เสียงกรีดร้องของเพื่อนทั้งสามทะลุออกมาด้านนอกโทรศัพท์จนริต้าต้องรีบกวาดสายตามองขวาแลซ้ายว่ามีใครมองมายังที่เธอหรือไม่
"พวกแกจะกรี๊ดทำไมห้ะ"ริต้าถอนหายใจโล่งอกเมื่อไม่มีใครหันมาสนใจ คงเป็นเพราะเธอนั่งอยู่ไกลจากกลุ่มคนคงไม่มีใครได้ยินบทสนทนาและเสียงกรีดร้องเมื่อครู่
"จะไม่ให้พวกฉันกรี๊ดอย่างอย่างไรล่ะ ก็แกเล่นหนีเที่ยวไปถึงต่างประเทศคนเดียว ริต้านี่แกกำลังคิดอะไรอยู่"ใบเฟิร์นบ่นยาวเพราะรู้นิสัยเพื่อนดี ริต้าไม่ชอบเที่ยวในคนหมู่มากและไม่ชอบเดินทางไปที่ไหนไกล ๆ แต่นี่เล่นไปถึงประเทศอังกฤษจึงทำให้เพื่อนทั้งสามคนอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
"ฉันก็แค่มาเที่ยว ออกมาเปิดหูเปิดตาก็เท่านั้น"
"แต่แกเล่นหนีไปถึงอังกฤษ"
"นั่นสิ ริต้าหอมรู้นะว่าริต้าเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมาแต่ริต้าจะเดินทางไปที่ไกล ๆ แบบนี้คนเดียวไม่ได้นะ"กล้วยหอมเองยังรู้สึกตกใจกับการเดินทางคนเดียวในระยะไกลของริต้า
"พวกแกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันเอาตัวรอดได้ แล้วอีกอย่างเรื่องแม็กฉันก็พอจะทำใจได้บ้างแล้ว"
"พวกฉันดีใจนะที่แกเริ่มจะทำใจเรื่องแม็กได้ พวกฉันทุกคนรักและเป็นห่วงแกมากนะริต้า "น้ำเสียงของเพื่อนในกลุ่มแสดงถึงความรักความห่วงใยที่มีต่อเธอ ริต้ารู้สึกโชคดีที่ได้เป็นเพื่อนกับทุก ๆ คน
"ฉันต้องขอบใจพวกแกทุก ๆ คนมากนะ ฉันเองก็รักพวกแกทุกคนเหมือนกัน"
"หนีไปเที่ยวคนเดียวแบบนี้อย่าลืมของฝากพวกฉันนะ ถ้ากลับมาแล้วลืมจะตีให้ขาลาย"
"ใครจะไปลืมของฝากเพื่อนรักอย่างพวกแกล่ะ"
"ดีมาก เที่ยวให้สนุกนะ แต่ถ้าจะให้ดีควงฝรั่งหุ่นล่ำกลับมาซบอกที่เมืองไทยสักคนสองคนก็ดี"
"พวกบ้า"เสียงหัวเราะของริต้ากลับมาอีกครั้งยามเมื่อเธอได้คุยกับบรรดาเพื่อน ๆ
หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวยาวประมาณเข่าคลุมทับด้วยเสื้อขนสัตว์แขนยาวสีเดียวกันสองเท้าก้าวขาออกจากบริเวณสวนสาธารณะเดินไปตามเส้นทางของถนนเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบร้อน ดวงตากลมโตภายใต้แว่นกันแดดแบรนด์ดังมองทัศนียภาพการใช้ชีวิตของผู้คนภายในเมืองหลวงแห่งนี้
กริ๊ง
"น้องหมีน่ารักจังเลยค่ะ"เสียงเปิดประตูจากร้านขายตุ๊กตาพร้อมกับเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยพูดกับตุ๊กตาในมือหลังออกมาจากร้านด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความดีใจ ในมือของเด็กน้อยมีตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวเกือบเท่าคนที่กำลังถือ ริต้าเดินมาเห็นอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
