Chapter 25

1946 คำ
ภานุ ลูกปลาและลูกอ๊อดช่วยกันยกของหลังรถลงมาไว้ในตัวบ้าน ผู้เป็นแม่ที่เพิ่งออกจากห้องนอนมาก็ตะโกนเรียกลูกสาวด้วยความดีใจ "ลูกปลา เอ็งกลับมาเมื่อไหร่" "แม่!" ลูกปลาวางของลงก่อนจะวิ่งไปกอดแม่ทันทีด้วยความคิดถึง ตั้งแต่ไปอยู่ที่บ้านคุณท่าน หญิงสาวก็ไม่ได้กลับบ้านเลย ภานุที่เห็นเธอยิ้มดีใจที่ได้เจอหน้าครอบครัวก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจที่ได้ทำให้เธอมีช่วงเวลาที่มีความสุขแบบนี้บ้าง "ดีขึ้นมั้ยจ๊ะ ยังเจ็บแผลอยู่มั้ย" "ดีแล้วล่ะ ถ้าไม่ได้เอ็งแม่คงแย่" "อย่าพูดแบบนี้สิจ๊ะ ลูกปลาเป็นลูกแม่นะ อีกอย่างแม่เลี้ยงลูกปลามาอย่างดีถึงเราจะไม่มีเหมือนคนอื่นแต่หนูมีความสุขนะที่ได้เกิดมาในบ้านหลังนี้" ผู้เป็นแม่ลูบผมลูกสาวอย่างเอ็นดู เธอเงยหน้าขึ้นมาเจอกับชายหนุ่มหน้าตาดี เขายกมือไหว้ทักทายพร้อมกับเอ่ยออกมา "สวัสดีครับคุณแม่" "สวัสดีจ๊ะ เพื่อนลูกปลาเหรอ" "ชื่อคุณภานุค่ะ เป็นเจ้านะ.." "เป็นคนรักของลูกปลาครับ" ภานุเอ่ยตัดบทซะก่อน ลูกปลาหันไปมองชายหนุ่มอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะแนะนำตัวเองว่าเธอเป็นคนรักของเขา คุณแม่หันมามองลูกสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ไม่คิดว่าลูกปลาจะมีแฟนแล้ว "แม่ไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าลูกมีแฟนแล้ว ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย" "แหะๆ แม่จ๊ะคุณภาณุเขาซื้อของมาฝากเยอะแยะเลยจ๊ะ" ลูกปลารีบเปลี่ยนเรื่องพาแม่ไปดูของที่ซื้อมา ภานุเดินเข้ามาช่วยประคองคุณแม่ของลูกปลาอีกแรง "ผมยกมาหมดแล้วนะครับพี่ภานุ" "โอเค.. แช่ตู้เย็นให้คุณพ่อคุณแม่ด้วยนะ ถ้าพี่ว่างจะพาพี่สาวเรามาอีก" "ได้ครับ" คุณแม่มองสังเกตชายหนุ่มที่หน้าตาผิวพรรณไม่น่าจะเป็นคนระดับอย่างเราๆ การแต่งกายก็ดูมีรสนิยมไม่เหมือนคนต่างจังหวัด แต่เธอลืมไปว่าลูกสาวอยู่กรุงเทพคบกับคนเมืองกรุงก็คงจะแนวๆนี้ "คุณแม่ต้องทานของมีประโยชน์นะครับ ทานวันละอย่างสองอย่างก็ยังดี ส่วนของสดก็มีนะครับอยู่ในตู้เย็นแล้ว" "ไม่เห็นต้องลำบากอะไรกันเลย เงินทองมันหายากสมัยนี้ไม่ต้องเปลืองเงินเปลืองทองหรอก แม่กินง่ายอยู่ง่าย" คุณแม่เอ่ยอย่างเป็นห่วงทั้งสองคน ซื้อของแพงขนาดนี้เสียดายเงินทองแย่เลย กว่าจะหากันมาได้แต่ละบาทมันยากเย็นแสนเข็ญ แต่ท่านยังไม่ทราบว่า ว่าที่ลูกเขยนั้นเป็นถึงเจ้าของห้างสรรพสินค้าเครือAP หรืออภิสิริกุล ถ้าพูดถึงห้าง AP ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก "ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นครับ ทำใจให้สบายดีกว่า เห็นลูกปลาบอกว่าที่บ้านทำสวนผลไม้ด้วยผมอยากไปดูจัง" เขาชวนผู้ใหญ่คุยมากกว่า คุณพ่อที่เดินเข้ามาก็มานั่งคุยด้วยกับพวกลูกๆ "พรุ่งนี้เช้าพ่อจะพาไป วันนี้บ่ายกว่าแล้วพักที่นี่สักคืนเถอะค่อยกลับ" ลูกปลาเกรงว่าคุณภานุจะนอนลำบาก เธอหันไปหาเขาเพื่อถามว่าอยากจะไปค้างที่โรงแรมหรือไม่ บ้านเธอทั้งเล็กทั้งคับแคบกลัวเขาจะอึดอัดมากกว่า "คุณภานุอยากไปค้างที่โรงแรมมั้ยคะ เดี๋ยวลูกปลาจองให้" "ไม่อ่ะ ผมขอนอนที่นี่ได้มั้ยครับ" เขาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง คุณพ่อกับคุณแม่หันไปมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมา "ถ้าคุณภาณุอยู่ได้พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ไปนอนกับไอ้เจ้าลูกอ๊อดจะดีกว่านะ" เขาถึงกับหน้าเสียเมื่อถูกกันท่าไม่ให้นอนกับลูกปลา แต่จะว่าไม่ได้เพราะเราสองคนยังไม่ได้เป็นสามีภรรยาครอบครัวของเธอคงจะไม่โอเคเท่าไหร่ "ครับ" เขาตอบรับไม่คัดค้านใดๆ เอาเถอะนอนคืนเดียวเองพรุ่งนี้ก็ได้กลับแล้ว ทั้งห้าคนนั่งคุยกันอีกสักแปบลูกปลาก็ขอตัวออกไปทำหมูกระทะให้คนในบ้านทาน "วันนี้เราจะกินหมูกระทะกันจ๊ะพ่อ เดียวหนูออกไปเตรียมของก่อนนะ ไปช่วยกันมั้ย" "ฉันช่วยนะ" "ผมช่วยด้วย" ภานุและลูกอ๊อดลุกตามลูกปลาเดินออกไปยังห้องครัว ทั้งสามคนช่วยกันล้างผักเตรียมของ ภานุรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองมีประโยชน์กับเขาบ้าง เพราะเขาไม่เคยเข้าครัวทำอาหารเองเลย "ไปนั่งรอก็ได้นะคะ" ลูกปลาไม่อยากให้เขาต้องมาลำบาก แค่พามาส่งที่บ้านก็เป็นพระคุณมากแล้ว "ไม่เอาสิ ช่วยกันสนุกออก" "ตามใจแล้วกันค่ะ" ลูกอ๊อดมองพี่สาวและพี่ชายอีกคนแสดงความเป็นห่วงกันก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ พี่สาวเขาโชคดีที่พี่ภานุดูรักและเป็นห่วงขนาดนี้ ถึงเขาจะเพิ่งเจอแต่ก็พอดูออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ เวลาผ่านไปเกือบเย็นตอนนี้ทุกคนในบ้านก็มารวมกันที่ศาลาหน้าบ้าน คุณแม่ก็ทานผักต้มของรสจืดเพราะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ส่วนภานุเขานั่งแกะกุ้งให้หญิงสาวโดยที่เธอก็คีบหมูให้เขาเช่นกัน "ทานเยอะๆสิ ผอมจนแห้งแล้ว" "ทานไปเยอะแล้วนะคะ" "ทานอีก" ภานุคีบกุ้งให้หญิงสาวอย่างเอาใจ คนเป็นพ่อแม่ที่มองเห็นลูกสาวยิ้มแก้มปริก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจที่เห็นลูกสาวของเธอมีความสุขสักที "คุณก็ทานบ้างสิคะ อ่อ พ่อจ๋าพรุ่งนี้เช้าลูกปลาจะเอาผลไม้ไปฝากคุณแม่คุณภานุนะคะ ท่านชอบทานทุเรียนมากเห็นว่าของพ่อพร้อมทานแล้ว" "ได้ๆพรุ่งนี้พ่อเก็บให้เยอะๆเลย สวนพ่อปลอดสารพิษนะรับรองว่าปลอดภัย คุณภานุจะไปกับพ่อใช่มั้ยพรุ่งนี้" "ไปครับ ผมอยากเห็นแล้วก็อยากลองไปเก็บเองเผื่อได้ไอเดียการตลาดใหม่" เขายิ้มออกมาอย่างมีการวางแผน บางทีเขาอาจได้ธุรกิจใหม่ส่งออกผลไม้อบแห้งก็ได้ ถ้าซื้อของชาวบ้านไปทำพวกเขาก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น "ได้ๆ พรุ่งนี้ตื่นเช้าๆเลยนะ อ่อ น้องชายเรานะสอบได้ทุนเรียนแพทย์แล้วนะไอ้ลูกปลา" "จริงเหรอจ๊ะ! ทำไมไม่บอกพี่บ้าง" ลูกปลาหันไปเอ็ดน้องชายอย่างหมั่นไส้ เก็บเงียบไม่ยอมบอกกันเลยนะข่าวดีขนาดนี้ "ผมว่าจะเซอร์ไพรส์ไง พี่มาไม่บอกกล่าวแบบนี้ผมก็ตั้งตัวไม่ทัน ลืมไปเลยนะเนี้ย" "เก่งมากเลยน้องชาย แล้วจะต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง บอกพี่เลยนะพี่จะได้หาเงินให้" ลูกปลาพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ส่วนภานุก็นั่งฟังว่าพวกเขาพูดอะไรกันมากกว่า เขาเลือกที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีมากกว่าพูดเยอะ "ไม่ต้องหรอกเอ็งดูแลตัวเองก็พอแล้ว ปีนี้ผลไม้ราคาดีน่าจะขายได้หลายแสนเลย อีกอย่างไม่ต้องจ่ายค่าบ้านด้วยพ่อมีเงินให้น้องเอ็งอยู่แล้วไม่ต้องห่วง" "ขาดเหลืออะไรก็บอกนะพ่อ อย่าปิดบังกันก็พอ อีกอย่างน้องคนเดียวหนูส่งได้ เงินถ้าได้มาพ่อเก็บไว้เถอะเผื่อจำเป็นต้องใช้อะไรจะได้ไม่ต้องหยิบยืมใคร" พ่อมองลูกสาวด้วยความภูมิใจ มันคือความโชคดีที่สุดของการมีชีวิตในตอนนี้นั้นคือการมีลูกปลาเป็นลูกเนี้ยแหละ "ตามใจเอ็งแล้วกันพ่อขี้เกียจเถียง" ทั้งห้านั่งคุยกันไปทานกันไปก่อนจะแยกย้ายเพราะคุณแม่ต้องพักผ่อน ภานุแยกมาอยู่ในห้องของลูกอ๊อด เขาใส่เสื้อผ้าของน้องชายได้พอดี "ใส่ได้มั้ยพี่" "พอดีเลย เราก็ตัวสูงใหญ่อยู่นะเนี้ย" "ผมโตเร็วครับ ต่างกับพี่ตัวเล็กนิดเดียว" "นั้นสิ อ่อ นี่นามบัตรพี่มีปัญหาอะไรหรือต้องการความช่วยเหลือโทรมาพี่ช่วยได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องไปรบกวนพี่สาวเราเยอะดูท่าทางจะเหนื่อยมานานแล้ว" ลูกอ๊อดรับนามบัตรมาดูก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ประธานบริษัทอภิสิริกุล บริษัทเกี่ยวกับอะไร "พี่ภานุเป็นเจ้าของบริษัทเหรอครับ แล้วอภิสิริกุลนี่เขาทำเกี่ยวกับอะไร" "ก็ห้างสรรพสินค้าค้าเครือAPทั้งหมด แล้วก็มีอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นอีก" "หู้ย! เจ้าของห้างAPเลยเหรอ ผมเคยเห็นในตลาดหุ้นอยู่นะ นี่พี่ไม่ได้รวยธรรมดานะเขาเรียกมหาเศรษฐีเลยนะนั้น แล้วมาคบกับพี่สาวผมเนี่ยนะคิดอะไรอยู่" ลูกอ๊อดมองชายหนุ่มอย่างประหลาดใจ น่าตกใจมากที่คนรวยระดับนี้มาคบหากับพี่สาวของเขา แถมพี่ภานุเองยังไม่ถือตัวด้วย "คนเราคบกันมันอยู่ที่ความพอใจ ไม่ใช่ฐานะ คนรวยมันมีหลายประเภทนะลูกอ๊อดเมื่อเราโตขึ้น เราจะได้เรียนรู้อะไรอีกมาก เอาเป็นว่าพี่รับปากว่าจะดูแลลูกปลาอย่างดีที่สุด ไม่ต้องห่วงนะ ส่วนเรานะขาดเหลืออะไรบอกพี่" "ขอบคุณมากนะครับที่เอ็นดูพี่สาวผม" ลูกอ๊อดยกมือไหว้ขอบคุณพี่ชายด้วยความจริงใจ ถือว่าพี่สาวของเขาโชคดีมีบุญมากที่ได้แฟนดีขนาดนี้ ตอนนี้ก็ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมถึงมีเงินล้านมาผ่าตัดแม่ "นี่ไม่แปลกใจเลยนะที่พี่สาวผมมีเงินมาผ่าตัดแม่" "เงินผ่าตัดเหรอ" ภานุเลิกคิ้วอย่างสงสัย เงินผ่าตัดอะไรเขาไม่ได้เป็นคนให้เธอซะหน่อย "ใช่ครับ แต่พี่ปลาบอกว่าเจ้านายให้มาแล้วไปทำงานให้ทีหลัง" เขาพยักหน้าอย่างพิจารณาคำพูดของลูกอ๊อด หรือว่าแม่เขาให้เงินลูกปลาแล้วให้มาทำงานเป็นเชฟที่บ้าน ใช่สิ... ลูกปลามาที่บ้านเขาในฐานะเชฟนี่นา สงสัยจะใช่... "แม่พี่น่าจะเป็นคนให้มั่ง เอาล่ะตอนนี้ช่วยอะไรพี่หน่อย" "ช่วยอะไรครับ" "พี่อยากไปนอนห้องพี่สาวเรานะ ช่วยพาพี่ไปหน่อยแต่อย่าให้คุณพ่อกับคุณแม่รู้นะ" ลูกอ๊อดมองภานุที่ทำหน้าอ้อนวอนเขามาก เขาถึงกับเกาหัวก่อนจะเปิดประตูออกไปแล้วเดินไปเคาะประตูห้องนอนพี่สาวเสียงเบา ลูกปลาเดินออกมาเปิดประตูก็ตกใจสะดุ้งเพราะคุณภานุรีบเข้ามาในห้องของเธอทันที "อะไรกันคะเนี่ย" "ชู่ว! อย่าเสียงดังสิขอนอนด้วย" ลูกปลาหันไปมองน้องชาย เขายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างออกมา "พี่ภานุอยากนอนกับพี่นะ ฝากด้วยแล้วอย่าให้พ่อกับแม่รู้ล่ะ" ลูกอ๊อดเดินกลับห้องทันที ลูกปลารีบปิดประตูก่อนจะถูกชายหนุ่มสวมกอดจนแน่นแทบหายใจไม่ออก "ทำไมทำแบบนี้คะ" "มันนอนไม่หลับนี่นา ขอนอนด้วยนะ" ลูกปลาถึงกับถอนหายใจออกมาก่อนจะปิดไปแล้วพาเขาไปนอนบนเตียงด้วยกันกับเธอ ชายหนุ่มสวมกอดเอวหญิงสาวก่อนจะนอนหลับตาอย่างมีความสุข 'ช่วยไม่ได้แหะ พรุ่งนี้รีบตื่นเช้าๆเอาแล้วกัน'
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม