คนละขั้วกับน้องสาวตัวแสบเขา แบบนี้จะเข้ากันได้เหรอนี่ คิดหนักเลยทีเดียว ไม่เข้าใจว่าบิดาคิดอะไรอยู่ ถึงได้คิดมาทำตามความต้องการของมารดาเอาป่านนี้
เอเชียหันไปถามว่าที่ลูกเขย ซึ่งเขาติดตามข่าวคราวว่าที่ลูกเขยคนนี้พอสมควร ไม่ต่างจากก้องภพที่ไม่พลาดเรื่องอันดามัน เพราะทั้งสองก็ยังหวังลึกๆ ว่าสักวันคำสั่งเสียของภรรยาอาจเป็นเรื่องจริงขึ้นมา และเขาก็มั่นใจในตัวว่าที่ “ลูกเขย” คนนี้พอสมควร ก้องทวีปไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย แถมเป็นคนรักอิสระ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทั้งหลายทั้งปวง รวมถึงมีหลายอย่างที่เขามั่นใจว่าชายหนุ่มจะต้องดูแลอันดามันบุตรสาวคนเล็กได้แน่นอน
ก้องทวีปสนทนากับว่าที่พ่อตาที่ดูจะใจดีมากทีเดียว เขารู้สึกดีที่ท่านดูเป็นกันเอง ในใจคิดกระหวัดไปถึงบุตรสาวของท่านว่าจะเป็นเช่นไรหนอ ตอนตกปากรับคำบิดาก็ทำเพื่อเอาใจคนป่วย แม้ว่าจะขอทำความรู้จักกันก่อน แต่พอมาถึงบ้านว่าที่ “เจ้าสาว” กลับใจเต้นแรงอย่างประหลาด
“เดี๋ยวยัยหวานคงลงมา” เอเชียหันไปมองบันไดบ้านบ่อยครั้ง นึกตำหนิบุตรสาวที่ให้แขกรอนาน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ สาวๆ ก็แบบนี้ แต่งตัวนานเป็นธรรมดา” คำพูดของก้องภพเรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี ก้องทวีปเพียงแต่ยิ้มน้อยๆ ส่วนองศาเพียงแค่กระตุกยิ้มเล็กน้อยไม่ต่างกัน
“หวาน”
พลอยไพลินเอามือทาบอกทันทีที่เห็นน้องสามีแต่งตัวออกมาจากห้อง
“สวยพอไหมคะพี่พลอย”
อันดามันหมุนซ้ายหมุนขวายิ้มกว้างให้พี่สะใภ้ที่มีสีหน้าตะลึงตกใจแสดงว่าการแต่งตัวที่กินเวลาเกือบชั่วโมงของเธอได้ผลในระดับที่น่าพึงพอใจ... จะต้อนรับแขกอันทรงเกียรติในวันนี้
“หวาน... ทำไมแต่งตัวแบบนี้”
พลอยไพลินมองน้องสามีที่ใส่เสื้อสีสดลวดลายชวนแสบตา กระโปรงบานสั้นแค่เข่าลวดลายชวนเวียนหัว แต่ไม่เท่าที่เธอแต่งหน้าจัดจ้านทาลิปสติกเสียแดงฉ่ำ วาดคิ้วเหมือนงิ้ว แถมปัดแก้มสีจัดจ้าน และวาดอายไลน์เนอร์เสียน่าหวาดเสียว คำว่าดูได้ยังไม่เหลือเอาไว้ให้เรียก
“แหม... ดูตัวทั้งที ต้องแต่งให้สวยหน่อยสิคะ จะหน้าซีดเหมือนไก่ต้มได้ยังไง เดี๋ยวว่าที่สามีของหวานได้ดูถูกเอาสิคะพี่พลอย”
พลอยไพลินทาบอกอีกครั้งที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาว ถ้าเป็นเด็กเธอจะจับเฆี่ยนเสียให้เข็ด
“หวาน พี่ว่าเราไปเปลี่ยนชุดเถอะ แล้วแต่งหน้าใหม่ดีกว่า เดี๋ยวพี่จะแต่งตัวให้เราเอง”
พลอยไพลินส่ายหน้า กอดอก ไม่เห็นด้วย รีบรุนหลังน้องสามีเข้าห้อง แต่อันดามันขืนตัวเอาไว้
พลอยไพลินสงสัยอยู่แล้วเชียวว่าทำไมถึงไม่ยอมให้เธอแต่งตัวให้... เป็นแบบนี้นี่เอง คงคิดวางแผนจะทำให้ครอบครัวของฝ่ายโน้นหน้าแตก หรือไม่ถ้าได้เห็นหญิงสาวสภาพนี้คงจะเผ่นกลับบ้านแทบไม่ทัน เธอมาอยู่บ้านนี้นานพอจะรู้ว่าครอบครัวนี้เจ้าเล่ห์กันทั้งตระกูล
“ไม่ค่ะ ถ้าพี่พลอยไม่ให้หวานลงไปแบบนี้ หวานก็จะไม่ลงไป”
อาการกอดอกของน้องสามีทำให้พลอยไพลินกุมขมับ แต่ยังไงจะให้ลงไปทั้งแบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ ถึงจะช้าหน่อยแต่ฝีมือระดับเธอคงไม่ยากที่จะแปลงร่างอันดามันให้เป็นสาวน้อยแสนสวยได้เพียงไม่กี่นาที
“ไม่ได้จ้ะ ยังไงก็ต้องไปเปลี่ยน”
พูดไม่ทันขาดคำ ยัยตัวป่วนประจำบ้านรีบก้าววิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นพี่สะใภ้เริ่มทำท่าบ่นเหมือนแม่คนที่สอง
“ไปแล้วนะคะ เดี๋ยวว่าที่สามีจะคอยนาน”
ความเร็วเหมือนปรอททำให้พลอยไพลินผวา
“หวาน! เดี๋ยวก่อน”
ยังไงเธอต้องรั้งอันดามันเอาไว้ให้ถึงที่สุดแต่คงได้แค่คิดเพราะไม่ทันเสียแล้ว
“มาแล้วค่ะ คุณพ่อขา... พี่ฝาดขา... ว่าที่สามีขา...”
เสียงที่มาก่อนตัวทำให้ทุกคนหันไปมองที่เชิงบันได
“ยัยปากกรรไกร”
“คุณ!”
ทั้งสองที่เจอกันอีกครั้งต่างชี้อีกฝ่ายด้วยความตกตะลึง แล้วคนอื่นที่เหลือได้แต่อ้าปากค้าง พลอยไพลินที่ห้ามไม่ทัน ได้แต่ทำหน้าไม่ถูก มองพ่อสามีอย่างขออภัย เอเชียได้อึ้งจนพูดไม่ออก
“รู้จักกันด้วยเหรอ”
องศาเลิกคิ้วถามว่าที่น้องเขยเป็นคนแรกส่วนคนอื่นๆ โดยเฉพาะคุณก้องภพที่ได้แต่ตกตะลึง
“รู้จักดีเสียด้วย”
อันดามันกัดฟันตอบ วิ่งเข้าไปหลังบ้านก่อนถือเจ้ามู่ทู่สุนัขตัวโปรดออกมา
“หวานจะทำอะไร”
เอเชียตกใจแต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อบุตรสาวจัดการให้เจ้ามู่ทู่วิ่งไล่ฟัดก้องทวีปแทบจะทันที
“เฮ้ย! ยัยบ้าเอ๊ย!”
ก้องทวีปวิ่งหนีสุดชีวิต เจ้ามู่ทู่ไล่งับชายหนุ่มก่อนกระโดดงับที่ก้น กางเกงแทบฉีกขาด ดีที่เป็นกางเกงยีนส์เนื้อดี ไม่เช่นนั้นคงได้อับอายขายหน้ากว่านี้
“หวาน หยุดเดี๋ยวนี้ บอกให้หยุดไง”
เอเชียหน้าแดงด้วยความโกรธ ก้องภพมองลูกชายตาค้าง เมื่อคำห้ามปรามขอร้องใช้ไม้ได้ เอเชียเลยทำท่ากุมหัวใจทรุดลงไป เพราะรู้ว่าเจ้ามู่ทู่ไม่มีวันฟังคำสั่งใครนอกจากอันดามันคนเดียว
“พ่อ หวานบอกให้เจ้ามู่ทู่หยุดเดี๋ยวนี้ พ่อเป็นลมไปแล้ว”
พลอยไพลินที่เห็นพ่อสามีขยิบตาให้ รีบทำตามแผน อันดามันตกใจก่อนรีบบอกให้เจ้ามู่ทู่หยุดทันที่มันจะกัดหูชายหนุ่มจนขาด
หลังจากให้เอเชียกินยาแล้วผู้ใหญ่จึงให้เด็กๆ ออกมาคุยกัน เพื่อทำความรู้จัก อันดามันเห็นว่าบิดาไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว จึงยอมออกมาเดินเล่นกับเขา โดยฝากเจ้ามู่ทู่เอาไว้กับสาวใช้
“นี่ยัยปากกรรไกร จะรีบไปไล่วัวไล่ฝูงไฮยีน่าที่ไหน”
ก้องทวีปแอบขำการแต่งตัวของว่าที่เจ้าสาว อมยิ้มจนกลั้นไม่อยู่ เขารู้ว่าเธอคงไม่ต้องการแต่งงานกับเขาสักเท่าไหร่เหมือนกับที่เขาก็คิดเช่นนั้น เพราะวันก่อนที่เจอกัน
เขารู้ว่าเธอมีรสนิยมในการแต่งตัวที่ดีกว่านี้ นี่คงคิดว่าแต่งตัวแบบนี้เขาจะรีบเผ่นกลับบ้านน่ะสิ แต่พอนึกถึงตอนไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ จากคำพูดที่เธอบอกว่าจะมีคนมาขอเป็นคู่หมั้นคู่หมายก็อยากหัวเราะให้ฟันร่วง
อันดามันกลบเกลื่อนเมื่อเห็นหน้าว่าที่ “สามี” ในอนาคต เธอเพิ่งบอกเขาไปว่าคู่หมั้นคู่หมายจะมาสู่ขอ... ไม่คิดว่าจะเป็นเขา
แต่เขาเถอะ คงไม่รู้ว่าเป็นเธอเหมือนกัน ยังแอบชมว่าที่ “เจ้าสาวเสียเว่อร์” คิดมาถึงตรงนี้ก็แอบขำโดยไม่ให้เขารู้
“อยากไล่อยู่เหมือนกัน แต่อยากไล่วัวไล่ควายแถวนี้มากกว่า”
หญิงสาวหยุดเดินหันมากอดอกเชิดหน้าใส่ อาการปากยื่นของเธอทำให้เขานึกหมั่นไส้ตงิดๆ
“ฉันว่าแล้ว อย่างเธอคงไม่มีผู้ชายที่ไหนมาเดินสะดุดจนหน้ามืดขอแต่งงาน คนที่เธอบอกว่าคู่หมั้นคู่หมายคนนั้น หมายถึงฉันหรือเปล่า”
เขาก้าวเข้ามาหาเพื่อแกล้งคนที่ทำคอแข็งอยู่ตรงหน้า มือชี้มาที่ตัวเองอย่างกวนๆ
“เชอะ คุณก็ไม่ต่างกัน ว่าที่เจ้าสาวของคุณที่เรียบร้อย อ่อนหวาน หมายถึงฉันหรือเปล่า แต่ถ้าใช่ ต้องเสียใจด้วยนะ”
หญิงสาวหัวเราะเยาะ ก้องทวีปอึ้งไปก่อนปรับสีหน้าและน้ำเสียง
“วันก่อนสองพันยังไม่พอค่าทำขวัญฉันเลย”
“นี่คุณ จะไม่งกไปหน่อยหรือไง ทวงอยู่ได้”
หญิงสาวละล้าละลังเมื่อเห็นอีตาผมยาวสาวเท้าเข้ามาหาอย่างคุกคาม เธอถอยหลังเพื่อตั้งหลัก แต่ไม่มีวันกลัวเขาหรอก
“เหรอ รู้ไหมว่าฉันตั้งปณิธานกับตัวเองว่ายังไงเมื่อเจอเธออีก วันก่อนที่ร้านคนเยอะ คราวนี้เราอยู่กันสองคน ฉันจะได้ทำตามที่สัญญากับตัวเองเสียที”
“คุณจะตั้งปณิธานว่ายังไงมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย แต่อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องมายุ่งกับฉันเป็นพอ”
เธอยังก้าวถอยหนีเขาต่อไปเรื่อยๆ ปากจิ้มลิ้มแดงสดยังเถียงเขาไม่ลดละ
ก้องทวีปมองริมฝีปากที่ขยับขึ้นลงตาไม่กะพริบ ถ้าได้กระแทกจูบสั่งสอนให้หนำใจ