Episode 04
หลายวันต่อมา
Talk องศา
และในตอนนี้เราก็ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทของคุณจอมทัพ ในฐานะนักศึกษาฝึกงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ ท่านประธานให้เราทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของคุณเลขาน่ะค่ะ
แหมะ....ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเป็นเมีย เอ๊ย! อยากเป็นเลขาของท่านประธานไปเลย แต่ก็นะ เด็กฝึกงานก็งี้แหละค่ะ
คิกๆ
“เดี๋ยวช่วยเอาเอกสารพวกนี้ ไปให้ท่านประธานเซ็นทีนะ” คุณเลขากล่าวพร้อมกับวางกองเอกสารที่สุดแสนจะหนาลงบนโต๊ะทำงานของเรา “พี่ต้องไปคุยเรื่องสถานที่นัด ที่จะนัดคุยงานกับลูกค้าน่ะ”
“แล้วปกติ...ใครเป็นคนทำหน้าที่นี้ล่ะคะ?” เรากล่าวพร้อมกับเสยผมตัวเองขึ้นเล็กน้อย “ถ้าไม่มีหนูพี่จะใช้ใคร?”
“พี่ก็ต้องทำงานควบไงคะลูกสาว~ ปกติพี่ก็จะต้องเอาเอกสารไปทิ้งให้ท่านประธานเซ็นแล้วพี่ก็ออกมาคุยเรื่องนัดกับลูกค้า แล้วก็ต้องกลับไปเช็กเอกสารอีกรอบว่ามีเอกสารไหนผิดอะไรบ้าง เหนื่อยนะคะ”
“ปกติพี่ทำได้ แล้วทำไมพี่ไม่ทำล่ะคะ?”
“ก็ตอนนี้มีน้องมาช่วยไงคะ พี่ก็ต้องให้หนูทำสิ ไม่อย่างงั้นจะเรียกฝึกงานหรือยังไงกัน” พี่เลขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย พร้อมกับส่ายหัวเบาๆ
“ถ้าหนูเป็นท่านประธาน หนูจะไล่ออกค่ะ” เรายิ้มตาพร้อม ก่อนที่จะถือกองเอกสารที่พี่เลขาเอามาวางให้ เดินเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน
“งานแรกมาแล้วเหรอ?” ท่านประธานแสยะยิ้ม พร้อมกับยกขาทั้งสองข้างของตัวเองลงจากโต๊ะทำงาน “กำลังรออยู่เลย”
“รออะไรเหรอคะ? บ้าจริง! นี่มันในบริษัทนะ...ถ้าจะทำไว้รอเลิกงานดีกว่านะคะ คิกๆ” เราหัวเราะคิกคักเบาๆ ก่อนที่จะวางกองเอกสารลงที่โต๊ะ
“เธอนี่มันจริงๆ เลยนะ” เขาส่ายหัวอย่างเอือมระอา ก่อนที่จะเริมหยิบเอกสารมาอ่าน การเป็นท่านประธานแม้ว่าจะแค่เซ็นเอกสารแต่ก็ต้องอ่านทุกบรรทัดนะคะ
เพราะเราก็ไม่รู้ว่าในเอกสารนั้น รายละเอียดจะเป็นยังไง ถ้าหลับหูหลับตาเซ็นอย่างเดียว แล้วในเอกสารดันเป็นเอกสารการโอนหุ้นหรืออะไรที่ทำให้เสียหาย อาจจะซวยได้ค่ะ! แฮชคแทค #เกร็ดความรู้ นะคะ 5555
“เดี๋ยวหนูช่วยนะคะ” ว่าพลางเดินเข้าไปนั่งตักแกร่งของท่านประธาน “อ่านคนเดียวน่าจะละเอียดไม่พอ”
“สาวน้อย....ฉันกำลังทำงานอยู่นะ ป่าป๊าของเธอไม่ได้สอนเหรอว่าอย่ามากวนเวลาที่คนอื่นกำลังทำงานกัน” เขากล่าวเสียงเรียบ และนั่งคงก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสาร
“หนูเปล่ากวนนะคะ ก็แค่จะมาช่วยอ่านเอกสารเฉยๆ ตัวเล็กตาลายไปหมด ลำพังอ่านคนเดียวไม่ไหวแน่ๆ”
“ลุกครั้งที่หนึ่ง” เขากล่าวและยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารอยู่ “อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะสาวน้อย”
“แล้วไงใครแคร์ล่ะคะ คนอุตส่าห์มีน้ำใจอยากจะช่วย” เราไหวไหล่ และหยิบเอกสารแผ่นต่อไป มานั่งอ่านช่วยเขา “แผ่นนี้ปลอดภัย เซ็นได้เลยนะคะ”
“ลุกออกไป...ครั้งที่สอง!” เขาขบกรามแน่น และหันไปเซ็นเอกสารแผ่นที่เขาเพิ่งจะอ่านเสร็จ
แต่แทนที่เขาจะเสร็จในแผ่นของเราด้วย เขากลับเมินมันและหันไปหยิบแผ่นใหม่มาอ่านทบทวนต่อ
“ไม่ลุกค่ะ นี่ไง! แผ่นนี้หนูอ่านทบทวนให้แล้ว เซ็นสิคะ เซ็นสิ” เรายังคงทะเล้นไม่ยอมลุกไปไหน เหมือนว่าฟางเส้นสุดท้ายจะขาดลง
เขาที่โมโหหน้าแดงกล่ำผลักตัวเราออกจากเก้าอี้และถอยเก้าอี้ไปด้านหลัง ทำให้เรานั้นล่วงตกเก้าอี้ไปอยู่ที่พื้นแทน!
พรึบ!
ตุบ!
“โอ๊ย! หนูเจ็บนะคะ!” เราร้องเสียงหลงพร้อมกับลูบเบาๆ ที่ก้นของตัวเอง “ใจร้ายอะ! คนอุตส่าห์หวังดี!”
“สมน้ำหน้า...ก็บอกแล้วว่าอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“ชิ!” เราก้มหน้ามุ่ยและนั่งใช้ความคิดไปสักพักหนึ่ง ว่าจะเอาคืนเขายังไงดี แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็มีมือที่สามเข้ามาเสียก่อน!
เราจึงถูกดันให้อยู่ใต้โต๊ะ เพราะถ้าหากเงยหน้าขึ้นมาตอนนี้มือหวังได้โดนเข้าใจผิดเป็นแน่
“ท่านประธานครับอันนี้เป็นรายรับจ่ายของปีที่แล้วที่ท่านประธานให้ผมรวบรวมมาครับ” พนักงานผู้ชายคนนั้นกล่าวพร้อมกับวางเอกสารรายรับรายจ่ายที่ว่านั่นลงบนโต๊ะ
“ขอบใจมาก” เขากล่าวเสียงเรียบพร้อมกับเหลือบสายตาลงมามองร่างบางที่อยู่ใต้โต๊ะ มือหนาก็ของก็พลางลูบเบาๆ ที่มือเรียวบางของเรา ที่ในตอนนี้มือของเรากำลังลูบไล้อยู่ที่แก่นกายของเขา
“ท่านประธานมองหาอะไรเหรอครับ? ผมเห็นมองลงไปใต้โต๊ะ” คำพูดประโยคนั้นทำเอาเรากระตุกทันทีเพราะกลัวว่าพนักงานคนนั้นจะเดินเข้ามาดูใกล้ๆ แต่กลับกันตัวเขาเองกลับนิ่งมากไม่รู้สึกอะไรเลย
“เปล่า...ไม่มีอะไรหรอก เสร็จธุระของนายแล้วมีอะไรก็ไปทำซะ”
“ครับ” พนักงานคนนั้นพยักหน้าเข้าใจเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
“ฟู่ว~ โล่งอกไปที” เราถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่ง ก่อนที่จะแสดงสีหน้าเป็นแมวน้อยลงไปไซร้คลอดคลียอยู่ที่เป้ากางเกงตรงแก่นกายของเขา
“ร้ายนักนะเธอน่ะ ออกมาได้แล้ว” เขากล่าวเสียงเรียบและส่ายหัวเล็กน้อย เขาดูไม่ใส่ใจอะไรมาก ทั้งๆ ที่เรายังอยู่ใต้โต๊ะแต่เขาก็หันไปทำงานต่อได้เลยไม่สนใจ
“ออกก็ได้ค่ะ แต่ก่อนจะออกไป...ขอกินน้ำของคุณก่อนก็แล้วกันนะคะ คิกๆ!” ร่างบางหัวเราะคิกคักในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปปลดซิบกางเกงของร่างสูง
“เฮ้ย!”
“คิกๆ!”