พอส่งคนตัวเล็กในห้องนอนที่ห้องติดกันกับห้องนอนของตัวเอง อธินก็กลับมาที่ห้องนอนตัวเอง แต่ก็นอนไม่หลับ เขานั่งพิงหัวเตียงกว้างพร้อมยกมือลูบไล้คลึงริมฝีปากหนาของตัวเองไปมาพร้อมกับนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในรถที่พเยียฉวยโอกาสกับตัวเองแล้วก็ต้องเม้มปากแน่นแล้วลุกเดินลงจากเตียงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำอีกครั้ง เพราะจะให้นอนตอนนี้ก็นอนไม่หลับแล้ว เขาจึงอาบน้ำและก็แต่งตัวไปนั่งทำวัตรเช้าที่ห้องพระ เพราะตอนนี้ก็ตีสามกว่าแล้ว
พอเข้ามาในห้องพระคิดว่าจิตใจจะสงบ แต่เปล่าเลย ยิ่งทำให้ว้าวุ่นกว่าเดิม ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เสียความเป็นตัวเองได้มากถึงเพียงนี้ แค่วันเดียวที่อยู่ด้วยกันสองคนในบ้านหลังใหญ่ พเยียก็ทำเรื่องให้เขาวายป่วงได้ขนาดนี้ อธินไม่อาจนั่งอยู่ในห้องพระได้อีกต่อไป เขาลุกขึ้นเดินลงมายังชั้นล่างตรงไปยังห้องครัวเพื่อหาอะไรทำให้ลืมความวุ่นวายในจิตใจของตัวเอง
ชายหนุ่มเริ่มจัดการทำความสะอาดห้องครัวที่สะอาดอยู่แล้วก็ทำความสะอาดอีกรอบ ก่อนจะเดินออกไปนอกบ้านเพื่อรดน้ำต้นไม้ในสวนหน้าบ้านของตัวเองในยามเช้ามืด เพราะให้นอนต่อก็นอนไม่ไหว วันนี้ตอนบ่ายเขามีสอนที่มหาวิทยาลัยของสงฆ์ด้วย ถึงแม้จะลาสิกขาออกมาแล้ว แต่เขายังคงทำหน้าที่อาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยสงฆ์เหมือนเดิมในวันเสาร์ตอนบ่ายโมง เขาจะสอนแค่วันเสาร์ตอนบ่ายวันเดียว ส่วนวันอาทิตย์เป็นวันพักผ่อน วันจันทร์ถึงศุกร์เป็นวันทำงานปกติที่บริษัท
ช่วงสายคนสร้างเรื่องก็ตื่นมาด้วยท่าทางสดชื่น เธอแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อกล้ามสีดำพร้อมกางเกงยีนส์ขาสั้นเหมือนที่เคยใส่ปกติ วันนี้วันพักผ่อน พอลงมาข้างล่างก็เดินไปยังห้องครัวเพื่อหาอะไรทาน ในครัวมีข้าวผัดแหนมกับไข่เจียว และถามพี่เจิมสาวใช้ก็ได้รู้ความว่าเป็นฝีมือของพี่มหาคนหล่อ คนเท่ที่ทำไว้ให้ และมียาแก้เมาค้างด้วย เธออมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เธอจำได้ทุกอย่าง เพราะเธอไม่ได้เมา
“คุณจุ๊บจะทานเลยไหมคะ เดี๋ยวพี่เจิมจัดให้ค่ะ”
“แล้วพี่ต้อมล่ะคะ”
“อ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่นค่ะ”
“อือ...ไม่ต้องยกไปในห้องรับประทานอาหารหรอกค่ะ จุ๊บทานในครัวดีกว่า เดี๋ยวจุ๊บจัดการเองนะคะ พี่เจิมไปทำงานของพี่เจิมเถอะค่ะ”
“ค่ะ งั้นคุณจุ๊บดูแลตัวเองนะคะ”
“ค่ะพี่เจิม” เธอยิ้มให้พี่เจิม ก่อนจะเดินไปนำกับข้าวไปอุ่นในไมโครเวฟเพื่อจะทาน ตอนนี้เธอหิว หิวมาก ก็มันสิบโมงเช้าแล้วจะไม่ให้หิวได้ยังไง
อธินอ่านหนังสือและเตรียมเอกสารในการสอนตอนบ่ายเสร็จก็เก็บเอกสารทุกอย่างใส่กระเป๋าแล้วลุกขึ้นจะไปอาบน้ำแต่งตัวไปข้างนอก เพราะกว่าจะไปถึงมหาวิทยาลัยก็ใช้เวลาพอควร ยิ่งวันหยุดรถติดแน่นอน แต่พอจะลุกขึ้นก็เจอกับคนตัวเล็กเดินถือถาดขนมและกาแฟเข้ามาในห้องนั่งเล่น เขาก็หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว สายตาเข้มจดจ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มที่ได้สัมผัสทันที เขาแอบลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความอึดอัด
“พี่ต้อมจะไปไหนคะ” เธอทักเขาพร้อมวางถาดในมือลงที่โต๊ะกลางโซฟาแล้วนั่งลงโซฟาตัวเดียวกับที่เขาเพิ่งลุกขึ้นยืน
“อาตมา...พี่จะไปสอนน่ะ” เขาตอบเสียงเรียบ แต่สายตาจดจ้องมองแต่ริมฝีปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มที่ขยับพูดของหญิงสาว และยิ่งมองชุดแต่งกายของเธอแล้วก็ต้องเบือนหน้าหนีมองไปทางอื่น กางเกงสั้นอย่างที่เขาเรียกกันว่าสั้นเสมอหู และเสื้อก็รัดรูปอวดรูปร่าง
“ไปยังไงคะ ให้จุ๊บขับรถไปส่งไหมคะ”
“จอดรถไว้ที่บาร์โฮสไม่ใช่เหรอ?” เขารีบสวนกลับทันที
“เดี๋ยวขับรถที่บ้านไปก็ได้ค่ะ ส่วนรถของจุ๊บ จุ๊บให้วิเวียนไปขับมาให้ก็ได้ค่ะ” เธอบอกเขา
“ไม่รบกวนโยมน้อง...น้องจุ๊บดีกว่า พี่นั่งแท็กซี่ไปเองได้ครับ น้องจุ๊บพักผ่อนให้สร่างเมาเถอะ” เขาตอบเสียงเรียบ
“ค่า...พี่มหาคนดี ขอบคุณนะคะสำหรับมื้อเช้าและยาแก้เมาค้างที่เตรียมไว้ให้”
“อือ...ถ้ามีครั้งที่สองอีก พี่จะไม่ไปรับแล้วนะ จะปล่อยไว้ที่นั่นเลย อีกอย่างเป็นหญิงหัดรักนวลสงวนตัวบ้างไม่ใช่คลอเคลียกับผู้ชายแบบนั้นมันไม่งาม และยิ่งสมัยนี้อันตรายรอบด้านด้วย หัดแต่งตัวระวังไว้บ้าง เปิดโชว์เนื้อหนังแบบนั้นมันเสี่ยงรู้ไหม ยิ่งในที่อโคจรแบบนั้นด้วย และยังดื่มเหล้าเมามายอีก” ท้ายประโยคน้ำเสียงของเขาแข็งกระด้างแบบที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเผลอใส่อารมณ์ไปในคำพูดด้วย
“ก็วันหยุดจุ๊บก็อยากคลายเครียดบ้างนี่คะ” เธอก้มหน้าตอบเมื่อเจอน้ำเสียงกระด้างดุเอา เพราะตอนนี้สายตาของเขาที่มองเธอมันไม่เหมือนที่เคยมอง มันน่ากลัว มันเต็มไปด้วยความขึงโกรธเธอ
“ถ้าจะคลายเครียดก็หัดทำให้พอดีพองามไม่ใช่นัวเนียคลอเคลียผู้ชายแบบนั้น และเป็นสาวเป็นนางไปที่แบบนั้นได้ยังไง ไปใช้บริการผู้ชายแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวไว้ให้สามีในอนาคตบ้าง ทำไมไม่รู้จักเก็บความภาคภูมิใจของความเป็นสาวบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่รักบ้าง”
“เดี๋ยวนะคะพี่ต้อม พี่พูดเหมือนกับจุ๊บมั่วงั้นแหละ ถึงจุ๊บจะชอบเที่ยว แต่จุ๊บก็ไม่ได้มั่วไปนอนกับผู้ชายง่ายๆ นะ แค่เก็บกำไรพอหอมปากหอมคอค่ะ อย่ามาดูถูกกันถ้ายังไม่รู้จักกันดีพอค่ะ และอย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของจุ๊บ จุ๊บจะเที่ยวบาร์โฮสจะทำอะไรก็ได้ มันเรื่องของจุ๊บ” เธอเดือดดาลทันทีเมื่อถูกเขาพูดดูถูก
“พี่ไม่ได้ดูถูก แต่ทุกอย่างมันทำให้เห็นเอง ถ้าทำแล้วมีความสุขก็ทำ แต่อย่ามารบกวนเวลาพักผ่อนคนอื่น” เขาพูดจบก็เดินเร็วๆ ออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที ทิ้งให้พเยียกัดฟันทุบตีโซฟาแรงๆ ด้วยความโกรธเขา
“คนบ้า! ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!” ไม่เคยคิดว่าเขาจะปากร้ายแบบนี้ เห็นพูดจาสุภาพมาตลอดพอได้พูดก็พูดเอาเลือดขึ้นหน้าเลย
“คนไม่ลืมวัด” พเยียบ่นให้คนที่เดินจากไปด้วยความน้อยใจแล้วหยิบขนมในถาดที่ถือมาเข้าปากเคี้ยวแรงๆ ด้วยความหงุดหงิดใจ
“กล้าว่าเรามั่วได้ยังไง เดี๋ยวให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ซะเลยนี่” พูดแล้วก็อมยิ้มทันทีเมื่อคิดอะไรดีๆ ได้พร้อมปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่นห้องแล้วล้มตัวลงนอนกับโซฟาทันที
ฮ่าๆๆ