เนื่องจากในตอนนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ สองวันถัดมา ท่านพ่อจึงให้ลูกและภรรยาทุกคนในบ้านออกเดินทางไปที่เรือนพักตากอากาศ
การออกนอกจวนของพวกเขาช่างยิ่งใหญ่ ขบวนยาวเหยียดเต็มไปด้วยรถม้าหลายคัน สมฐานะของอัครเสนาบดีผู้เรืองอำนาจ
ในรถม้าที่กว้างขวางและหรูหรา เจียชีเอนตัวพิงหมอน ท่าทางเหนื่อยล้า หลังจากคืนนั้นที่หญิงสาวและชายหนุ่มได้สัมผัสกับส่วนกลางกายของกันและกันเป็นครั้งแรก ดูเหมือนว่าทั้งเขาและนางจะติดใจในรสสัมผัสนั้น นางนอนดึกมาสองคืนติด อีกทั้งวันนี้ต้องเดินทางไกลร่างกายจึงค่อนข้างอ่อนเพลียอยู่บ้าง
ขณะที่นางกำลังจะหลับ แต่ชายหนุ่มด้านข้างกลับไม่ยอมปล่อยให้นางได้พัก นิ้วร้ายของเฉิงคุนสอดเข้าไปใต้กระโปรงของนาง จากหนึ่งนิ้วเพิ่มเป็นสองนิ้ว ขยายช่องทางสวาทของนางออก เขาเคลื่อนไหวนิ้วอย่างช้าๆ และเป็นจังหวะ ทำให้นางดิ้นพล่านด้วยความกระสัน
หญิงสาวถามเขาด้วยเสียงหอบเหนื่อย "อ่า...เจ้าทำเช่นนี้เพื่ออะไร"
"เพื่อเตรียมพร้อมให้คุณหนูอย่างไรเล่า...ข้ารู้ขนาดของตัวเองดี ดังนั้นเพื่อไม่ให้คุณหนูต้องทนเจ็บ...ข้าจะช่วยทำให้คุณหนูเคยชินกับนิ้วของข้าเสียก่อน" คำพูดของชายหนุ่มฟังดูแล้วช่างไร้ยางอายยิ่งนัก
เจียชีไม่มีแรงที่จะเถียงกับเขา นางจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาและรูปร่างอันแสนจะดูดีของชายหนุ่ม ในใจก็คิดว่าส่วนนั้นของเขาช่างดุดันน่าเกรงขามแตกต่างกับหน้าตาเสียเหลือเกิน
รถม้ายังคงเคลื่อนไปข้างหน้า และเมื่อถึงบริเวณเชิงเขา จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดาบกระทบกันและตามมาด้วยเสียงเอะอะกรีดร้องของบรรดาเหล่าสาวใช้
ด้วยความตกใจเจียชีจึงเปิดม่านหน้าต่างออกดูและเห็นชายชุดดำกลุ่มหนึ่งวิ่งลงมาจากภูเขา นางพูดด้วยความตื่นตระหนก "มีมือสังหาร!"
นิ้วของเฉิงคุนยังคงสอดใส่อยู่ในช่องทางรักเขาไม่มีทีท่ากังวลเลยสักนิด "ในเวลาเช่นนี้ เจ้ายังคงทำต่อได้อีกหรือ!" หญิงสาวหมดคำจะพูดกับเขา
ชายหนุ่มถอดนิ้วออกไป เขาไม่ลืมที่จะเช็ดร่างกายทำความสะอาดให้กับนาง และอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย "มีองครักษ์ประจำจวนมากมายที่ตามขบวนมา คุณหนูไม่ต้องเป็นกังวล..."
เขาหยิบอาวุธบางๆ ออกมาสองสามชิ้น มองไปที่ชายชุดดำที่กำลังโจมตีอยู่นอกรถม้า "นอกจากนี้...ยังมีข้าน้อยอยู่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถขึ้นมาบนรถม้านี้ได้"
เป็นจริงตามที่เขาพูดชายชุดดำไม่สามารถเข้าใกล้ในรถม้าของนางได้ อาวุธในมือของเขาสามารถขว้างออกไปถูกเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ไม่รู้ว่าเขาสัมผัสได้ว่าคนเหล่านั้นเข้ามาใกล้รถม้าได้อย่างไร แต่ทุกครั้งที่เขาเขวี้ยงอาวุธออกไป มันปลิดชีพเป้าหมายทุกชิ้น
การลอบโจมตีครั้งนี้ใช้เวลาไม่นาน สถานการณ์ก็ถูกควบคุมได้โดยสงบ เหล่าเจ้านายในจวนไม่มีบาดเจ็บใครล้มตาย มีเพียงสาวใช้และบ่าวระดับล่างบางคนเท่านั้นที่เคราะห์ร้าย
พวกเขาจะเดินทางกันต่ออีกไม่ได้ เพราะตอนนี้เป็นเวลาเย็นย่ำ การเดินทางต่อในตอนกลางคืนค่อนข้างเสี่ยงอันตราย ท่านพ่อจึงสั่งให้คนหาพื้นที่ราบเหมาะสมเพื่อตั้งค่ายพักแรมในตอนกลางคืน
ช่วงหัวค่ำ เจียหมิงผู้เป็นพี่ชายใหญ่แจ้งว่ามีเรื่องเร่งด่วนให้นางต้องช่วย เขาบอกว่าสอบสวนพบแหล่งกบดานของกลุ่มโจรที่เหลือแล้วและคืนนี้ เขาวางแผนที่จะนำองครักษ์เงาที่มีทักษะทางการต่อสู้ระดับสูงไปจัดการพวกโจรในคืนนี้
เจียชีได้ฟังแล้วก็พูดอย่างกังวล "ถ้าเช่นนั้นพี่ใหญ่ต้องระวังตัวให้มากกว่านี้ ความปลอดภัยของท่านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด" พี่ชายใหญ่คนนี้เป็นพี่ชายที่เกิดจากฮูหยินคนแรกของท่านพ่อ แต่ว่ามารดาของเขาสิ้นใจตอนตลอดเขาออกมา
ด้วยเหตุนี้มารดาของนางจึงได้แต่งเข้ามาเป็นฮูหยินคนที่สองต่อจากมารดาของพี่ชายใหญ่
ในเวลานั้นท่านพ่อมีอนุภรรยามากมาย และเริ่มมีลูกกับพวกอนุภรรยาหลายคนแล้ว พี่ชายใหญ่ตอนนั้นมีอายุได้หกปี มารดาของนางรู้สึกสงสารที่เขาต้องขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็ก จึงเลี้ยงดูเขาเหมือนกับบุตรชายของตนเอง ในยามที่นางเกิดมาพี่ชายใหญ่ก็ดีใจที่ได้มีน้องสาวเช่นนาง ในฐานะพี่ชายเขาดูแลนางได้เป็นอย่างดี หญิงสาวจึงไม่อยากให้เขาเป็นอะไรไป
เจียหมิงพยักหน้า "ขอบคุณเจ้าที่เป็นห่วง...ที่มาที่นี่ก็เพื่อขอยืมตัวคนของเจ้าสักคน"
หญิงสาวขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย "ใครหรือ"
"ลู่ซานหัวหน้าองครักษ์เงาของพี่...บอกว่าในบรรดาคนที่ฝึกองค์รักษ์เงาด้วยกัน มีคนที่เก่งในการต่อสู้มาก เขาแข็งแกร่งและชนะการต่อสู้ขึ้นเป็นอันหนึ่งทุกครั้ง”
เมื่อได้ฟังพี่พี่ชายพูดหัวใจของจางชีก็เต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความเป็นกังวล นางพึมพำเสียงค่อย "คงไม่ใช่เฉิงคุนหรอกนะ..."
"น้องสาวลองเรียกเขาออกมา องครักษ์เงาของพี่รู้จักเขา" พี่ใหญ่โบกมือ ร่างของชายชุดดำสวมหน้ากากเงินก็ปรากฏขึ้นจากทางด้านหลังของเขา
"เฉิงคุน” เจียชีเองก็เรียกชายหนุ่มออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ ร่างของเฉิงคุนก็ปรากฏจากทางด้านหลังของหญิงสาวอย่างเงียบ ๆ ราวกับเป็นเงาของนาง
ก่อนที่เจียชีจะเอ่ยถามองครักษ์หน้ากากเงินที่ยืนอยู่ข้างๆ พี่ชาย อีกฝ่ายก็พยักหน้าและพูดยืนยันตัวตนของเฉิงคุน "เป็นเขา"
"เช่นนั้นก็ดี...เพื่อแลกกับองครักษ์เงาคนนี้ พี่จะมอบองครักษ์เงาเพิ่มอีกสามคนไว้ให้ ทั้งสามคนนี้ก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน พวกเขาไม่มีปัญหาในการคุ้มครองความปลอดภัยของเจ้าแน่นอน"
เจียชีคาดไม่ถึงอยู่บ้างว่าจะเป็นเช่นนี้ หากพี่ใหญ่ต้องการคน นางก็พร้อมจะยกให้แต่กับเฉิงคุน...
เขาเป็นผู้ชายที่นางชอบ...นางจะยกให้พี่ใหญ่ได้อย่างไร
เมื่อเห็นเจียชีลังเล พี่ชายของนางก็นึกสงสัย "หรือเจ้าคิดว่าคนยังน้อยเกินไป เช่นนั้นพี่จะเพิ่ม..."
"ไม่" เจียชีขัดจังหวะเขา "ข้าต้องการแค่เฉิงคุน...ถ้าเสร็จงานแล้วพี่ใหญ่โปรดคืนเขามาด้วย!"
พี่ชายผงะจากนั้นก็หัวเราะ "งั้นพี่จะยืมคนของเจ้าไปทำงานสักคืน...เสร็จงานแล้วจะรีบคืนให้ทันที”
เจียชีจำยอมต้องปล่อยให้ชายหนุ่มไปเพื่อผลประโยชน์ต่อส่วนรวม นางหันไปกำชับกับเฉิงคุน “รีบไปรีบกลับ ห้ามเป็นอันใดเด็ดขาด!”
เฉิงคุนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะเดินตามองครักษ์เงาของพี่ชายใหญ่ไป...