บทที่ 4 โดนแม่สามีไล่ออกจากบ้าน

1632 คำ
เมื่อพูดคุยและตกลงกันแล้ว ตู้เซียงเหมยจึงเข้าครัวทำอาหารให้ทุกคนกิน แม้ว่าจะเป็นอาหารง่าย ๆ และวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างแต่บรรยากาศในครอบครัวก็ตลบอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่นอย่างที่ทุกคนต้องการ โรงพยาบาลค่ายทหาร “ผู้พันเหวินยังไม่รู้สึกตัวอีกเหรอ นี่ก็เจ็ดเดือนกว่าแล้วนะ หมอแจ้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร นอกจากบาดแผลภายนอก” นายพลกว้านเจ้านายของเป็นเหวินหยวนต้าเอ่ยเสียงเครียด “ครับท่าน ทุกคนต่างก็กลุ้มใจเหมือนกันไม่รู้ว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไร แล้วร่างกายของเขาล่ะ ไม่พิการใช่ไหม หากไม่ใช่เพราะเขาปกป้องฉันตัวเขาคงไม่บาดเจ็บหนักขนาดนี้ แล้วนี่ภรรยาเขาคลอดหรือยัง” นายพลโจวถามพลทหารคนที่เป็นสหายของชายหนุ่ม “คลอดแล้วคลับ ภรรยาเขาเขียนจดหมายมาบอกหลายเดือนก่อนว่าได้ลูกสาว ผู้พันเหวินคงจะดีใจหากฟื้นขึ้นมาแล้วรับรู้ว่าได้ลูกสาว และผมยังคงส่งเงินกลับไปที่บ้านเหวินทุกเดือน ตามคำสั่งของผู้พันเหวิน หวังเพียงอย่างเดียวว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งอย่างปลอดภัย” “หากอีกเจ็ดวันผู้พันเหวินยังไม่ฟื้น ผมคิดว่าควรจะแจ้งที่บ้านของเขาเสียที” นายพลโจวตัดสินใจในที่สุด ก่อนที่จะผ่าตัดหัวกระสุนที่เจาะท้องเขาออก เหวินหยวนต้าขอร้องไม่ให้แจ้งกับที่บ้านเพราะภรรยาใกล้จะคลอดไม่อยากให้ทุกคนที่บ้านเป็นห่วง แต่ไม่คิดว่าผ่าตัดแล้วชายหนุ่มจะไม่ยอมฟื้นขึ้นมา “น้ำ ขอน้ำหน่อย” ชายหนุ่มที่นอนสลบไสลมาเจ็ดเดือนกว่าส่งเสียงแผ่วเบา ทำให้นายพลกว้านและคนอื่น ๆ ต่างส่งเสียงเรียกอย่างยินดี “ผู้พันเหวิน นายฟื้นแล้ว” เฉินจิ้งรีบเดินเอาน้ำมาป้อนให้กับสหายด้วยความดีใจ เมื่อได้ดื่มน้ำไป คำแรกที่ชายหนุ่มถามกลับไม่ใช่อาการของตัวเอง แต่ถามว่าภรรยาของเขานั้นคลอดลูกหรือยัง “อาจิ้งมีจดหมายจากอาเหมยไหม เธอคลอดลูกหรือยัง” “อืม ฉันคอยอ่านให้นายฟังตลอดตอนที่นายไม่ได้สติ เมียนายคลอดเด็กผู้หญิง ส่วนเงินฉันส่งในนามของนายทุกเดือนไม่เคยขาด นายไม่ต้องห่วงลูกและเมียนายไม่เป็นอะไรหรอก แต่ตอนนี้นายอย่าเพิ่งถามอะไรมาก พักผ่อนให้เพียงพอ ท่านนายพลทำเรื่องลาพักให้นายแล้ว หากอาการดีขึ้นนายสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ เฉินจิ้งรีบบอกข่าวดีให้สหายได้รับรู้ “ขอบคุณมากครับท่านนายพล” เหวินหยวนต้ายิ้มที่รู้ว่าตู้เซียงเหมยคลอดลูกน้อยออกมาอย่างปลอดภัย แม้ว่าจะไม่รักใคร่ในตัวภรรยา แต่ลูกน้อยคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เป็นไปไม่ได้ที่ใบหน้าของชายหนุ่มจะไม่ปรากฏรอยยิ้ม และยิ่งรู้ว่าจะได้กลับไปพักฟื้นที่บ้านชายหนุ่มอยากจะหายภายในวันสองวันนี้ด้วยซ้ำ เขาอยากเจอลูกน้อยแทบขาดใจ กลับมาที่หมู่บ้านไป๋ซาน ตู้เซียงเหมยหลังจากกินอาหารเสร็จ เธอยังคงอยู่เล่นและพูดคุยกับครอบครัวจนเย็น จึงได้กลับบ้านเหวิน โดยมีพี่ชายทั้งสองคนไปส่ง เมื่อมาถึงบ้านทั้งสามคนเจอเข้ากับแม่เฒ่าเหวินยืนเท้าสะเอวด่าอยู่หน้าบ้าน ชาวบ้านที่ผ่านไปมาแต่ละคนได้แต่หยุดมอง “เป็นตู้เซียงเหมยนี่ดีจริง ๆ ตะลอนไปตั้งแต่เช้ากว่าจะกลับก็ ค่ำมืด ไม่คิดจะช่วยงาน ไม่ใช่แอบนัดใครไว้ข้างนอกแล้วอ้างว่ากลับบ้านเดิมหรอกนะ” ตู้เซียงเหมยกำลังจะสวนกลับ แต่พี่ชายรองอย่างตู้เหรินหรานดึงแขนน้องสาวไว้ เพราะอย่างไรคนตรงหน้าก็คือแม่สามี โต้ตอบไปตอนนี้มีแต่น้องสาวเขาจะเสียหาย เขาจึงจัดการด้วยตัวเอง “นั่นปากเหรอแม่เฒ่าตู้ เห็น ๆ อยู่ว่าผมและพี่ใหญ่เดินมาพร้อมกับอาเหมยและลี่ลี่ยังคิดอกุศลอีก ผมสองสีแล้วนะหัดคิดอะไรที่มันดีเสียหน่อยได้ไหม หากปากยังเป็นแบบนี้แล้วจะหาว่าคนหัวดำไม่เกรงใจไม่ได้” แม้ว่าปกติตู้เหรินหนานเขาจะเป็นคนพูดน้อยถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวชายหนุ่มและพี่ใหญ่ของเขาแทบจะไม่พูดคุยกับใครเลย แต่สำหรับน้องน้อยไม่มีทางที่เขาจะปล่อยผ่าน จากคนเงียบ ๆ กลายเป็นคนปากจัดปากร้ายได้เหมือนกัน ส่วนชาวบ้านที่ยืนดูได้แต่สูดลมหายใจเข้าปอดและกลืนน้ำลาย แต่ก็มีคนหนึ่งที่ดีกับบ้านตู้รีบวิ่งไปบอกพ่อตู้กับแม่ตู้ว่าทั้งสามคนพี่น้องกำลังมีเรื่องกับแม่เฒ่าเหวิน “แก...ไอ้เลว กล้าดียังไงมาด่าฉัน หล่อนก็เหมือนกัน เป็นลูกสะใภ้บ้านเหวินยังไงปล่อยให้พี่ชายยืนด่าแม่สามีแบบนี้ ปีนั้นเจ้ารองไม่น่าจะแต่งแกเข้ามาในบ้านเลย” แม่เฒ่าเหวินโกรธจนตัวสั่น ส่วนลี่ลี่กอดคอแม่ตัวเองแน่น เหมือนเด็กน้อยจะรู้ว่าที่ตรงนี้กำลังจะมีเรื่องและหากกอดคอแม่ไว้เธอจะปลอดภัย ตู้เซียงเหมยกระตุกแขนพี่ชาย เธอรู้ถึงอาการของลูกน้อยว่าคงไม่ชอบเสียงดัง และกลัวกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ หากไม่มีลูกน้อยเธอคงฉะไปแล้วเหมือนกัน “แต่ไม่ว่ายังไงพี่หยวนต้าก็แต่งฉันเข้ามาแล้ว หรือว่าแม่สามีต้องการบังคับให้พี่หยวนต้าหย่ากับฉันล่ะ อ้อ จริงสิ แม่สามีเตรียมผู้หญิงคนใหม่ไว้แล้วไม่ใช่เหรอ ได้ข่าวว่าเป็นญาติห่าง ๆ กำลังเดินทางมานี่” “ใช่ เจ้ารองจะหย่ากับแกและแต่งเมียใหม่เข้าบ้าน แกควรจะสำเหนียกตัวเองได้แล้วนะว่าเป็นส่วนเกิน รอเจ้ารองกลับมาก่อนเถอะ ฉันจะเฉดหัวแกออกจากบ้านเอง” แม่เฒ่าเหวินยอมรับตามตรง เธอให้หลานสาวที่อยู่ต่างอำเภอเดินทางมาแล้ว คาดว่าวันสองวันนี้คงเดินทางมาถึง ยังไม่ทันมีใครได้พูดโต้แย้งก็มีเสียงแม่ตู้พูดเสียงดัง “หล่อนไม่ต้องมาเฉดหัวอาเหมยออกจากบ้านหรอกย่ะ ฉันจะพาลูกและหลานกลับไปเอง พอกันที หยวนต้ากลับมาเมื่อไหร่ให้เขาส่งใบหย่ามาได้เลย ฉันพร้อมที่จะให้อาเหมยหย่า ใครอยากจะลงนรกอยู่บ้านเหวินที่มีแม่สามีจิตใจไม่ปกติอย่างหล่อนก็เชิญ อาเหมยส่งลี่ลี่มาให้แม่ ส่วนลูกและเจ้าใหญ่เจ้ารองไปเก็บของ เอาเฉพาะของตัวเองและลี่ลี่ก็พอ อย่างอื่นไม่ต้องเอามา เดี๋ยวจะมีใครพูดตามหลังว่าคนบ้านตู้ขโมยทรัพย์สินของคนอื่น แม้ว่าบ้านตู้เราจะจน แต่ไม่เลวถึงขนาดต้องลักเล็กขโมยน้อย หรือว่าใส่ร้ายคนอื่นหรอก” แม่ตู้ด่าจนเหนื่อยก่อนจะยื่นมือไปอุ้มหลานตัวน้อยส่งให้กับสามี และให้เขาพาลี่ลี่กลับไปบ้านก่อน แม้ว่าลี่ลี่จะอายุเพียงเจ็ดเดือน เธอไม่อยากให้เด็กที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ต้องซึมซับสิ่งที่ไม่ดีเข้าไป ลี่ลี่พอเห็นว่ายายส่งมือมาให้ เด็กน้อยเอียงคอเล็กน้อยคล้ายจะทบทวนความทรงจำว่าคนตรงหน้านี้คือใคร พอหนูน้อยจำได้จึงโถมตัวเข้าใส่และหัวเราะเอิ๊กอ๊ากคิดว่ายายเล่นด้วย และเมื่อพ่อตู้รับหลานสาวต่อมาจากภรรยา หนูน้อยจึงรีบกอดคอและส่งเสียงอ้อแอ้ทันที จากนั้นสองตาหลานจึงส่งเสียงคุยกันตลอดทางจนถึงบ้านตู้ ชาวบ้านที่เห็นภาพนี้ต่างพากันแปลกใจ เพราะว่าก่อนหน้านี้ตู้เซียงเหมยกับบ้านตู้แทบจะไม่เคยไปมาหาสู่กันเลยตั้งแต่หญิงสาวแต่งงาน แล้วทำไมวันนี้บ้านตู้จึงรวมกลุ่มมาตอบโต้บ้านเหวินเพื่อช่วยตู้เซียงเหมยล่ะ หรือว่าพระอาทิตย์ตกผิดทิศเสียแล้ว ปกติจะเรียบร้อยไม่มีปากมีเสียง เกิดอะไรขึ้นจึงลุกขึ้นมาด่าแม่เฒ่าเหวินจนแทบจะหาเสียงของตัวเองไม่เจอ แม้แต่สามพี่น้องบ้านตู้ยังมองหน้ากันด้วยความเหลือเชื่อว่าแม่ของตัวเองนั้นจะกล้าด่าคน ยิ่งกับแม่เฒ่าเหวินหญิงปากร้ายประจำหมู่บ้านด้วยแล้ว หากไม่เห็นกับตาจะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าคนที่ยืนเท้าสะเอวชี้หน้าด่านั้นจะเป็นแม่ตัวเอง สามพี่น้องบ้านตู้หลังจากที่หายตกใจจึงรีบเดินเข้าไปเก็บของ ทางด้านแม่เฒ่าเหวินเห็นว่าลูกสะใภ้ตัวดีพาพี่ชายทั้งสองคนเข้าบ้านจึงเกิดความไม่พอใจและได้ตะโกนลั่นบ้านเรียกลูกชายคนโตอย่างพี่ใหญ่เหวิน แต่พี่ใหญ่เหวิน หรือว่าเหวินหลงกลับทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจ ปล่อยให้แม่ร้องโวยวายอยู่แบบนั้น กลับให้ภรรยานำเงินเพียงน้อยนิดที่เขาแอบเก็บสะสมไว้ไปมอบให้กับน้องสะใภ้ ชายหนุ่มรู้ว่าบ้านตู้นั้นลำบากแค่ไหน และไม่อยากให้หลานสาวที่เขาเอ็นดูออกไปแล้วอยู่อย่างลำบาก หากคิดอีกมุมหนึ่งคงจะดีกว่าอยู่บ้านเหวินแน่นอน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม