บทนำ

1415 คำ
“Happy Birthday! Happy Birthday to you! Happy Birthday! Happy Birthday to you!”   เสียงเพลงHappy Birthday! ดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็กหญิงวัยสิบสองขวบเจ้าของงานวันเกิด    “อธิษฐานแล้วเป่าเทียนซิจ๊ะลูก”    ผู้เป็นแม่เอ่ยตามมาด้วยเสียงคะยันคะยอของพ่อซึ่งกำลังถือกล้องดิจิตอลรอเก็บรูปลูกสาวฝาแฝดทั้งสองเป่าเทียนวันเกิด     “เราเป่าเทียนวันเกิดพร้อมกันนะปีป”  ดาหลาหันไปบอกกาสะลองน้องสาวที่อายุอ่อนกว่าเธอ 3 นาที    “งั้นเราอธิษฐานพร้อมกันนะพี่ดาหลา”       กาสะสองหลับตาอธิษฐานเมื่อลืมตาขึ้นเห็นดาหลาลืมตาพร้อมกัน ทั้งสองพยักหน้าแล้วเป่าเทียนวันเกิดพร้อมกัน     “ได้เวลาอร่อยแล้ว” พ่อเอ่ยขึ้นแล้ว ส่งมีดพลาสติกที่ใช้ตัดเค้กวันเกิดให้แม่ แม่รับมาให้สองสาวน้อยช่วยกันตัดเค้กรูปหัวใจสีชมพู แต่เสียงกดกริ่งหน้าบ้านทำให้ แม่หันไปมองหน้าพ่อเล็กน้อย เด็กหญิงทั้งสองสนใจแต่เค้กสีสวยที่มีบ้านน้ำตาลหลังเล็กๆ ประดับอยู่จึงไม่ทันเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของพ่อกับแม่ “เดี๋ยวพ่อออกไปดูเอง”      พ่อเอ่ยขึ้นแล้ววางกล่องถ่ายภาพลงบนโต๊ะ             แม่ยิ้มเจือนๆ แล้วหันมายิ้มขืนๆ ให้ลูกสาว “เราจะแบ่งบ้านน้ำตาลนี่ยังไงล่ะ”  ดาหลาถามน้องสาว แต่กาสะลองส่ายหน้าไปมา “เก็บไว้ดีกว่า หนูชอบแบบนี้ไม่อยากตัดแบ่งเลย” “ตามใจนะลูก...แล้วอย่าไปแอบกินกันทีหลังล่ะ”     แม่หัวเราะเบาๆ แต่เสียงคนพูดคุยเสียงดังจากหน้าบ้าน  ทำให้นางต้องหันไปมอง “ใครมาคะแม่”    แฝดคนพี่ถาม “เพื่อนของพ่อมั้งจ๊ะ” “ให้เขามากินเค้กกับเราไหมคะ” แฝดคนน้องยิ้มร่าเริงตามประสาเด็กที่มีจิตใจอ่อนโยน แต่ยังไม่ทันที่เด็กหญิงเจ้าของวันเกิดจะพูดอะไรต่อ   ชายฉกรรจ์หลายคนก็เดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร    “นี่มันอะไรกัน!”   แม่ออกมายืนขวางเพื่อปกป้องลูก ดาหลาจับมือกาสะลองแน่นทั้งที่เธอก็หวาดกลัว             “แหม! อย่ามาทำหน้าดุซิเจ๊” ชายร่างใหญ่ยักษ์คนหนึ่งเอ่ยขึ้นแล้วผิวปากเมื่อเห็นเค้กสีหวานตรงหน้า “คนกันเองไม่เห็นต้องทำหน้าเครียดเลย”     “คุณคะ! นี่มันเรื่องอะไรกัน!!!”      แม่ตะโกนถามพ่อเสียงสั่นแต่ก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นชายฉกรรจ์ 2 คนหิ้วแขนพ่อคนละข้างเข้ามาในบ้านด้วยสภาพสะบักสะบอม     “พ่อ!”    เด็กหญิงสองคนร้องออกมาพร้อมกัน แล้วแฝดคนพี่ก็ทำตาเบิกกว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มอีกคนก้าวเข้ามา  เขาดูมีอายุน้อยกว่าทุกคน รูปร่างบอบบางกว่าและสวมเสื้อสูทหรูหรากว่าคนอื่นๆ แต่ใบหน้าที่นิ่งเรียบยากจะเดาอารมณ์ได้นั้น  ทำให้แฝดคนน้องหวาดกลัวจนหลบไปอยู่หลังพี่สาวที่เกิดก่อนเธอ 3 นาที      “อย่า...อย่าทำอะไรลูกกับเมียฉัน”  พ่อพูดแล้วสำลักน้ำลายปนเลือด “ลูกกับเมียฉันไม่เกี่ยว”   “ผัวเมียก็เหมือนคนๆ เดียวกันนั้นแหละ” ชายร่างใหญ่อีกคนพูดขึ้นทำหน้าเบื่อหน่าย “เป็นหนี้ก็ช่วยๆ กันใช้ซิ”     “หนี้! หนี้อะไรคะคุณ!!!”  แม่ถามอย่างกังวล   “มันไม่ใช่เรื่องของคุณ!”   พ่อตอบกลับผสมกับความโกรธไม่คิดว่าจะถูกตามทวงหนี้ถึงที่บ้านแบบนี้     ชายร่างใหญ่ส่ายหน้าไปมาแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มครีมบนหน้าเค้กก่อนยกมาดูดชิมความหวานโดยไม่สนใจว่าเจ้าของเค้กวันเกิดจะรู้สึกอย่างไร   “ก็คุณพ่อที่แสนดีไปเป็นหนี้ที่บ่อนไว้...ถึงเวลาเราก็ต้องมาทวงทั้งต้นและดอกซิจ๊ะ”   “บ่อน?” เด็กหญิงสองคนหันไปมองหน้ากันอย่างงุนงง “บ่อนคืออะไรคะแม่”  แต่คนเป็นแม่ถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงไปนั่งกับพื้น           “ก็บอกแล้วไงว่าลูกเมียฉันไม่เกี่ยว!” พูดจบประโยคพ่อก็ถูกเท้าใหญ่กระทืบลงไปอีกหลายทีจนแม่หวีดร้องด้วยความตกใจ    “อย่าทำอะไรพวกเราเลยนะ อยากได้อะไรเอาไปให้หมด แต่อย่าทำอะไรพวกเราเลย”  แม่คลานเข้าไปกอดขาชายคคนนั้นไม่ให้กระทืบพ่ออีก   “ถ้าหาเงินมาใช้หนี้ก็ไม่มีใครต้องเจ็บตัวหรอก” ชายร่างยักษ์คนเดิมเอ่ย  พยักหน้าให้ลูกน้องไปรื้อค้นข้าวของ ชิ้นไหนมีค่าก็ถูกยกเอาไป      ชายร่างใหญ่อ้าปากหาวเบื่อหน่าย สั่งให้ลูกน้องรื้อค้นข้าวของละพังทำลายทุกอย่างในบ้าน     สายตาของเขามองเห็นกล่องของขวัญน่ารักๆ บนโต๊ะ ชายคนเดิมเดินไปหยิบขึ้นมาเขย่าๆ แนบหูฟังเสียงข้างใน   “อย่านะ! นั้นของลูกสาวฉัน!” แม่ผวามาคว้ากล่องของขวัญที่ลูกสาวยังไม่เปิด แต่แล้วก็ถูกหลังมือฟาดใส่ซีกหน้าอย่างแรงจนกระเด็นเลือดสีเข้มไหลจากมุมปากสวยของแม่ทันที    มือใหญ่ฉีกกระดาษห่อของขวัญออกท่ามกลางสายตาของเด็กหญิงทั้งสองที่ได้แต่เบิกตากว้างอย่างตกใจ  แล้วสิ่งที่อยู่ด้านในก็คือตุ๊กตากล่องดนตรี  ชายร่างยักษ์ถอนหายใจแบบเซ็งๆ แล้วโยนขึ้นในอากาศแล้วรับ    “หยุดนะ! เจ้ายักษ์บ้า!”    