“เหมียว… เฮียฝากร้านแป๊บนึงนะ ไปธุระ เดี๋ยวกลับมา”
“ค่าาาาาาา”
เจษ เจ้าของธุรกิจโรงพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ครองโสดมานานจนกระทั่งอายุสามสิบกว่า เป็นคนใจกว้างกับลูกน้อง หน้าตาสะอาดสะอ้าน และเป็นหนุ่มที่มีสาวๆ ในจังหวัดหมายจะได้เป็นคู่ครอง แต่เขาก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจกับใคร
ที่ผ่านมาเจษมักจะคบกับใครไม่ได้นาน สาวๆ บางคนมาแล้วก็ไป บางคนเขาก็คบแค่พอให้หายอยาก บางคนก็มาหวังจะแต่งงานเพื่อให้ได้ความมั่นคงในชีวิตซึ่งเขาก็มองออก มันจึงมักจะไปกันไม่รอด
หลังจากที่เขาใช้ชีวิตเพลย์บอยในช่วงวัยรุ่นมาอย่างโชกโชน พออายุย่างเข้าสู่วัยกลางคนทำให้เขาเริ่มมองหาคนที่จะคบกันได้ในระยะยาวมากขึ้น
จนเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็ได้พบกับคนที่ถูกใจเข้าอย่างจัง
เจ๊หงส์………
มันเริ่มมาจากเขาได้มีโอกาสไปเสนองานพิมพ์ป้ายให้กับร้านขายส่งของเจ๊หงส์ พอได้พบกับเธอก็กลายเป็นว่าเขาตกหลุมรักและเพ้อถึงอย่างหนัก
ถึงแม้จะรู้ว่าเจ๊หงส์เป็นม่ายแม่เลี้ยงเดี่ยว และอายุแก่กว่าเขาไม่กี่ปี แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ยังเหมือนสาวรุ่นและกิริยาท่าทางของเธอที่ดูเย้ายวนมีเสน่ห์ ทำให้เขาหลงใหลเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น
เจษพยายามแสดงตัวอย่างชัดเจนว่าจีบเจ๊หงส์ ตรงไปตรงมา และจริงใจ ทั้งคำพูดและการแสดงออกในการเจอกันแต่ละครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เจษจะเก็บอาการว่าเขาชอบเธอ
แต่ดูเหมือนเจ๊หงส์ก็ยังไม่สนใจจะตอบรับความรู้สึกของเขา…
“เราเป็นคู่ทำธุรกิจ… เป็นเพื่อน… เป็นมิตรที่ดีต่อกันไปก่อนนะคุณเจษ” หงส์บอกกับเขาเมื่อครั้งล่าสุดที่เจษได้ตัดสินใจขอคบกับเธอ
เจษก็ไม่รู้ว่าเหตุผลที่โดนปฏิเสธคืออะไร เขาค่อนข้างมั่นใจในความพร้อมของตัวเอง หญิงคนอื่นๆ ก็ต่างต้องการเขา แต่กับเจ๊หงส์ที่เป็นม่าย…. สำหรับเขาดูไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว
เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปบ้านเจ๊หงส์ที่อยู่แถวนั้น ตั้งใจจะเอาขนมหวานไปฝากเพราะหวังจะได้คุยกัน เคาะประตู…. ไม่มีคนตอบ ตะโกนเรียก…. ก็เงียบ น่าแปลก… เวลานี้ปกติเธอน่าจะอยู่บ้าน
กำลังจะหันหลังกลับแต่ก็คิดเผื่อไปว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นข้างในจึงลองบิดประตู….. ไม่ได้ล็อค
เขายิ่งแปลกใจกว่าเดิมเพราะถ้าไม่มีคนอยู่ก็น่าจะล็อคประตู หรือถ้ามีคนด้านในแล้วเขาส่งเสียงเรียกขนาดนี้น่าจะตอบกลับมาบ้าง
เจษจึงค่อยๆ ย่องเข้าไปในบ้าน ปิดประตู เดินเข้าไปกลางบ้าน…. ดูเหมือนจะไม่มีคนอยู่จริงๆ เขาตัดสินใจกำลังจะหันหลังเดินกลับก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่หน้าบ้านและกำลังจะเปิดประตูเข้ามา
เขาตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าทำไมถึงเข้ามาแอบอยู่ในบ้านคนอื่นแบบนี้ เขารีบย่องเข้าไปด้านในเพื่อจะเปิดประตูห้องหนึ่ง หวังว่าจะมีหน้าต่างให้เขาปีนหนีออกไปได้ทีหลัง
เมื่อเจษเปิดประตูก็พบว่ามีเด็กสาวกำลังนั่งแหงนหน้าหลับตาเสียบหูฟังอยู่ในรูหู ถลกเสื้อยืดขึ้นมาคาบไว้ในปากเผยเต้านมขาวให้เห็น มือนึงก็ใช้นิ้วเขี่ยหัวนมอีกมือก็ล้วงเข้าใต้กางเกงในขยี้ถูไปมา
"น้องหยก…….." เจษอุทานเรียกชื่อเด็กสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า
"ลุง!!!........." เธอสะดุ้งหันมามองแล้วรีบรวบเสื้อผ้าปิดบังกาย
"ลุงเข้ามาได้ยังไง! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!"
"เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นๆ นะหยก แม่เธอกำลังจะเข้าบ้าน พาใครมาด้วยก็ไม่รู้ ลุงไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่"
คำพูดของเจษทำให้หยกกลับมาตั้งสติได้ทันทีว่าจริงๆ แล้ว เธอก็กำลังแอบอยู่ในบ้านที่แม่ไม่รู้เหมือนกัน การไล่เขาออกไปเจอแม่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
"มานั่งนี่เลยลุง เร็วๆ เบาๆ แล้วอยู่เงียบๆ ด้วย"
เจษไม่มีทางเลือก รีบปิดประตูแล้วเข้าห้องนั่งลงข้างเธอตามที่น้องหยกบอก แม้จะไม่รู้ว่าทำไมเธอแอบอยู่ที่นี่แต่ก็ยังไม่กล้าถามอะไร เพราะเสียงประตูบ้านเปิดและมีคนเดินเข้ามาแล้ว
พวกเขาทั้งคู่เงี่ยหูฟังเงียบๆ ได้ยินเสียงชายหญิงคุยพลอดรักกันอยู่ด้านนอก เจษมั่นใจจากเสียงที่ได้ยินว่าเป็นเจ๊หงส์แต่ผู้ชายอีกคนคือใคร……
"เจ๊หงส์มีแฟนแล้วเหรอ….." เขาพึมพำเบาๆ
"......ไม่ใช่แฟนค่ะ….....… แค่ชู้" น้องหยกกระซิบตอบกลับ
"หะ หาาา" เจษอุทานตกใจจนหยกต้องรีบเอามือไปปิดปากแล้วส่งสัญญาณบอกให้เบาๆ
เขาพยักหน้าแล้วนั่งเงียบ ทั้งคู่ได้ยินเสียงสองคนด้านนอกเดินผ่านหน้าห้องแล้วเปิดประตูบานถัดไป เจษกลั้นหายใจด้วยความตื่นเต้นสุดขีด พอเสียงปิดประตูห้องข้างๆ ดังขึ้น น้องหยกก็ชี้มือให้เจษดูในจอทีวีที่เจ๊หงส์กำลังจูงมือชายคนนั้นเดินเข้ามา
"ไอ้เมฆ!!?"