“ จุดเริ่มต้นความวุ่นวาย ”

3164 คำ
   ณัชชาดารานักแสดงสาว เธอเป็นแฟนกับจิระหรือพี่บอย หนุ่มตัดต่อรายการทีวี หลังจากที่ทั้งคู่เจอและรู้จักกันขณะที่ณัชชาไปถ่ายรายการรายการหนึ่ง จิระก็ตามจีบและสานสัมพันธ์จนกระทั่งทั้งคู่ตกลงเป็นแฟนกัน หลังจากตกลงเป็นแฟนกันจิระก็เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เธอ ดูแลไปรับไปส่งรับงานและจัดการเรื่องต่างๆแทนเธอทั้งหมด ณัชชามีหน้าที่เพียงแค่ทำงานตามคิวงานที่จิระบอกโดยเงินค่าตัวที่เธอได้ก็ให้เขาเป็นคนจัดการดูแลทั้งหมด เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ จนมาถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็เป็นแฟนกันมา 5ปีแล้ว    สัปดาห์ที่ผ่านมา วันหยุดของณัชชา เธอไม่มีคิวงาน จิระบอกกับเธอว่าเขามีธุระต้องไปต่างจังหวัด ณัชชาจึงอยู่บ้านเพียงลำพัง พ่อของเธอเสียไปเมื่อ 2ปีที่ผ่านมา ส่วนแม่ของเธอเกษียณอายุราชการแล้วอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดเพราะท่านไม่ชอบความวุ่นวายในเมืองหลวง บ้านหลังที่เธออาศัยอยู่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นน้ำพักน้ำแรงจากการทำงานของเธอ ปกติวันหยุดจิระจะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอหรือไม่ก็มารับออกไปเที่ยวดูหนังฟังเพลงกันตามโอกาส แต่ส่วนมากเธอชอบจะอยู่ที่บ้านนอนพักผ่อนหรือทำขนมเสียมากกว่า เพราะการเป็นคนของประชาชนจะไปไหนหรือทำอะไรก็มักเป็นที่สนใจมากกว่าคนทั่วๆไป แต่วันนี้เธอรู้สึกอยากซื้อของไปทำบุญและจะเลยไปเยี่ยมแม่ที่ต่างจังหวัดเสียหน่อย ณัชชาอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะก้าวไปหยิบกระเป๋าเงินพร้อมกับเปิดออกดูจำนวนเงินภายในกระเป๋า "เฮ้อ! ไม่ได้บอกพี่บอยไว้ก่อนด้วยว่าจะไปเยี่ยมแม่ เงินไม่พอแน่เลย" ณัชชาบ่นพึมพำ ปกติเธอจะให้จิระดูแลเรื่องเงิน จะใช้เท่าไหร่เมื่อไหร่ก็บอกเขา แต่นี่เธอไม่ได้แจ้งเขาไว้ล่วงหน้า เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาจิระ  "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก"... "โทรก็ไม่ติด! บัตร ATM ก็อยู่กับพี่บอย การทำธุรกรรมทางโทรศัพท์ก็อยู่ที่เครื่องพี่บอย เอาไงดี..สงสัยจะต้องไปเบิกเงินสดที่ธนาคารเองซะแล้ว" ณัชชาบ่นพึมพำออกมาแล้วเดินไปค้นหาสมุดบัญชีในตู้ลิ้นชัก เมื่อได้สมุดบัญชีเงินฝากมาเรียบร้อยแล้วเธอก็ขับรถคู่ใจมุ่งหน้าไปยังธนาคาร ทุกครั้งที่ออกจากบ้านเธอมักจะใส่แว่นดำจนติดเป็นนิสัย ณัชชาจอดรถแล้วเดินเข้าไปในธนาคาร โชคดีเช้านี้ยังไม่มีผู้คนพลุกพล่าน เธอกดบัตรคิวแล้วเดินเข้าไปนั่งรอ เพียงครู่เดียวก็ถึงคิวของเธอ "อุ๊ย! น้องณัชชา สวัสดีค่ะ จะทำธุรกรรมอะไรคะ" พนักงานเห็นดาราคนสวยก็ยิ้มทักทายอย่างดีใจ "เอ่อ..ถอนเงินค่ะ" ณัชชายื่นสมุดบัญชีให้กับพนักงานธนาคาร "ถอนจำนวนเท่าไหร่คะ" พนักงานรับสมุดบัญชีมาแล้วเอ่ยถาม "30,000 บาทค่ะ" "รอสักครู่นะคะ" "ขอโทษนะคะ เงินในบัญชีของน้องณัชชามีไม่เพียงพอกับจำนวนที่ต้องการดำเนินการค่ะ" พนักงานมองเธออย่างแปลกใจ "อะไรนะคะ!" ณัชชางุนงงแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน (จะเป็นไปได้ยังไง เงินในบัญชีของเธอต้องมีอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 8ล้านสิ ถึงแม้ว่าเธอจะใช้จ่ายต่างๆ และส่งให้แม่ทุกเดือน แต่เธอก็มีงานละคร งานโฆษณาและอีเว้นท์ไม่ขาดเหมือนกัน เงินในบัญชีจะมีไม่ถึง 3หมื่นได้ยังไง!) "ช่วยเช็คให้ใหม่ได้ไหมคะมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า" พนักงานจึงตรวจสอบให้เธออีกครั้ง "ไม่มีอะไรพิดพลาดนะคะ สมุดบัญชีเล่มนี้ไม่ได้ทำธุรกรรมทางการเงินมา 2ปีแล้วค่ะ" "2ปี! เหรอคะ" "ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ" "เอ่อ..เปล่าค่ะเปล่า สงสัยนัชจะหยิบผิดเล่มมาน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ" ณัชชาหยิบสมุดบัญชีแล้วรีบเดินออกมาจากธนาคารทันที พนักงานก็มองตามอย่างสงสัย    ระหว่างทางที่ณัชชาขับรถกลับบ้านเธอก็ครุ่นคิดมาตลอดทาง กลับมาถึงบ้านเธอก็ตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาแม่.. "สวัสดีค่ะ แม่" "สวัสดีจ้ะ" นันทนารับสาย "แม่คะ นัชขอถามอะไรแม่หน่อยนะคะ" "อะไรเหรอลูก" "แม่ได้รับเงินที่นัชโอนเข้าไปทุกเดือนไหมคะ" "แม่ก็ไม่รู้นะลูก เพราะแม่ไม่ได้ใช้จ่ายอะไร แม่ก็เลยไม่ได้ไปปรับสมุดนานแล้ว" "งั้นนัชจะรบกวนแม่ไปเช็คดูให้หน่อยได้ไหมคะ" "ได้สิลูกเดี๋ยวแม่ไปตรวจสมุดดูให้ มีอะไรหรือเปล่าลูก" "เอ่อ..นัชแค่สงสัยอะไรบางอย่างน่ะค่ะเลยอยากทราบ"  เมื่อณัชชาวางสายจากแม่ เธอก็โทรศัพท์ไปสอบถามผู้จัดละคร,งานต่างๆ ก็ได้คำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าจ่ายเช็คค่าตัวให้กับจิระไปเรียบร้อยแล้ว แม่ก็โทรมาบอกว่าไม่มีเงินโอนเข้าไป 2ปีกว่าแล้ว  "นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?" ณัชชารู้สึกจุกในอก สิ่งแรกที่เธอคิดคืออยากรู้ความจริง! ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอจึงติดต่อไปขอความช่วยเหลือจากกรุณหรือก้อง ดาราหนุ่มรุ่นพี่ในวงการที่เธอเคารพเหมือนพี่ชาย  "พี่ก้องคะ นัชมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากพี่ก้อง.."  "น้องนัชมีเรื่องอะไร?" กรุณถามทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่แปลกไปของณัชชา "พี่ก้องพอจะรู้จักนักสืบที่ไว้ใจได้บ้างไหมคะ" "นักสืบ! น้องนัชหานักสืบทำไม จะให้สืบเรื่องอะไร" "นัชสงสัยว่าพี่บอยจะยักยอกถ่ายโอนเงินจากบัญชีและเช็คค่าตัวนัชไปค่ะ" "บอยเนี่ยนะ!" "ค่ะพี่ก้อง นัชต้องการนักสืบที่ไว้ใจได้ด่วน พี่ก้องรู้จักบ้างไหมคะ" "พี่มีเพื่อนร่วมรุ่นเปิดสำนักทนายความอยู่พอดี เดี๋ยวพี่ติดต่อให้นะ" "ขอบคุณมากค่ะพี่ก้อง"    หลังจากวางสายณัชชา กรุณก็ต่อสายหาเพื่อนรักในทันที...    เมธัสหรือแม็ค เจ้าของสำนักทนายความ "นิติธรรม" ในอดีตเขาเป็นนายตำรวจหนุ่ม เมื่อเขาถูกแฟนสาวหักหลังและทิ้งไปแต่งงานกับนักธุรกิจไฮโซ หลังจากนั้นเขาก็ปิดใจไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขาจึงนิ่งขรึมไม่ค่อยพูดหรือสุงสิงกับใครเท่าที่ควร ไม่ชอบคนเสแสร้งไม่จริงใจ มุ่งหน้าทำแต่งานทนายความหลังจากลาออกจากอาชีพตำรวจ "ว่าไงไอ้แม็ค ถือว่าช่วยกูสักครั้งได้มั้ยวะ.." กรุณย้ำถามขอร้องเพื่อนรักอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายเงียบไป  "มึงก็รู้ดีว่ากูอยากอยู่อย่างสงบๆ"  "แต่ไม่มีใครเหมาะกับงานนี้เลยนอกจากมึง" "ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงทำให้มึงมาขอร้องอ้อนวอนกูได้ขนาดนี้ เป็นกิ๊กมึงหรือไง"  "น้องนัชก็เป็นเพื่อนของน้องไหม เมียไอ้เมฆน่ะ เป็นเหมือนน้องสาวของกู เธอเป็นนักแสดงที่ดี มีความรับผิดชอบ ชอบช่วยเหลือสังคม เธอชอบบริจาคสิ่งของและไปเยี่ยมให้กำลังใจทหารอยู่บ่อยๆ"  "แล้วมึงรู้เรื่องของเธอได้ยังไง"  "น้องนัชโทรมาปรึกษากู เห็นกูเป็นทหารมีเพื่อนเป็นทหารตำรวจเลยขอคำปรึกษาในฐานะพี่ที่รู้จักน่ะ แล้วกูก็นึกถึงมึงคนเดียว มึงเคยเป็นตำรวจ ลาออกจากราชการมาเป็นทนายความช่วยเหลือคนจนคนที่เดือดร้อนไม่ใช่เหรอ มึงก็ช่วยสืบเรื่องนี้ให้หน่อยนะ"  "แต่กรณีนี้มันไม่ใช่"  "หน่านะเพื่อน ช่วยกูหน่อย กูรับปากน้องเขามาแล้ว น้องนัชเธอเป็นนางเอก เธอจะเสียหายขนาดไหนถ้าสำนักทนายความปล่อยให้เรื่องนี้หลุดออกไปน่ะ" "กูไม่ชอบความวุ่นวาย"  "ถือว่ากูขอร้องนะเพื่อน" "เออๆ..กูจะให้ลูกน้องไปสืบให้ก็แล้วกัน" เมธัสทนแรงตื้อของเพื่อนไม่ไหวก็เลยรับปากออกไป    หลังจากรับปากเพื่อนรักไป เมธัสก็เรียกลูกทีมมาประชุม สรุปคือทุกคนมีงานค้างอยู่ในมือทุกคน เขาจึงต้องรับงานนี้ไปทำเองโดนปริยาย เมื่อจะช่วยสืบให้ เมธัสจึงดูแฟ้มประวัติก่อนจะบอกให้กรุณนัดเจ้าตัวมาซักถามเพิ่มเติม    จนถึงวันที่กรุณนัดให้ณัชชามาพบเมธัส.. "นัช..นี่เมธัสหรือไอ้แม็ค เพื่อนพี่เอง นักสืบที่จะทำงานให้นัช" "นี่น้องนัชที่ฉันเล่าให้มึงฟังนั่นแหละ" กรุณบอกณัชชาแล้วหันไปบอกเพื่อน "สวัสดีค่ะ" ณัชชากล่าวทักทาย เมธัสยืนนิ่งงันตะลึงในความสวยของหญิงสาวตรงหน้า เขาเห็นแต่ภาพในแฟ้มประวัติที่ค้นหาก็คิดว่าถ้าไม่มีเครื่องสำอางบนใบหน้าก็คงจะเหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่อย่างที่เขาคิด ตัวจริงเธอสวยไม่มีที่ติจริงๆ ไร้เครื่องสำอาง ใบหน้ารูปไข่ ตาคม คิ้วโค้งได้รูปรับกับดวงตาคู่สวย จมูกโด่งรับกับใบหน้า ปากอิ่มสีชมพูแล้วยังจะแก้มใสเปร่งปรั่ง ผิวเนียนละเอียดนั่นอีก หุ่นก็สวยกำลังดี ใครได้เป็นแฟนจะน่าอิจฉาขนาดไหน เขาเห็นแค่แว็บเดียวยังตกอยู่ในภวังค์ขนาดนี้ คิดแล้วก็น่าเสียดายแทนผู้ชายคนนั้น แต่ท่าทางดูเหมือนเจ้าหล่อนจะหยิ่งๆไม่เบา หน้าเชิดคอตั้งมาเชียว เมธัสยืนพิจารณาแต่หน้านิ่งขรึม ณัชชาเห็นเขายืนมองนิ่งก็เอ่ยขึ้น “คุณมีอะไรสงสัยหรือเปล่าคะ” “เปล่า..คุณคือผู้หญิงคนเดียวกับคนที่วิ่งตามผู้ชายในงานแต่งวันนั้นใช่มั้ย..” “นี่นาย!..” ณัชชานึกขึ้นมาได้แล้ว ในงานแต่งงานของไหม ที่เธอบังเอิญชนเข้ากับใครบางคน ผู้ชายคนนั้นก็คือเขานี่เอง "ฉันไม่ได้วิ่งตามผู้ชาย เราเข้าเรื่องงานกันเลยดีกว่าค่ะ ฉันมีงานต้องไปอีก" "อ๋อ..ครับ เชิญ" เมธัสเดินนำเข้าไปด้านในสำนักงาน    เมื่อเข้ามาในห้องภายในสำนักงาน เขาก็เอ่ยขึ้น "ผมขอซักถามข้อมูลของคุณ รบกวนตอบผมตามตรง ตามความเป็นจริงด้วยนะครับ" "เชิญถามมาได้เลยค่ะ" "คุณกับแฟนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแค่ไหน" "แค่แฟน!ค่ะ" "ผมขอความเป็นจริงนะ" เมธัสจ้องหน้าณัชชา "เอ๊ะ!นี่นาย..ฉันบอกว่าเป็นแค่แฟน ก็แค่แฟน นายจะให้ฉันตอบว่ายังไง" ณัชชาลุกขึ้นอย่างฉุนโกรธ "ผมต้องรู้ละเอียด ไม่งั้นเกิดคุณหันไปเข้าข้างแฟน แล้วมาเล่นงานผมก็แย่น่ะสิ" "นักสืบคนอื่นไม่มีแล้วเหรอคะพี่ก้อง" ณัชชาหันไปถามกรุณ "ไม่มีครับ น้องนัชใจเย็นๆ นั่งลงก่อน" กรุณดึงแขนเธอให้นั่งลง "คนอื่นมีงานล้นมือทุกคน มีผมว่างอยู่คนเดียว คุณจะให้ผมทำงานนี้ต่อหรือเปล่า" "นาย!.." ณัชชารู้สึกโกรธก็โกรธ แต่เธอจำเป็นต้องให้เขาทำงานให้ จึงจำใจนั่งตอบคำถามเขาจนกระทั่งเสร็จ   เมื่อให้ข้อมูลที่เมธัสต้องการครบแล้ว ณัชชาก็ให้เขาเริ่มงานทันทีก่อนที่จิระจะรู้ตัว    ...1 สัปดาห์ต่อมา..หลังจากเมธัสตามสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับจิระอย่างละเอียด จิระติดการพนันอย่างหนัก เขามักจะไปเล่นการพนันที่เกาะทางภาคตะวันออกทุกสัปดาห์ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น จิระยังติดดาราดาวรุ่งอย่างเอมิกาอีกด้วย เขานำเงินไปเล่นการพนันและปรนเปรอให้กับกิ๊กสาวคนใหม่ เมื่อเมธัสนำข้อมูลทุกอย่างไปให้ณัชชา เธอรู้สึกเจ็บใจจุกในอก คนที่เธอรักคนที่เธอไว้ใจเชื่อใจที่สุดกลับโกหกหลอกลวงเธอได้ลงคอ ณัชชาอ่านข้อมูลไปก็กำกระดาษในมือแน่น เมธัสเห็นสายตาผิดหวังของณัชชาก็รู้สึกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของเธอ เพราะเขาก็เคยเจอเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้มากับตัว "เอ่อ..คุณโอเคมั้ย จะให้ผมดำเนินการทางกฎหมายต่อเลยหรือเปล่า" "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะจัดการต่อเอง"    วันต่อมา..ณัชชานัดจิระมาคุยตกลงกันที่บ้าน "นี่มันหมายความว่าไงคะพี่บอย"  "อะไรครับน้องนัช"  "ก็บัญชีว่างเปล่า..เงินค่าตัวที่ณัชให้พี่ดูแลนำไปเข้าบัญชีหายไปไหนคะ"  "เงิน! เอ่อ..พี่มีคำอธิบาย น้องนัชใจเย็นๆนะ"  "นัชให้เวลาพี่อธิบายมา 5นาที เชิญค่ะ"  "พี่นำไปลงหุ้น ช้อนซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไรน่ะ"  "โดยที่ไม่ถามไม่ปรึกษานัชก่อนเลยเนี่ยนะคะ"  "คือพี่..พี่หวังดีกับน้องนัชนะ"  "แล้วผลเป็นยังไงคะ..ได้กำไรหรือเปล่า"  "เอ่อ..คือ.." “พี่บอยมีอะไรจะบอกหรือสารภาพกับนัชตรงๆไหมคะ” “พี่ไม่มีอะไรจะบอกนัช แต่เรื่องเงินนี่พี่อธิบายได้..” "พอเถอะค่ะ นัชไม่อยากจะเสียความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้พี่มากไปกว่านี้..เราจบกันแค่นี้เถอะค่ะ" "อะไรนะ! ไม่นะน้องนัช พี่ไม่เลิก!"  "พี่บอยไม่เลิกก็เรื่องของพี่ แต่!อย่ามายุ่งเกี่ยวกับนัชอีก..เชิญกลับไปได้แล้วค่ะ" ณัชชาหันไปมองรปภ.ที่เธอแจ้งไว้ "รปภ.มาพอดี หวังว่าเราจะไม่เจอกันอีกนะคะ" เธอให้เมธัสรวบรวมข้อมูลจนแน่ชัด แม้จะไม่ได้หลักฐานเกี่ยวกับการยักยอกเงิน แต่สิ่งที่เขาทำทั้งหมดก็เกินจะให้อภัย นอกใจเธอไปมีคนอื่นแล้วยังนำเงินที่เธอส่งให้แม่ไปปรนเปรอผู้หญิงคนนั้นอีก ณัชชานึกถึงเรื่องที่แขกเหรื่อซุบซิบกันในงานแต่งงานแล้วรู้สึกสมเพช เธอรู้ความจริงทุกอย่างแล้วแต่เธออยากจะลองใจถามเขาดู ว่าเขาจะบอกความจริงกับเธอมั้ย แต่เขาก็ยังเลือกที่จะโกหกเธอต่อไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมาถือเป็นความโง่ความผิดพลาดของเธอเองที่หลงไว้ใจเชื่อใจเขามาโดยตลอด ตอนนี้เธอรู้สึกว่างเปล่า ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับเขาอีกเลย    จิระโดนรปภ.ของหมู่บ้านดันออกมา แต่เขาก็ยังตะโกนเสียงดังเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะสูญเสียแหล่งผลิตเงิน ที่เขาสูบเงินไป "พี่ไม่ยอมให้มันจบลงแบบนี้หรอกนะ พี่ไม่ยอมมม...”       หลังจากณัชชาบอกเลิกกับจิระก็มีปัญหาตามมามากมายเพราะว่าที่ผ่านมาจิระจะเป็นคนจัดการเองทั้งหมด ตอนนี้เธอจึงรู้สึกวุ่นวายมาก จิระก็ตามมาราวีจนเธอแทบจะออกไปไหนไม่ได้ งานก็สับสนอลหม่านไปหมด เธอต้องโทรติดต่อผู้จัดการละครและผู้จ้างงานใหม่ทั้งหมด จะหาผู้จัดการตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกเข็ดขยาดมาก ขอดูแลงานเองไปก่อนสักระยะ  ..วันนี้จิระก็ยังตามมาราวีเธออีก.. "น้องนัช..นัช..ออกมาคุยกับพี่ให้รู้เรื่องนะ ถ้านัชไม่ออกมา พี่จะพังประตูเข้าไป! " จิระมาตามตื้อมาราวีทั้งเขย่าประตูตะโกนเรียกณัชชาจนเพื่อนบ้านรำคาญแจ้งรปภ.ของหมู่บ้านให้มาจัดการ  "เรื่องของผัวเมีย มึงไม่เกี่ยว" จิระหันไปตะคอกใส่รปภ. แม้ว่ารปภ.มาไล่เขาก็ไม่ยอมกลับไป ยิ่งได้ยินอย่างนั้นรปภ.ก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งเพราะส่วนมากหมู่บ้านนี้มีแค่คนในเท่านั้นที่สามารถเข้าออกได้ และจิระก็มีบัตรผ่านเข้ามา รปภ.จึงต้องกลับไปทำหน้าที่ของตนที่หน้าหมู่บ้าน ณัชชามองจากห้องโถงภายในบ้านเห็นรปภ.กลับไปก็ใจไม่ดีจึงตัดสินใจโทรหากรุณ "พี่ก้องอยู่ไหนคะ นัชรบกวนพี่มาหานัชที่บ้านหน่อยได้ไหมคะ" เมื่อกรุณรับสาย ณัชชาก็รีบพูดขึ้นทันที "เกิดอะไรขึ้นนัช!" "เอ่อ..พี่บอยมาอาละวาดอยู่หน้าบ้านค่ะ รปภ.ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป" "โอเค!เดี๋ยวพี่จะรีบไป"    ณัชชาจะโทรแจ้งตำรวจก็เกรงจะเป็นข่าวใหญ่โต เธอจึงขอรบกวนกรุณซึ่งเป็นทหารให้มาจัดการ จิระคงจะยอมกลับไป ณัชชามัวแต่คุยกับกรุณไม่ได้มองไปยังหน้าบ้าน เธอหันไปมองอีกครั้งก็ไม่เห็นจิระอยู่หน้าบ้านของเธอแล้ว "เอ๊! พี่บอยหายไปไหน หรือว่าจะกลับไปแล้ว" ณัชชาคิดอย่างรู้สึกโล่งใจที่ไม่เห็นจิระอยู่หน้าบ้าน    กรุณขับรถจากกองทัพบกที่ทำงานก็ต้องฝ่ารถติด ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะไปถึงบ้านณัชชา เขาจึงต่อสายหาณัชชาเพื่อจะบอกเธอ    ณัชชาได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่เธอวางไว้บนโต๊ะข้างโซฟาดังขึ้น เธอก้าวมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นเป็นสายเรียกเข้าของกรุณก็ดีใจ เธอจะได้บอกเขาว่าไม่ต้องมาแล้ว แต่เมื่อเธอกดรับสาย.. "พี่เกาะ..ว๊าย!" ณัชชาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะโทรศัพท์ในมือของเธอถูกกระชากออกไปจากมือ "พี่บอย!" ณัชชาตกใจพูดออกมาแทบไม่มีเสียง จิระรีบกดปิดเครื่องทันทีแล้วปาโทรศัพท์ไปบนโซฟา "ใช่!พี่เอง" "นัช! นัช!" กรุณเรียกณัชชาอย่างวิตกกังวลเพราะจู่ๆ สัญญาณก็ถูกตัดไป โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด แล้วเสียงอุทานเมื่อตะกี้..เขาไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับณัชชา "โธ่เว๊ย! รถจะติดบ้าอะไรนักหนาตอนนี้วะ" กรุณรู้สึกร้อนใจจนนั่งนิ่งไม่ได้ เขารีบต่อสายหาเพื่อนทันที "ไอ้แม็ค! มึงรีบขี่ฮาเล่ย์ไปที่บ้านน้องนัชด่วนเลย" กรุณรัวคำพูดออกมา "อะไรของมึงไอ้ก้อง!ใจเย็นๆ พูดช้าๆ ชัดๆ กูฟังไม่ทัน!" "ไอ้บอยมันตามไปราวีน้องนัชที่บ้าน ตอนนี้กูโทรติดต่อน้องไม่ได้" "เขาต้องการคุยกันส่วนตัวหรือเปล่า" "ไม่ใช่แน่นอน กูกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นน่ะสิ รถก็โคตรติด มึงรีบขี่รถคู่ใจมึงไปด่วนเลย หมู่บ้านแสนศิริอยู่ไม่ไกลจากสำนักงานของมึง" กรุณบอกเพื่อนอย่างกังวลร้อนใจเป็นห่วงณัชชา "เออๆ เดี๋ยวกูจะรีบออกไปดูให้" เมธัสลังเลแต่ก็ยอมไปตามที่เพื่อนขอ ระหว่างขี่รถเขาก็คิดไป เขามาตามง้อขอคืนดีกันหรือเปล่า..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม