แดนดินมองพ่อแม่เจ้าสาวและมองเจ้าสาวของเขาที่อยู่ในสภาพที่เรียกว่า ‘หมดสภาพ’ จริงๆ ก่อนจะส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ
“คุณน้าไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ถ้าไม่เป็นแบบนี้ ก็คงไม่ใช่อากาศ และไม่ต้องเรียกผมว่าคุณแล้วนะครับ ตอนนี้ผมก็ถือว่าเป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่อีกคน”
“น้า เอ่อ... แม่ขอบคุณแดนมากๆ แม่ฝากน้องด้วยนะจ๊ะ”
“ครับ พรุ่งนี้ผมจะพาอากาศกลับไปบ้านเองครับ”
จากนั้นพ่อแม่เขาก็ชวนพ่อแม่ของพิสุทธิ์นภาให้ออกจากห้องหอ เพราะคงทำพิธีส่งตัวอะไรกันไม่ได้มากกว่านี้ เมื่อเจ้าสาวนอนทับกลีบกุหลาบไปหมดแล้ว ในห้องหอจึงเหลือแต่เขาและพี่ชายเจ้าสาวที่จ้องหน้าเขาเขม็ง
“หวังว่านายจะรักษาสัญญา”
“รับแซ่บ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่ที่ว่าน้องสาวพี่จะเล่นด้วยหรือเปล่า”
“นายแดน...”
‘สุริยพิสุทธิ์’ เข้าไปกระชากเสื้อสูทเจ้าบ่าว เงื้อมกำปั้นขึ้นอยากจะตะบันหน้าหล่อๆ ของแดนดินสักหมัด แต่แดนดินกลับกุมหมัดนั้นแล้วดันออกเบาๆ
“พี่ออกไปได้แล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาวเขาจะเข้าหอกัน”
“ห้ามทำอะไรน้องฉัน ถ้าอากาศไม่ยอม”
“แล้วพี่ว่า... ผมสามารถทำให้อากาศยอมได้หรือเปล่าล่ะ”
“ไอ้แดน...”
“โอว... ใจเยสๆ ครับคุณพี่เมีย คุณพี่ขอให้ผมช่วยเองนะครับ คุณพี่ก็ต้องปล่อยให้เรื่องผัวเมียเขาเป็นไปตามธรรมชาติดิ คุณพี่ต้องขอบคุณผมด้วยซ้ำ ที่ยอมเป็นน้องเขยของคุณพี่น่ะ”
“เพราะนายสัญญาว่าจะตอบแทนฉัน”
“ก็ใช่ ก็ตอบแทนโดยการแต่งงานแล้วไง แต่หลังจากนี้คือเรื่องของผัวเมียล้วนๆ เชิญคุณพี่เมียออกไปเถอะครับ ผมจะได้ยกเสาลงรู”
“ไอ้แดน!”
สุริยพิสุทธิ์ถลันเข้าไปกระชากคอเสื้อแดนดินอีกครั้ง แต่เป็นแดนดินที่คว้ากำปั้นไว้ได้ก่อน ดวงตาคมหวานเพราะขนตางอนยาวไม่ต่างจากผู้หญิงอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของแดนดิน แต่ในเวลานี้กลับมองสบมาด้วยแววจริงจัง
“ผมแต่งงานกับอากาศตามที่พี่ต้องการแล้ว และตอนนี้ก็เป็นชีวิตของผมกับอากาศแล้วนะ ถ้าผมทำให้อากาศยอมรับในตัวผมไม่ได้ 1 ปีหลังจากนี้ผมจะหย่าให้ พี่ไม่ต้องห่วงหรอก ส่วนจะมีอะไรเกินเลยกันไหม ตรงนั้นผมรับประกันไม่ได้ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน แล้วน้องพี่ก็... หุ่นเซี้ยะขนาดนี้ เอาเป็นว่าถ้าอากาศไม่เริ่ม ผมก็จะไม่ทำก็แล้วกัน เชิญพี่ไปได้แล้ว พ่อแม่รอหน้าห้องแล้วมั้ง”
สุริยพิสุทธิ์หลับตาข่มอารมณ์ตัวเองเต็มที่เพราะเขาเองที่ขอให้แดนดินช่วย พอรู้ว่าแม่วางแผนที่จะคุยกับเพื่อนๆ ที่มีลูกชายโสดสนิทไปทีละคน เพื่อหาคนที่พร้อมจะแต่งงานกับพิสุทธิ์นภาอย่างเร่งด่วนสุดๆ
เขาจึงแนะนำให้แม่คุยกับคุณน้าพิรดาคนแรก โดยการันตีคุณสมบัติว่าแดนดินเหมาะสม จากนั้นเขาก็ต่อสายหาแดนดินเพื่อทวงบุญคุณ และแดนดินก็พร้อมตอบแทนบุญคุณทันที ไม่อิดออด ไม่ต่อรอง ดูว่ากระตือรือร้นด้วยซ้ำ
ตอนนั้นเขาคิดเพียงว่าดีแล้วที่ได้แดนดินมาเป็นเจ้าบ่าวจำเป็นของน้องสาว เพราะคุ้นเคยกันจะได้คุยกันง่าย แต่มาตอนนี้เขากลับเป็นห่วงน้องขึ้นมาดื้อๆ เพราะบนเวที เขาเห็นสายตาที่แดนดินมองพิสุทธิ์นภา สายตาผู้ชายดูกันออก แม้นั่นจะไม่ใช่ความรัก แต่เขามองรู้ว่าคือความปรารถนา
“ไปได้แล้วพี่ เจ้าสาวเมาแอ๋ขนาดนี้ ผมจะทำอะไรได้”
ใบหน้าหล่อดุพยักน้อยๆ ว่าเข้าใจ แต่ก่อนจะออกไปก็หันไปหาแดนดินอีกครั้ง
"นายแดน ฉันหวังว่านายจะทำให้อากาศยอมรับได้ บอกตรง ฉันอยากได้นายเป็นน้องเขยจริงๆ ว่ะ”
ดวงตาคู่คมสบกันนิ่งก่อนที่แดนดินจะเป็นฝ่ายพยักหน้า
ในห้องหอที่มีเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่สวยหล่อเหมาะสมกันทุกประการตามที่แขกผู้มาร่วมงานเอ่ยชม เพราะภาพแบ็คดรอปหน้างานนั้น เขากับพิสุทธิ์นภาไม่ต่างจากเจ้าชายและเจ้าหญิงยืนเคียงข้างกัน แต่ใครจะรู้ว่านั่นเขายืนกอดหุ่น จากนั้นทางทีมงานก็นำมาตัดต่อให้คู่กัน เพราะเจ้าสาวไม่ยอมไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งวันเดียวกันกับเขา
แดนดินมองเรือนร่างงามระหงที่ขณะนี้นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงกว้าง อกอวบใหญ่ที่ถูกดันจนแนบชิดยั่วอารมณ์เขาอย่างแรง โดยเฉพาะในยามที่มันกระเพิ่มขึ้นลงตามแรงทอดถอนหายใจของคนหลับ เขายิ่งตื่นตัวขึ้นมาดื้อๆ
“เฮ้อ! จะทนได้ไหม ทนได้หรือเปล่า จะทนได้ไหม ทนได้หรือเปล่า”
บ่นเป็นเพลงพร้อมส่ายหน้ากับสิ่งเร้าตรงหน้า ก่อนจะถอดเสื้อสูทออก คงต้องใช้สายน้ำดับอารมณ์หื่นๆ ของตัวเองก่อน จากนั้นค่อยมาช่วยหล่อนถอดชุดรัดนมออก ไม่อย่างนั้นตอนนอน ถ้าหล่อนดิ้นมากๆ แล้วหลุดออกมาทั้งยวง รับรองว่าเขาดูดแน่
“อึ๊ยยยยย!!! ใหญ่! โอ๊ย! เปรี้ยวปาก!”
สุริยพิสุทธิ์ออกมาจากห้องหอของบ่าวสาว ล้วงโทรศัพท์จากระเป๋ากางเกงขึ้นมากดโทร.หาคนที่สั่งให้รออยู่ แต่ยังไม่ทันจะโทร. ก็เห็นคนที่ต้องการ
“ตามมานี่”
เสียงเฉียบขาดสั่งเบาๆ แต่คนฟังก็ยังสะท้าน ทว่าเมื่อเขาพาเดินเข้าไปด้านในลึกๆ หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“พี่ซันจะไปไหนคะ”
คนด้านหน้าหยุดเดินกะทันหันและหันกลับมาโดยเร็ว ในระยะกระชั้นชิดก็ทำให้ศศินาผวา
“บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกพี่ ฉันมีน้องคนเดียวคืออากาศ”
“เอ่อ... ค่ะ”
“ตามมาไม่ต้องพูดมาก”
ศศินามองตามเบื้องหลังกว้างที่หันกลับไปและก้าวตรงไปข้างหน้า เหมือนว่าคำพูดของพิสุทธิ์นภาจะดังอยู่ในหัว