EP5.1 ll The girl on fire [1]

1718 คำ
ไอ้นุ่นนิ่งไปเหมือนยังอยู่ในสภาวะตกใจ ทำให้ฉันรู้สึกเสียหน้า ฉันรุกขนาดนี้ ถ้ามันไม่เป็นเกย์ หรือตายด้าน มันก็ต้องรู้สึกอะไรบ้าง ผู้ชายนะไม่ใช่ตอไม้จะได้นิ่งขนาดนี้ ฉันย่นคิ้วก่อนจะผละออกมาสบนัยน์ตาสีเข้มที่มองฉันด้วยท่าทีประหลาดใจ ฉันไม่รอให้มันคิดอะไรออกก็ดันร่างสูงให้ล้มลงไปด้านหลัง ฉันไม่สนหรอกว่าใครจะเริ่มก่อน สุดท้ายจุดจบก็เหมือนกัน พรุ่งนี้ฉันจะตื่นมาเหมือนทุกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันไม่รู้เรื่องอย่างที่แพลนไว้ ฉันจะกลายเป็นกุลสตรีที่ผิดพลาดเพราะแอลกอฮอล์ และด้วยความสุภาพบุรุษของไอ้นุ่น มันต้องรับผิดชอบฉันแน่ ไอ้นุ่นจิ๊ปากเมื่อถูกผลักลงกับฟูกตรงปลายเตียงนอนของตัวเอง ฉันรู้ว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ดังนั้นฉันต้องรีบจัดการรวบหัวรวบหางเล่นงานตอนมันกำลังงงเนี่ยแหละ ฉันต้องรบแบบกองโจรถึงจะชนะ เอาวะ ยุคนี้แล้ว หญิงชายมีสิทธิเท่าเทียมกันทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย ฉันจะเป็นคนเริ่มก็ไม่ผิดหรอก ขอโทษบรรพบุรุษต้นตระกูลที่ฉันแรดเกินไปไว้ ณ ที่นี้เลยละกัน แต่ฉันเชื่อว่าท่านต้องเข้าใจฉันแน่ เพราะถ้าฉันไม่ทำ สกุล ‘รัตนดิฤกฤทธิ์’ จะต้องจบสิ้นที่ฉันแน่นอน “ไอ้นัท” มันเรียกฉันเหมือนพยายามจะเตือนสติอีก หารู้ไม่ว่าไอ้ที่ฉันกระทำอยู่เนี่ย สติครบถ้วนทุกประการ มือของฉันกดหน้าอกของมันอยู่ ฉันแน่ใจว่าไอ้นุ่นสู้แรงฉันไหวถ้ามันพยายามขัดขืนสักนิด มันก็หยุดฉันได้ง่ายๆ แต่มันไม่ทำ มันกลับนอนนิ่งๆ แล้วมองฉันจากด้านล่าง นัยน์ตาสีดำสนิทลึกล้ำยากจะคาดเดาทำเอาฉันหวั่นใจ ฉันชะงักเพราะเผลอสบตาและรับรู้ได้ถึงรังสีประหลาดแสนบางเบาที่แผ่ออกมาจากคนตรงหน้า มันทำเอาฉันเกือบลืมแอ๊บเมาไปเลย “แค่นี้ไม่ได้เหรอ?” ฉันเอ่ยน้ำเสียงหวานพลางกรีดปลายเล็บบนหน้าอกของคนใต้ร่าง รู้สึกเลี่ยนและอยากจะอ้วกอย่างประหลาด ถ้าฉันไม่แกล้งเมา ให้ตายฉันก็ไม่พูดอะไรแบบนี้แน่ มันมองฉันและตอบสั้นๆ เช่นเคย “ได้” ได้... คำตอบนี้อีกแล้ว ฉันหวั่นใจทุกทีที่มันตอบรับง่ายๆ ทุกทีที่ฉันขอร้อง ได้นี่หมายถึงอะไรวะ? หน้าฉันร้อนวาบเพราะไม่คิดว่าไอ้นุ่นจะตอบกลับมาแบบนี้ ฉันคิดว่ามันอาจจะก่นด่าฉันหรือหาว่าฉันบ้า ทว่านัยน์ตาจริงจังนั่นทำให้ฉันคิดไม่ตก มันยังคงสีหน้าเรียบนิ่งแล้วใช้มือแข็งแรงนั่นแกะแขนฉันออก ก่อนจะดันร่างตัวเองให้ลุกขึ้น มันลุกขึ้นมานั่งในขณะที่ขาทั้งสองข้างอ้ากว้างเหลือพื้นที่ให้ฉันนั่งคุกเข่าอยู่ตรงกลาง มันถอนลมหายใจยาวมองฉันที่ยังคงงงกับคำตอบ “ยังไง” ฉันเอ๋อจนลืมเมาเมื่อฝ่ามือหนานั่นคว้าที่ท้ายทอยก่อนจะขยำเส้นผมฉันเหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะโน้มหน้าเข้ามากระแทกริมฝีปาก ย้ำว่ากระแทกเหมือนจงใจทำให้ฉันเจ็บ แรงเสียดสีระหว่างผิวบางทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต หัวใจฉันตกวูบไปจนถึงตาตุ่ม ร้อนวาบไปทั้งร่างเมื่อรู้สึกได้ถึงการสอดแทรกของปลายลิ้นร้อนชื้นกวาดไปทั่วโพรงปาก ฝ่ามือหนานั่นล็อกท้ายทอยฉันไว้แน่นจนช้ำไปหมด นัยน์ตาสีดำสนิทยังคงมองท่าทีของฉันตั้งแต่เริ่ม ฉันรู้ว่าไอ้นุ่นมันเป็นคนดุ แต่ไม่คิดว่ามันจะดุกับทุกเรื่อง มันกัดริมฝีปากฉันจนรู้สึกถึงความเค็มปร่าของเลือด ดูดดึงเอาลมหายใจของฉันไปทั้งหมด ฟันกระแทกกันก็หลายครั้ง สัมผัสของคนตรงหน้าเหมือนไฟที่กำลังโหมจนสามารถเผาได้ทุกสรรพสิ่งที่ขวางหน้า แต่น่าแปลกที่ฉันกลับชอบ แถมชอบเอามากๆ หัวใจฉันบีบรัดเป็นจังหวะแรงขึ้นตามการขยับตัว เสียงหอบหายใจเบาๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากคนร่างสูงกำลังปลุกปั่นให้ฉันเป็นบ้ามากขึ้น ฉันเผลอบีบแขนแข็งแรงที่กำลังจับท้ายทอยของฉันอยู่ก่อนจะเผลอร้องเสียงประหลาดอยู่ในลำคอ สัญชาตญาณของฉันกำลังคลั่งเพราะปลายจมูกของพวกเราเสียดสีกัน การคุกคามกะทันหันทำให้ฉันเกร็งไปหมด ไม่นานมันก็ผละฉันออกพร้อมกับที่ต่างคนต่างหอบหายใจและมองหน้ากันนิ่ง ไอ้นุ่นแนบหน้าผากตัวเองไว้กับหน้าผากของฉันแล้วเหล่สายตามามอง มันจิ้มนิ้วชี้เข้าที่หน้าผากของฉันก่อนจะดันออกห่างตัวเองพร้อมตีสีหน้านิ่งเหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พอใจยัง” “...” ฉันเงียบ ไม่เข้าใจว่ามันพูดถึงอะไร จนกระทั่งมันเอ่ยต่อ ฉันก็รู้ว่าการที่มันดึงฉันเข้าไปจูบเป็นเพราะฉันเอ่ยปากคล้ายจะขอร้อง มันก็เลยจูบให้ เหมือนที่มันมารับฉันเพราะไอ้หลิวบอกให้มารับ... มันลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะหยิบหมอนไปไว้ข้างเอวหนึ่งใบและเลื่อนสายตาลงมามองหน้าฉันด้วยท่าทีเรียบเฉย ฉันพ่นลมหายใจและแอบเซ็งเบาๆ ฉันคิดว่ามันจะเผลอไผลไปกับบรรยากาศอย่างผู้ชายทั่วๆ ไปบ้าง แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไอ้นุ่นก็ยังเป็นไอ้นุ่น... “ถ้าพอใจแล้วก็ไปนอน” ฉันเงียบ ยังรู้สึกถึงความร้อนบริเวณริมฝีปาก มันยืนยันว่าเรื่องเมื่อกี้เกิดขึ้นจริง และไอ้นุ่นเป็นฝ่ายดึงฉันเข้าไปก่อน ฉันอยากจะถามมันว่าทำไม แต่การถามหาเหตุผลจากคนอย่างไอ้นุ่นเป็นเรื่องที่สิ้นคิดที่สุด ไอ้นุ่นมันไม่เคยมีเหตุผล ถึงมีมันก็ไม่บอก สิ่งที่ฉันได้รับจากมันมักจะเป็นการยืนยันว่าพวกเราเป็นเพื่อนกัน หรือไม่ก็คำตอบรับสั้นๆ ว่า ‘ได้’ เวลาขอร้องอะไรมันสักอย่าง มันจะจัดการให้ ฉันเหลือบสายตาตามมันพร้อมความรู้สึกร้อนไปทั้งร่างเหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง มันถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ออกโยนไปทางตะกร้าเสื้อผ้าใกล้ๆ เผยให้เห็นแผงอกแข็งแรงที่ทำเอาฉันเกือบคุมสติไว้ไม่อยู่ มันหันมามองฉันแวบนึงราวกับจะถามว่ามองอะไร ฉันเงียบนั่งหน้าร้อนคิดทบทวนสถานการณ์ว่าจะรุกต่อหรือหยุดไว้แค่นี้ก่อนดี... แต่ฉันรุกขนาดนี้แล้วไอ้นุ่นยังไม่มีท่าทีหวั่นไหว