Intro…มรดก

927 คำ
“ครับ? คุณพ่อจะวางมือ...” เสียงถามขึ้นอย่างเป็นกังวลของ เมฆินทร์ ลูกชายฝาแฝดคนเล็กของบ้านดังขึ้นเมื่อวันนี้ คุณฮาเดส มาเฟียในคราบนักธุรกิจ ซึ่งเป็นบิดาบังเกิดเกล้าของเขาเรียกให้เขาและ เมฆา พี่ชายฝาแฝดเข้ามาหาที่บ้าน “อืม พ่อคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว แม่ของลูกอยากให้พ่อวางมือ แล้วนี่เมฆายังไม่มาอีกเหรอ” คุณฮาเดสถามขึ้นเมื่อยังไม่เห็นลูกชายคนโตเดินเข้ามา “ครับ เห็นว่ากำลังจะถึง...” เมฆินทร์มองสังเกตบิดาพร้อมกับเดินไปนั่งลงไม่ไกล เมื่อตอนนี้บิดาของเขาก็ยังดูไม่แก่แถมแข็งแรงกว่าเขาที่เป็นลูกเสียอีกแต่ทำไมคิดวางมือจากธุรกิจนี่สิที่ทำให้เขาสงสัย “คุณพ่อก็รู้ว่าผมยังไม่พร้อม ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากทำธุรกิจพวกนี้ต่อจากคุณพ่อเลยจริงๆนะครับ” เมฆินทร์รีบบอกเมื่อเขานั้นมีเส้นทางที่เขาวาดฝันเอาไว้แล้ว นั่นคือการเป็นเพลย์บอยผู้ร่ำรวยจากมรดกมหาศาลที่เขามีอยู่ “แกก็รู้ว่าแกสองคนไม่ได้มีทางเลือกมากนัก” คุณฮาเดสมองลูกชายคนเล็กที่ถอดแบบเขามาอย่างไม่ผิดเพี้ยนทั้งหน้าตา ท่าทางและนิสัย ลูกสองคนถึงจะเป็นฝาแฝดกันก็จริงแต่นิสัยแตกต่างกันลิบลับ “แต่ผม...” “อ่าว นายมาแล้วเหรอ...สวัสดีครับคุณพ่อ...” ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ประตูห้องทำงานของคุณฮาเดสก็เปิดขึ้นพร้อมเมฆาแฝดผู้พี่เดินเข้ามา “อืม นั่งลงสิ” คุณฮาเดสบอกพร้อมกับดึงเอกสารที่อยู่ในแฟ้มออกมาวางเอาไว้ตรงหน้าลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนของเขา “นี่ของลูก ส่วนนี่ก็ของลูก” คุณฮาเดสยื่นเอกสารไปให้ลูกๆคนละแผ่น ก่อนที่ทั้งสองจะยกมันขึ้นมาอ่านดู “นั่นคือส่วนแบ่งที่พ่อจัดสรรให้เรียบร้อยแล้ว พ่อจะวางมือตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป” “ครับ?? / ห๊ะ??” สองหนุ่มถึงกับร้องขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจกับสิ่งที่บิดาพึ่งพูดออกมา “แกสองคนมีเวลาก่อนฉันจะบินไปอังกฤษอีกเดือนเดียว เดี๋ยวเปรมจะอยู่เป็นผู้ช่วยให้จนกว่าจะเข้าที่” “แต่คุณพ่อ...” เมฆินทร์ที่อยากคัดค้านรีบพูดขึ้น ต่างจากเมฆาที่เอาแต่นั่งเงียบมองกระดาษในมือที่เขาถืออยู่อย่างไร้คำถาม “ฉันต้องไปแล้ว มีอะไรก็ถามเปรมได้เลย” พูดจบ คุณฮาเดสก็ลุกเดินออกจากห้องทำงานไปทันที เมื่อนัด คุณเวฬา ภรรยาสุดรักสุดหวงเอาไว้ที่ร้านอาหาร ปล่อยให้ลูกๆของเขาได้แต่มองกระดาษที่มีชื่อบริษัทและกิจการต่างๆที่พวกเขาต้องรับผิดชอบอยู่ “พี่ชาย ไหนดูซิว่าของนายได้อะไรบ้าง” เมฆินทร์รีบดึงกระดาษของพี่ชายมาดู ส่วนเมฆาก็ดึงของน้องชายมาดูเช่นกัน “อะไรกัน? ทำไมนายได้แต่ธุรกิจสีขาวสะอาดพวกนี้ล่ะ โธ่ เห็นฉันเป็นอะไร ซาตานรึไงถึงให้แต่ธุรกิจสีดำๆพวกนี้มา” เมฆินทร์อดที่จะบ่นโอดโอยไม่ได้ เมื่อพี่ชายอย่างเมฆากลับได้รับช่วงต่อธุรกิจสีขาวสะอาดหมดจด ซึ่งส่วนมากจะมาจากธุรกิจของคุณตาผู้ล่วงลับของเขา “งั้นนายก็เอานั่นไป เดี๋ยวฉันจัดการพวกนี้เองก็ได้” เมฆาที่เห็นว่าน้องชายดูจะไม่เต็มใจกับสิ่งที่ได้เลยบอกขึ้น เมื่อเขานั้นไม่เคยคิดโต้แย้งหรือคัดค้านอะไรกับใครอยู่แล้ว ยิ่งเป็นกับครอบครัวแล้วด้วยเขายิ่งไม่เคยทำ “อะไรกัน...แบบนายเนี่ยนะจะดูแลธุรกิจพวกนี้ได้ มีหวังถูกลูกน้องตัวเองฆ่าตายพอดี เอามานี่! นายน่ะเอานี่ไปอ่ะดีแล้ว” พูดจบเมฆินทร์ก็ลุกเดินหนีออกจากห้องทำงานของบิดาไปอีกคน ปล่อยให้เมฆาได้แต่มองกระดาษในมือของเขาอย่างเป็นกังวล เมื่อการทำงานภายใต้ปีกของบิดานั้นทั้งอบอุ่น สบายใจแถมไม่มีปัญหาอะไรมากมายจนต้องเก็บมาเครียดด้วย แต่ถ้าเกิดไม่มีบิดา เขาคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าเขาจะเดินไปทางไหนต่อดี ครืดดดด “ออกรถ” ส่วนทางด้านเมฆินทร์ที่เดินมาขึ้นรถที่มี ตงฉิน คนสนิทพ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทของเขาเปิดรออยู่ ก่อนจะสั่งขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจนตงฉินสังเกตเห็นได้ “ถ้าฉันต้องกลายเป็นมาเฟีย นายคิดว่ามันจะเข้าท่ารึเปล่า?” เมฆินทร์ถามขึ้น เมื่อเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมารับช่วงธุรกิจด้านมืดต่อจากบิดาเร็วขนาดนี้ “หึหึ ถ้านายไม่เหมาะ แล้วใครจะเหมาะล่ะ” ตงฉินพูดขึ้นพร้อมกับมองเมฆินทร์ผ่านกระจกรถ เมื่อเมฆินทร์นั้นอาจไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นเหมาะกับตำแหน่งมาเฟียมากกว่าใครแล้ว “ถ้าเป็นมาเฟีย ฉันก็เป็นเพลย์บอยไม่ได้สิ ต้องเคร่งขรึม ไว้ท่า น่าเกรงขาม ฉันน่ะ เกิดมาเพื่อเป็นเพลย์บอยเจ้าสำราญนะ” เมฆินทร์ยังคงคิดขัดแย้งกับตัวเอง โดยที่ตงฉินได้แต่ยิ้มอย่างนึกขำเมื่อเพื่อนสนิทพ่วงตำแหน่งเจ้านายคนนี้ของเขานั้นถึงแม้จะดูเป็นหนุ่มมากรักเจ้าสำราญแต่ใครเลยจะรู้ว่าพอเวลาเข้าโหมดโหดนั้น เมฆินทร์ถือว่าโหดร้ายจนเกินจะคาดคิดเลยก็ว่าได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม