หญิงสาวมองเห็นความเรียบง่ายในห้องนี้ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากไปกว่านั้น แต่ที่เธอรู้ได้ในทันทีคือโดนัลด์เป็นคนชอบห้องกระจกกว้าง สังเกตได้จากห้องทำงานของเขาที่สโมสรก็เป็นห้องกระจกทรงแปดเหลี่ยม บ้านที่ฮาวายก็เป็นกระจกรอบด้าน แม้แต่ภายในเรือยอชต์ที่เขาใช้พักผ่อนก็ยังมีห้องกระจก
ทว่าทัศนียภาพของทั้งสามที่กลับแตกต่างกัน แต่การตกแต่งทำให้มองเห็นลักษณะนิสัยของเขาได้บ้าง ผู้ชายคนนี้คงจะเป็นคนที่ต้องการความโปร่งใสและมองอะไรได้อย่างเฉียบขาด
“จะมองอีกนานไหม เริ่มต้นทำหน้าที่ของเธอได้แล้ว”
“ทำอะไร” หญิงสาวถามกลับทันที
“ก็ทำหน้าที่ที่เธอขัดจังหวะฉันเมื่อครู่”
คำพูดตรงๆ ของชายหนุ่มทำให้ใบหน้าของหญิงสาวเห่อแดงขึ้นอย่างชัดเจน
“อย่ามาทำเหมือนไม่เคยเลย ครั้งก่อนเธอก็เป็นคนเดินเข้าไปหาฉันก่อนและเป็นคนเริ่มต้นเองไม่ใช่หรือ”
ปาจรีย์กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริง แต่สุภาพบุรุษก็ไม่ควรที่จะหยิบยกคำนั้นขึ้นมาพูด
“คุณแน่ใจหรือว่าคุณเกิดมาในวงศ์ตระกูลชั้นสูง เพราะพฤติกรรมของคุณไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิด”
แทนที่ชายหนุ่มจะโกรธแต่กลับหัวเราะขำ เขากำลังขำสีหน้าจริงจังของหญิงสาว ในแต่ละวันของเธอจะมีช่วงผ่อนคลายบ้างไหมนะ
“เอาละ ไปอาบน้ำได้แล้ว”
“ไม่!” หญิงสาวตอบเสียงแข็ง
ชายหนุ่มหันกลับมามองหญิงสาวอีกครั้ง คราวนี้เขาส่งสายตาโลมเลียจาบจ้วงอกอิ่มของเธออย่างเปิดเผย พร้อมกับทิ้งรอยยิ้มเยาะที่มุมปาก
“ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องอาบก็ได้ ฉันคิดว่าตัวของเธอยังคงหอมอยู่”
คนฟังกำหมัดแน่น หากแต่แววตากรุ้มกริ่มของเขาทำให้เธอสั่นประหม่า จนเธอไม่รู้ว่าอาการสั่นของเธอตอนนี้เกิดจากความโกรธหรือความกลัวกันแน่
ชายหนุ่มขยับเท้าย่างสามขุมเข้าไปหา สายตาคมปลาบของโดนัลด์จ้องก้อนเนื้อสองก้อนที่ดันขอบเกาะอกสีแดงสดอย่างหื่นกระหาย ลิ้นของเขาเลียริมฝีปากล่างบ่อยครั้ง
ปลายเท้าของชายหนุ่มขยับทีละก้าวไล่ต้อนหญิงสาว ในขณะที่คนกล้าอวดเก่งท้าทายเมื่อครู่ก็ถอยร่นทีละก้าวอย่างหวาดหวั่นเช่นกัน นึกถึงสิ่งที่ต้องเผชิญด้วยหัวใจเต้นระทึกราวกับกำลังยืนอยู่บนหน้าผาสูงชัน
เมื่อถอยจนสุดทางก็รู้สึกถึงทางตัน แผ่นหลังบางนุ่มชิดติดผนังเย็น ร่างกายชาวาบเมื่อด้านหลังคือผนังกระจกที่ด้านนอกแวดล้อมไปด้วยน้ำในมหาสมุทร มันเย็นเฉียบเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาได้ ส่วนด้านหน้าคือชายหนุ่มที่ไล่ต้อนเหยื่ออย่างไม่ลดละ ดวงตาวิบวับตื่นตระหนกชำเลืองมองปลายคางสากด้วยหัวใจหวั่นหวาด แตกต่างจากราชสีห์หนุ่มที่จ้องขย้ำเหยื่อให้จมเขี้ยว รอยยิ้มร้ายที่ปิดซ่อนอยู่ข้างในถูกเผยออกมา พาให้กวางสาวอย่างเธอยิ่งนึกกลัว
ปาจรีย์เบี่ยงตัวหลบด้านซ้ายเล็กน้อย หากแต่ไม่ทันการณ์เมื่อลำแขนกำยำยกขึ้นใช้ฝ่ามือยันผนังกักร่างบอบบางที่สั่นเทาเอาไว้ แม้จะเบี่ยงหลบไปอีกทางแต่ก็ยังคงโดนกักไว้ด้วยลำแขนอีกข้าง ดูราวกับกรงเหล็กแข็งแรงที่กักตัวเธอเอาไว้ก็ไม่ปาน
“อย่านะ” หญิงสาวบอกอย่างเว้าวอน เมื่อไม่อาจต่อต้านหรือหนีให้พ้นจากกรงเล็บราชสีห์อย่างเขา
“ฉันบอกแล้วไงว่าเธอต้องรับผิดชอบ”
“แต่ผู้หญิงของคุณดูจะเต็มใจมากกว่าฉัน ถ้าคุณทำอะไรฉันก็หมายถึงคุณต้องขืนใจ ผู้ชายอย่างคุณคงจะมีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ขืนใจผู้หญิงใช่ไหม” หญิงสาวทำใจดีสู้เสือถามออกไป
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มที่มุมปากกับวาจาเอื้อนเอ่ยต่อรองยกข้ออ้างของเธอ เขาทอดมองใบหน้าไหวระริกด้วยแววตาอ่อนโยนโดยที่ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ
“แต่ถ้าฉันทำให้เธอยอมโดยศิโรราบ เธอก็ไม่ปฏิเสธใช่ไหม” ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอกลับบ้าง
“ฉันรู้ว่าฉันไม่มีวันยอมคนง่ายๆ เด็ดขาด”
“แต่ฉันก็รู้ว่าไม่เกินห้านาทีที่ฉันได้สัมผัส เธอจะอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟสาวน้อย” ชายหนุ่มตอบกลับทันควัน
แววตาคมปลาบของชายหนุ่มกับประโยคที่หลุดออกมาจากปากของเขาทำให้หญิงสาวสะอึก ลมในช่องท้องวิ่งแล่นมาจุกอกเหมือนคนจมน้ำจวนเจียนจะขาดอากาศหายใจ ถึงตอนนี้เธอชักเริ่มไม่มั่นใจ
ใบหน้าคมคายโน้มลงไปกระซิบเสียงแผ่วเบาข้างติ่งหูนุ่มของเธอ
“ฉันขอแค่ห้านาที หากเธอไม่ยินยอมฉันจะเดินขึ้นไปส่งเธอถึงห้องโดยสวัสดิภาพ ไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่ปลายเล็บ” ชายหนุ่มบอกอย่างท้าทาย ยิ่งเห็นแววตาของลูกกวางน้อยตื่นกลัวตรงหน้าเขาก็ยิ่งอยากแกล้ง
จากตอนแรกที่เขาลากเธอลงมาด้วย เขาไม่ได้คิดอะไรนอกจากอยากพาเธอมาอยู่ใกล้ๆ อยากรู้ความรู้สึกของเธอเมื่อครู่ อยากอธิบายถ้าเธอเข้าใจผิด เป็นความรู้สึกที่ก่อเกิดภายในใจอย่างไม่รู้ตัวหลังจากสิบวันที่เขาเดินจากมา
หากแต่หญิงสาวกลับเก็บความรู้สึกได้ดีเยี่ยม เธอไม่ได้พูดถึงเรื่องเมื่อครู่ เธอไม่ได้หึงหวง เธอไม่ได้อยากรู้ในสิ่งที่เขาทำ แต่เธอกลับผลักไสเขาให้เดินกลับไปหาเจนนิเฟอร์
เรือนกายนุ่มนิ่มของเธอหยอกล้อหัวใจของเขาให้ไหวหวั่นโหยหา แม้ในยามที่อยู่กับผู้หญิงอื่น กระทั่งสาวสวยอย่างเจนนิเฟอร์ก็ไม่อาจทำให้เขาปลดปล่อยตัณหาบุรุษในกายออกมาได้ พาให้เขารู้สึกเบื่ออย่างไม่รู้สาเหตุ ทั้งที่เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย
“ว่าไง...ยังไม่ตอบเลย” ชายหนุ่มกระซิบย้ำอีกครั้งพร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาทีละนิด จนริมฝีปากหนาแทบจะปิดทับเรียวปากอิ่มอยู่รอมร่อ
เมื่อหญิงสาวเห็นใบหน้าชายหนุ่มลดลงมาทีละนิด หัวใจดวงน้อยก็เต้นโครมครามราวจะหลุดจากขั้ว ดวงตาคมหวาดหวั่น เธอรีบยกข้อศอกตั้งรั้งดันหน้าอกของเขาเอาไว้ ปิดเปลือกตาลงหลับตาปี๋ เฝ้าภาวนาว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างทำให้เขาหยุด
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มที่มุมปาก หัวเราะในลำคอเบาๆ กับอาการของเธอ
เขาไม่เสียเวลารอที่จะประทับริมฝีปากได้รูปปิดประทับเรียวปากสั่นระริกของแม่กวางน้อยแสนตื่นกลัว ความรู้สึกของเขาในตอนนี้เหมือนหนุ่มน้อยริรัก มันกระชุ่มกระชวยตื่นเต้นกับความรู้สึกแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในขณะที่หญิงสาวตัวสั่นราวกับลูกนก รอยจูบของเขาดุจเปลวไฟลามเลียทั้งริมฝีปาก ลุกลามไปทั้งร่างกาย กระตุกไปถึงหัวใจ เรียวขาแทบหยัดยืนไม่อยู่เมื่อเขาใช้ปลายลิ้นร้อนระอุเปิดกลีบปากที่แย้มเผยอ หญิงสาวเผลอไผลไปกับรสสัมผัสของเขาอย่างง่ายดาย
โดนัลด์ เลิฟ แทรกปลายลิ้นผ่านช่องปากที่หอมหวานดุจน้ำหวานเลิศรส ลิ้นเล็กถดถอยหนีจากการไล่ต้อนอันชำนาญของคนตัวใหญ่ ไม่นานนักเธอก็จนหนทางหนี จึงยอมพันเกี่ยวกับปลายลิ้นร้อนด้วยอาการไม่ประสาในเกมสวาทที่เขาเป็นผู้ปลุกปั่นทั้งกายและใจของเธอไปพร้อมๆ กัน