ตอนที่ 15/2 ‘เพื่อนใหม่ที่ไม่ใช่เพื่อน’

2051 คำ
“ฉันชื่อนิมมาน ยินดีที่ได้รู้จัก” “เพลินตา” “ไม่ยินดีที่รู้จักฉัน?” “ไม่เชิง” เพลินตาถอนหายใจพลางหยิบปากกาขึ้นมาควงเล่นเหมือนไม่รู้จะทำอะไร “ฉันทำให้ใครเดือดร้อนไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว” เห็นท่าทางครุ่นคิดบางอย่างจนเผลอใจลอยของเพื่อนใหม่ นิมมานก็หันกลับมามองกระดานปล่อยให้เวลาเดินไปอย่างช้า ๆ พลางครุ่นคิดอะไรบางอย่างบ้าง ทำไมเพลินตาถึงต้องคิดว่าการเป็นเพื่อนกับเขา จะทำให้เขาต้องเดือดร้อน หรือว่าธุรกิจของบ้านขัดแย้งกับครอบครัวของไตรวิชญ์ เพราะสองตระกูลนี้เป็นศัตรูกัน? เอาไว้กลับห้องเมื่อไหร่เขาจะขุดประวัติของครอบครัวนี้ มันมีสาเหตุที่ทำให้พวกเขาสองคนเป็นเพื่อนกันอย่างเปิดเผยไม่ได้สิ เขาไม่คิดตัดใจจากสิ่งที่ยึดติดหรอกนะ ไม่ว่าอย่างไรก็อยากเป็นเพื่อนกับเพลินตาให้ได้ ผ่านไปสองชั่วโมงที่นั่งฟังบรรยาย นิมมานเผลอวูบหลับไปตอนไหนไม่รู้ด้วยความอ่อนเพลีย จู่ ๆ ก็รู้สึกง่วงอยากหลับซะอย่างนั้น โชคดีที่ไม่ถูกอาจารย์เขวี้ยงหนังสือใส่หัว พอหันมองทางเพื่อนใหม่ก็ไร้เงา เพลินตาทิ้งให้เขาหลับโดยไม่ยอมปลุกให้ตื่น! “อยู่นั่นเอง” เสียงหวานพึมพำพร้อมกับยกมือปิดปากหาวหวอดใหญ่ด้วยท่าทางสะลึมสะลือ เด็กหนุ่มหน้าสวยเอามือขยี้ตาให้หายง่วงแล้วฉีกแผ่นกระดาษคว้าปากกาจดอะไรยุกยิกลงไปเสร็จก็ผุดลุกขึ้นยืนคว้ากระเป๋ามาคล่องไหล่ ร่างเพรียวบางสมส่วนเดินลิ่วไปชนไหล่ของอีกฝ่ายพลางยัดกระดาษใบจิ๋วใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทเพลินตา จากนั้นก็เดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งให้คนข้างหลังที่ถูกชนจนเกือบหน้าคะมำขมวดคิ้วนิ่วหน้ามองด้วยความหงุดหงิดนิด ๆ ก่อนจะเดินเลี้ยวไปอีกทางเพราะถึงเวลาพักแล้ว เห็นอย่างนี้ที่นี่ก็คัดแต่ระดับหัวกะทิมาทั้งนั้น นักศึกษาที่จบออกไปล้วนมีงานทำได้ดิบได้ดีกันทั้งนั้น นิมมานไปยังจุดนัดพบก็เห็นคนพี่ยืนถ่ายเอ็มวีอยู่ใต้ต้นไม้ทำหน้าซะหล่อเชียว แถมพวกสาว ๆ ยังมาแอบมองทำเสียงวี้ดว้ายคิกคักกันเป็นกลุ่ม ๆ ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มเรียบตึงไร้อารมณ์ แต่ยิ่งมองกลับยิ่งถูกให้จับจ้องจนละสายตาไม่ได้ เหมือนภาพจิตรกรรมชิ้นเอกล้ำค่า ถูกดูดกลืนให้หลงใหลอยากได้มาครอบครอง แล้วยังบอดี้สุดฮอตภายใต้เสื้อสูทสีเทากับเชิ้ตสีดำลึกลับนั่นอีก กลิ่นอายเข้มแข็งของความเป็นผู้นำที่แผ่ออกมาก็ทำให้ทั้งหญิงและชายอยากเดินเข้าไปซบคลอเคลียแนบชิดด้วยทั้งนั้น ทำไมเขาถึงรู้น่ะเหรอ ก็เขาเป็นอีกคนหนึ่งไงที่ถูกกลิ่นผู้นำของ ไตรวิชญ์ปลุกเร้าสัญชาตญาณจนร่างกายสั่นระริก อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น รวมถึงเลือดที่สูบฉีดแล่นพล่านไปทั่วร่างจนรู้สึกร้อนวูบวาบแปลก ๆ กลิ่นฟีโรโมนหอมหวานที่แปลกไปจากเดิมลอยโชยมาตามสายลมพัดเข้าจมูกอัลฟ่าหนุ่มเจ้าของใบหน้าดิบเถื่อนคมเข้ม ฉับพลันเปลือกตาของไตรวิชญ์ก็เปิดขึ้นเผยดวงตาดุดันแข็งกร้าวสีน้ำตาลแดงเข้มคล้ายกับหยดเลือด แผ่กลิ่นอันตรายข่มขวัญพวกอัลฟ่าคนอื่นที่เริ่มขยับตัวเตรียมพุ่งเข้าจู่โจมโอเมก้าของเขา แค่เพียงไตรวิชญ์ยืนอยู่เฉย ๆ ก็กดดันให้พวกที่เหลือยอมล่าถอยด้วยความหวาดเกรง แต่ก็ยังมีบางคนทำเสียงแฮ่เตรียมจะเห่าหอนท้าทายเขา ร่างสูงกำยำขยับตัวก้าวขาออกจากใต้ร่มไม้ ร่างสูงใหญ่สง่างามมาดเนี้ยบในลุคของเจ้าชายสุดฮอตประจำมหาวิทยาลัย แต่ในทางตรงกันข้ามทุกคนก็รู้ดีว่าเบื้องหลังของคนคนนี้คือซาตานดี ๆ นี่เอง นิมมานเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนพี่พลางเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย เมื่อเห็นสีหน้าถมึงทึงดำมืดเหมือนถูกเงาร้ายครอบงำ ดวงตาเรียวสวย ดำขลับส่องประกายแวววาวราวกับคริสตัล มีเรื่องมากมายที่อยากเล่าให้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องของเพื่อนใหม่ที่ได้เจอในวันนี้ ถึงอีกฝ่ายจะบอกว่าไม่อยากเป็นเพื่อนกันก็ตาม “ช่วงบ่ายมึงไม่ต้องเข้าเรียนแล้ว พวกเราจะตรงกลับบ้านกันเลย” “ฮะ ทำไมต้องรีบกลับด้วยล่ะ นิมยังเหลือเรียนอีกวิชา ขืนโดดไม่เข้าเรียนก็แย่น่ะสิ” “ถ้ามึงไม่รีบกลับตอนนี้มันจะแย่ยิ่งกว่าไม่เข้าเรียนช่วงบ่าย มึงกำลังปล่อยฟีโรโมนยั่วน้ำลายพวกมัน อยากถูกรุมทึ้งอยู่ตรงนี้กูก็ไม่ว่าหรอกนะ ถ้ามึงทนรับมืออัลฟ่าทั้งฝูงได้แล้วไม่ตาย” ไตรวิชญ์มองใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดของคนน้องแล้วก็สบถด่าตัวเองในใจ ครั้งแรกที่ถูกขย้ำก็ด้วยน้ำมืออัลฟ่าอย่างเขา มีหรือจะจดจำรอยแผลที่เขาเคยสร้างไว้บนตัวไม่ได้ นิมมานก้าวเข้าหาร่างสูงกำยำที่แผ่รังสีอำมหิตออกมาข่มขู่พวกที่คิดจะเล่นงานเขา ใบหน้าเขียวคล้ำเรียบตึงปราศจากอารมณ์ความรู้สึก ดวงตาสีน้ำตาลอมแดงทอประกายคมกริบดุจมีดที่ถูกลับจนคม เพียงตวัดสายตาดุดันมองใคร คนคนนั้นก็ชะงักตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งเผ่นหนีจากไปในทันที คราวนี้ก็เช่นกันที่พวกอัลฟ่าทั้งฝูงแตกฮือเหมือนผึ้งแตกรัง “กลับก็กลับ เฮียได้กลิ่นฟีโรโมนของนิมแล้วเหรอ” “เออ แต่กูคิดว่ามึงไม่น่าจะฮีทหรอก เพราะกลิ่นมันแปลกไปนิดหน่อย เดี๋ยวให้ไอ้วินมาตรวจดูอีกที ยังไงก็กลับบ้านกันก่อน ไม่งั้นกูได้พลั้งมือฆ่าไอ้พวกอัลฟ่าที่อยู่แถวนี้แน่” นิมมานถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ แอบสงสัยนิด ๆ ว่ากลิ่นของตัวเองแปลกไปอย่างไร ร่างกายเขามีบางอย่างผิดปกติอีกแล้วเหรอ แต่คงไม่น่ากังวลนักหรอก เพราะตอนนี้มีคนคอยทำหน้าที่ดูแลเขาอยู่ ถึงจะชอบพูดจาปากร้าย ทำรุนแรงกับร่างกายเขาไปบ้างก็ตามที “งั้นพวกเรากลับบ้านกันเถอะ!” รอยยิ้มสดใสถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากอมชมพูจิ้มลิ้ม นัยน์ตาสีดำขลับเป็นประกายอ่อนหวาน รีบเอาใจคนพี่ให้หายจากอารมณ์เกรี้ยวกราดเตรียมพร้อมจะฉีกกระชากหัวใครก็แล้วแต่ที่เข้าใกล้เขา นิมมานรู้สึกถึงความต้องการของไตรวิชญ์ผ่านรอยพันธะที่หลังคอ ความรู้สึกที่กระตุกใจเขาให้ไหววูบรุนแรงเหมือนนั่งอยู่บนชิงช้าที่ถูกแกว่งไกวเต็มที่จนกลัวจะร่วงหล่นลงมา แม้เขาจะเป็นโอเมก้าของไตรวิชญ์ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่กลัวอีกฝ่าย ตอนนี้เขาไม่ค่อยแน่ใจด้วยซ้ำว่าเป็นอะไรกับคนคนนี้กันแน่ สายสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นมีมากขึ้นทุกวัน จะเรียกว่าความรักก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักสักคำ จะบอกว่าชอบ เอ็นดู หรือแค่เลี้ยงไว้ดูเล่นเพื่อความเพลิดเพลินก็คงจะประมาณนั้น ส่วนเขาก็รู้สึกว่าการมีผู้ชายคนนี้อยู่ใกล้ ๆ แล้วอุ่นใจ อย่างน้อยที่สุดก็ปลอดภัยมากกว่าคนอื่น “เฮียแยกเขี้ยวจะขู่ใคร นิมมาแล้วนี่ไง พวกเราไปกันเถอะ” นิมมานเข้าไปคล้องแขนคนพี่ไว้แล้วออกแรงดึงให้เดินตามมา ไตรวิชญ์เดินตามแรงฉุดของคนน้องโดยที่ใบหน้าคมเข้มยังไม่หายจากความหงุดหงิดไม่พอใจ ก่อนก้าวขายาว ๆ ขึ้นมาตีเสมอพลางตวัดวงแขนกอดรัดเอวบางรั้งให้โอเมก้าตัวน้อยเข้ามาเบียดชิดกัน นิมมานอมยิ้มแล้วยังแอบซบไหล่คนตัวสูงกว่าอย่างเอาใจ ก่อนที่พวกเขาจะเดินมาถึงรถยนต์คันหรูสีน้ำเงินเข้มเงางาม ซึ่งคนขับคือบอดี้หนุ่มหน้าเดิมกับที่เจอกันเมื่อคราวก่อน นาราเป็นคนขับรถประจำวันนี้ ส่วนลักษณ์นั่งอยู่เบาะหน้าข้าง ๆ กัน เป็นหัวหน้าคนคุ้มกันความปลอดภัยของคุณชายรอง มีหน้าที่ดูแลตรวจสอบความเรียบร้อย เฝ้าระวังอันตรายตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ถึงจะไม่ได้นั่งเฝ้ายามคอยเดินตามติดเจ้านายทุกฝีก้าว แต่ก็ต้องรู้เท่าทันทุกการเคลื่อนไหว ต้องเปิดโทรศัพท์ไว้ตลอด โทรหาต้องรับสาย หากมีเรื่องฉุกเฉินต้องผละมาหาได้ นิมมานก้าวขึ้นไปบนรถก่อนตามด้วยไตรวิชญ์ เมื่อประตูปิดลงเด็กหนุ่มก็วางกระเป๋าแล้วปิดปากหาวน้ำตาซึม แอร์เย็นฉ่ำด้านในกำลังพอดิบพอดีเลย ทำให้เกิดอาการง่วงเหงาหาวนอน ไม่ทันไรร่างบางก็เอนตัวลงนอนเอาศีรษะกลมเล็กหนุนตักคนพี่ไว้ คนถูกนอนทับขาพลันก้มลงใบหน้าขาวผ่องน่ารักที่หลับตาพริ้มไม่รับรู้อะไรอีก เสียงกรนดังขึ้นแผ่วเบา ไตรวิชญ์วางฝ่ามืออุ่นจัดทาบลงบนแก้มนิ่ม พริบตาเดียวก็ถูกลูกแกะขาวอวบคว้ามือไปกุมไว้ไม่ยอมปล่อย “ใช่อย่างที่คิดไหมครับ” นาราอดปากตัวเองไม่ไหวถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะกลิ่นฟีโรโมนที่ปล่อยออกมาดูแปลกไปจากทุกที จมูกเขาก็ไม่ได้เพี้ยนด้วย แล้วก็อย่าเพิ่งสงสัยว่าทำไมเขาถึงรู้ว่ากลิ่นของนิมมานเปลี่ยนไป เพราะเขาได้กลิ่นของเด็กคนนี้ติดตัวเจ้านายทุกวันเลยน่ะสิ! “เดี๋ยวเรียกไอ้กวินมาตรวจดูตอนเย็นก็รู้แล้วว่าใช่ไหม นายอย่าลืมโทรตามตัวให้ฉันด้วยล่ะ” “ทำไมคุณไตรถึงไม่โทรเอง” “ไม่อยากคุยกับมัน แล้วมันใช่ธุระกงการอะไรของนายถึงต้องมาอยากรู้เรื่องของฉัน” นัยน์ตาคมปลาบราบเรียบเย็นชาไร้อารมณ์จ้องมองเข้าไปในกระจกหน้ารถที่สะท้อนเงาภาพของบอดี้การ์ดคนสนิทซึ่งสบตาเขามองด้วยสีหน้าแห้งแล้งเหมือนต้นไม้ใกล้ตาย ราวกับเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ควรถามในสิ่งที่เขาไม่อยากบอก “พวกมันยังไม่มีความเคลื่อนไหวอีกเหรอ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม ขณะที่สายตาหลุบมองใบหน้าเนียนใสแก้มยุ้ยเหมือนเด็กน้อย เขาใช้หลังมือไล้แก้มนุ่มแผ่วเบา สิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ไม่ง่ายที่จะรับมือ “ยังครับ ทุกอย่างยังปกติดีอยู่” ลักษณ์เป็นคนตอบคำถามนี้ “ปกติ…ก็แค่พวกมันทำให้รู้สึกว่าปกติ แต่ทุกอย่างมันได้เริ่มขึ้นแล้ว ให้คนเฝ้าระวังทุกพื้นที่ จับตาดูพวกตำรวจไว้ด้วย อย่าให้พวกมันได้มีโอกาสเล่นตุกติกไปเลียแข้งเลียขาใครอีก…เพราะผลประโยชน์มันหอมหวาน ใคร ๆ ถึงอยากได้จนเกิดความโลภ ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายตระกูลของฉันเด็ดขาด” “ผมจะให้คนตรวจเช็กเรื่องนี้ให้ครับ” “เพิ่มคนคุ้มกันรอบบ้านไว้ด้วย แล้วดู ๆ อย่าให้คนจากถิ่นอื่นเข้ามาก่อความวุ่นวาย ถ้าเจรจากันไม่ได้ก็เชือดทิ้ง” ไตรวิชญไม่สนใจว่าคนภายนอกจะมองเขายังไง เขาเลือดเย็นกับแค่พวกศัตรู ไม่อาจปรานีหรือปล่อยพวกมันไว้ให้มาทำลายครอบครัวเขาได้ ต้องเหี้ยมโหด ต้องเด็ดขาดจนเหมือนกับไร้หัวใจ ทว่าตอนนี้เขามั่นใจว่าเขายังคงมีมัน มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกล้าทอประกายอ่อนโยนยามมองดวงหน้าเรียวเล็กหลับปุ๋ยของคนน้อง ไตรวิชญ์ถอนหายใจค่อย ๆ หลับตาเพื่อพักผ่อน ลักษณ์กับนารามองกระจกหน้ารถพร้อมกับคลี่ยิ้มบางมองภาพของเจ้านายที่ดูมีความสุขสงบใจได้เมื่ออยู่กับคู่แห่งโชคชะตาของตน ความอ่อนโยนที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็มากพอให้คุณชายรองรู้จักหวงแหนชีวิตเพื่อที่จะได้กลับมาหาคนที่รอคอยอยู่ข้างหลัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม