะคุยด้วยได้ไหม" ฉันรีบเอามือเกาะแขนพี่ชายพร้อมกับทำตาปริบ ๆ ให้ดูน่ารักทันที
"ไปเดอนเล่นรอเถอะ อย่างพึงมาขัดขวางความร่ำรวยของพี่เลยน้อง" เหอะตอนนี้จนมากมั้ง ขัดจวางความรวยอะไรพูดมาได้
"เชอะ ใจร้ายมาก! ค่ะ!" ฉันก็ไม่สนใจพี่ชายตัวเองอีกต่อไป นั่งกดโทรศัพท์เล่นระหว่างรถขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนน ก็สั่งจ้องสินค้าในแอปพลิเคชันไปพราง ๆ จะได้ไม่เสียเวลารอ เมื่อไปถึงชอปต่าง ๆ
"ถึงแล้ว เดินเล่นรอเลยนะ อีกสักชั่วโมงพี่โทรตามละกัน" พี่สกายบอกฉันก่อนจะหยิบกระเป๋าเอกสารต่าง ๆ หลังรถ
"หื้ม~ คุยนานขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วหล่นพี่จะได้ไปพบคุณหมอไหมคะวันนี้อ่ะ" ฉันถามพี่ชายด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยทำธุรกิจเลยไม่รู้เวลาที่แน่นอน แค่สงสัยเฉย ๆ
"ถ้าไม่มีปัญหาก็แปบเดียว พี่บอกเพื่อเวล่ไว้เฉย ๆ เราก็ไปเดินเล่นรอหรือจะไปดูหนังรอก็ได้นะ" ฉันมองพี่ชายที่รีบก้าวเดินห่างจากรถไป อะไรจะรีบขนาดนั่น
"ไปกินติมกันตัวเล็ก" ฉันมองหน้าท้องตัวเองและบอกลูกที่ไม่รู้ว่าจะรับรู้สิ่งที่ฉันบอกได้หรือเปล่า
.
ร้านไอศครีม
"เอาวนิลาเซทค่ะ" ฉันสั่งพนักงานร้านก่อนจะมองเมนูอื่น ๆ ไปด้วย
"รับอย่างเดียวนะคะลูกค้า"
"ค่ะ" ตอบออกไปตาก็มองเมนูต่าง ๆ ไปด้วยน่ากินทั้งนั้นเลยอ่ะ เห้อ~ กินคนเดียวคงไม่หมดหรอก
.
อีกด้าน
"หวัดดีครับ คุณสกาย" เสียงทุ้มทักทายคนรุ่นลูกรุ่นหลาน
"สวัสดีดีครับคุณทิวทัศน์ ขอโทษที่ต้องให้รแนะครับ" สกายรีบขอโทษขอโพยทันทีที่เห็นคนที่นัดไว้มาก่อนเวลาสะอีก นี้ขนาดเขานัดเพื่อเวลาตั้งสิบห้านาที
"ไม่ต้องหรอกครับยังไม่ถึงเวลานัดด้วยซ้ำผมเองที่รีบมาก่อน เชิญคุณสกายนั่งก่อนครับ" สกายน้อมหัวขอบคุณก่อนจะนั่งฝั่งตรงข้าม
"ผมอยากให้แบรนด์เสื้อผ้าของคุณสกาย ขึ้นโชว์บนห้างนะครับ เอาจริง ๆ ผมชอบเนื้อผ้ามากใส่สบายมากภรรยาผมก็ชอบดีไซน์ชุด ของคุณด้วยคุณสกายเก่งมากเลยครับ ความจริงเราอยากเอาไปขึ้นที่สาขาประเทศไทยมาก" คนหัวธุรกิจทำธุรกิจมาหลายสิบปี ดูแค่แวบเดียวก็รู้ว่าบุคคลนี้จะไปไกลแค่ไหน
"เอ่อ ความจริงผมอยากมาคุยรายละเอียดและสัญญา ก่อนนะครับว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือเปล่า ความจริงผมก็กำลังหาหุ้นส่วนอยู่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าดวงผมคงดีมั้งครับ คุณทิวทัศน์ทักเมลมาเอง ขอบคุณนะครับที่มองเห็นผลงานของผม" สกายอธิบายบายอย่างผ่อนคลาย การทำธุรกิจจะเครียดมากก็ไม่ได้เดียวงานจะผิดพลาดไปหมด
"ออ ได้สิครับอันนี้เอกสารสัญญาร่วมลงทุน และอีกฉบับเป็นสัญญาผูกขาด นะครับถ้าคุณสกายเห็นชอบอย่างไรก็ตินต่อผมโดยตรงได้เลยนะครับ นี้นามบัตรผมครับ" สกายมองสัญญาสองฉบับสลับกันไปมาก่อนจะยื่นมือไปรับนามบัตรมาด้วย
"มีข้อสงสัยอะไรหรือเปล่าครับ" ทิวทัศน์ถามคนที่กำลังครุ่นคิด
"ทำไม่มีสัญญาตั้งสองฉบับละครับ" สกายยังคงคุยต่อเพราะเขาสงสัยจริง ๆ นั่นแหละ
"ฮ่า ๆ ฮ่า ที่ผมมอบให้สองฉบับเพื่อให้คุณเปรียบเทียบว่าอั้นไหนคุ้มค่ากว่ากัน การทำธุรกิจไม่ง่ายหรอกนะครับ แต่ผมเชื่อว่าคุณจะประสบความสำเร็จเมื่อคุณได้ลงมือทำมัน" ทิวทัศน์อธิบายไปอย่างไหลลื่น เพราะเขาเป็นพวกที่มองคนขาด
"อันที่จริงอีกไม่กี่เดือนผมก็ย้ายกลับไปอยู่ไทย ถ้าคุณทิวทัศน์อยากเอาแบรนด์ของผมขึ้นห้างที่ไทย จริง ๆ มันก็ได้ครับ แต่อาจจะยังไม่ใช้ปีนี้ผมต้องวางแพลนใหม่ เพราะหลานผมที่ใกล้จะลืมตามาสัมผัสโลกใบนี้ ผมต้องใช้เวลาหน่อยแต่คงไม่ถึงสองปีหรอกครับ" สกายบอกด้วยรอยิ้มแค่คิดไปถึงตอนหลานโต ความบันเทิงก็มีเต็มหัวไปหมด
"นี้คุณสกายกำลังจะมาหลานเหรอครับ ยินดีด้วยนะครับ" ทิวทัศน์เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาคงคาดหวังอะไรกับลูกไม่ได้แต่ ยิ่งโตยิ่งตีตัวออกห่างเขาเองก็แอบเสียดายช่วงเวลาที่ลูกต้องการกับเป็นเขาเองที่ทำงานหนัก พอตอนนี้เขาก็ต้องการอยากมีเวลากับลูกบ้าง
"ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมเอาเอกสารไปอ่านที่บ้านละกันนะครับยังไงผมจะติดต่อคุณทิวทัศน์กลับไป แต่ตอนนี้ต้องไปธุระต้องพาน้องสาวไปฝากครรภ์นะครับ" สกายบอกกับเจ้าของธุรกิจระดับทวีป ที่ครองตลาดแฟชั่นในหลายประเทศ
"ตามสบายครับ เดียวผมก็จะต้องไปธุระต่อเหมือนกันยังไงก็อย่าลืมติดต่อมานะครับผมจะรอ" ทิวทัศน์บอกก็จะลุกขึ้นและคุยกับสกายก่อนเดินออกจากร้านไปพร้อมกัน
"ยังไงก็อย่าลืมเอาหลานมาอวดนะครับผมจะรอ" ทิวทัศน์บอกอย่างจริงจัง
"ได้ครับงั้นผมขอตัวก่อนเดินทางปลอดภัยครับ ขอบคุณอีกครั้งที่มองเห็นธุรกิจเล็ก ๆ ของผม"
"เช่นกันครับ ก็ต้องขอบคุณ คุณสกายด้วยที่ตอบรับเมลผมด้วยนะครับ"
ทั้งสองคนก็แยกย้ายกันทันที
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
'ฮะโหลค่ะพี่' ปรายสายตอบรับเสียงใส
"อยู่ไหนพี่คุยธุระเสร็จแล้ว เดียวพี่เดินไปหา"
'ตอนนี้เหรอคะ ตอนนี้กาวอยู่ที่....'