ดาหลาพุ่งเข้าใส่แล้วคว้าแขนข้างหนึ่งที่ทิ้งอยู่ข้างลำตัวของมันมากัดอย่างแรง    “โอ๊ย! ไอ้เด็กเวรนี่!” ชายร่างใหญ่ร้องเสียงหลงสะบัดแขนตัวเองอย่างแรงจนเด็กหญิงกระเด็นไปกองบนพื้น เธอเงยหน้าขึ้นเห็นชายหนุ่มอายุน้อยก้มมองเธอด้วยสายตาที่เธอไม่อาจรู้ได้ว่าคิดอะไรอยู่  “ห้ามพวกเขาซิ! อย่าให้ทำอะไรเรา” ดาหลาเข้าไปเขย่าแขนชายหนุ่มคนนั้น “ฉันมีเงินนะ! ฉันจ้างนายให้หยุดพวกมัน!”         ดาหลาล้วงมือไปหยิบเศษสตางค์จากในกระเป๋ากระโปรงแล้วยื่นออกมา มีเงินเป็นเหรียญอยู่ราวๆ ยี่สิบบาท สิ่งที่เธอทำสร้างเสียงหัวเราะให้กับชายฉกรรจ์เหล่านั้น   กาสะลองรวบรวมความกล้าวิ่งเข้าไปขวางไม่ให้คนตัวใหญ่ยักษ์ทำร้ายพี่สาวของตัวเอง “อย่าทำอะไรพี่ฉันนะ!”    “นังเด็กนี่ใจถึงยิ่งกว่าพ่อแม่มันอีก”     ชายหนุ่มอ่อนเยาว์ถอนหายใจเบาๆ แล้วแกะมือเล็กๆ ที่จับแขนของเขาอยู่ออกอย่างง่ายดาย เขาพยักหน้าให้ชายร่างใหญ่ที่อยู่ใต้คำสั่งของเขาแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ  ชายฉกรรจ์ที่เหลือจึงหยุดทำลายข้าวของในบ้านแล้วค่อยๆ เดินออกไป  ไม่มีใครพูดอะไรกับครอบครัว“กมลภพ” สักคำ   “พ่อ! แม่!” ดาหลากับกาสะลองถลาเข้าไปหาพ่อกับแม่ที่เจ็บตัวด้วยกันทั้งคู่แม่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ร้องไห้ แล้วสั่งให้ลูกๆ เข้าห้องนอนของตัวเอง   “แต่ว่า” ดาหลาอิดออด   “ไปซิ! ลูกกล้าดื้อกับแม่แล้วเหรอ”    แม่ดุเสียงสั่นทำให้ดาหลาสะดุ้ง “หนูเป็นคนเข้มแข็งต้องดูแลน้องนะ  ลูกก็ด้วย มีกันแค่นี้ต้องคอยดูแลกันและกันนะ” กาสะลองพยักหน้าเข้าใจ ดึงมือพี่สาวเข้ามาในห้องนอน สองเด็กหญิงสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพ่อแม่ทะเลาะกัน เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้ยินเสียงแบบนี้ ตลอดเวลา 12 ปี เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เจออะไรเลวร้ายเช่นนี้มาก่อน    “พี่ดาหลาเมื่อกี้มันอะไรกัน ฝันร้ายใช่ไหม”   กาสะลองกอดพี่ สาวฝาแฝดแน่น ด้วยความกังวลและหวาดกลัว    “ใช่...เราคงแค่ฝันร้าย พรุ่งนี้ตื่นมาทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”  ดาหลากอดน้องสาวตอบ        เปรี้ยง! เปรี้ยง! ทั้งสองก็สะดุ้งสุด  เสียงดัง 2 ครั้งติดๆ กัน ทั้งคู่กอดกันแน่นตัวสั่นราวกับลูกนกตัวน้อย              “พี่ดาหลา!”  กาสะลองกอดพี่สาวแน่น ความหวาดกลัวแล่นสู่หัวใจ “เสียงอะไร เราฝันร้ายใช่ไหม เราแค่ฝันใช่ไหม!”    ดาหลากอดน้องสาวแน่น ความรู้สึกของเธอไม่ต่างจากกาสะลองเลยสักนิด  “ใช่! มันก็แค่ฝันพรุ่งนี้ตื่นมาทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”.       
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม