หญิงสาวกำมือแน่นด้วยความโกรธกับข้อหาใหม่ที่เขาเพิ่งยัดเยียดมาให้ เธอจะปล่อยข่าวทำลายชื่อเสียงตัวเองทำไมกัน
“แต่ฉันยืนยันได้ว่าเราไม่มีอะไรกันเกินเลยกว่านั้น แล้วใครจะบ้าปล่อยข่าวเอง”
“ก็แค่ลมปาก จะพ่นอะไรออกมาก็ได้ หมดเวลาอธิบายของเธอแล้วสาวน้อย ถ้าเธอมีเรื่องจะพูดเพียงแค่นี้ ฉันขอบอกว่าเหตุผลที่เธอพูดมาทั้งหมดเชื่อถือไม่ได้สักข้อ หวังว่าเราจะจากกันด้วยดีและไม่เจอกันอีก”
“ไม่นะ” หญิงสาวเผลอร้องออกมา
ชายหนุ่มหันกลับมามองปาจรีย์ หัวคิ้วเข้มยกขึ้นสูง ครางในลำคอเหมือนเป็นคำถาม “หืม!”
“เอ่อ...” หญิงสาวอึกอักพูดไม่ออกขึ้นมา
“ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วก็เชิญ และหวังว่าพรุ่งนี้เราคงไม่ได้เจอกันอีก” ชายหนุ่มออกปากไล่อีกครั้งพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียง แอลกอฮอล์ที่อยู่ในสายเลือดทำให้เขามีอาการมึนพอสมควร
สภาพคนบนเตียงที่หมิ่นเหม่ทำให้คนมองหน้าแดงอีกรอบ ท่อนบนของเขามีเพียงเสื้อคลุมที่ผูกเชือกหลวมๆ ในขณะที่ท่อนล่างมีเพียงบ็อกเซอร์ที่ทำให้คนมองจินตนาการไปไกล จากวัตถุบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงบ็อกเซอร์เนื้อบาง
หญิงสาวรีบสลัดความคิดเกินเลยของตัวเองออกจากสมอง หันกลับมาให้ความสนใจกับเรื่องที่เธอต้องการจะตกลงกับเขา
“ฉันจะต้องทำอย่างไรคุณถึงจะเชื่อ” หญิงสาวถามเสียงจริงจัง
“แล้วเธอคิดว่าอะไรจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอได้ล่ะ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่โดนกล่าวหาเป็นความจริง ไม่มีใครเชื่ออย่างเด็ดขาดว่าเธอจะอยู่ในห้องสองต่อสองกับอันโตนิโอโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะทุกคนรู้ว่าหมอนั่นเพลย์บอยดีๆ นี่เอง”
“แต่ฉันยืนยันได้ว่าสิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้ไม่ได้เกิดขึ้น”
“เรื่องแบบนี้มันพูดกันปากเปล่าไม่ได้หรอก” คนบนเตียงทอดสายตาหวานเชื่อมมองสรีระสะโอดสะองของหญิงสาวตรงหน้าอย่างหื่นกระหาย
สายตาของเขาทำให้ปาจรีย์หายใจติดขัด พยายามจะไม่เข้าใจความหมายที่เขาบอก แต่เขากลับตอกย้ำคำพูดด้วยแววตาคมเฉือนความรู้สึก แววตาที่ผู้หญิงทุกคนพร้อมละลายต่อหน้าของเขา
โดนัลด์ เลิฟ มองดวงตาคู่งามสั่นระริกราวแม่สมันเกรงภัย เขาขยับลุกขึ้นจากเตียงและเดินเข้ามาหาเธอ ใช้มือหนาเชยคางเธอขึ้นก่อนเลื่อนไปประคองแก้มอย่างนุ่มนวล รั้งใบหน้าของเธอให้สบตากับเขา
“เอ่อ...ฉันต้องออกไป” หญิงสาวบอกเสียงสั่น พยายามที่จะหันหลังเดินออกจากห้อง แต่เพราะมือหนารั้งตัวเธอเอาไว้ แรงอันน้อยนิดของเธอจึงไม่สามารถทำให้ร่างกายของตัวเองขยับเขยื้อนออกจากพื้นที่ตรงนั้นได้เลย
หญิงสาวเข้าใจความหมายที่ชายหนุ่มต้องการสื่อ แต่สมองของเธอกำลังพยายามคัดค้านความคิดนั้นอย่างหนัก ย้ำกับตัวเองว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ
“เธอยอมรับแล้วสินะ ว่า...หลังจากพรุ่งนี้ไปเธอจะพ้นสภาพการเป็นพนักงานของฉันอย่างสมบูรณ์” ชายหนุ่มเยาะ
“ไม่!” หญิงสาวตอบกลับเสียงเข้ม เชิดหน้ามองชายหนุ่มอย่างท้าทาย
เรียวปากอวบอิ่มเป็นกระจับ จมูกเชิดรั้นงอน และแววตาสั่นระริกกำลังเชิญชวนให้ริมฝีปากหนาของชายหนุ่มตรงหน้าขยับเข้ามาใกล้ สติที่มีอยู่ไม่เต็มร้อยของชายหนุ่มกำลังจะขาดสะบั้นลง จากสถิติที่ผ่านมาเขาไม่เคยอยู่กับผู้หญิงสองต่อสองได้เกินสิบนาทีโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มือหนาประคองสองแก้มของหญิงสาวให้เงยขึ้น พร้อมกับริมฝีปากหนาประกบบนกลีบปากบางอวบอิ่มนั้นอย่างไม่อาจห้ามใจเอาไว้ได้
ปาจรีย์เบิกตากว้างอย่างไม่ทันตั้งตัว มือเล็กของเธอพยายามดันตัวของเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผลสักนิด อกหนาของชายหนุ่มราวกำแพงสูงหนา ที่แม้จะใช้กำลังทั้งหมดก็ไม่สามารถทำให้เขาขยับเขยื้อนออกไปได้เลยแม้แต่น้อย
“หืม” เสียงของชายหนุ่มคำรามเล็ดลอดแนวกำแพงฟันออกมาอย่างย่ามใจ ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นเกิดจากแอลกอฮอล์ หรือความต้องการเบื้องลึกของร่างกายกันแน่
กลิ่นของหญิงสาวตรงหน้าแตกต่างจากที่เขาเคยสัมผัส ช่างหอมหวานรัญจวน ความไร้เดียงสากลับยิ่งกระตุ้นต่อมความรู้สึกของเขาให้เต้นปรี่มากกว่าเดิมหลายเท่า มือหนายังคงประกบสองแก้มเอาไว้แน่น ยึดตรึงไม่ให้เธอหันหน้าออกไปทางไหนได้อีก
ปาจรีย์หลับตารับจุมพิตในความเงียบราวกับต้องมนตร์ โดนัลด์ถอนใบหน้าออก มองตาเธออีกครั้ง มือหนายังคงประคองใบหน้างาม ก่อนที่จะกดริมฝีปากหนักลงบนเรียวปากนุ่มอีกครั้ง
คราวนี้ปากหนากดจูบ วงแขนลดจากประคองใบหน้าลงมาที่ไหล่มน เลื่อนไล้ไปที่แผ่นหลัง กระชับแน่นให้แนบชิดกับตัวเขา เพิ่มแรงกดจูบหนักขึ้น ดูดเม้มริมฝีปากบนล่างของอีกฝ่ายราวกับพยายามสอนให้เธอได้เรียนรู้ไปอีกขั้นจากรสจูบของเขา
หญิงสาวพยายามจินตนาการถึงรสสัมผัส กลิ่นลมหายใจกลิ่นไวน์ฟรุตตี้ กลิ่นของผลไม้ที่เธอคุ้นเคยรู้จักเป็นบางอย่าง อาจจะเป็นกลิ่นเชอร์รี่ ไม่สิ! เธอได้กลิ่นรมควันอ่อนๆ ด้วย แต่รสชาติของมันยังขมปร่าติดลิ้น เพราะเธอไม่คุ้นชินกับเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์เท่าใดนัก หากแต่ครั้งนี้เธอกลับพยายามนึกและจินตนาการตามถึงกลิ่นและรสสัมผัสที่เธอได้รับ
โดนัลด์สอดลิ้นเข้าไปภายในปากหวาน ปาจรีย์ยอมอ้าปากรับอย่างเผลอไผล ปลายลิ้นร้อนเคลื่อนตวัดหยอกเอิน ปล่อยปลายลิ้นนุ่มให้โลดเล่นไปกับเขา ก่อนรัดตัวของหญิงสาวแนบชิดตัวเขามากขึ้น กดปากหนักให้แนบแน่นรองรับการบดเบียดกับสภาวะอารมณ์ใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้นในกาย
ปาจรีย์หัวหมุนเป็นลูกข่าง ตั้งตัวไม่ทัน ทั้งสติและอารมณ์กระเจิดกระเจิง สองมือยกขึ้นแทรกระหว่างหน้าอก ออกแรงดันร่างใหญ่หนาออกอย่างแรง
หากแรงส่งกลับยิ่งเพิ่มแรงต้าน...เธอยิ่งดัน เขาก็ยิ่งรัดแน่น ปาจรีย์เปลี่ยนเป้าหมายไปที่ใบหน้าเข้ม เธอยกมือขึ้นดันใบหน้าของเขาออก หยุดริมฝีปากหนาที่กำลังซอกซอน
“ฉันจะไม่กลับมาอีก” ปาจรีย์บอกเสียงสั่น จ้องหน้าเขานิ่งเหมือนต้องการบอกว่าสิ่งที่เธอพูดออกมาเป็นความจริงทุกคำ เธอกำลังทำเพื่อจะหยุดทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
โดนัลด์ เลิฟ ยอมปล่อยมือทั้งที่เสียดายสุดชีวิต แต่เขาก็ไม่วายขู่เธอ
“เธอมีโอกาสแค่นี้ หากพ้นคืนนี้ไปจะไม่มีเหตุผลใดที่เธอจะยกขึ้นมาอ้างเพื่อขอทำงานต่อได้อีกเด็ดขาด ประกาศิตของฉันถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
หญิงสาวปรายตามองคนพูดสักครู่ แล้วรีบออกไปจากห้อง เสียงปิดประตูคือสิ่งที่เรียกสติหญิงสาวกลับมา ย้ำเตือนว่าร่างกายของเธอยังปลอดภัย แม้หัวใจจะสั่นไหวไปบ้างก็ตาม
“ฉันทำอะไรลงไป” ปาจรีย์ยกมือทาบอกรำพึงกับตัวเอง
หญิงสาวยืนหอบอยู่หน้าประตูห้องของชายหนุ่ม ชั่งตวงความคิดอย่างหนักหน่วง ถามตัวเองว่าเธอมาที่นี่เพราะอะไร แล้วเธอจะยอมกลับง่ายๆ โดยที่ไม่ได้อะไรเลยอย่างนั้นนะหรือ