“สวัสดีค่ะ”
“อือ! คนของลูก แบบไหนยังไง เมียเก็บเหรอเพ้อ”
นางถามแบบไม่ต้องคิดนาน ด้วยรู้นิสัยลูกชายดี ไม่เคยพาผู้หญิงเข้าบ้าน แต่วันนี้กลับมีเด็กหน้าตาละอ่อนชื่อกล้วยเข้ามา แถมบอกว่าเป็นคนของชายหนุ่มอีก นางชักสงสัยแล้วสิว่าลูกชายของนางคิดอะไรอยู่กันแน่ตอนนี้
คนที่ถูกถามว่าเป็นเมียเก็บถึงกลับเบิกตากว้างมองชายหนุ่มที่เธอไม่รู้จัก และเพิ่งเคยเห็นหน้าทันที
“ใช่ที่ไหนล่ะแม่สร้อย เพ้อไม่เอาเด็กกะโปโลมาเป็นเมียเก็บหรอกครับ อีกอย่างเด็กนี่เพ้อแค่สงสาร เห็นไม่มีที่ไปเลยให้อามู่ไปพามาอยู่ด้วย มาเป็นคนใช้น่ะครับ แม่อยากใช้งานเด็กกล้วยยังไงก็ได้ตามแต่แม่จะใช้เลยครับ ส่วนเธอก็ยืนโง่อยู่ได้ ไปไหนก็ไปสิ ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน”
“ค่ะ ๆ” เธอที่เพิ่งรู้จักชื่อตัวเองรีบวิ่งกลับไปทางเดิมที่ตนจากมาทันทีเมื่อถูกไล่แล้ว
“เพ้อรู้ไหม เวลาเพ้อหาคำแก้ตัวให้ตัวเองไม่ได้ เพ้อจะพูดมาก พูดเยอะ และตอนนี้เพ้อก็กำลังเป็น แม่เลี้ยงเพ้อมาแม่รู้นะว่าเพ้อคิดอะไรอยู่ แน่ใจเหรอว่าสงสารลูก” นางพูดเมื่อเห็นว่าที่ตรงนี้เหลือตัวเองกับลูกชายเพียงลำพัง
“แน่ใจสิครับแม่สร้อย เพ้อก็ไม่อยากพาเด็กนั่นมาบ้าน แต่เพ้อก็ไม่รู้จะช่วยยังไง เลยพามาทำงานที่บ้านเรา”
“ความสงสารจะเป็นบ่วงรัดคอลูกเข้าสักวัน เพ้อต้องแน่ใจว่าตัวเองจะไม่เอาความสงสารมารัดพันตัวเอง”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ เพ้อเป็นยังไงแม่สร้อยก็รู้ไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ครับ ยังไงเพ้อก็ไม่เอาเด็กแบบนั้นมาเป็นเมียเก็บอย่างที่แม่กลัวหรอกครับ”
น้ำเสียงหนักแน่น แววตาจริงจังทำให้คนเป็นแม่ยิ้มมุมปาก ก่อนจะชักชวนลูกชายเข้าไปในบ้าน เพราะตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว นางกำลังเบื่อสามีพอดี ก็สามีเล่นบ่นไม่หยุดตั้งแต่เช้า ส่วนดาหวันออกไปซื้อของในเมืองตั้งแต่เช้า จนตอนนี้ยังไม่กลับ สงสัยจะทานข้าวมาจากข้างนอกถึงกลับบ้าน
ดาหวันเดินซื้อของจนครบแล้วกับเพื่อน และก็เพิ่งจากกัน หล่อนเดินไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่
พอจะเปิดประตูขึ้นรถก็ถูกประตูรถของคันที่วิ่งมาจอดข้าง ๆ เมื่อกี้ชนเข้าจนต้องล้มลงกับพื้น
"โอ๊ย!"
ก้นกระแทกพื้นทำให้หล่อนจุกเจ็บและแค้นเจ้าของรถคันข้าง ๆ ด้วย เธอจึงดีดตัวลุกขึ้นเพื่อจะต่อว่าเจ้าของรถคันข้าง ๆ
“นี่คุณ! ไม่มองรึไงก่อนจะเปิดประตูน่ะ”
“น้องหวันเองหรอกเหรอ มาทำอะไรครับ” เขาเห็นและเขาเองก็ตั้งใจจะเปิดประตูชนหล่อน
“คงเป็นคนอื่นหรอก พี่พรตตั้งใจเปิดประตูชนหวัน”
“ฉลาดเหมือนกันนี่ แล้วมาทำอะไรคนเดียว” มองข้าวของในมือเล็กที่หอบเต็มล้นมือ
“มันเรื่องของหวัน หวันกลับก่อนค่ะ” หล่อนสะบัดหน้าไปทางอื่น ก่อนจะเปิดประตูรถของตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาขึ้นรถก็ต้องชะงักเมื่อคนที่นั่งในรถลงมาฉุดดึงหล่อนไว้
“ฉลาดเหมือนกันนี่ แล้วมาทำอะไรคนเดียว” มองข้าวของในมือเล็กที่หอบเต็มล้นมือ
“มันเรื่องของหวัน หวันกลับก่อนค่ะ” หล่อนสะบัดหน้าไปทางอื่น ก่อนจะเปิดประตูรถของตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาขึ้นรถก็ต้องชะงักเมื่อคนที่นั่งในรถลงมาฉุดดึงหล่อนไว้
“ไปช่วยเลือกของหน่อยสิ ไม่มีเพื่อน”
“หวันจะกลับค่ะ หวันออกมานานแล้ว” หล่อนบิดข้อมือของตนให้เป็นอิสระ แต่มือใหญ่ก็กำแน่นเหลือเกิน
“แป๊บเดียวเอง นะช่วยพี่หน่อยนะ ผู้หญิงน่าจะรู้ใจผู้หญิงด้วยกันมากกว่า”
ผู้หญิง
*? แฟนเขาเหรอ ถ้าใช่จะดีมาก ฉันจะได้เป็นอิสระ*หล่อนยิ้มย่องในใจ ก่อนจะถาม “แฟนเหรอคะ”
“หึงเหรอ?”
“ไม่ใช่ แค่ถาม เพราะถ้าพี่พรตมีแฟน หวันจะได้เป็นอิสระ เราจะได้ไม่ต้องแต่งงานกันยังไงคะ หวันไม่อยากแต่ง พี่พรตเองก็ไม่อยากแต่งงานใช่ไหมคะ” หล่อนถามน้ำเสียงใส จากก่อนหน้าเสียงขุ่น
“นั่นสินะ ไปเป็นเพื่อนพี่เลือกซื้อของหน่อยสิ ไหน ๆ เราก็สบายใจจะเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ”
ไม่ได้ต้องการคำตอบ เขาจัดการล็อกรถของตัวเอง และดึงกุญแจรถของสาวเจ้ามากดล็อกโดยไม่สนใจจะถามว่าอีกฝ่ายสมัครใจจะไปกับตัวเองหรือไม่ รู้แต่ว่าได้กวนหรือได้เห็นคนตัวเล็กหงุดหงิดแล้วเขารู้สึกสบายใจ
“ก็ไม่อยากไป”
“ไปเถอะนะ พี่น้องกันไม่ใช่เหรอ”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยย้ำความสัมพันธ์อีกครา และครั้งนี้เขาก็ดึงหล่อนเดินตามไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเขาไปเลือกซื้อของ โดยไม่ลืมเอาของของคนตัวเล็กที่ถือติดมือมาด้วยมาถือไว้เอง เขาลืมเอาเก็บไว้ในรถให้เธอ
หัวใจสาวรู้สึกไหววูบกับความสัมพันธ์ที่ชายหนุ่มย้ำชัดเจน
ก็ดีแล้วนี้ เราต้องการแบบนี้ ไม่เห็นต้องน้อยใจเลย
หล่อนบอกตัวเองในใจ
“แต่ว่าจะซื้ออะไรคะ ให้แฟนหรือว่ากิ๊ก บอกหวันมาเลยค่ะ หวันถนัดเลือกของขวัญพิเศษ” หล่อนถามขณะเคียงข้างคนตัวโต หล่อนเอี้ยวหันขึ้นไปมองคนตัวสูง แต่เขาทำเพียงแค่ยิ้มให้แถมมือของนักพรตก็ยังไม่ยอมปล่อยมือของเธอ
“ยังไม่รู้เลยว่าเป็นอะไรกัน แต่พี่อยากซื้อสร้อยข้อมือน่ะ ไปร้านนั้นกันดีกว่า” ใบหน้าหล่อบุ้ยไปทางร้านเครื่องประดับที่อยู่ห่างจากระยะสายตาไม่ไกล
“ปล่อยมือหวันก่อนได้ไหมคะ เดินไม่ถนัดค่ะ” หล่อนขืนมือ
“แต่พี่ถนัด ไปกันเถอะ น้องสาวไม่ดื้อกับพี่ชายนะครับ” น้ำเสียงสุภาพออกจากปากหนา ยักคิ้วทรงเสน่ห์ให้เธอ ก่อนจะเดินไปยังร้านขายเครื่องประดับ เมื่อมาถึงในร้าน พนักงานในร้านก็ต้อนรับพวกเขาทั้งสอง