บทที่ 1
ตัวสำรอง (3)
นรีนันท์สะบัดศีรษะไล่คำพูดถากถางของเนติวิทย์ออกโดยเร็ว เธอก้าวเดินไปยังห้องทำงานส่วนตัวของผู้เป็นพ่อหวังถามหาความจริงให้แน่ชัด อย่างน้อย ๆ คำตอบที่ได้รับจะเป็นเครื่องยืนยันและย้ำเตือนไม่ให้เธอหวังลม ๆ แล้ง ๆ อีกต่อไป
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร เพียงย่างกรายก็ทำให้เหล่าพนักงานนิ่งงันราวกับถูกสาปเป็นหิน ทุกคนดูตกใจกับการปรากฏตัวของเธอ หากแต่เลือกที่จะใช้ความเงียบและส่งสายตาสื่อสารหากันและกันแทนการเอื้อนเอ่ย
หญิงสาวก้าวฉับอย่างไม่คิดสนใจ เพราะจุดหมายปลายทางนั้นอยู่ตรงหน้าเพียงคืบเท่านั้น และจังหวะที่กำลังจะกระชากประตูกลับได้ยินเสียงสนทนาที่ดังออกมา มันเป็นระดับเสียงที่ค่อนข้างดัง อาจเป็นเพราะประตูไม่ได้ถูกปิดสนิทมาตั้งแต่ต้น ทั้งยังกว้างพอที่จะสามารถสอดส่องสายตามองเข้าไปว่าภายในมีใครอยู่บ้าง
ป๊าและแม่ของไอ้เนย์...นรีนันท์พึมพำกับตัวเองเบา ๆ
หญิงสาวสะกดอารมณ์ข่มความโกรธเอาไว้ในใจ แรกเริ่มตั้งใจจะประจันหน้าให้รู้แล้วรู้รอด แต่บทสนทนาที่ได้ยินกลับทำให้เธอจำต้องหยุดชะงักและเลือกที่แนบหูฟังแทน
“คุณแน่ใจจริง ๆ ใช่ไหมคะว่าจะให้เนย์รับตำแหน่งแทน” อุษณีทิ้งตัวนั่งลงบนตักของประธานบริษัทพลางใช้วงแขนโอบรัดอย่างนึกอ้อน
การกระทำนั้นทำให้นรีนันท์รู้สึกเหมือนโดนสุมไฟ แต่มันก็ไม่เท่ากับสิ่งที่ได้ยินถึงเรื่องการขึ้นรับตำแหน่งการพ่อ ทั้ง ๆ ที่เธอมั่นใจว่าตัวเองเหมาะสมกว่าไหน ๆ
“อืม...ก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ แต่ระหว่างนี้ผมคงต้องดูการทำงานของเนย์มันไปก่อน ยังปล่อยไม่ได้หรอก” ภาวัชมีสีหน้าเครียดขึ้นมา จริงอยู่ที่เขาตั้งใจจะยกตำแหน่งให้กับลูกชายอย่างเนติวิทย์ หากในเรื่องการพิสูจน์ฝีมือคงต้องใช้เวลาดูกันไปอีกสักพักใหญ่
“แล้วแบบนี้ลูกสาวของคุณจะไม่โกรธเอาเหรอคะ ยัย...เอ่อ...หนูนันท์ยิ่งไม่ค่อยชอบหน้าฉันกับตาเนย์อยู่ด้วย คุณเองก็คงรู้ดีใช่ไหมคะว่าหนูนันท์กับตาเนย์เขาแข่งกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ”
นรีนันท์ยืนฟังทุกคำพูดโดยไม่คิดปริปาก เหตุเพราะอยากได้ยินสิ่งที่เมียรองเป่าหู รวมไปถึงความคิดของพ่อที่มีต่อลูกอย่างเธอด้วยเช่นกัน
“ไม่หรอกน่า ยัยนันท์น่าจะเข้าใจ” ภาวัชพูดแต่สีหน้าบ่งบอกว่าเขากำลังลำบากใจ คำพูดนั้นช่างสวนทางกับสิ่งที่ขบคิดโดยสิ้นเชิง แม้ว่าลึก ๆ จะรู้จักนิสัยของนรีนันท์ดี แต่เรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้เช่นกันว่าจะเป็นอย่างที่หวังหรือไม่
“น้อยไปสิคะ ฉันไม่อยากเห็นพี่น้องตบตีแย่งชิงกันเหมือนในละครหรอกนะ คุณควรพูดกับหนูนันท์ให้เข้าใจไปเลยดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง”
“ไว้ผมจะหาโอกาสบอกนันท์แล้วกัน แต่ผมว่านันท์เองก็น่าจะรู้ดีว่าคนกุมบังเ**ยนตระกูลได้จะต้องเป็นผู้ชาย ถึงยัยนันท์จะทำงานเก่งแค่ไหน แต่ยังไงแล้วคนที่จะสืบทอดกิจการต่อจะต้องเป็นเจ้าเนย์มัน”
“ถ้าคุณพูดแบบนี้ฉันก็ค่อยสบายใจหน่อยค่ะ รักคุณที่สุดเลย ขอบคุณนะคะที่ไม่ลำเอียงรักหนูนันท์มากเกินไป ฉันยอมรับเลยว่าฉันน้อยใจมากที่เวลามีงานอะไรคุณก็ให้หนูนันท์ทำหมด แต่ในเมื่อคุณยืนยันแบบนี้ฉันเองก็ไม่มีอะไรกังวลแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ ฉันรักคุณ” อุษณียิ้มกว้างจนเหมือนตัวเองได้รับตำแหน่ง ผิดกันกับคนหลังประตูที่ยืนตัวสั่นเทิ้มทั้งหยาดน้ำที่เพิ่งแห้งเหือดไปได้ไม่นาน
“ผมไม่ลำเอียงหรอกน่า ที่ผมให้ยัยนันท์ดูแลงานก็เพราะรู้ว่ายัยนันท์เอาอยู่ แต่ยังไงเรื่องตำแหน่งผมก็ยกให้เจ้าเนย์มันแน่นอน ส่วนยัยนันท์ก็ให้เป็นรองประธานไปแล้วกัน ผมเองก็จะได้พักด้วย ปล่อยให้ลูกหลานดูแลกันต่อไป”
นรีนันท์กำมือทั้งสองแน่น สิ่งที่คาดหวังตั้งใจพังทลายลงต่อหน้าต่อตาไม่เหลือชิ้นดี นอกจากเธอจะเป็นตัวสำรองให้กับลูกเมียน้อยหน้าด้านนั่นแล้ว...เธอยังเป็นเพียงแค่คนปูทางความสำเร็จให้คนฉวยโอกาสรับหน้าต่ออย่างหน้าไม่อาย!