"คุณลุงขา น้องนีน่าได้ตุ๊กตามาแล้วค่า"เด็กสาวตัวน้อยโชว์ตุ๊กตาในมือให้ผู้ที่ตนเองเรียกว่าคุณลุงที่ยืนอีกฟากหนึ่งของถนนได้ดู ริต้ามองตามทิศทางไปยังผู้เป็นอาของเด็กน้อยคิ้วสวยโค้งเข้าหากันอย่างอัตโนมัติเมื่อเห็นว่ามีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนจูบกันอยู่หน้าร้านขายกระเป๋าแบรนด์ดังอย่างไม่อายสายตาใคร
"คุณลุงขา"นีน่าเรียกคุณลุงของเธอด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าคุณลุงของเธอนั้นยืนอยู่กับใคร เธอรีบอุ้มตุ๊กตาวิ่งข้ามถนนไปโดยทันทีโดยทันที บอดี้การ์ดที่เฝ้าคอยติดตามเปิดประตูออกมาจากร้านหลังจากจ่ายเงินเสร็จเขาส่งเสียงเรียกเด็กน้อยแต่ก็ไม่ทันเมื่อนีน่าวิ่งออกไปกลางถนนใหญ่
"คุณหนูครับ"
ปี๊ด ปี๊ด
รถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วเป็นจังหวะเดียวกันที่นีน่าเด็กน้อยวิ่งไปหยุดอยู่กลางถนน ริต้าที่เห็นว่ารถคันดังกล่าวกำลังพุ่งตรงเข้ามาหาเด็กสาวตัวน้อยก็เกิดความตกใจรีบวิ่งออกไปผลักร่างของเด็กน้อยให้พ้นระยะห่างจากรถคันนั้น แต่ร่างกายของเธอดันไม่ขยับไปไหนทำให้รถคันดังกล่าวพุ่งชนเข้าร่างของริต้าเข้าอย่างจัง
กรี๊ด
ร่างของริต้าถูกรถพุ่งเข้าชนจนร่างของเธอกระเด็น เลือดสีสดจำนวนมากทะลักออกมาจากปากเกลื่อนไปทั่วพื้นของถนน รูปขาและแขนทางด้านขวาผิดทรงไปจากรูปเดิมอย่างเห็นได้ชัด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเร็วมากจนไม่มีใครได้ตั้งตัวเช่นเดียวกับชาคริตที่กำลังยืนกอดหลานสาวตัวน้อยของตนเองอยู่ในอ้อมกอดหลังจากเขาได้สติแล้วผลักคู่ขาคนนั้นออกไป
"คุณลุงขา คุณน้าผู้หญิงช่วยนีน่าเอาไว้ ฮึก คุณน้าจะเป็นอะไรไหมคะ"เด็กน้อยสะอื้นร้องไห้ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ต่างจากชาคริตที่เห็นผู้หญิงคนนั้นวิ่งเข้ามาช่วยหลานสาวจนเธอเองต้องบาดเจ็บนอนจมกองเลือดต่อหน้าต่อตา
"มาร์คัส โทรศัพท์ตามรถพยาบาลด่วน เร็วเข้า"หัวใจของชาคริตเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก สภาพของผู้หญิงคนนั้นแทบจะดูไม่ได้ ทำไมนะทำไมเขาถึงรู้สึกใจสั่นได้ถึงเพียงนี้
'อย่าเป็นอะไรนะ'
ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าหลายสิบคู่วิ่งกระทบพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบภายในโรงพยาบาลมุ่งหน้าไปยังห้องฉุกเฉิน ชายร่างใหญ่พกพาความสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรมองร่างที่อยู่บนเตียงเข็นของโรงพยาบาลสลับกับมองประตูห้องฉุกเฉินที่อ้ารออยู่ไม่ไกล
"ญาติคนไข้รอด้านนอกนะคะ"นี่คือเสียงขอพยาบาลสาวเอ่ยสั่งห้าม สายตาของชาคริตมองร่างของหญิงสาวนิรนามไร้ซึ่งสติกำลังถูกเข็นเข้าไปด้านใน ใบหน้าของเขาแสดงถึงความตึงเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากแม้แต่เขาเองยังตั้งตัวไม่ทัน