“ค่ะ” ม่านพิรุณบอกเสียงเบาแทบเป็นกระซิบ
วาทินขึงตาจนแทบถลนออกมา เขาร้อนใจจนแทบเป็นบ้า ขณะที่กนกพรร้อนตัวเพราะว่าถ้าหากปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อไปอีก ดีไม่ดีเธอต้องโดนหางเลขไปด้วย หญิงสาวตรงหน้าดูท่าทางเอาเรื่องไม่เบา
“พี่ทิน ฉันว่าเราไปก่อนดีกว่า”
“ไม่ได้ ไม่งั้นเสี่ยเทพได้เอากูตาย”
“งั้นพี่ก็อยู่ให้ตำรวจมาลากตัวพี่ไปเถอะ นังนี่มันดูไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ ด้วย ฉันไปก่อนดีกว่า” กนกพรรีบหมุนตัวหนีเอาตัวรอด เพราะหนี้ก้อนนั้นไม่ได้เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด ที่ช่วยก็เพราะหวังเงินส่วนต่างที่เหลือเล็กๆ น้อยๆ จากการขายม่านพิรุณให้ทัดเทพ แต่ดูจากสถานการณ์แล้วเธอกลัวว่าจะได้ไปกินข้าวแดงในคุกเสียมากกว่า
“อีพรมึงทิ้งกูเหรอ” วาทินคำราม โกรธจัดเมื่อเห็นว่ากนกพรวิ่งหนีไปไกลแล้ว
วาทินหันกลับมามองทางลูกสาวด้วยท่าทางฮึดฮัด เมื่อเห็นเรื่องราวไม่เป็นอย่างที่คิดและท่าทางกางปีกปกป้องราวกับจงอางหวงไข่ของแสนรักทำให้วาทินกำหมัดแน่น เห็นวิดีโอที่อีกฝ่ายอัดคลิปไว้ตลอดจำต้องยอมปล่อยลูกสาวไป
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” เขาเดินกลับไปขึ้นรถอีกครั้งอย่างหัวเสีย พลางคิดหาหนทางหลบหนีก่อนที่เสี่ยทัดเทพจะส่งลูกน้องมาตามล่า
“อิ๊งค์ ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วนี่ไหวไหม ฉันจะพาไปหาหมอก่อน” แสนรักมองจนแน่ใจว่าวาทินขึ้นรถไปแล้วจึงเก็บโทรศัพท์แล้วหันมาถาม ยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นร่างบอบบางของม่านพิรุณเหมือนจะทรงตัวไม่อยู่ ดวงตาที่เคยสุกสกาวตอนนี้อ่อนแสงจนดูเหมือนจะปิดลงได้ทุกเวลา
“อิ๊งค์ถูกวางยานอนหลับค่ะ”
“ทำกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย คุณวาทินคิดจะทำอะไรกับอิ๊งค์กันแน่”
ม่านพิรุณส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง ทั้งมึนหัวและเสียใจ แสนรักเลยไม่ถามอะไรต่อ เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือต้องพาม่านพิรุณไปส่งโรงพยาบาลก่อน ไม่รู้ว่านอกจากถูกวางยานอนหลับแล้วยังมีตัวยาอื่นผสมไปด้วยหรือเปล่า
แสนรักประคองร่างบอบบางไปที่รถอย่างทุลักทุเล เมื่อขึ้นรถได้ก็รีบขับตรงไปที่โรงพยาบาลอีลิท เธอมองไปยังสาวน้อยที่นั่งข้างๆ ตอนนี้ม่านพิรุณเอียงหัวพิงพนักหลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว สงสัยจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา แสนรักมองอย่างเป็นห่วง ขอให้เป็นแค่ยานอนหลับเถอะ ยิ่งมองก็ยิ่งเป็นห่วงจึงรีบบึ่งรถไปให้ถึงที่หมายโดยเร็วยิ่งขึ้น