ทำตัวเป็นเสาไฟ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ขณะที่ฉันคิด ไอ้นุ่นก็เดินไปกดปิดสวิตซ์ไฟ ทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในความมืด ฉันเลยเห็นแค่เงารางๆ ของคนร่างสูง เขาล้มตัวลงนอนเหยียดกายลงบนโซฟา และเพราะเขาตัวสูงมากทำให้ขาของเขายืดยาวจนพ้นขอบโซฟา ฉันกำลังจะตัดใจแล้วคิดแผนใหม่แล้วจนกระทั่งได้ยินเสียงพ่นลมหายใจและเสียงเรียกนาบนิ่ง “นัท” ฉันเบิกตาโพลงในความมืดพยายามมองที่ต้นตอของเสียง เห็นเพียงเงารางๆ จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นแล้วหันหน้ามาทางฉัน “โซฟามันนอนไม่ถนัด” แล้ว...? ฉันย่นคิ้วสูงสงสัยว่าเขาพูดขึ้นทำไมจนกระทั่งไอ้นุ่นเอ่ยต่อ ฉันก็คิดว่าแผนของฉันไม่ถึงกับสูญเปล่าซะทีเดียว “นอนด้วยได้มั้ย?” ฉันกลืนน้ำลาย พยายามสงบจิตสงบใจไว้ ฉันอยากจะบอกว่า ไม่ต้องถามหรอก เข้ามาเลย ฉันพร้อมแล้ว แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลัวจะดูวอนนาบีจนเกินงาม ไอ้นุ่นลุกขึ้นแล้วเดินสาวเท้าเข้ามาใกล้ โยนหมอนลงบนเตียงข้างๆ ตัวฉัน ตลกมั้ย? แค่ได้ยินเสียงหมอนกระทบฟูก ฉันก็รู้สึกหวั่นไหวแล้ว ฉันนั่งตัวเกร็งคิดว่ามันจะมีอะไรไปมากกว่านี้แน่ วันนี้ฉันต้องโดนไอ้นุ่นช่วงชิงเอกราชชัวร์ๆ ทว่าไอ้นุ่นกลับทิ้งตัวลงนอนบนฟูกอย่างไม่สนใจฉันที่กำลังนั่งหัวโด่อยู่เลยแม้แต่น้อย “...” เดี๋ยวสิ นี่จะนอนเลยเหรอ จะไม่ทำอะไรฉันจริงๆ เหรอ ฉันรออยู่นะ ฉันเงิบ สายตาเริ่มชินกับความมืดจนเห็นใบหน้าไอ้นุ่นลางๆ มันนอนคว่ำอยู่ใกล้ฉันมาก มันหลับตาสนิทจนไม่เห็นนัยน์ตาคมกริบแสนดุ จากพยัคฆ์ร้ายกลายเป็นแมวน้อยง่อยๆ ฉันเลยแอบเอ็นดูมันอยู่เบาๆ “นุ่น” ฉันส่งเสียงเรียกร้องความสนใจจากมัน ไม่แน่ใจว่าฉันไม่มีเสน่ห์ความเป็นผู้หญิงหรือมันตายด้านกันแน่ ถ้ามันไม่คิดอะไร มันจะจูบฉันตามที่ร้องขอทำไม แต่ถ้ามันคิด มันจะหยุดแค่นั้นเหรอ ยิ่งคิดก็ยิ่งหาเหตุผลความเป็นนุ่นไม่ได้ มันเป็นมนุษย์ที่สืบเชื้อสายจากคนปกติธรรมดาแน่ๆ ใช่มั้ยเนี่ย? ทำไมระบบสมองซับซ้อนจัง “นอนได้แล้ว” มันปรามเสียงดุทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ทำให้ฉันรู้เลยว่า อ่อยมันไปก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ครานี้ฉันต้องถอยทัพที่แพ้ย่อยยับกลับไปก่อน เอาไว้คราหน้าฉันจะมาใหม่ ไม่ให้มันปฏิเสธได้แน่ คิดเหรอว่าฉันจะยอมง่ายๆ ไม่รู้ซะแล้วว่าไอ้นัทเป็นใคร ถ้าฉันอยากได้ฉันก็ต้องได้ ฉันทิ้งตัวนอนลงข้างมันพลางลอบถอนหายใจเซ็งๆ ที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก่อนที่ฉันจะหลับตาลง ฉันก็สะดุ้งเพราะรู้สึกถึงมือหนาที่เอื้อมมาคว้ามือฉันไว้ ฝ่ามือของเราสอดประสานกันแน่นจนแกะไม่ออก ฉันเอียงคอไปมองคนร่างสูงที่กำลังนอนหลับตาอยู่อย่างสงสัย ตอนแรกฉันคิดว่าไอ้นุ่นมันละเมอจนกระทั่งมันลืมตาในความมืดมองหน้าฉันด้วยท่าทีคาดเดายากแล้วก็ยิ้ม...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม