คริสเตียนเพิ่งมาถึงฮ่องกง แล้วโทรศัพท์เครื่องที่เขาพกติดตัวก็สั่นขึ้นมา มีเพียงแค่คาร่ากับฟรังโก้เท่านั้นที่รู้เบอร์โทรศัพท์เครื่องนี้ ดังนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ที่โทรมา เพราะตอนนี้ฟรังโก้ก็อยู่กับเขา เขามองไปที่หมายเลขผู้โทรและยิ้มออกมา
“สวัสดีกระต่ายน้อย... ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม” เขาถามเธอ
เมื่อคาร่าได้ยินเสียงของคริสเตียน เธอก็รู้ว่าเขาจะต้องจัดการทุกอย่างให้เธอได้
(ไม่ค่ะมีปัญหานิดหน่อย ฝ่ายแอดมินบอกว่าปีนี้ไม่มีชื่อของฉัน ที่เป็นนักศึกษาใหม่ค่ะ) คาร่าบอกอย่างกังวล และเธอไม่รู้จะถามใครได้นอกจากคริสเตียน
“งั้นส่งโทรศัพท์ให้ผู้หญิงคนนั้น” คริสเตียนพูดเรียบๆ คาร่าจึงยื่นโทรศัพท์ไปให้เจ้าหน้าที่ที่นั่งทำงานอยู่
(รบกวนช่วยคุยโทรศัพท์กับผู้ปกครองของฉันหน่อยได้ไหมคะ) คาร่าพูดด้วยน้ำเสียงประหม่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็พยักหน้า แล้วรับโทรศัพท์มาจากคาร่า
(สวัสดี) หญิงสาวพูดขึ้นมาอย่างไม่มีหางเสียง
“ฉัน... คริสเตียน ฮิลล์”
เขาแจ้งชื่อของเขาให้เจ้าหน้าที่คนนั้นทราบ เธอก็ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตื่นตระหนกทันที ที่ได้ยินชื่อของเขา
(สวัสดีค่ะท่าน เอ่อ... ไม่ทราบว่าท่านอยากให้ดิฉันทำอะไรคะ) ตอนนี้ท่าทางของพนักงานที่มีต่อคาร่าก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“ผู้หญิงที่มอบโทรศัพท์เครื่องนี้ให้คุณคือ คาร่า ฮิลล์ จัดการทุกอย่างที่จำเป็นให้เธอ แล้วอย่าทำให้เธอไม่สบายใจ” คริสเตียนเตือน
(รับทราบค่ะท่าน ดิฉันจะจัดการทุกอย่างให้เธอ ตามที่ท่านต้องการค่ะ)
หญิงสาวพูดกับคริสเตียนด้วยความนอบน้อม ก่อนที่หญิงสาวจะยื่นโทรศัพท์คืนให้คาร่าด้วยมือที่สั่นเทา คาร่าก็หยิบโทรศัพท์ของเธอกลับคืนมา พร้อมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
‘ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ตัวสั่นมาก คริสเตียนไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนี่’ คาร่าคิด
(คริสเตียนคะ) คาร่าพูดใส่โทรศัพท์
“ฉันลืมบอกเธอน่ะกระต่ายน้อย ว่าฉันลงทะเบียนให้เธอในชื่อ คาร่า ฮิลล์... ฉันแจ้งผู้หญิงคนนั้นแล้ว ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี” คริสเตียนกำชับกับคาร่า
(อ่า... โอเคค่ะ) คาร่าตอบด้วยรอยยิ้มก่อนวางสาย
“คุณคาร่า ฮิลล์... นี่คือเอกสารและทุกอย่างที่คุณต้องการ” พนักงานหญิงคนนั้นมอบตารางเรียนและสิ่งอื่นๆ ให้คาร่ากับโมนิก้าด้วย
หลังจากนั้นเธอก็จัดตารางเรียนของเธอ ก่อนพวกเธอจะจากไปพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส และไอวี่ก็จ้องมองคาร่าที่กำลังจะกลับด้วยสายตาที่อิจฉาริษยา เพราะดูท่าทางว่าคริสเตียนจะหลงผู้หญิงคนนี้มาก ถึงขนาดให้มีคนคอยตามดูแล และรับส่งอย่างดี ผิดกับเธอที่เขาแทบจะไม่เคยสนใจไยดี ไอวี่คิดแล้วกำมือแน่น
...
อีกด้านหนึ่ง ใจของคริสเตียนก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาอันน่าหวาดกลัวใกล้เข้ามาทุกที กับสิ่งที่เขากำลังจะทำ
หัวใจของเขาถูกแช่แข็งด้วยชั้นน้ำแข็ง พร้อมสายตาดำมืดก็หรี่ลง เขาวางแผนที่จะฆ่าแจ็คสันในวันนี้
นี่เป็นสิ่งจำเป็นในโลกมาเฟียของพวกเขา หากพวกเขาต้องการอยู่รอด พวกเขาต้องฆ่าคนที่จะกลายมาเป็นศัตรูในทันที เพราะไม่งั้นคนที่จะโดนฆ่าก็คือเขาเอง
แจ็คสันโกรธและไร้สติ ถ้าเขาทิ้งไว้แบบนี้ วันหนึ่งในอนาคต แจ็คสันจะวางแผนต่อต้านเขามากขึ้นและพยายามจะฆ่าเขาด้วย อย่างที่เคยมีหัวหน้ามาเฟียคนหนึ่งที่พยายามจะฆ่าเขา และลงเอยด้วยการพรากชีวิตของแดนไป
“ไปกันเถอะ” คริสเตียนเอ่ยบอกฟรังโก้
คริสเตียนสวมหน้ากากก่อนลงจากรถของพวกเขา ที่จอดอยู่ห่างจากที่หมายสองสามช่วงตึก ไนต์คลับซึ่งมีแจ็คสัน เป็นเจ้าของ โดยฟรังโก้และคนของเขาจะไปก่อกวนคนของแจ็คสันก่อน ทำให้พวกมันบ้าคลั่ง แล้วคริสเตียนก็จะแอบเข้าไปในคลับ โดยไม่ให้พวกมันรู้ตัว
ทุกคนที่เห็นหน้าฟรังโก้ ต่างต้องรู้สึกหวาดกลัว เพราะฟรังโก้มีอำนาจมากในโลกมืดของพวกเขา เนื่องจากฟรังโก้เป็นคนที่คริสเตียนไว้ใจมาก และเป็นมือขวาคนสนิทของคริสเตียน แถมฟรังโก้ยังเป็นตัวแทนทั้งหน้าและเสียงของคริสเตียนเลย
คริสเตียนกำลังเดินเข้าไปในตรอกที่มืดมิด และเคลื่อนตัวออกจากถนนอย่างลับๆ เมื่อเขามาถึงคลับใหญ่ตามที่เขาวางแผนไว้ พวกบอดี้การ์ดที่เฝ้าประตู พอเห็นหน้าฟรังโก้ พวกเขาก็ปล่อยให้ฟรังโก้และทุกคนเข้ามาโดยไม่ตรวจสอบให้รอบคอบ
ก่อนคนที่เหลือทั้งหมด จะมองเห็นได้ถึงความตึงเครียดของฟรังโก้ที่เดินเข้ามาในคลับ ซึ่งเป็นถิ่นของพวกเขา
ด้านคริสเตียนก็เล็ดลอดเข้ามาด้วยเช่นกัน โดยไม่ถูกตรวจพบโดยบอดี้การ์ดของพวกมัน เขาลดหมวกสีดำของเขาลงมาให้ปิดตาเล็กน้อย ก่อนเขาจะค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไป
เวลานั้นที่ด้านล่าง กลุ่มคนของแจ็คสันก็มายืนล้อมตัวฟรังโก้ไว้หมด ทำให้คริสเตียนสามารถเล็ดลอดไปได้ โดยที่ฟรังโก้เป็นคนถ่วงเวลาไว้
คริสเตียนขึ้นมายังชั้นบนสุด ที่พวกเขาคิดว่าแจ็คสันน่าจะอยู่บนนี้ แล้วเขาก็เห็นทางเดินยาวๆ ที่มีแสงสลัวอยู่ตรงปลายทาง ซึ่งเขาได้ยินเสียงของแจ็คสันดังแว่วมา คริสเตียนยืนฟังอยู่สักพักเพื่อตรวจสอบว่าในห้องมีกี่คน
‘เขาอยู่คนเดียว และกำลังคุยโทรศัพท์’ คริสเตียนสรุป จากนั้นก็เดินไปตามกำแพงในมุมมืด และพอมาถึงห้องดังกล่าว เขาก็มองเข้าไปข้างใน พบว่าแจ็คสันอยู่คนเดียวจริงๆ แถมยังหันหลังให้ประตู ซึ่งเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของเขา
คริสเตียนหยิบมีดออกมาจากถุงเท้า แล้วเดินเข้าไปหาแจ็คสันจากด้านหลัง ก่อนจะกรีดมีดที่คอของแจ็คสันในพริบตาเดียว ส่งผลให้ดวงตาของแจ็คสันเบิกโพลง ก่อนจะทรุดตัวล้มลงด้วยความเจ็บปวด และสิ้นใจขณะที่ดวงตายังจ้องมองใบหน้าของคริสเตียน
“นายควรระวังมากกว่านี้นะแจ็คสัน!” คริสเตียนพูดพร้อมปาดเลือดออกจากมีดด้วยกระดาษทิชชูที่เขาพบบนโต๊ะของแจ็คสัน ก่อนจะกดส่งข้อความถึงฟรังโก้
‘เรียบร้อยแล้ว’