"เรื่องที่เกิดขึ้นกูกับคุณหญิงต้องขอโทษมึงกับคุณศจีและหนูดอกฟ้าด้วยนะ"หลังจากเดินเข้ามาในห้องรับแขกคุณธำรงก็เอ่ยขึ้น เขารู้สึกผิดจริง ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องรับประทานอาหาร
"ไม่เป็นไร ว่าแต่เรื่องสัญญาระหว่างเราสองคน"
"ถึงอย่างไรกูก็ต้องให้ราชาแต่งงานกับหนูดอกฟ้าสัญญาของเราสองคนมันจะต้องเป็นไปตามเดิม"แม้ว่าเขาจะต้องทำเรื่องเลวร้ายก็ตาม
"ถ้าพี่ราชาเขาไม่เต็มใจ เราก็ไม่ควรไปบังคับเขานะคะคุณลุง"
"ดอกฟ้า หนูพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า"คุณศจีเอ็ดลูกสาวเมื่อพูดอะไรออกมาโดยไม่ดูสถานการณ์
"หนูพูดไปตามความจริงค่ะคุณแม่ คุณลุงคะถ้าพี่ราชากับผู้หญิงคนนั้นรักกัน หนูคิดว่า"
"ไม่ว่าหนูจะคิดอะไร แต่ลุงคงทำความต้องการของหนูไม่ได้ เพราะคนที่จะมาเป็นสะใภ้ภายในบ้านหลังนี้จะต้องเป็นเพียงแค่หนูเท่านั้น"น้ำเสียหนักแน่นของคุณธำรงไม่สามารถทำให้ดอกฟ้าเอ่ยออกความคิดเห็นได้ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกปลื้มในตัวของชายหนุ่ม แต่ในเมื่อเขาไม่ได้รู้สึกหรือพิศวาสอะไรในตัวเธอ แต่งงานกันไปก็คงจะมีเพียงแต่เธอคนเดียวที่เจ็บ
"หนูดอกฟ้าไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องอะไรเลยนะลูก ถึงอย่างไรป้าเชื่อว่าสักวันพี่ราชาจะต้องเห็นความดีในตัวของหนู ตอนนี้พี่ราชาคงจะหลงในตัวของนางเด็กมะลิก็เท่านั้น"คุณหญิงแสงมณีวางฝ่ามือลงบนไหล่ขาวของเด็กสาวเบา ๆ
"เชื่อป้าสิหนูดอกฟ้าว่าพี่ราชาจะต้องรักหนู"มันไม่ผิดไปใช่ไหมถ้าเธอจะลองเชื่อคำพูดนี้ดูสักครั้ง
หลังจากปรับความเข้าใจกับครอบครัวของเพื่อนสนิทเสร็จ ทางครอบครัวของเพื่อนสนิทก็เดินทางกลับไป คุณธำรงหันหน้าไปหาภรรยาคู่ชีวิตสมองของเขาตอนนี้ขบคิดหาวิธีทำอย่างไรเพื่อจะให้ราชาตัดใจจากสาวใช้ก้นครัว
"เราจะทำอย่างไรให้ราชาเลิกยุ่งเกี่ยวกับนางเด็กนั่นดีคะคุณ บอกตามตรงเลยนะคะว่าน้องรับไม่ได้ถ้าได้นางเด็กนั้นมาเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเรา"
"เราสองคนต้องหาวิธีทำให้ราชาผิดใจกับนางเด็กนั้น ทำให้ทั้งสองคนเลิกจนเกลียดกันได้เลยยิ่งดี ไอ้เจ้าราชาจะได้เลิกอาลัยอาวรณ์นางเด็กผู้หญิงคนนั้นเสียที"นี่คือความคิดของคุณธำรงในตอนนี้ นัยน์ตาดำสนิทฉายแววเด็ดเดี่ยว ถ้าเขาวางแผนคิดจะทำสิ่งใด มันจะต้องไม่มีคำว่าพลาด
"แล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะคะ น้องไม่อยากให้มันช้าไปกว่านี้ เกิดสองคนนั้นหอบผ้าหอบผ่อนหนีไป น้องคงอกแตกตายเป็นแน่ค่ะ"
"ไม่นานเกินรอหรอกคุณหญิง เพียงแค่ตอนนี้เราต้องรอเวลาก็เท่านั้น"น้ำเสียงเย็นเยียบชวนเสียวสันหลังมันช่างดูฟังน่าขนลุกถ้าหากว่ามีใครผ่านมาได้ยิน
"มะลิ เธอเจ็บมากไหม"น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความเป็นห่วงของราชาเอ่ยถามในระหว่างที่เขากำลังนั่งทำแผลให้แฟนสาวในห้องพักของเธอ
"มะลิไม่เจ็บเลยค่ะ"เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ศีรษะส่ายไปมา บริเวณแขนทั้งสองข้างหรือแม้แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลจากการโดนเล็บจิกครูด แต่เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิด แตกต่างจากหัวใจ แม้ว่ามันไม่ได้เกิดรอยแผลแต่เธอกลับรู้สึกว่ามันเจ็บปวดอยากเกินจะบรรยาย มันเจ็บปวดจนเธอแทบหายใจไม่ไหว
"ฉันต้องขอโทษแทนคุณพ่อคุณแม่ของฉันด้วยนะมะลิ"
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคุณราชา มะลิไม่เคยโกรธท่านทั้งสองเลย"เพราะเธอรู้ตัวดีว่าทั้งสองทำลงไปมันเป็นเพราะอะไร ถึงแม้ว่าทั้งสองจะทำร้ายแรงกับเธอมากขนาดไหน คนอย่างเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธเคืองอะไร คำว่าผู้มีพระคุณมันค้ำคอทำให้เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรม
"เธอไม่ต้องห่วงนะมะลิ ฉันจะไม่มีวันแต่งงานกับดอกฟ้า เพราะผู้หญิงที่ฉันจะแต่งงานด้วยมีแค่เธอคนเดียวนะมะลิ"ราชาดึงร่างของแฟนสาวเข้ามากอด ริมฝีปากยังคอยพูดพร่ำบอกว่าเขาจะรักและแต่งงานกับคนในอ้อมกอดเพียงคนเดียว แต่เธอรู้ดีว่าราชาไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของผู้เป็นแม่ได้ แม้ว่าหัวใจของเขาบอกว่าจะรักและจะแต่งงานเพียงแต่เธอ
'อย่าหลอกตัวเองต่อไปอีกเลยนะคะคุณราชา มะลิรู้ดีค่ะว่าเรื่องของเราอีกไม่นานมันคงใกล้จะจบลง'ถ้าไม่มีเรื่องแต่งงานระหว่างสองตระกูลเข้ามายุ่งเกี่ยว เธอยังพอจะมีความหวังอยู่บ้างว่ารักของเธอกับเขาจะเป็นไปได้ แต่ในเมื่อมีเรื่องการแต่งงานเข้ามาและดูเหมือนว่าทั้งสองครอบครัวจะเห็นดีเห็นงามอยากให้ลูกของทั้งสองตระกูลปรองดองกัน ความหวังในเรื่องความรักของเธอก็มืดดับลงโดยทันที
"คืนนี้ให้ฉันนอนเป็นเพื่อนนะมะลิ"
"ไม่เป็นอะไรค่ะ ถ้าหากคุณผู้ชายกับคุณหญิงมาเห็นเข้ามันคงจะไม่ดี"
"แต่ฉันไม่อยากให้เธอต้องนอนอยู่คนเดียว"พึ่งเจอเรื่องไม่ดีมาหมาด ๆ เขาไม่อยากให้เธอต้องนอนเหงาคนเดียวเพียงลำพัง
"มะลินอนคนเดียวได้จริง ๆ ค่ะ คุณราชาไม่ต้องเป็นห่วง"มะลิพยายามปรับสีหน้าว่าเธอโอเคกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนราชายอมล่าถอยเมื่อหญิงสาวยืนยันว่าต้องการอยู่คนเดียวเพียงลำพัง
"ถ้าอย่างนั้นก็รีบอาบน้ำพักผ่อนนะ พรุ่งนี้จะได้ไปเรียนพร้อมกัน"
"ค่ะ ฝันดีนะคะคุณราชา"
"ฝันดีครับมะลิน้อยของผม"ริมฝีปากหยักจูบลงบนหน้าผากนูน แววตาของราชาแสดงถึงความรักที่มีเพียงต่อเธอ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนแล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องพักของแฟนสาวไป
"มะลิรักคุณราชานะคะ"สายตาของเธอยังคงมองไปยังบานประตูแม้ว่าชายหนุ่มจะเดินออกไปแล้ว
พรึ่บ
ร่างของมะลิล้มลงกับพื้นเมื่อเธอรู้สึกเกิดหน้ามืดกะทันหันในระหว่างที่กำลังพยุงตัวลุกขึ้นยืน กำปั้นหนัก ๆ ทุบลงบริเวณกลางอกเมื่อเธอรู้สึกเจ็บแน่นอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
ปึก ปึก
ความรู้สึกทรมานกำลังกัดกินหัวใจของเธอ อาการนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนที่แม่ของเธอจะเสียไปแต่ตอนนั้นเธอไม่ได้สงสัยอะไรกับอาการที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ เพราะเนื่องจากในช่วงนั้นเธอกำลังวุ่นวายอยู่กับการรักษาผู้เป็นแม่อยู่นั่นเอง
เวลาผ่านไปหลายนาทีอาการเจ็บบริเวณหน้าอกก็ค่อย ๆ บรรเทาลง ร่างไร้เรี่ยวแรงนอนหอบหายใจเหนื่อยอยู่บนพื้นที่แสนจะเย็นเฉียบเพราะไม่อาจจะขยับร่างกายได้ อาการเจ็บหน้าอกของเธอมันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากคราวแล้วก่อนมาก จนบางครั้งเธอก็ยังนึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมร่างกายของตัวเองในตอนนี้มันช่างดูไร้เรี่ยวแรงอย่างกับคนกำลังเป็นโรคร้าย