แสนรักรู้อยู่แล้วว่าพี่ชายติดเคสผ่าตัดด่วนจึงไม่ได้โทร.ไปรบกวน เมื่อมาถึงโรงพยาบาลจึงรีบพาตัวคนหมดสติไปที่แผนกฉุกเฉินทันที เมื่อถึงมือนายแพทย์แล้วแสนรักก็นั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องเพื่อรอคอยคำตอบ ไม่ยอมจากไปไหน
คุณหมอใช้เวลาอยู่ในห้องตรวจราวสิบห้านาทีก็เดินออกมา “คุณแสนรักครับ คนไข้ไม่เป็นอะไรมาก ผมตรวจอย่างละเอียดแล้วน่าจะหมดสติเพราะยานอนหลับที่กินเข้าไป”
“ไม่เป็นอะไร แสนก็เบาใจแล้วค่ะ แล้วตอนนี้แสนเข้าไปเยี่ยมได้ไหมคะ”
“คนไข้ยังอ่อนเพลียอยู่ หมอเลยจะให้แอดมิดที่โรงพยาบาลหนึ่งคืน เพื่อดูอาการ ยังไงคุณแสนค่อยขึ้นไปเยี่ยมที่ห้องพักผู้ป่วยตอนนั้นก็ได้ครับ”
แสนรักยกมือขึ้นไหว้คุณหมอทันที “ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ”
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีก แสนรักจึงส่งไลน์ไปบอกพี่ชายไว้ว่าม่านพิรุณถูกวางยานอนหลับ พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีลิท เดี๋ยวหมายเลขห้องอะไรนั้นเธอจะไลน์ไปบอกอีกที ตอนที่เงยหน้าขึ้น รถเข็นคนป่วยก็เข็นผ่านหน้าแสนรักไปพอดี
ร่างบอบบางของม่านพิรุณหลับใหลไม่ได้สติอยู่บนนั้น แสนรักเดินตามไปกระทั่งถึงห้องพักคนป่วย มองดูพยาบาลจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จนเรียบร้อยแล้ว จึงเดินไปดูคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่สะใภ้ของตัวเอง
ม่านพิรุณสวยน่ารัก นิสัยดี อายุน้อยกว่าเธอรอบหนึ่ง เธอทั้งรักและเอ็นดูอีกฝ่ายเหมือนน้องสาว แต่โชคชะตาก็เล่นตลกให้ม่านพิรุณต้องกลายมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอ แว่บหนึ่งแสนรักสงสัยว่าพี่ชายทำแบบนี้ทำไม การจดทะเบียนสมรสนั้นเป็นเรื่องใหญ่ไม่น่าจะลงทุนเอาชื่อเสียงของตัวเองมาพัวพัน จะว่าอยากช่วยคนจนไม่คิดหน้าคิดหลังเธอก็ไม่สามารถทำความเข้าใจตามได้จริงๆ แต่มีอีกเหตุผลหนึ่งที่แสนรักไม่เคยนึกถึงเลยนั่นคือพี่ชายแอบชอบม่านพิรุณอยู่หรือเปล่า เธอคิดว่าเหตุผลนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะพี่ชายของเธอไม่เคยพูดถึงม่านพิรุณในทางชู้สาว มีแต่ชื่นชมว่าเป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่ง มีสัมมาคารวะเท่านั้น ในเมื่อไม่มีเหตุผลอื่นมาสนับสนุนว่าทำไมพี่ชายต้องจดทะเบียนกับม่านพิรุณ แสนรักจึงให้ข้อสรุปกับตัวเองได้ว่าพี่ชายต้องการช่วยเหลือเด็กสาวจริงๆ แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นชอบก็ดี เธอจะเชียร์เต็มที่เลย
แสนรักกลับไปนั่งที่โซฟาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.สั่งงานเลขาฯ เพราะว่าวันนี้เธอคงไม่เข้าไปที่คลินิกแล้ว ตอนที่แสนรักคุยจบพอดี ประตูห้องก็ถูกเคาะเบาๆ สองที ร่างสูงสง่าภายใต้เสื้อกาวน์ขาวสะอาดของตฤณก็เดินเข้ามาถึงพอดี ท่าทางเขาไม่รีบร้อน แต่ฝีเท้าเดินเร็วจนกระทั่งมาหยุดที่ขอบเตียง
เขามีสีหน้าขรึมไปทันทีที่เห็นม่านพิรุณนอนหน้าซีดบนเตียงคนไข้
“พี่ตฤณผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือคะ”
ตฤณหันไปมองพยักหน้าเบาๆ แล้วถามต่อ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมอิ๊งค์ถึงถูกวางยานอนหลับ”
“แสนยังไม่ทันได้ถามอะไรอิ๊งค์เลยค่ะ รู้แต่ว่าตอนที่ไปถึงร้านกาแฟ แสนเห็นว่าอิ๊งค์วิ่งหนีคุณวาทินมาพอดี ท่าทางไม่ดีแสนเลยเข้าไปช่วย แต่ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้นแสนเองก็ไม่ทราบค่ะ”
“ไว้รออิ๊งค์ตื่นขึ้นมาแล้วค่อยถามก็ได้”
“แสนไม่เข้าใจคุณวาทินเลยทำไมทำกับลูกสาวตัวเองแบบนี้ได้ จนตรอกขนาดต้องทำแบบนี้กับลูก คุณวาทินเขาไม่คิดบ้างเหรอคะว่าอิ๊งค์จะรู้สึกยังไง ถ้าให้เดา แสนว่าต้องพาตัวไปให้เจ้าหนี้ที่ติดพนันบอลแน่นอน แสนเคยได้ยินพี่น้ำฝนพูดให้ฟัง”
“เรื่องนี้แสนก็อย่าไปพูดที่ไหน เดี๋ยวพี่จะจัดการเอง”
“ค่ะ แสนไม่พูดที่ไหนหรอก จะพูดก็แค่กับพี่ตฤณคนเดียว” แสนรักรู้ดีว่าเรื่องวันนี้ไม่ใช่เรื่องดีที่เธอจะนำไปพูดกับใคร เพราะคนที่เสียใจและอับอายคือม่านพิรุณ
ดวงตาคู่งามเหลือบมองพี่ชาย ประหลาดใจที่พี่ชายดูเป็นห่วงเป็นใยสาวน้อยตรงหน้ามากเหลือเกิน ห่วงกระทั่งชื่อเสียงของอีกฝ่ายจะเสียหายและคงไม่อยากให้กระทบกระเทือนจิตใจไปมากกว่านี้
“ตอนนี้เราต้องช่วยดูแลอิ๊งค์ให้ดี พี่ไม่อยากให้คุณวาทินเข้าใกล้อิ๊งค์อีก แสนโทร.บอกคุณป้าผ่องหรือยังว่าอิ๊งค์นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล”
“แสนว่าจะรอปรึกษาพี่ตฤณค่ะ ว่าจะบอกดีหรือเปล่า”
“พี่จะโทร.บอกคุณป้าผ่องเองแล้วกัน ยังไงก็ต้องบอกความจริงให้คุณป้าผ่องทราบ วันนี้ขอบใจแสนมากนะที่ช่วยอิ๊งค์ไว้ พี่รับปากอิ๊งค์ไว้แล้วแต่กลับไปช่วยเขาไม่ทัน พี่นี่แย่จริงๆ”
“พี่ตฤณอย่าโทษตัวเองสิคะ พี่ตฤณติดผ่าตัด ชีวิตคนป่วยก็สำคัญ พี่ตฤณเป็นหมอก็ต้องจัดลำดับความสำคัญของการช่วยเหลืออยู่แล้ว อีกอย่างพี่ตฤณไม่ได้ทิ้งอิ๊งค์ไปเลย แต่ยังให้แสนไปแทน อ้อ พี่ตฤณคะ นี่คลิปวิดีโอที่แสนอัดไว้ได้ ตอนที่คุณวาทินจะมาพาตัวอิ๊งค์ไป พี่ตฤณจะดูไหมคะ”
ตฤณพยักหน้า แสนรักจึงเปิดให้ดู ดวงตาคมกริบจ้องภาพคลิปในโทรศัพท์ของน้องสาวแน่วนิ่ง เขาต้องขบกรามแน่นเมื่อเห็นว่าม่านพิรุณมีสภาพเป็นอย่างไร วาทินทำกับม่านพิรุณเหมือนไม่ใช่ลูก เขาอยากถามว่ายังมีความเป็นคนหลงเหลืออยู่บ้างไหม
ตฤณอดคิดไม่ได้ว่าม่านพิรุณจะเข้าใจเขาหรือไม่ ทั้งที่เขายืนยันแล้วว่าวันนี้จะไปช่วยเธอด้วยตัวเองแท้ๆ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ลงทุนจดทะเบียนสมรสกับเขา ตอนนี้ตฤณเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกแย่ขนาดนี้ เขาให้เหตุผลกับตัวเองว่าเป็นเพราะเขาไม่เคยผิดคำพูด แต่เคสผ่าตัดวันนี้ก็สำคัญถึงชีวิตคนป่วย
แสนรักเห็นสายตาของพี่ชายคนเดียวที่มองไปยังคนป่วย แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดจึงเอ่ยขึ้น
“พี่ตฤณ อิ๊งค์ปลอดภัยแล้วอย่าคิดมากสิคะ”
“อืม” ตฤณขานรับเบาๆ แสนรักจึงลอบมองต่อ แววตาของพี่ชายยังเจือความเป็นห่วง แต่เป็นห่วงแบบไหนแสนรักก็ยังไม่เข้าใจชัดเจน
“พี่ตฤณแสนถามหน่อยสิ ตกลงพี่ตฤณชอบอิ๊งค์จริงๆ ใช่ไหมถึงได้ช่วยเหลืออิ๊งค์กับครอบครัว”
ตฤณละสายตาจากคนป่วยหันไปมองน้องสาวที่ทำหน้าอยากรู้จนออกนอกหน้า เขาเพิ่งสรุปกับตัวเองได้ว่าเขาเป็นห่วงเด็กดีคนหนึ่ง อีกทั้งเอ็นดูสาวน้อยที่ตกที่นั่งลำบาก ยังไม่รวมถึงคุณป้าผ่องที่ลงทุนวิงวอนขอร้องเขาด้วยตัวเอง เขาก็ไม่อยากใจดำไม่ยอมช่วย เขาเองคิดว่าเรื่องนี้เขาไม่เสียหาย ในทางตรงกันข้ามม่านพิรุณต่างหากที่จะเสื่อมเสียมากกว่าเขาด้วยซ้ำ ถ้าอนาคตข้างหน้าหย่าขาดจากเขาไป เธอก็ต้องได้ชื่อว่าเป็นหญิงสาวที่เคยสมรสแล้ว
“พี่สงสารแม่กับยายของอิ๊งค์และก็ตัวอิ๊งค์ด้วย ที่จดทะเบียนสมรสเพราะต้องการช่วยให้ครอบครัวนี้มีเสาหลัก พี่จะรอให้อิ๊งค์เรียนจบแล้วค่อยหย่า ถึงตอนนั้นอิ๊งค์คงดูแลตัวเองกับแม่และยายได้แล้ว”
“ตกลงว่าพี่ตฤณไม่ได้ชอบอิ๊งค์จริงๆ หรือคะ เสียดายจัง นึกว่าจะเป็นพวกโลลิคอน นิยมสาวน้อยวัยขบเผาะเสียอีก” แสนรักถามยิ้มๆ พลางทำหน้าล้อเลียนขณะที่ตฤณส่ายหน้า
“พี่ไม่ชอบเด็ก” ตฤณเอ่ย