บทที่5. แปลก?

1213 คำ
กาสะลองยิ้มให้พี่ชายอย่างให้กำลังใจ แต่แล้วเธอก็หาวออกมาจนน้ำตาไหล ลวิตรหัวเราะออกมาแล้วดีดนิ้วใส่หน้าผากน้องสาว “ทำเหมือนพวกเที่ยวกลางคืนอดนอนงั้นแหนะ” “นั้นนะซิค่ะ” กาสะลองทำหน้าหม่น “ทั้งที่ไม่ได้ออกไปไหนแต่ทำตื่นมาทีไหร่เพลียทุกทีเลย” ลวิตรชักสีหน้าแต่พยายามยิ้มกลบเกลือน “เป็นนานหรือยังละ” “มันก็เป็นบ่อยแหละค่ะ แต่แค่ช่วงนี้เหมือนจะเพลียมากเป็นพิเศษ” “ไปหาหมอไหม” เขาถามทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ “ไม่เอาหรอก” กาสะลองส่ายหน้าไปมา “พี่ลวิตรก็รู้ว่าปีปกลัวหมอ” ลวิตรหัวเราะออกมา โยกศีรษะของกาสะลองเล่นเหมือนที่ครั้ง ยังเป็นเด็ก ครู่หนึ่งก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา เด็กสาวร่างเล็กตัดผมสั้นน่ารักโผล่หน้าเข้ามาด้วยท่าทางเขินๆ “พี่กาสะลองอยู่ไหมคะ” “พี่เองค่ะ”กาสะลองยิ้มรับแล้วก็ทำหน้าตื่นเต้น “น้องฟ้าใสหรือเปล่าคะ” “ใช่ค่ะ” หญิงสาวก้าวเข้ามายืนเต็มตัว “หนูชื่อฟ้าใสค่ะ คุณแม่เพ็ญนภาให้หนูมาทำงานกับพี่กาสะลอง” ลวิตรทำหน้าเหลอหลาแล้วมองน้องสาว กาสะลองเดินไปจับมือเด็กสาวแล้วพามายืนหน้าลวิตร “คุณแม่เพ็ญนภาที่บ้านละอองฝัน ฝากให้ปีปช่วยดูแลน้องฟ้าใสค่ะ น้องฟ้าใสได้ทุนมาเรียนที่กรุงเทพฯ แล้วขอมาทำงานพิเศษที่ร้านของเรา พี่ลวิตรคงไม่ว่าอะไรนะคะ” “แม่รู้แล้วใช่ไหม” ลวิตรเอ่ยถาม เมื่อเห็นน้องสาวพยักหน้าก็ถอนหายใจเบาๆ “ถ้าแม่รู้แล้วพี่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก” “อ้อ! นี่พี่ลวิตรพี่ชายของพี่จ๊ะ” กาสะลองแนะนำอย่างเพิ่งนึกได้ “หนูฟ้าใสค่ะขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ร้านของพี่ปีปอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่ฟ้าใสเรียนอยู่ ฟ้าเลยมาขอทำงานพิเศษช่วงวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ” “ทำงานด้วยเรียนด้วยจะไหวเหรอ” ลวิตรเอ่ยถามด้วยสีหน้าเย็นชา “ไหวซิค่ะ เด็กกำพร้าอย่างพวกเราถูกสอนมาให้สู้ชีวิตอยู่แล้ว”ฟ้าใสยิ้มกว้าง “มาค่ะ มีอะไรให้ฟ้าใสทำบ้าง” “ช่วยพี่ที่หน้าร้านก็แล้วกันนะ แต่เช้านี้แม่เพลินตาไม่อยู่จ๊ะ แต่บ่ายๆ ก็คงกลับแล้วละ” “ได้เลยค่ะ ใช้งานฟ้าใสเต็มที่ไม่ต้องเกรงใจเลยค่ะ” ฟ้าใสกุลีกุจอช่วยกาสะลองเช็ดโต๊ะในร้าน กาสะลองยิ้มดีใจที่ได้ช่วยคนที่คล้ายๆ กับเธอ แต่ลวิตรกลับมองแล้วไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก เขารู้สึกว่าในแววตาของเด็กฟ้าใสไม่ได้ใสซื่อ เหมือนเห็นเมฆหมอกของปัญหาขึ้นมาลางๆ “เดี๋ยวปีปไปดูขนมในเตาก่อนนะคะ” กาสะลองเอ่ยบอกแล้วหมุนตัวเดินเข้าไปในครัว แต่เธอกลับหน้ามืดขึ้นมา โชคดีที่ลวิตรเข้าไปประคองได้ทัน “ปีป! เป็นอะไรหรือเปล่า!” หญิงสาวหลับตาไปครู่หนึ่งก่อนค่อยๆ ลืมตาขึ้น แต่สายตาที่จ้องมองลวิตรนั้น ไม่ใช่แววตาอ่อนโยนของกาสะลอง แม้ว่าคนที่อยู่ในอ้อมแขนของลวิตรคือกาสะลอง หญิงสาวยิ้มที่มุมปากแล้วยกแขนคล้องคอของเขาแล้วกระซิบเบาๆ ที่ริมหู “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจะดูแลปีปเองพี่ลวิตร” ลวิตรสะดุ้งเฮือก ผลักกาสะลองออกอย่างแรงด้วยความตกใจฟ้าใสอ้าปากค้าง แล้วรีบเข้าไปประคองกาสะลองทันที “เป็นอะไรหรือเปล่าคะพี่ปีป” กาสะลองสะดุ้ง มองหน้าฟ้าใสสลับกับลวิตรไปมาแล้วยกมือขึ้นกุมขมับ “ปีปเป็นอะไรไปเหรอคะ” “พี่ปีปหน้ามืดไปค่ะ” ฟ้าใสรีบตอบ ลวิตรรีบเข้าไปประคองกาสะลองให้ลุกขึ้น “โทษทีพี่ตกใจไปหน่อย…ไปนั่งพักก่อนเถอะ” “ไม่เป็นไรค่ะ ปีปหายดีแล้ว” กาสะลองยิ้มแหย “ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะ” ลวิตรมองกาสะลองที่หันไปคุยกับฟ้าใสด้วยท่าทีปกติไม่เหมือนเมื่อครู่ เขาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วง ความลับ...มันจะยังเป็นความลับได้อีกนานแค่ไหนนะ ............................. หญิงสาวในชุดกระโปรงแซคสีชมพูประดับลูกไม้ที่ชายกระโปรงเพิ่มความอ่อนหวานให้ผู้สวมใส่ กำลังก้าวเข้ามาในร้านอาหารเล็กๆ แต่มีสไตล์ด้วยใบหน้าฉาบรอยยิ้ม  ชายหนุ่มสองคนที่นั่งรออยู่แล้วเหลือบมาเห็น ชายคนหนึ่งยกมือเรียกทันที  “ทางนี้ดาว”   “ดาวเห็นแล้วค่ะพี่ตุลย์”  ‘ดุจดารา’ หรือ ‘ดาว’ หัวเราะน้อยๆ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ที่ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ ‘ตุลย์’ เลื่อนให้เธอ “สวัสดีค่ะพี่อคินไม่เจอกันสองปีแล้วนะคะ”    อคินพยักหน้ารับแล้วยิ้มให้ “แต่สำหรับคนทีไปเรียนปริญญาโทที่อังกฤษใช้เวลาแค่สองปีนี่น่าจะเรียกว่าเร็วนะครับ” “เดี๋ยวๆ นี่เห็นหน้าพี่มั้งไหมเนี้ย สนใจพี่ตุลย์คนนี้หน่อย” ชายหนุ่มผมสั้นเกรียน ใบหน้ามีแววทะเล้นอยู่เป็นนิจเอ่ยขึ้นแต่แสร้งทำเป็นน้อยใจ “ก็ดาวเห็นพี่ตุลย์มาตั้งแต่เด็ก เบื่อหน้าจะแย่อยู่แล้ว”  ดุจดาราหัวเราะคิกคัก แล้วหันไปยิ้มหวานให้อคิน   “เออจำไว้! เห็นคนอื่นสำคัญกว่าพี่ชายตัวเอง”         ตุลย์ทำหน้างอนๆ แต่ใจจริงเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก   ระหว่างเขากับดุจดาราเป็นพี่น้องที่อายุห่างกันถึง 11 ปี  ดุจดาราอายุครบ25ในปีนี้เพิ่งเรียนจบปริญญาโทการบริหารจากอังกฤษ  แถมมีหนุ่มๆ มาตามจีบเยอะจนพ่อกับแม่ต้องให้เขาคอยดูแลน้องสาวดีๆ   “ได้ยินว่าน้องดาวจะไปทำงานที่โรงแรม เลอ บัวใช่ไหมครับ” อคินชวนคุยเรื่องอื่น  เรียกบริกรมารับรายการอาหาร   “ข่าวไปเร็วจังนะคะ” ดุจดาราหัวเราะร่วน “สมกับที่เป็นผู้บริหารธนาคารนฤปนาถจริงๆ”    “อะไรนะ! จะไปทำงานที่ไหน!ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”         คราวนี้ตุลย์ทำหน้างงจริงๆ  “พี่ตุลย์มีเวลาสนใจเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการไล่จับผู้ร้ายด้วยเหรอคะ” ดุจดาราอดแขวะพี่ชายตัวเองไม่ได้ “แบบนี้ไงเล่าถึงยังหาแฟนไม่ได้สักทีอายุก็สามสิบหกเข้าไปแล้ว”   “ถ้าพูดแบบนี้ก็เท่ากับว่าไอ้อคินด้วยนะ มันก็ยังไม่มีแฟน”   ตุลย์พยักเพยิดไปทางเพื่อนสนิท เขารู้จักตั้งแต่เรียนมัธยมต้นแล้ว          “ไม่เหมือนกันนี่ พี่อคินเขามีสาวๆ มารุมจีบตั้งเยอะ แต่พี่ตุลย์มีแต่สาวๆ วิ่งหนี” ดุจดาราหันไปยิ้มอายๆ ให้อคิน-ชายหนุ่มที่เธอแอบปลื้มอยู่     เธออาศัยความที่เป็นน้องสาวของตุลย์ ทำให้พลอยสนิทสนมกับอคินไปด้วย  “หล่อเลือกได้อย่างพี่ไม่แคร์หรอก” ตุลย์ยังเถียงต่อแม้ว่าอาหารจะยกมาเสริฟ์แล้ว 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม