ตอนที่ 11

1781 คำ
เช้าวันใหม่ที่ไม่สดใสนักสำหรับบทมากร ร่องรอยความป่าเถื่อนของปีศาจร้ายอย่างติญญานนท์ยังคงรายล้อมรอบตัวตนของหล่อนอยู่เต็มไปหมด ถึงแม้ว่าหล่อนจะระวังตัวเพียงไหน ก็คงจะต้องมีวันพลาดเข้าสักวัน เพราะปีศาจร้ายยังไงก็ยังคงเป็นปีศาจร้ายวันยังค่ำ แต่จะโทษเขาซะทีเดียวก็ไม่ถูก เพราะถ้าหล่อนไม่ไปทำร้ายเขาก่อน เขาก็คงไม่บ้าคลั่งแค้นขนาดนี้ คิดแล้วความรู้สึกผิดก็ซัดเข้าหาหล่อนอีกแล้ว ครานี้มันเหมือนคลื่นลูกใหญ่ที่ซัดเข้ามาหาอย่างแรง จนหล่อนแทบจะขาดใจตายเสียให้ได้ เท้าบางชะงักอยู่กับที่ เมื่อเห็นคนที่ไม่อยากจะเห็นนั่งคุยอยู่กับคุณย่าและคุณน้าสาวิตรีในห้องรับแขกด้านล่าง ร่างบางหมุนตัวจะเดินกลับขึ้นบันไดไปชั้นบน แต่เสียงของคุณย่าของหล่อนก็ดังขึ้นเสียงก่อน ทำให้บทมากรจำใจต้องหันหน้ากลับมา และเดินเข้าไปหา หล่อนไม่อยากเจอเขาเลย...! สายตาที่เหยียดหยาม ได้แทรกซึมไปทั่วความรู้สึกของหล่อน จนหล่อนรู้สึกว่าตัวเองนั้น ไร้ค่า กว่ากรวดดินซะอีก พลางคำพูดของมารดาก็ปรากฏเด่นชัดในสมอง “ฉันเกลียดแกนังกอบัว แกรู้ไหมทำไมฉันถึงตั้งชื่อแกว่ากอบัว ก็เพราะแกมันก็เป็นได้แค่กอบัวไงล่ะ อยู่ใต้น้ำเป็นโคลนตม ที่ไม่สามารถจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้ ไม่มีวันเป็นดอกบัวที่สวยงามได้หรอก ไม่มีวัน” เพราะอย่างนี้นี่เอง แม่ถึงตั้งชื่อหล่อนว่า กอบัว แม่คงเกลียดหล่อนมาก เพราะชื่อจริงของหล่อนมันก็แปรว่ากอบัวเช่นกัน บทมากรพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงไปในอก ความเจ็บปวดที่คนรอบข้างสร้างแผลไว้กับหล่อนมันมากมายจนหล่อนชาชินเสียแล้ว “นั่งลงซิจ๊ะ” คุณหญิงศรีสุดาดึงร่างบอบบางของหลานสาวให้นั่งลงข้าง ๆ บทมากรยอมทำตามอย่างไม่ขัดข้อง เขานั่งอยู่ตรงข้ามกับหล่อน กำลังมองหล่อน บทมากรก้มหน้ามองพื้นนิ่ง “เมื่อคืนนอนสบายดีหรือเปล่า นอนหลับไหม” คุณหญิงศรีสุดาถามขึ้นเสียงอ่อนโยน สายตาที่จ้องมองหลานสาวนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ “ค่ะ สบายดี” ตอบออกไปเสียงเบาหวิว สายตายังจับจ้องอยู่ที่เดิม สาวิตรีเห็นอาการหวาดผวาของเด็กสาวตรงหน้าก็อดเวทนาไม่ได้ หล่อนไม่รู้ว่าทำไมพ่อหลานชายตัวดีของหล่อนถึงได้อาจหาญทำเรื่องเลวร้ายอย่างเมื่อคืนนี้ได้ และที่สำคัญ...เขารู้ได้ยังไงว่าบทมากรไม่ใช่หลานตัวจริงของคุณย่า “เอ่อ... คุณแม่คะ วันนี้หนูขออนุญาตพากอบัวไปข้างนอกหน่อยนะคะ จะพาไปซื้อข้าวของที่จำเป็นนะค่ะ” สาวิตรีชิงพูดขึ้น เมื่อเห็นสายตาชิงชังของติญญานนท์ที่ส่งผ่านมายังหลานสาวคนใหม่ของคุณย่า เพราะถ้าหล่อนปล่อยบทมากรอยู่ไกลหูไกลตาเมื่อไหร่ เจ้าปีศาจร้ายมันคงได้เขมือบเหยื่อหวาน ๆ ชิ้นนี้แน่ “ตามสบายเถอะ แต่อย่ากลับดึกล่ะ เพราะพรุ่งนี้กอบัวต้องเดินทางแต่เช้า” คำพูดของคุณหญิงศรีสุดาทำให้ทั้งสาวิตรีและบทมากรรู้สึกแปลกใจไม่น้อย “ไปไหนคะ คุณแม่จะให้กอบัวไปไหน” คำตอบยังไม่ทันจะออกจากปากของหญิงชรา ติญญานนท์ก็พูดขึ้นเสียก่อน น้ำเสียงเขาตอนนี้ฟังดูเรียบนุ่ม จนน่าแปลกใจ แต่นี่แหละเค้าฝนกำลังจะมา... “ไปกับผม...” “ไม่นะ” บทมากรปฏิเสธทันควัน หน้าสวยหวานซีดเผือด ไปกับเขา ก็เท่ากับไปตายดี ๆ นี่เอง หล่อนกำลังจะหาเหตุผลข้อที่ร้อยมาปฏิเสธ แต่พอเงยหน้าเจอสายตาข่มขู่ของเขา ทำให้หล่อนต้องเหยียบคำปฏิเสธนั้นไว้จมดิน “ถ้าเธอขัดคำสั่งฉัน ความลับของเธอก็จะถูกไขจนสว่างแจ้งเลยทีเดียว” คำพูดของเขายังฝังจิตอยู่ไม่คลาย ความหวาดกลัว ความหวาดหวั่นกระพือโหมใส่หล่อนไม่หยุด “ไม่ได้นะคะคุณแม่ กอบัวพึ่งมาได้วันเดียว คุณแม่จะขับไล่หลานไปไหนอีก” สาวิตรีเห็นหน้าซีดเผือดของบทมากรแล้วก็อดช่วยเหลือไม่ได้ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ยังติดตาหล่อนอยู่ ติญญานนท์ต้องทำร้ายบทมากรแน่ แต่เพราะอะไรหล่อนก็พอจะเดาได้ เขาคงกลัวความรักที่คุณย่าให้เขา จะถูกบทมากรแบ่งเอาไปจนหมดนะซิ “คุณอาแน่ใจนะที่พูดน่ะ” คำพูดเตือนสติของติญญานนท์ทำให้สาวิตรีหน้าเจื่อนลงทันตา คำพูดข่มขู่เมื่อคืนดังขึ้นทบทวนความทรงจำของหล่อนอีกครั้ง “คิดว่าไปเปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน พอดีนายติญญ์เขาจะขึ้นไปที่ “ไร่ดวงตะวัน” ย่าเลยอยากให้หลานทั้งสองคนสนิทสนมกันให้มากกว่านี้ และอีกอย่างที่นั้นบรรยากาศดีด้วย”คำพูดที่เหมือนตัดสินใจให้แล้วของคุณหญิงศรีสุดา ทำให้บทมากรกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำใจต้องรับปากออกไป “ค่ะ คุณย่า” ตอบออกไปราวกับคนไม่มีชีวิตจิตใจ ความเศร้าหมองในตาคู่สวยเด่นชัดขึ้นมา เมื่อรู้ว่าจะต้องไปอยู่ใกล้ชิดกับปีศาจร้ายอย่างติญญานนท์ตามลำพัง สาวิตรีเองก็เหมือนน้ำท่วมปากอยากจะช่วยบทมากรใจจะขาด แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะเจ้าหลานชายตัวแสบของหล่อน กำความลับของหล่อนเอาไว้... คงต้องแล้วแต่เวรแต่กรรม... ติญญานนท์หัวเราะอย่างสะใจอยู่ข้างใน ผู้หญิงแพศยา... เขาจะทรมานให้หล่อนให้ตายคามือ จะทำให้หล่อนเจ็บปวดทรมานที่สุดเท่าที่ชีวิตของหล่อนจะเจอะเจอเลยทีเดียว บ้านสองชั้นสีขาวสะอาดตา ล้อมรอบด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด ที่แข่งกันชูช่ออวดดอกสวยกันอย่างระรานตาไปหมด บทมากรก้าวลงจากรถที่นั่งมากับสาวิตรีเดินตรงเข้าไปในบ้านหลังนั้น นี่หรือบ้านหลังใหม่ของหล่อน... ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ออกจากสลัมแห่งนั้น แม่..แม่ต้องดีใจแน่ ๆ ที่หล่อนสามารถหาเงิน หาบ้านดี ๆ ให้แม่ได้อยู่อย่างสุขสบายได้ ตอนนี้แม่คงไม่เกลียดหล่อนแล้ว หญิงสาวยิ้มอวดฟันขาวสวยที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบออกมาอย่างปลื้มใจ แต่...ความทุกข์ใจก็แล่นเข้ามาอย่างโดยเฉียบพลัน เมื่อคิดถึงความโหดร้ายที่หล่อนจะได้รับจากปีศาจร้ายอย่างติญญานนท์ ถ้าเขาไม่ฆ่าหล่อน หล่อนก็คงตรอมใจตาย.. หญิงสาวคิดอย่างปลงในชะตาชีวิตของตนเอง จะหนีก็หนีไม่ได้ ทำไมนะเขาต้องเป็นหลานชายของคุณย่าของหล่อนด้วย ทำไมนะ... เท้าบางก้าวมาหยุดที่ประตูบ้านบานใหญ่ ก่อนจะเปิดเข้าไปอย่างแผ่วเบา ดวงตากลมโตกวาดตามองไปทั่วบ้านอย่างตื่นตะลึง นี่หล่อนไม่ได้ฝันไปใช่ไหม บ้านสวย ๆ อย่างนี้เป็นของหล่อน ถึงแม้จะเทียบไม่ได้เลยกับคฤหาสน์อิ่มรัก แต่สำหรับหล่อนแล้ว ที่นี่คือสวรรค์บนดินดี ๆ นี่เอง “แม่...แม่จ๋า” เสียงหวานดังระฆังแก้วของบทมากรดังขึ้น เมื่อหล่อนมองหาร่างของมารดาไม่พบ ร่างบางกำลังจะก้าวเท้าขึ้นบันไดบ้านไปยังชั้นสอง แต่มารดาของหล่อนก็ปรากฏตัวขึ้นมาซะก่อน ร่างผอมแห้งเนื่องจากโรคภัยที่รุมเร้า และความขาดการเอาใจใส่ตัวเองของมารดา ทำให้บทมากรรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ น้ำเมาที่แม่ของหล่อนกินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มันทำให้มารดาของหล่อนดูแก่เฒ่ากว่าคนในวัยเดียวกันมาก “แกมีธุระอะไรกับฉัน นังกอบัว” น้ำเสียงแหบแห้งฟังดูห่างเหินของมารดา ทำให้หญิงสาวรู้สึกน้อยใจขึ้นมาไม่ได้ สาวน้อยพยายามกดความเจ็บปวดไว้ในอก ก่อนจะฝืนยิ้มให้กับมารดา “หนู... หนูแค่เป็นห่วงแม่” หญิงสาวสารภาพเสียงอ่อย น้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาคลอเบ้า บทมากรพยายามฝืนมันไว้ที่สุด ที่จะไม่ให้มันไหลออกมา แต่สุดท้ายมันก็ไหลออกมาเป็นสาย ท่ามกลางรอยยิ้มสะใจของอุทุมพรที่ยืนมองอยู่ตรงหน้า นี่แหละ.. ผลกรรมจากพ่อเลว ๆ ของแก... “เป็นห่วงฉันทำไม ฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก เงินที่แกหามาให้ฉัน มันทำให้ฉันมีความสุข มีความสุขจนฉันแทบจะสำลักออกมา” เสียงหัวเราะดังก้อง แสดงถึงความสุขใจอย่างที่หล่อนพูดจริง ๆ “มีความสุขมากกว่าอยู่กับหนูอีกหรือจ๊ะแม่” เสียงหวานเจือสะอื้น ถามออกไปทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบดีอยู่แล้วว่ามันคืออะไร แต่หล่อนก็ยังอยากจะฟัง เผื่อแม่...แม่ของหล่อนอาจจะแกล้งพูดปลอบใจหล่อนสักครั้ง “ใช่...” ประกาศิตที่ดังออกมาจากสตรีที่ได้ชื่อเป็นมารดาตรงหน้า ดังฟ้าผ่าลงมากลางใจ ถึงแม้มันจะเป็นครั้งที่ร้อยแล้วที่มารดาพูดจาอย่างนี้ แต่ครั้งนี้ทำไมหล่อนถึงเจ็บปวดเหลือเกิน ใคร!!! ในโลกนี้จะมีใครสักคนไหมที่รักหล่อน จะมีไหม... หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสายทิ้ง ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อนเอ่ยคำลาออกไป “งั้นหนูกลับก่อนนะคะ คงอีกนานกว่าหนูจะได้กลับมาหาแม่” บทมากรกลั้นสะอื้น ก่อนจะแข็งใจพูดต่อไป แม้ภายในใจจะร้าวรานแทบแตกสลาย “แต่หนูจะส่งเงินให้ทุกเดือน แม่รักษาตัวด้วยนะคะ” คำพูดที่เจือเสียงสะอื้นขาดหายไปในลำคอ ก่อนจะฝืนพูดขึ้นมาใหม่ น้ำตาที่แห้งแล้วกลับไหลออกมาอีกแล้ว เมื่อความเจ็บปวดมันท่วมท้นใจ “หนูรักแม่ค่ะ ถึงแม่จะไม่เคยรักหนูเลย แต่หนูก็จะไม่มีวันไม่รักแม่เด็ดขาด” เมื่อฝืนพูดจนจบ ร่างบางก็ค่อย ๆ เดินจากคนที่หล่อนบูชาที่สุดไปช้า ๆ น้ำตาที่หล่อนไม่อยากจะให้มันไหล มันก็ไหลไม่หยุด ความเสียใจ น้อยใจแทรกซึมไปทั่วอณูของความรู้สึก สุดท้าย..ถึงหล่อนจะทำดีแค่ไหน ทำให้แม่สบายแค่ไหน มันก็ไม่มีวันที่จะทำให้แม่รักหล่อนได้เลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม