ตกเย็น...
ภานุกลับเข้าบ้านมาในเวลาเกือบค่ำ เขาเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงคนคุยกันในห้องรับแขก เขาเดินเข้าไปหน้าประตูก่อนจะยืนฟังอยู่ข้างนอก
"พรุ่งนี้เราไปช็อปปิ้งกันดีกว่า แม่อยากได้กระเป๋าใบใหม่ชุดใหม่ด้วย"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวลูกปลาไปเดินเป็นเพื่อนคุณแม่ค่ะ"
"หนูอยากได้อะไรมั้ยลูก"
คุณหญิงเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้ ลูกปลารีบส่ายหน้าทันที เธอไม่ต้องการของอะไรทั้งนั้นเพราะที่ท่านให้และใจดีกับเธอก็มากล้นแล้ว
"ไม่อยากได้อะไรเลยค่ะ แค่นี้ลูกปลาก็ซาบซึ้งในพระคุณมากแล้วค่ะ อย่าให้อะไรอีกเลยนะคะ"
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง คุณหญิงลูบผมเด็กสาวอย่างเอ็นดู ยิ่งลูกปลาทำแบบนี้เธอยิ่งอยากจะให้ทุกอย่าง
"โธ่เอ้ย! แม่อยากให้นี่นา หนูอยากได้อะไรก็ขอแม่บ้างสิ ไม่เห็นจะอยากได้นั้นนี่เหมือนผู้หญิงคนอื่นเขาเลย วัยกำลังโตแบบนี้เขาอยากได้เครื่องสำอางค์ ชุดสวยๆ เครื่องประดับดีๆ พรุ่งนี้แม่จะพาไปซื้อ"
"แต่ว่า..."
ลูกปลามองอย่างลำบากใจ เธอไม่ชอบแต่งหน้าแต่งตัวซึ่งไม่มีความจำเป็นจะต้องอยากได้เลย ภานุเดินเข้าไปข้างในเพราะมีเรื่องจะคุยกับคุณแม่ด้วย
"อ่าว.. กลับมาแล้วเหรอ.. ทานข้าวก่อนมั้ยลูก"
"ขอคุยด้วยหน่อยครับแม่"
"ว่ามาสิ"
คุณหญิงเปลี่ยนไปคุยกับลูกชายแทน ลูกปลามองทั้งสองคนก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบา
"งั้นลูกปลาไปจัดโต๊ะอาหารให้นะคะ"
"จ๊ะ ไปเถอะ"
เมื่อลูกปลาเดินออกไปแล้ว คุณหญิงก็หันมามองลูกชายรอฟังว่าเขามีอะไรจะพูดอีก
"ไหนว่ามาจะคุยอะไรกับแม่"
ภานุถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เขากำลังคิดว่าจะเริ่มพูดอะไรก่อนดีแต่ถ้าไม่พูดลูกปลาก็ไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง
"แม่ช่วยบอกให้ลูกปลาย้ายกลับไปห้องผมเหมือนเดิมด้วย"
คุณหญิงเผลอยิ้มออกมาอย่างหุบไม่อยู่ ที่แท้มาขอตัวหนูลูกปลาไปอยู่ด้วยนั้นเอง สงสัยจะติดใจซะแล้วล่ะมั่ง ก็แน่ล่ะเด็กมันน่ากินนี่
"ให้น้องไปนอนโซฟาอีกนะเหรอ.. ไม่เอาละ"
คุณหญิงอยากจะให้ลูกชายสารภาพเอง เขาเป็นลูกผู้ชายจะต้องยอมรับในสิ่งที่ทำลงไปด้วยตัวเอง เธอเอาหนูลูกปลาใส่พานให้ถึงห้องแล้วจะให้ป้อนให้ทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้ ภานุอึกอักไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่เขาคิดว่าแม่น่าจะรู้ดีอยู่แล้วนะ
"ผมว่าแม่รู้นะ บ้านนี้หูตาเยอะพอสมควรไม่น่าที่แม่จะพลาดบางอย่างไป"
ภานุเอ่ยออกไปอย่างรู้ทัน เธอเคยบอกแล้วว่าภานุไม่ใช่คนโง่ แต่ทำไมเธอจะต้องฉลาดแล้วเดาออกทุกเรื่องล่ะ
"แกเป็นผู้ชายนะภานุ การยอมรับการสารภาพตามตรงไม่ใช่เรื่องน่าอาย"
"โอเค.. คือวันนั้นที่ผมพูดไปเพราะแค่อยากจะบอกว่าเรื่องคืนนั้นมันไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นมันเกิดขึ้นแล้ว แม่จะไม่ให้ผมรับผิดชอบคนของแม่เหรอ..."
คุณหญิงยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก็เท่านี้แหละที่ต้องการได้ยิน ปากแข็งบอกเลยนะว่าจะอดกอดเมีย
"ยอมรับแล้วเหรอไง"
"ช่วยบอกลูกปลาตามที่ผมขอด้วยนะครับ"
"แม่ไม่ว่าอะไรเรื่องหนูลูกปลา เธอเป็นเด็กน่ารักและแม่ก็ชอบมาก ประเด็นคือลูกจะจัดการยังไงกับผู้หญิงอีกคน หนูลูกปลาไม่ใช่ของเล่นนะภานุ ถ้าไม่คิดจะรับผิดชอบจริงก็หยุดซะแต่ตั้งแต่ตอนนี้"
คุณหญิงอยากที่จะมั่นใจ อย่างน้อยเขาต้องเลือกว่าจะไปต่อกับใคร ถ้าคิดว่ายังจะรออีกคนต่อ เธอจะให้หนูลูกปลาอยู่ห่างลูกชายของตัวเอง เด็กที่ใสซื่ออย่างกับผ้าขาวแบบนั้น ยิ่งผูกพันกันนานไปมันจะกลายเป็นความรักที่ไม่สามารถตัดขาดกันได้ ถึงเวลานั้นคนที่ทรมานที่สุดไม่ใช่ลูกชายของเธอแต่เป็นตัวของหนูลูกปลาเอง
"ผมจัดการเรื่องนี้ได้ครับ"
ภานุเอ่ยเพียงแค่นั้น อย่างน้อยเขาต้องมั่นใจว่าสิ่งที่เขากำลังจะเลือกมันคือสิ่งที่เขาร้องหามากที่สุด เมื่อถึงเวลานั้นเขาสามารถตัดออกไปได้ไม่ยาก
"แม่รู้ว่าเราจัดการได้ แต่ต้องจัดการให้เร็วที่สุดไม่ใช่ปล่อยเวลาผ่านไปแล้วมันจะแก้ไขอะไรยาก"
"ผมเข้าใจ เอาเป็นว่าแม่จะทำตามที่ผมบอกมั้ย"
ภานุเอ่ยถามผู้เป็นแม่อีกครั้ง คุณหญิงจะโกนเรียกพิมเข้ามาหาข้างในก่อนจะออกคำสั่ง
"พิมจ๊ะ เดี๋ยวให้พวกแม่บ้านเก็บของหนูลูกปลาไปไว้ที่ห้องของคุณภานุตามเดิมนะ ไปทานข้าวได้ละแม่หิว"
คุณหญิงชวนลูกชายเดินไปยังห้องอาหาร ลูกปลากำลังนั่งคุยกับคุณพ่ออย่างสนุกเกี่ยวกับต้นไม้มงคลต่างๆ
"งั้นไว้เราไปซื้อต้นไม้ด้วยกัน พ่อจะพาหนูลูกปลาไปซื้อต้นไม้มาปลูกตรงมุมที่หนูบอกเลย"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวลูกปลาพาไปซื้อร้านที่ลูกปลารู้จัก เขาเป็นเพื่อนตอนเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ที่บ้านขายต้นไม้ด้วย"
"ดีเลย"
"คุยอะไรกันอยู่คะ"
คุณหญิงเดินเข้ามาได้ยินเสียงสนทนาคุยกันก็เอ่ยถามด้วยความอยากรู้
"ชวนหนูลูกปลาไปซื้อต้นไม้นะ เพื่อนเขาเปิดร้านขายต้นไม้"
"อ่อ ไปสิคะคุณชอบนี่ แต่พรุ่งนี้ไม่ได้นะเราสองคนจะไปช็อปปิ้งกัน"
ภานุเดินมานั่งลงข้างลูกปลา เขามองเธอแต่ไม่ได้พูดอะไร พิมตักข้าวให้ทั้งสี่คนก่อนจะคุยกันไปทานไปโดนบทสนทนาอยู่ที่สามคนมากกว่า ส่วนชายหนุ่มนั่งฟังไม่ได้พูดอะไร เขาตักกับข้าวให้ลูกปลาทานเยอะมากจนหญิงสาวส่งซิกให้หยุดสักทีแต่เขาก็ไม่ฟัง
"กินสิ"
"มันเยอะไปแล้วค่ะ"
ลูกปลามองจานของตัวเองที่มันมีแต่กับข้าวเยอะมาก เธอไม่อยากนั่งทานข้าวกับเขาเลยเพราะถูกบังคับให้ทานเยอะ
"ทานให้หมดนี่แหละ"
ลูกปลาก้มหน้าทานอย่างจำใจ เธอต้องอ้วนขึ้นแน่นอนเลยแบบนี้ กว่าจะฝึกทานแบบนี้ได้มันใช้เวลาหลายปีเลยนะ
"ค่ะ"
หญิงสาวฝืนใจทานจนหมดโดยไม่มีเหลือเพราะไม่อยากให้ทุกคนมองว่าเธอกินทิ้งกินขว้าง ไม่เคยลำบากไม่รู้หรอกว่าการได้กินของดีๆแบบนี้มันมีค่ามากแค่ไหน
เมื่อทุกคนบนโต๊ะทานเสร็จต่างก็แยกย้ายกันขึ้นไปพักผ่อน ลูกปลาต้องกลับไปนอนที่ห้องของภานุตามเดิมเพราะคุณหญิงให้ไป เมื่อเธออาบน้ำเสร็จแล้วก็ถือหมอนมานอนที่โซฟาตามเดิม ส่วนภานุที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกไปก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
"ไปนอนทำไมโซฟา"
เขาเดินมานั่งลงที่เตียงนอนมองหญิงสาวที่กอดหมอนอยู่ตรงโซฟาก็เอ่ยถามอย่างสงสัย
"คุณภานุจะให้ลูกปลานอนด้วยเหรอคะ"
หญิงสาวเอ่ยถามอย่างใสซื่อ เขาถึงกับกุมขมับด้วยความเหนื่อยใจ ตกลงว่าเธอใสซื่อไม่ได้ซื่อบื้อใช่มั้ยถึงไม่ค่อยเข้าใจอะไรแบบนี้
"มานี่"
เขากวักมือเรียกเธอให้เดินมาหา ลูกปลาอุ้มหมอนเดินเข้ามาใกล้เขาด้วยความระแวง ภานุดึงตัวเธอขึ้นมาบนเตียงก่อนจะอุ้มเธอมานั่งลงบนตักของเขา ลูกปลานั่งนิ่งมองชายหนุ่มตาแป๋ว
"ไม่ทำงานเหรอคะ"
เธอชวนเขาเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยเปื่อย อีกอย่างโดยปกติเวลานี้เธอจะเห็นเขาทำงานอยู่ในห้อง ไม่ว่างมานั่งอยู่ตรงนี้หรอก
"วันนี้ไม่อยากทำ"
"งั้นลูกปลาไม่ต้องทำของว่างใช่มั้ยคะ"
เขาพยักหน้าก่อนจะยื่นมือไปปิดไฟแล้วเปิดเพียงโคมไฟสลัวๆ
"ไม่ต้องทำหรอกของว่าง ฉันอยากกินอย่างอื่นมากกว่า"
พูดจบเขาก็ดึงใบหน้าหญิงสาวเข้ามาใกล้ก่อนจะพรหมจูบด้วยความนุ่มนวล ลูกปลาเริ่มรู้แล้วว่าของอย่างอื่นที่เขาอยากกินนั้นมันคืออะไร แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนเพราะการนอนกับเขาเป็นสิ่งที่เธอต้องยอมอยู่แล้ว ทั้งสองคนกอดรัดกันแทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน และครั้งนี้หญิงสาวมีส่วนร่วมมากกว่าครั้งก่อน เธอถูกชายหนุ่มสอนลีลาหลากหลายมากขึ้น แม้ว่าเธอจะเขินอายแต่อารมณ์มันพาไปจึงเผลอทำตามอย่างว่าง่าย
เช้าวันต่อมา....
ลูกปลาตื่นมาทำอาหารเช้าเช่นเดิม ส่วนภานุก็ไม่อยากจะบ่นหญิงสาวแล้วเพราะรู้ว่าเธอชอบทำอาหารมาก เขาตื่นขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนจะมองตู้เสื้อผ้าที่มีชุดทำงานของเขาแขวนไว้เรียบร้อย
"รสนิยมดีอยู่นะ"
เขายิ้มออกมาก่อนถึงจะหยิบชุดที่ลูกปลาจัดไว้ให้สวมใส่ไปทำงาน ไหนๆเธอก็ตั้งใจเลือกให้ก็ใส่เอาใจสักหน่อยแล้วกัน
จากนั้นเขาก็เดินลงมาทานอาหารปกติ และก็ยังบังคับให้ลูกปลาทานข้าวเยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณหญิงสังเกตทั้งสองคนว่าความสัมพันธ์เหมือนจะไปได้ดีมาก ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะได้รับข่าวดีเร็วๆนี้ แถมอนาคตหลานตัวเล็กของเธอก็จะมีครอบครัวที่อบอุ่นมีทั้งพ่อและแม่พร้อมหน้าพร้อมตา มันดีต่อใจคนแก่อย่างเธอมากจริงๆ
หลังจากทานข้าวเสร็จลูกปลาก็เดินออกมาส่งภานุขึ้นรถไปทำงาน เขาหยิบบัตรในกระเป๋าส่งให้เธอหนึ่งใบ ลูกปลารับมาอย่างงงๆก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"เอาบัตรให้ลูกปลาทำไมคะ"
"จะไปช็อปปิ้งกับคุณแม่ไม่ใช่เหรอ... อยากได้อะไรก็ซื้อใช้บัตรนี้แหละฉันให้"
ลูกปลาส่ายหน้าพร้อมกับส่งคืนชายหนุ่ม เธอไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นแหละอยู่แบบนี้ก็มีความสุขดีแล้ว
"ลูกปลาไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ"
"ให้ไปซื้อก็ซื้อสิ เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ น้ำหอม ของบำรุง ของกินอะไรก็ซื้อๆไปเถอะ บัตรไม่จำกัดวงเงินด้วย กดเงินสดก็ได้จะเอาเงินไปทำอะไรก็ใช้ในนี้แหละ"
"คุณภานุให้ลูกปลาเหรอคะ"
"อืม เก็บไว้กับตัวนั้นแหละ แล้วขับรถเป็นมั้ย"
เขาถามหญิงสาวอีกครั้ง เขาว่าจะซื้อรถให้เธอส่วนตัวคันหนึ่งเวลาไปไหนจะได้สะดวก
"เคยฝึกขับค่ะแต่ว่าไม่คล่องเท่าไหร่ แหะๆ"
ลูกปลายิ้มแห้งออกมา เธอเคยฝึกขับตอนทำงานที่ร้านเบเกอรี่แต่ไม่ได้จับนานน่าจะลืมไปบ้าง
"พรุ่งนี้ฉันหยุดเดี๋ยวพาไปซื้อรถ"
ลูกปลาตาโตก่อนจะรีบปฏิเสธชายหนุ่ม ทำไมคนบ้านนี้ชอบยัดเยียดให้เธอซื้อนั่นซื้อนี่ก็ไม่รู้ ของราคาไม่ใช่ถูกๆ
"ลูกปลาไม่อะ..."
"ไปนะ"
เขาดึงลูกปลามากอดไว้แนบอกก่อนจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระแล้วขึ้นรถไปทันที หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเขาไม่รับฟังอะไรเลย
ลูกปลามองบัตรในมือก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไปเจอคุณหญิงกำลังเดินออกมาพอดี
"ตาภานุไปทำงานแล้วเหรอลูก"
"ค่ะ ไปแล้วค่ะ"
"แล้วนั้นอะไรนะ"
คุณหญิงมองบัตรในมือของลูกปลา เธอส่งไปให้คุณหญิงดูก่อนจะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่าง
"คุณภานุให้ลูกปลาเอาไปซื้อของค่ะ บอกว่าให้ไปช็อปปิ้งกับคุณแม่ แล้วเขาบอกว่าพรุ่งนี้จะพาลูกปลาไปซื้อรถด้วยค่ะ คุณแม่ช่วยบอกคุณภานุได้มั้ยคะว่าลูกปลาไม่อยากได้"
ลูกปลาหันไปหาตัวช่วยแทน คุณหญิงยิ้มออกมาทันที ไม่คิดว่าลูกชายของเธอจะสายเปย์หญิงเหมือนกันนะเนี่ย
"ตอนแรกแม่จะพาลูกปลาไปเลือกพอดี"
"เลือกเหรอคะ..."
"ก็แม่เคยสัญญากับหนูไงว่าจะซื้อให้ แต่ถ้าตาภานุจะเป็นคนซื้อเองงั้นแม่จะไม่ซื้อแล้ว"
ลูกปลาถึงกับเกาหัวอย่างทำอะไรไม่ได้ ตกลงว่าไม่มีใครช่วยเธอได้เลยใช่มั้ย
"แต่ว่า..."
"รับๆไปเถอะลูก ตาภานุมีเงินเยอะจะตาย รีบไปแต่งตัวได้แล้ววันนี้แม่จะซื้อชุดสวยให้หนูเยอะๆเลย"
"ค่ะ"
ลูกปลาเอ่ยออกมาอย่างจำยอมก่อนจะเดินคอตกขึ้นไปยังห้องนอน ตกลงว่าเธอทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมตามน้ำไปใช่มั้ย....