ภานุ ลูกปลาและลูกอ๊อดช่วยกันยกของหลังรถลงมาไว้ในตัวบ้าน ผู้เป็นแม่ที่เพิ่งออกจากห้องนอนมาก็ตะโกนเรียกลูกสาวด้วยความดีใจ
"ลูกปลา เอ็งกลับมาเมื่อไหร่"
"แม่!"
ลูกปลาวางของลงก่อนจะวิ่งไปกอดแม่ทันทีด้วยความคิดถึง ตั้งแต่ไปอยู่ที่บ้านคุณท่าน หญิงสาวก็ไม่ได้กลับบ้านเลย ภานุที่เห็นเธอยิ้มดีใจที่ได้เจอหน้าครอบครัวก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจที่ได้ทำให้เธอมีช่วงเวลาที่มีความสุขแบบนี้บ้าง
"ดีขึ้นมั้ยจ๊ะ ยังเจ็บแผลอยู่มั้ย"
"ดีแล้วล่ะ ถ้าไม่ได้เอ็งแม่คงแย่"
"อย่าพูดแบบนี้สิจ๊ะ ลูกปลาเป็นลูกแม่นะ อีกอย่างแม่เลี้ยงลูกปลามาอย่างดีถึงเราจะไม่มีเหมือนคนอื่นแต่หนูมีความสุขนะที่ได้เกิดมาในบ้านหลังนี้"
ผู้เป็นแม่ลูบผมลูกสาวอย่างเอ็นดู เธอเงยหน้าขึ้นมาเจอกับชายหนุ่มหน้าตาดี เขายกมือไหว้ทักทายพร้อมกับเอ่ยออกมา
"สวัสดีครับคุณแม่"
"สวัสดีจ๊ะ เพื่อนลูกปลาเหรอ"
"ชื่อคุณภานุค่ะ เป็นเจ้านะ.."
"เป็นคนรักของลูกปลาครับ"
ภานุเอ่ยตัดบทซะก่อน ลูกปลาหันไปมองชายหนุ่มอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะแนะนำตัวเองว่าเธอเป็นคนรักของเขา คุณแม่หันมามองลูกสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ไม่คิดว่าลูกปลาจะมีแฟนแล้ว
"แม่ไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าลูกมีแฟนแล้ว ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย"
"แหะๆ แม่จ๊ะคุณภาณุเขาซื้อของมาฝากเยอะแยะเลยจ๊ะ"
ลูกปลารีบเปลี่ยนเรื่องพาแม่ไปดูของที่ซื้อมา ภานุเดินเข้ามาช่วยประคองคุณแม่ของลูกปลาอีกแรง
"ผมยกมาหมดแล้วนะครับพี่ภานุ"
"โอเค.. แช่ตู้เย็นให้คุณพ่อคุณแม่ด้วยนะ ถ้าพี่ว่างจะพาพี่สาวเรามาอีก"
"ได้ครับ"
คุณแม่มองสังเกตชายหนุ่มที่หน้าตาผิวพรรณไม่น่าจะเป็นคนระดับอย่างเราๆ การแต่งกายก็ดูมีรสนิยมไม่เหมือนคนต่างจังหวัด แต่เธอลืมไปว่าลูกสาวอยู่กรุงเทพคบกับคนเมืองกรุงก็คงจะแนวๆนี้
"คุณแม่ต้องทานของมีประโยชน์นะครับ ทานวันละอย่างสองอย่างก็ยังดี ส่วนของสดก็มีนะครับอยู่ในตู้เย็นแล้ว"
"ไม่เห็นต้องลำบากอะไรกันเลย เงินทองมันหายากสมัยนี้ไม่ต้องเปลืองเงินเปลืองทองหรอก แม่กินง่ายอยู่ง่าย"
คุณแม่เอ่ยอย่างเป็นห่วงทั้งสองคน ซื้อของแพงขนาดนี้เสียดายเงินทองแย่เลย กว่าจะหากันมาได้แต่ละบาทมันยากเย็นแสนเข็ญ แต่ท่านยังไม่ทราบว่า ว่าที่ลูกเขยนั้นเป็นถึงเจ้าของห้างสรรพสินค้าเครือAP หรืออภิสิริกุล ถ้าพูดถึงห้าง AP ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นครับ ทำใจให้สบายดีกว่า เห็นลูกปลาบอกว่าที่บ้านทำสวนผลไม้ด้วยผมอยากไปดูจัง"
เขาชวนผู้ใหญ่คุยมากกว่า คุณพ่อที่เดินเข้ามาก็มานั่งคุยด้วยกับพวกลูกๆ
"พรุ่งนี้เช้าพ่อจะพาไป วันนี้บ่ายกว่าแล้วพักที่นี่สักคืนเถอะค่อยกลับ"
ลูกปลาเกรงว่าคุณภานุจะนอนลำบาก เธอหันไปหาเขาเพื่อถามว่าอยากจะไปค้างที่โรงแรมหรือไม่ บ้านเธอทั้งเล็กทั้งคับแคบกลัวเขาจะอึดอัดมากกว่า
"คุณภานุอยากไปค้างที่โรงแรมมั้ยคะ เดี๋ยวลูกปลาจองให้"
"ไม่อ่ะ ผมขอนอนที่นี่ได้มั้ยครับ"
เขาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง คุณพ่อกับคุณแม่หันไปมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมา
"ถ้าคุณภาณุอยู่ได้พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ไปนอนกับไอ้เจ้าลูกอ๊อดจะดีกว่านะ"
เขาถึงกับหน้าเสียเมื่อถูกกันท่าไม่ให้นอนกับลูกปลา แต่จะว่าไม่ได้เพราะเราสองคนยังไม่ได้เป็นสามีภรรยาครอบครัวของเธอคงจะไม่โอเคเท่าไหร่
"ครับ"
เขาตอบรับไม่คัดค้านใดๆ เอาเถอะนอนคืนเดียวเองพรุ่งนี้ก็ได้กลับแล้ว ทั้งห้าคนนั่งคุยกันอีกสักแปบลูกปลาก็ขอตัวออกไปทำหมูกระทะให้คนในบ้านทาน
"วันนี้เราจะกินหมูกระทะกันจ๊ะพ่อ เดียวหนูออกไปเตรียมของก่อนนะ ไปช่วยกันมั้ย"
"ฉันช่วยนะ"
"ผมช่วยด้วย"
ภานุและลูกอ๊อดลุกตามลูกปลาเดินออกไปยังห้องครัว ทั้งสามคนช่วยกันล้างผักเตรียมของ ภานุรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองมีประโยชน์กับเขาบ้าง เพราะเขาไม่เคยเข้าครัวทำอาหารเองเลย
"ไปนั่งรอก็ได้นะคะ"
ลูกปลาไม่อยากให้เขาต้องมาลำบาก แค่พามาส่งที่บ้านก็เป็นพระคุณมากแล้ว
"ไม่เอาสิ ช่วยกันสนุกออก"
"ตามใจแล้วกันค่ะ"
ลูกอ๊อดมองพี่สาวและพี่ชายอีกคนแสดงความเป็นห่วงกันก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ พี่สาวเขาโชคดีที่พี่ภานุดูรักและเป็นห่วงขนาดนี้ ถึงเขาจะเพิ่งเจอแต่ก็พอดูออกว่าเขาคิดอะไรอยู่
เวลาผ่านไปเกือบเย็นตอนนี้ทุกคนในบ้านก็มารวมกันที่ศาลาหน้าบ้าน คุณแม่ก็ทานผักต้มของรสจืดเพราะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ส่วนภานุเขานั่งแกะกุ้งให้หญิงสาวโดยที่เธอก็คีบหมูให้เขาเช่นกัน
"ทานเยอะๆสิ ผอมจนแห้งแล้ว"
"ทานไปเยอะแล้วนะคะ"
"ทานอีก"
ภานุคีบกุ้งให้หญิงสาวอย่างเอาใจ คนเป็นพ่อแม่ที่มองเห็นลูกสาวยิ้มแก้มปริก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจที่เห็นลูกสาวของเธอมีความสุขสักที
"คุณก็ทานบ้างสิคะ อ่อ พ่อจ๋าพรุ่งนี้เช้าลูกปลาจะเอาผลไม้ไปฝากคุณแม่คุณภานุนะคะ ท่านชอบทานทุเรียนมากเห็นว่าของพ่อพร้อมทานแล้ว"
"ได้ๆพรุ่งนี้พ่อเก็บให้เยอะๆเลย สวนพ่อปลอดสารพิษนะรับรองว่าปลอดภัย คุณภานุจะไปกับพ่อใช่มั้ยพรุ่งนี้"
"ไปครับ ผมอยากเห็นแล้วก็อยากลองไปเก็บเองเผื่อได้ไอเดียการตลาดใหม่"
เขายิ้มออกมาอย่างมีการวางแผน บางทีเขาอาจได้ธุรกิจใหม่ส่งออกผลไม้อบแห้งก็ได้ ถ้าซื้อของชาวบ้านไปทำพวกเขาก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น
"ได้ๆ พรุ่งนี้ตื่นเช้าๆเลยนะ อ่อ น้องชายเรานะสอบได้ทุนเรียนแพทย์แล้วนะไอ้ลูกปลา"
"จริงเหรอจ๊ะ! ทำไมไม่บอกพี่บ้าง"
ลูกปลาหันไปเอ็ดน้องชายอย่างหมั่นไส้ เก็บเงียบไม่ยอมบอกกันเลยนะข่าวดีขนาดนี้
"ผมว่าจะเซอร์ไพรส์ไง พี่มาไม่บอกกล่าวแบบนี้ผมก็ตั้งตัวไม่ทัน ลืมไปเลยนะเนี้ย"
"เก่งมากเลยน้องชาย แล้วจะต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง บอกพี่เลยนะพี่จะได้หาเงินให้"
ลูกปลาพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ส่วนภานุก็นั่งฟังว่าพวกเขาพูดอะไรกันมากกว่า เขาเลือกที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีมากกว่าพูดเยอะ
"ไม่ต้องหรอกเอ็งดูแลตัวเองก็พอแล้ว ปีนี้ผลไม้ราคาดีน่าจะขายได้หลายแสนเลย อีกอย่างไม่ต้องจ่ายค่าบ้านด้วยพ่อมีเงินให้น้องเอ็งอยู่แล้วไม่ต้องห่วง"
"ขาดเหลืออะไรก็บอกนะพ่อ อย่าปิดบังกันก็พอ อีกอย่างน้องคนเดียวหนูส่งได้ เงินถ้าได้มาพ่อเก็บไว้เถอะเผื่อจำเป็นต้องใช้อะไรจะได้ไม่ต้องหยิบยืมใคร"
พ่อมองลูกสาวด้วยความภูมิใจ มันคือความโชคดีที่สุดของการมีชีวิตในตอนนี้นั้นคือการมีลูกปลาเป็นลูกเนี้ยแหละ
"ตามใจเอ็งแล้วกันพ่อขี้เกียจเถียง"
ทั้งห้านั่งคุยกันไปทานกันไปก่อนจะแยกย้ายเพราะคุณแม่ต้องพักผ่อน ภานุแยกมาอยู่ในห้องของลูกอ๊อด เขาใส่เสื้อผ้าของน้องชายได้พอดี
"ใส่ได้มั้ยพี่"
"พอดีเลย เราก็ตัวสูงใหญ่อยู่นะเนี้ย"
"ผมโตเร็วครับ ต่างกับพี่ตัวเล็กนิดเดียว"
"นั้นสิ อ่อ นี่นามบัตรพี่มีปัญหาอะไรหรือต้องการความช่วยเหลือโทรมาพี่ช่วยได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องไปรบกวนพี่สาวเราเยอะดูท่าทางจะเหนื่อยมานานแล้ว"
ลูกอ๊อดรับนามบัตรมาดูก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ประธานบริษัทอภิสิริกุล บริษัทเกี่ยวกับอะไร
"พี่ภานุเป็นเจ้าของบริษัทเหรอครับ แล้วอภิสิริกุลนี่เขาทำเกี่ยวกับอะไร"
"ก็ห้างสรรพสินค้าค้าเครือAPทั้งหมด แล้วก็มีอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นอีก"
"หู้ย! เจ้าของห้างAPเลยเหรอ ผมเคยเห็นในตลาดหุ้นอยู่นะ นี่พี่ไม่ได้รวยธรรมดานะเขาเรียกมหาเศรษฐีเลยนะนั้น แล้วมาคบกับพี่สาวผมเนี่ยนะคิดอะไรอยู่"
ลูกอ๊อดมองชายหนุ่มอย่างประหลาดใจ น่าตกใจมากที่คนรวยระดับนี้มาคบหากับพี่สาวของเขา แถมพี่ภานุเองยังไม่ถือตัวด้วย
"คนเราคบกันมันอยู่ที่ความพอใจ ไม่ใช่ฐานะ คนรวยมันมีหลายประเภทนะลูกอ๊อดเมื่อเราโตขึ้น เราจะได้เรียนรู้อะไรอีกมาก เอาเป็นว่าพี่รับปากว่าจะดูแลลูกปลาอย่างดีที่สุด ไม่ต้องห่วงนะ ส่วนเรานะขาดเหลืออะไรบอกพี่"
"ขอบคุณมากนะครับที่เอ็นดูพี่สาวผม"
ลูกอ๊อดยกมือไหว้ขอบคุณพี่ชายด้วยความจริงใจ ถือว่าพี่สาวของเขาโชคดีมีบุญมากที่ได้แฟนดีขนาดนี้ ตอนนี้ก็ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมถึงมีเงินล้านมาผ่าตัดแม่
"นี่ไม่แปลกใจเลยนะที่พี่สาวผมมีเงินมาผ่าตัดแม่"
"เงินผ่าตัดเหรอ"
ภานุเลิกคิ้วอย่างสงสัย เงินผ่าตัดอะไรเขาไม่ได้เป็นคนให้เธอซะหน่อย
"ใช่ครับ แต่พี่ปลาบอกว่าเจ้านายให้มาแล้วไปทำงานให้ทีหลัง"
เขาพยักหน้าอย่างพิจารณาคำพูดของลูกอ๊อด หรือว่าแม่เขาให้เงินลูกปลาแล้วให้มาทำงานเป็นเชฟที่บ้าน ใช่สิ... ลูกปลามาที่บ้านเขาในฐานะเชฟนี่นา สงสัยจะใช่...
"แม่พี่น่าจะเป็นคนให้มั่ง เอาล่ะตอนนี้ช่วยอะไรพี่หน่อย"
"ช่วยอะไรครับ"
"พี่อยากไปนอนห้องพี่สาวเรานะ ช่วยพาพี่ไปหน่อยแต่อย่าให้คุณพ่อกับคุณแม่รู้นะ"
ลูกอ๊อดมองภานุที่ทำหน้าอ้อนวอนเขามาก เขาถึงกับเกาหัวก่อนจะเปิดประตูออกไปแล้วเดินไปเคาะประตูห้องนอนพี่สาวเสียงเบา
ลูกปลาเดินออกมาเปิดประตูก็ตกใจสะดุ้งเพราะคุณภานุรีบเข้ามาในห้องของเธอทันที
"อะไรกันคะเนี่ย"
"ชู่ว! อย่าเสียงดังสิขอนอนด้วย"
ลูกปลาหันไปมองน้องชาย เขายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
"พี่ภานุอยากนอนกับพี่นะ ฝากด้วยแล้วอย่าให้พ่อกับแม่รู้ล่ะ"
ลูกอ๊อดเดินกลับห้องทันที ลูกปลารีบปิดประตูก่อนจะถูกชายหนุ่มสวมกอดจนแน่นแทบหายใจไม่ออก
"ทำไมทำแบบนี้คะ"
"มันนอนไม่หลับนี่นา ขอนอนด้วยนะ"
ลูกปลาถึงกับถอนหายใจออกมาก่อนจะปิดไปแล้วพาเขาไปนอนบนเตียงด้วยกันกับเธอ ชายหนุ่มสวมกอดเอวหญิงสาวก่อนจะนอนหลับตาอย่างมีความสุข
'ช่วยไม่ได้แหะ พรุ่งนี้รีบตื่นเช้าๆเอาแล้วกัน'