EP 2: น้องผัวรสวาท
พีรวัตรกลับมาถึงบ้านตอนบ่ายโมงครึ่ง ทั้งๆ ที่เขาบอกว่าจะกลับมาในอีกครึ่งชั่วโมง หล่อนรู้สึกไม่พอใจที่เขาผิดคำพูด แต่ก็พยายามที่จะเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้จนมิด
“เมื่อคืน... พี่พีร์ไม่กลับมานอนกับน้ำ...” หญิงสาวเดินมาหยุดที่เตียงนอน ที่มีพีร์วัตรนั่งเอกขเนกอ่านหนังสืออยู่ “น้ำรอทั้งคืนเลยนะคะ”
“ก็พี่บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่ต้องรอ” เขาตอบหล่อนทั้งๆ ที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง
ชาลินีรู้สึกน้อยใจนัก แต่ก็คิดว่านี่คือบุคลิกของชายหนุ่มจึงพยายามต่อไป
“พี่พีร์... ไม่คิดถึงน้ำเหรอคะ” หล่อนขยับตัวขึ้นไปนั่งบนเตียง ใกล้ๆ กับเขา ซบหน้าลงกับต้นแขนของชายหนุ่ม แต่เขารีบผลักหล่อนออกห่าง
“พี่จะอ่านหนังสือ”
“หนังสือน่าอ่านมากเลยเหรอคะพี่พีร์” หล่อนถามเสียงออดอ้อน
“ครับ”
“น่าอ่านกว่าน้ำอีกหรือคะ”
เพราะเขาเป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ทำให้หล่อนใจกล้าพอที่จะเปลื้องผ้าต่อหน้าเขา เสื้อคลุมถูกถอดออก เหลือแต่เพียงชุดชั้นในแสนเซ็กซี่
“เรายังไม่ได้เข้าหอกันเลยนะคะ”
สายตาของพีรวัตรที่มองร่างกายของหล่อนไม่ได้ทำให้หล่อนรู้สึกมีคุณค่าใดๆ ขึ้นมาเลย เพราะเขามองอย่างตำหนิ และไม่ชอบใจ ก่อนจะกระชากผ้าห่มมาคลุมร่างของหล่อนเอาไว้ทันที
“อย่าทำแบบนี้ พี่ไม่ชอบ...”
หล่อนน้ำตาร่วง ทั้งน้อยใจทั้งอับอาย แต่ก็พยายามที่จะถามออกไป
“พี่พีร์... ไม่อยากแตะต้องน้ำเหรอคะ”
“พี่เหนื่อย พี่อยากพักผ่อน”
“แต่... เราสองคนยัง...”
“นี่น้ำ... ถามจริงๆ เถอะ วันๆ คิดแต่จะมีเซ็กซ์กับพี่ใช่ไหม หึ... อยากขนาดนั้นเชียวหรือ” เขามองหล่อนอย่างดูแคลน ก่อนจะรีบตวัดขาหนีลงไปจากเตียง
“พี่พีร์...”
“ถ้าอยากมากนักก็ลงไปให้คนสวน หรือลุงจุกช่วยเกาก่อนก็ได้ พี่ไม่มีอารมณ์”
“พี่พีร์... ทำไม... พูดกับน้ำแบบนี้คะ” หล่อนร้องไห้โฮ และนั่นคงทำให้เขาได้สติ
เขาถอนใจแรงๆ ก่อนจะปรับน้ำเสียงให้นุ่มนวลลง และเดินมาคว้ามือหล่อนไปกุมเอาไว้
“พี่ขอโทษ... พี่กำลังเครียดเรื่องเอกน่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ น้ำเข้าใจ”
“ถ้าเข้าใจก็ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะครับ ยังไงซะน้ำก็คือเมียพี่อย่างถูกต้องตามกฏหมายแล้ว เราสองคนเป็นคนๆ เดียวกันแล้ว”
หล่อนก้มหน้าสะอื้นเบาๆ
“และพี่คิดว่าเซ็กซ์ มันไม่ได้สำคัญกับชีวิตคู่เลยสักนิด แค่เราอยู่ด้วยกัน รักกันแค่นี้ก็พอแล้วไม่ใช่หรือ”
หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา มองด้วยความเสียใจ และแปลกใจเป็นที่สุด
“พี่พีร์... คิดแบบนี้จริงๆ เหรอคะ”
ยังมีผู้ชายแบบนี้อยู่อีกเหรอ ผู้ชายที่ไม่ได้ต้องการเซ็กซ์จากผู้หญิง
“ครับ... แค่น้ำอยู่กับพี่ไปชั่วชีวิต นี่แหละคือสิ่งที่พี่ต้องการ”
“ค่ะ...”
หล่อนฝืนยิ้มให้กับสามีรูปหล่อทั้งน้ำตา และพยายามบอกตัวเองให้คิดเช่นเดียวกับสามี
“ฉันต้องทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอ”
ชาลินีถามเพื่อนกลับไปตามสายสนทนาด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ เพราะกลัวว่าพีรวัตรที่กำลังอาบน้ำอยู่ภายในห้องน้ำจะได้ยินเข้า
“ก็ใช่น่ะสิ แก้ผ้า แล้วจู่โจมเข้าหาเลย ผู้ชายร้อยทั้งร้อยไม่มีรอดหรอก เชื่อฉันสิ”
“แต่ว่า... พี่พีร์บอกว่าเซ็กซ์ไม่สำคัญ”
“แหม... สามีแกก็พูดให้ดูดีไปอย่างนั้นแหละ ตอนที่แกถามเขาอาจจะเครียดหรือไม่ก็เหนื่อยอยู่ คืนนี้แหละโอกาสเหมาะ แกเป็นฝ่ายเริ่มต้นเองเลย”
“แต่ฉัน... ทำไม่เป็นนี่ แกก็รู้ว่าฉันยังซิงอยู่”
“เออ... รู้ว่ายังไม่เคย แต่กับผัวน่ะ ทำๆ ไปเถอะ อยากลูบอยากจูบตรงไหนก็ทำไป ขี้คร้านพี่พีร์ของแกจะรีบคร่อมแกไม่ทัน”
แก้มนวลแดงระเรื่อ หน้าตาร้อนผ่าว “แกก็พูดไปนั่น ไม่เอาแล้ว ไม่คุยด้วยแล้ว”
“ทำเป็นอายน่ะแก ยังไงก็อย่าให้พลาดล่ะ จู่โจมให้ตรงจุด รวบหัวรวบหางคืนนี้เลย”
“อืม... ฉันจะพยายาม”
เพื่อนของหล่อนวางสายไปแล้ว ในขณะที่หล่อนยังคงยืนลังเลอยู่ที่เดิม
“เอาจริงเหรอน้ำ”
หล่อนถามตัวเองเบาๆ อย่างไม่มั่นใจ พลางเดินไปหยุดที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง และปลดเสื้อคลุมร่างกายออกจากตัว ชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาไม่อาจจะปกปิดความอวบอัดสาวสะพรั่งของกายสาวได้เลย
หล่อนก็สวยนะ อวบอัด มีทุกอย่างที่ผู้ชายต้องการ แล้วทำไมพีรวัตรถึงไม่ยอมแตะต้อง หรือว่าเขา... ต้องการให้เวลาหล่อนอย่างที่เพื่อนรักบอก
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ และพูดออกมาด้วยความมุ่งมั่น
“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ยังไงก็ต้องสู้ พี่พีร์รักเรา ยังไงเขาก็ต้องอยากนอนกับเรา...”
หล่อนยิ้มอย่างมีความหวัง และนั่งรอชายหนุ่มอยู่บนโซฟาริมหน้าต่างห้องนอน
พีรวัตรเป็นผู้ชายสำอางไม่น้อย ทุกอย่างสำหรับเขาต้องดูดี สะอาดสะอ้าน ครีมทาหน้าทาตัวของเขามีมากกว่าของหล่อนเสียอีก แถมยังรักการออกกำลังกายสุดๆ อีกด้วย
ไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดกว้างออก พร้อมๆ กับพีรวัตรในชุดนอนก้าวออกมา ชายหนุ่มไม่เคยนุ่งผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำเลยสักครั้งเดียว เขาจะแต่งตัวจนเรียบร้อยภายในห้องน้ำ แล้วถึงจะออกมา
“ยังไม่นอนอีกหรือครับ”
“น้ำรอพี่พีร์ค่ะ”
“รอพี่...? รอทำไมครับ”
หญิงสาวลุกขึ้นยืน อวดหุ่นสวยของตัวเองแก่สายตาของสามีสุดหล่อ่
“ก็รอนอนพร้อมพี่พีร์ยังไงล่ะคะ”
หล่อนค่อยๆ เดินนวยนาดเข้าไปหาเขา หยุดตรงหน้า ห่างเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งก้าว มือเล็กยกขึ้นแตะแนวสันกรามแผ่วเบา
“คืนนี้... ให้น้ำปรนนิบัตินะคะ”
หล่อนเห็นเขายืนตะลึง และกวาดตามองหล่อนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขากำลังพึงพอใจในความงามของตัวเอง แต่ก็ผิดคาด
“ไม่ต้อง พี่ง่วงนอน”
เขาปัดมือหล่อนออกจากใบหน้า และถอยหลังออกห่างทันที
ชาลินีตกใจ รู้สึกอับอายไม่น้อย แต่ก็ยังพยายามที่จะฝืนเดินหน้าต่อไป
“พี่พีร์ขา...”
หล่อนโผเข้าไปสวมกอดร่างทรงพลังจากทางด้านหลัง จงใจถูไถหน้าอกอวบอัดของตัวเองกับแผ่นหลังกว้างแน่นหนั่นของพีรวัตร
“น้ำอยาก... เป็นของพี่พีร์นะคะ”
“หน้าด้าน!”
เขาสบถออกมาเสียงดัง ก่อนจะรีบสะบัดตัวออกห่าง หันมามองหล่อนอย่างรังเกียจ
ชาลินีเบิกตากว้างตกใจ เมื่อเห็นสายตาและสีหน้าของพีรวัตรชัดเจน
“พี่พีร์... เกลียดน้ำเหรอคะ”
“ใช่ พี่เกลียดผู้หญิงร่าน”
“แต่น้ำ... ก็แค่อยากเป็นของพี่พีร์” หล่อนร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น
“พี่บอกแล้วไงว่าเหนื่อย ไม่เข้าใจหรือไง”
“แต่น้ำ... น้ำทำเองก็ได้นะคะ”
นี่หล่อนยอมเสียศักดิ์ศรีขนาดนี้แล้วนะ แต่เขาก็ยังไม่สนใจไยดี
“หยุดพูดแบบนี้ได้แล้ว เพราะถ้าไม่หยุดพี่จะไปนอนที่อื่น”
“พี่พีร์?!”
เขาไม่ไยดีหล่อนเลย และมันก็ทำให้หล่อนเสียใจจนจุกไปหมด
“ทำไม... พี่พีร์ถึงทำท่าเหมือนรังเกียจน้ำแบบนี้ล่ะคะ”
“พี่ไม่ได้รังเกียจน้ำ”
หล่อนร้องไห้อย่างสุดกลั้น ความอดทนขาดสะบั้นในทันที
“ไม่ได้รังเกียจ! แต่พี่พีร์ก็ไม่เคยแตะต้องน้ำสักครั้งเดียว ไม่เคยแม้แต่จะจูบ พี่พีร์ทำเหมือนรังเกียจน้ำ”
หล่อนสะอื้นไห้รุนแรง
“แล้วแบบนี้มาแต่งงานกับน้ำทำไมคะ”
“ถ้าพี่รู้ว่าในหัวของน้ำคิดแต่จะมีเซ็กซ์กับพี่... พี่ก็คงไม่เลือกน้ำหรอก”
“พี่พีร์”
เขาดูถูกหล่อนอยากร้ายกาจ “น้ำก็แค่อยากให้เราเป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์”
“พี่แต่งงานกับน้ำ จดทะเบียนกับน้ำ แค่นี้ยังไม่สมบูรณ์อีกหรือ”
เขาตวาดหล่อนเสียงดังลั่น คล้ายกับสิ้นสุดความอดทน
“ถ้าไม่พอใจ จะไปไหนก็ไปเลย!”
“พี่พีร์ไล่น้ำเหรอคะ”
“พี่ไม่ได้ไล่ แต่ถ้าน้ำอยากไปสงบสติอารมณ์ที่อื่น พี่ก็ยินดีให้ไป”
เขาพูดจบก็กระชากประตูห้องนอนเปิดกว้างและก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หล่อนร้องไห้ด้วยความทรมานอยู่เพียงลำพัง
นี่หล่อนทำอะไรผิดกันนะ ทำอะไรผิดไปเหรอ พีรวัตรที่เคยเอาอกเอาใจและแสนดีกับหล่อนถึงได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายเช่นนี้
“พี่พีร์... หมดรักน้ำแล้วเหรอคะ”
หรือว่าหล่อนควรจะจากไปดี...
ชาลินีร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวด สมองสับสน ทางออกช่างมืดมนเหลือเกิน
‘ถ้าไม่พอใจ จะไปไหนก็ไปเลย!’
คำพูดไร้เยื่อใยของสามีหมาดๆ ยังคงดังก้องอยู่ในหัว และมันก็สร้างบาดแผลลึกในหัวใจของหล่อนมากมายเหลือเกิน
หญิงสาวกัดฟันลุกขึ้น เดินไปเก็บเสื้อผ้าสองสามชุดใส่กระเป๋าสะพายหลัง และเดินออกไปจากห้องนอนที่ไร้เจ้าบ่าวทั้งน้ำตา
หล่อนมุ่งหน้าตรงไปยังบันได แต่ระหว่างทางก็เห็นพีรวัตรยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียงบ้านเสียก่อน แม้เขาจะหันหลังให้ แต่น้ำเสียงที่ดังออกมาจากลำคอของเขาบอกให้รู้ได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังอารมณ์ดีแค่ไหน
“ครับผม... เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแวะไปหา”
พีรวัตรจะต้องมีผู้หญิงคนอื่นอย่างแน่นอน หล่อนเจ็บจนจุกไปทั้งหัวใจ จนสติขาดสะบั้น หล่อนเดินเข้าไปหาเขา กระชากโทรศัพท์มือถือของเขาเอาไว้ ก่อนจะปาทิ้งออกไปนอกระเบียง
“ถ้าพี่พีร์รักคนอื่น แล้วมาขอน้ำแต่งงานทำไมคะ”
พีรวัตรมองโทรศัพท์มือถือที่ถูกเหวี่ยงทิ้งไปนอกระเบียง ก่อนจะหันมามองชาลินีอย่างโมโห
“เธอทำบ้าอะไรของเธอ ชาลินี!”
“แล้วพี่พีร์ทำบ้าอะไรอยู่คะ คุยกับชู้รักที่ไหน!”
“อย่ามาละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของพี่ จำใส่หัวเอาไว้”
หล่อนร้องไห้ไม่หยุด ทั้งปวดใจและเจ็บใจในเวลาเดียวกัน
“น้ำไม่รู้หรอกนะคะว่าพี่พีร์ทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่งงานกับน้ำทำไม แต่ในเมื่อน้ำเป็นภรรยาของพี่พีร์แล้ว พี่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปคุยกับคนอื่น เข้าใจไหมคะ”
“มันจะมากไปแล้วนะ ชาลินี”
“ไม่มากไปหรอกค่ะ น้ำพูดความจริง”
หล่อนเชิดหน้าสูง มองเขาอย่างสิ้นสุดความอดทน
“น้ำจะเรียนคุณแม่ของพี่พีร์เรื่องนี้”
“อย่าเชียวนะ”
หล่อนสะบัดหน้าหนี และจะเดินออกไป แต่แขนเรียวถูกคว้าเอาไว้ พร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่กระแทกเข้าใส่หน้านวลของหล่อนเต็มแรง
“โอ๊ย...”
หล่อนถูกพีรวัตรตบจนหน้าหัน เลือดซึมที่มุมปากเพราะภายในแตกยับ
“พี่พีร์...?”
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายสุภาพ แสนดีอย่างพีรวัตร จะทำร้ายร่างกายของหล่อน
“ถ้าไม่อยากถูกตบอีก ก็ไสหัวไปให้พ้นหน้าพ้นตาฉันนะ ไปสิ!”
หล่อนกุมซีกแก้มที่กำลังบวมเป่ง กัดฟันลุกขึ้น ก่อนจะวิ่งหนีออกไปทั้งน้ำตา
“พี่พีร์ใจร้าย... คนใจร้าย...”
หล่อนวิ่งหนีออกมาจากรั้วบ้าน แม้ว่ายามจะตะโกนเรียกยังไง ฝ่าเท้าเปลือยของหล่อนก็ยังคงย่ำลงไปบนพื้นถนนคอนกรีตครั้งแล้วครั้งเล่า หัวใจปวดร้าวทรมาน จนเหมือนกับจะขาดใจ
ทำไมมันจะต้องเป็นแบบนี้ด้วย ชีวิตของซินเดอเรลล่า ทำไมมันจบลงเร็วนัก แถมยังไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งเหมือนดังในนิทานอีก
“คนใจร้าย... คนใจร้าย...”
หยาดน้ำตาไหลรินออกมาไม่หยุด มันท่วมทนใบหน้า และทำให้การมองเห็นของหล่อนลดน้อยลงมากเลยทีเดียว หล่อนหยุดวิ่ง และคิดจะข้ามถนน
“น้ำจะไม่อยู่ในพี่พีร์ทำร้ายจิตใจอีกแล้ว”
หล่อนค่อยๆ ก้าวข้ามถนน และไม่ทันได้มองเห็นแสงไฟของรถยนต์คันหนึ่งที่กำลังแล่นมาด้วยความเร็ว หล่อนข้ามตัดหน้าทันที
เอี๊ยดดดดด...
เสียงล้อรถครูดไปกับพื้นถนนดังลั่นหวั่นไหว หน้ารถพุ่งทะยานมาหยุดอยู่ห่างจากร่างของหล่อนเพียงแค่เส้นด้ายลอดผ่านเท่านั้น
“บ้าชิบ... อยากตายหรือไงวะ!”
คนที่ต้องเบรกรถกะทันหันเพราะมีมนุษย์ไร้สติเดินตัดหน้ารถสบถดังลั่นด้วยความโมโห ก่อนจะรีบเปิดประตูลงไปจัดการกับคู่กรณี
“นี่คุณ... อยากตายก็ไปกระโดดน้ำนู้น อย่ามาทำให้คนอื่นเดือดร้อน...!”
ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งสภาพไม่ต่างจากคนบ้ายืนโงนเงน และก็ล้มพับลงต่อหน้าต่อตา เขาต้องรีบถลาเข้าไปคว้าร่างนั้นเอาไว้ และถามอย่างตกใจ
“นี่คุณ... เป็นอะไรไปน่ะ คุณ!”
ธีรภัทรเขย่าร่างของผู้หญิงนิรนามเพื่อให้หล่อนได้สติ แต่เจ้าหล่อนก็ไม่ยอมตื่น เดือดร้อนมาถึงเขาที่จะต้องพาหล่อนไปโรงพยาบาล
“ทำไมมันซวยแบบนี้วะ”
แม้จะหัวเสียแค่ไหน แต่เขาก็ถูกเลี้ยงมาให้มีน้ำใจกับสตรี เด็ก และคนชรา
“ยายตัวซวย”
ชายหนุ่มอุ้มร่างไร้สติของชาลินีขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะบ่นอุบ
“ผู้หญิงอะไรตัวหนักยังกับช้าง นี่กินอ้อยเป็นอาหารหรือไงนะ”
เขายัดร่างอวบอัดเข้าไปในรถกระบะสี่ประตูคันเท่ห์ของตัวเอง ก่อนจะรีบขับตรงไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้บริเวณนั้นที่สุด