“เจนค่ะ เจนค่ะ
หนูชื่อเจน มากับนุ่น และก็มากับโบว์
นุ่นค่ะ นุ่นค่ะ
หนูชื่อนุ่น มากับเจน และก็มากับโบว์
โบว์ค่ะ โบว์ค่ะ
หนูชื่อโบว์ มากับนุ่น และก็มากับเจน
ลัลลั้ลลา ลัลลัลลั้ลลา มาม้ามา ม้ามา มาออกมาเต้น
ลัลลั้ลลา ลัลลัลลั้ลลา มาม้ามา ม้ามา มาออกมาเต้น”[1]
วราลีเม้มริมฝีปากแน่น แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกเรียกสมาธิทำงานกลับมา แต่นิ้วเรียวที่กำลังพิมพ์ตัวเลขเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บค่าส่วนกลางของหมู่บ้านลงบนแป้นแล็ปท็อปกลับกลายเป็นคำว่า ‘เจนค่ะ’
“โอ๊ย แม่ไม่ไหวแล้วนะคะขนมชั้น แม่ฟังเจน นุ่น โบว์ รอบที่ร้อยแล้วมั้ง” วราลีลุกพรวดจากโต๊ะทำงาน แล้วปรายตามองไปทางเด็กหญิงร่างกลมที่ยังไม่ได้ยินน้ำเสียงกึ่งดุกึ่งขำของคนที่กำลังเดินตรงมา
“เจนค่ะ หนูชื่อเจน...” ขนมชั้นยังทั้งร้องทั้งเต้นอย่างสนุกสนาน ทว่าเสียงผิดคีย์ที่ดังอยู่นั้นแตกต่างจากต้นฉบับมากมาย ที่ทำได้ดีคือท่าเต้นที่พลิ้วไหวขัดกับรูปร่างอวบกลม และใบหน้าอิ่มน่าเอ็นดูนัก
‘หมู่บ้านธารรินวิลล์’ เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่กว่าหนึ่งพันหลังคาเรือน ประกอบไปด้วยโซนทาวน์โฮมหรู และบ้านเดี่ยว ที่แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้างสรรพสินค้า สนามบิน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย วราลีมีเหตุให้ต้องลาออกจากงาน แล้วได้ ‘ธีระ’ ประธานหนุ่มตัวแทนของหมู่บ้านชวนมาทำงานในสำนักงานส่วนกลาง
ภายในออฟฟิศน็อกดาวน์ขนาดห้าสิบคูณสิบสามเมตร เวลาปกติจะมีเพียงวราลีทำงานอยู่คนเดียว ส่วนเวลาหลังเลิกงาน ธีระและสิตา ประธานและรองประธานของหมู่บ้าน รวมถึงกรรมการของหมู่บ้านคนอื่นๆ จะแวะเวียนเข้ามาเป็นบางครั้ง แต่เวลานี้ หนูน้อยขนมชั้น ลูกสาววัยหกขวบของเธออยู่ในช่วงปิดเทอม วราลีจึงต้องพาแม่หนูน้อยมาอยู่ที่ออฟฟิศด้วย แล้วกันพื้นที่ส่วนหนึ่งให้ขนมชั้นอ่านหนังสือ วาดภาพ หรือเล่นของเล่นเสริมพัฒนาการ
ทว่า ‘ขนมชั้น’ หรือ เด็กหญิงหรรษา ภัทรปรีดากุล ไม่ชอบเล่นตัวต่อ และก็เบื่อวาดภาพแล้ว เพราะหลังจากวาดภาพตามจินตนาการหมดกระดาษไปสิบกว่าแผ่น เด็กหญิงก็ละทิ้งทุกอย่างขึ้นมาร้องเพลงสุดฮิตหนึ่งในไวรัลที่เด็กๆ ในหมู่บ้านพากันร้องได้ทุกคน
“ขนมชั้น ตอนนี้สมองแม่กำลังเต้นตุบๆ ตามเพลงของหนูไปแล้ว”
ร่างเพรียวระหงในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีม กางเกงสีสุภาพเดินมาหยุดมองลูกสาวที่ยังเต้นอย่างเมามันราวกับเมานมเปรี้ยวที่ดื่มเข้าไปสองขวดรวด
ปลายนิ้วชี้ของวราลีเลื่อนไปสัมผัสปิดเสียงเพลงจากโทรศัพท์มือถือ หนูน้อยขนมชั้นในชุดเดรสสีเขียวเป็นชั้นๆ สมชื่อขนมชั้นหันมามองหน้าแม่แล้วทำหน้าตกใจ
“แม่ลีขา ปิดเพลงของขนมชั้นทำไมคะ”
เสียงเพลงที่ดังมาจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของวราลีหยุดลง ซึ่งเธอเอาไว้ใช้เปิดสื่อการเรียนการสอนจากยูทูบให้ลูกสาวดูเป็นบางครั้งบางคราว แต่ด้วยความหัวไวของเด็กยุคนี้ แค่เธอลืมวางไว้ เด็กหญิงก็แอบหยิบขึ้นมาจิ้มๆ เลื่อนๆ หาคลิปวิดีโอเพลงสุดฮิต แล้วเปิดดูพร้อมกับโยกย้ายส่ายสะโพกกลมๆ ตามได้อย่างไม่ผิดสเต็ป
“เพลงของขนมชั้นมันดัง ทำให้แม่ลีคีย์ยอดค่าส่วนกลางผิดๆ ถูกๆ ไงคะ ตอนนี้สมองแม่มันเต้นตุบๆ ไปหมดแล้วค่ะ”
“ขนมชั้นร้องดีจนสมองแม่อยากออกมาเต้นเลยเหรอคะ”
วราลีมองหน้ายัยตัวกลมที่เห็นทีไรก็ราวกับมีหน้าใครบางคนทับซ้อนขึ้นมา “ไม่ใช่ค่ะ หมายถึงแม่ลีปวดหัวค่ะ”
เด็กหญิงพยักหน้าเศร้าอย่างเข้าใจคนเป็นแม่ “ขนมชั้นขอโทษค่ะ”
วราลีเห็นสายตาไร้เดียงสาของลูกสาวก็เกิดความรู้สึกใจอ่อนยวบ รู้ว่าลูกเหงาเพราะช่วงนี้ปิดเทอม สัญชาตญาณความเป็นแม่ทำให้เธอทรุดกายลงแล้วจับมือป้อมๆ ของลูกสาว
“เหงาเหรอคะขนมชั้น”
เนื่องจากเป็นช่วงสิ้นเดือนที่เธอเพิ่งจะเก็บค่าส่วนกลางลูกบ้าน วราลีต้องทำรายงานสรุปยอด และเช็กว่ายังไม่ได้เก็บค่าส่วนกลางบ้านหลังไหนบ้าง จึงไม่ค่อยมีเวลาเล่นกับขนมชั้น
“งั้นเอาแบบนี้ แม่ลีอนุญาตให้ไปขี่จักรยานรอบสวนได้ แต่ห้ามไปไกลนะคะ”
คนหน้าม่อยที่กำลังก้มหน้างุดๆ เมื่อครู่นี้เงยหน้าขึ้นมาทันที พร้อมยิ้มแก้มปริ
“โอเคค่ะ แม่ลี”
แม่ตัวแสบจอมเจ้าเล่ห์คิดอยู่ในหัวไว้แล้ว ถ้าเธอร้องเพลงเต้นแรงๆ สักพัก แม่ลีจะทำงานไม่ได้ แล้วต้องบอกให้ไปขี่จักรยานแทน เพราะที่จริงแล้วเธออยากขี่จักรยานเล่นรอบสวนร่มรื่นนี้มากกว่าทนอยู่ในออฟฟิศน็อกดาวน์นี้ แต่แม่ลีมักไม่ปล่อยให้ออกไปขี่จักรยานเล่นตามลำพัง
“ห้ามไปไกล ห้ามออกจากบริเวณสวนนะคะขนมชั้น เข้าใจที่แม่พูดไหม”
“รับทราบค่ะแม่ลี” น้ำเสียงสดใส ดวงตาบริสุทธิ์ไร้เดียงสาวาบขึ้นอย่างแอบมีแผนการ
ร่างอ้วนกลมที่ขี่จักรยานคันเล็กของเธอเก่งแล้วหันหลัง และแทบจะพุ่งตัวไปที่ประตูทางเข้าออกของออฟฟิศ วราลีมองตาม ที่ยอมอนุญาตให้เด็กหญิงออกไปได้เพราะข้างโต๊ะทำงานของเธอเป็นส่วนของแผงควบคุมกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน เธอจะเห็นว่าขนมชั้นเล่นอยู่ตรงไหน
“อย่าดื้อนะคะ”
ไม่มีเสียงตอบรับ เพราะเมื่อยัยตัวกลมหน้าใสกิ๊กกระโจนออกไปจากประตูได้ก็เหมือนจะติดปีกบิน รีบตรงไปยังที่จอดจักรยานคันสีชมพูลายคิตตี้ ไม่ลืมหยิบหมวกกันน็อกที่แม่ซื้อให้มาสวม ก่อนจะรีบขี่จักรยานออกตัวไปอย่างมีจุดหมาย
เมื่อวานเย็นที่ตามแม่ไปเก็บค่าส่วนกลาง แม่หนูตาดีเห็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านนี้ และอยู่ไม่ห่างจากบริเวณสวนสาธารณะมากนัก มีต้นชมพู่ที่ออกลูกสีแดงดกเต็มต้น และกิ่งของมันยังยื่นออกมานอกรั้ว
ขนมชั้นเคยถามแม่ว่าบ้านใคร แม่ตอบสั้นๆ ว่าบ้านเศรษฐี แต่เขาไปอยู่เมืองนอกหลายปีแล้ว
แม่ตัวแสบยิ้มกริ่ม เธอสงสารน้องชมพู่ที่ไม่มีใครเด็ด น้องชมพู่คงจะเหงา เมื่อเช้าเธอพกถุงพลาสติกใบใหญ่ใส่กระเป๋ากระโปรงมาด้วยโดยที่แม่ไม่เห็น อยากเชิญชวนน้องชมพู่ผลแดงๆ มารวมกลุ่มกันอยู่ในนั้นเอามากๆ จะได้หายเหงา
“น้องชมพู่ รอขนมชั้นเดี๋ยวเดียวนะ ขนมชั้นจะไปเก็บชมพู่มาเล่นด้วย”
[1] เพลง ซูเปอร์วาเลนไทน์ ศิลปิน ซูเปอร์วาเลนไทน์