การประชุมลับกำจัดหมาป่าคลั่งเกิดขึ้นอีกครั้ง หนนี้บรรยากาศเคร่งเครียดกว่าครั้งไหน ๆ โดยเฉพาะอดีตบอดีการ์ดของดันเต้ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนหลังการลอบสังหารที่กรุงเทพ
แม้จะมีค่าตอบแทนก้อนโตมาจูงใจ คำถามคือเมื่อไหร่ภารกิจจะเสร็จสิ้น
“หนนี้เราถึงต้องวางแผนให้รัดกุมที่สุดไงล่ะ” ฟรานเชสโก้กล่าวแล้วจึงเปลี่ยนหัวข้อไปพูดเรื่องอื่นทันที
“เราตามติดความเคลื่อนไหวมารีญามาสักพัก เธอเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี ไม่เคยอวดอ้างว่าเป็นคนของแก๊งมาเฟีย เท่าที่ดูก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ” รูปภาพมิรินตามสถานที่ต่าง ๆ ถูกฉายขึ้นจอ หลายคนลงความเห็นว่าไม่ควรเสียเวลาเรื่องไร้สาระผู้หญิง
มีเพียงคนเดียวที่ไม่มองข้ามรายละเอียดสำคัญ
“พฤติกรรมเธอน่าสนใจดีนะครับ น่าจะชอบไปร้านหนังสือกับร้านเจลาโต้เอามาก ๆ ด้วย” หนุ่มรูปงามจากดูลซัลดรอฟบุ้ยใบ้ไปที่จอ
“มันสำคัญด้วยเหรอคุณวากเนอร์”
“สำคัญสิครับ มันดูผิดที่ผิดทางไปหมด มารีญาดูใสสะอาดเกินกว่าจะอยู่กับพวกนั้นได้” เขาตัดสินใจเสนอตัวต่อที่ประชุม
“ผมจะสืบเรื่องของเธอเอง เราจะพบจุดอ่อนของหมาป่าก็ได้”
งานของมิรินคือการแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปสืบข่าวตามที่ได้รับแจ้ง ล่าสุดได้ข่าวสำคัญมาพอสมควรโดยเฉพาะคู่ปรับที่มีฉายาว่าราชสีห์จากดูลซัลดรอฟที่มาปรากฏตัวแถวย่านชานเมือง
ระหว่างนี้ระบบยังช่วยให้เธอสามารถสื่อสารได้ทุกภาษา
เครื่องดักฟังก็จับความผิดแปลกนี้ได้และมันก็ไปหูดันเต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันที่จริงแค่ภาษาอิตาเลี่ยนได้นับว่าเหลือเชื่อแล้ว แต่นี่ได้ทั้งสแปนิช ดอยซ์และฮังกาเรี่ยนในเวลาใกล้เคียงกัน
“ฮังกาเรี่ยนแปลว่าไร” มาเฟียหนุ่มถาม
“น่าจะแปลว่าสวัสดีจ๊ะพ่อรูปหล่อ”
“ไร้สาระว่ะ” ที่สำคัญรูปถ่ายที่ดึงมาจากโทรศัพท์ก็มีแต่รูปถ่ายเซลฟี่กับหมาแมวและสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งไร้ประโยชน์อย่างที่สุด
ถ้าเป็นเมื่อก่อนมิรินจะโดนกล่าวหาเป็นสายลับ นอกจากถูกจับเค้นความจริงแล้วอาจจบด้วยการส่งไปไร่องุ่นที่มีแต่คนงานวัยกลัดมัน
ตอนนี้ดันเต้จะใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้จึงสั่งให้เธอแฝงตัวเข้าไปในคลับที่ตระกูลวากเนอร์เป็นเจ้าของ การแฝงตัวหนนี้ต้องแปลงโฉมแบบยกเครื่องเลยทีเดียว
“แต่ทำไมต้องใส่วิกผมทองด้วยล่ะคะ” มิรินถามแต่ได้คำตอบแค่ว่าเป็นคำสั่งห้ามถามเหตุผลเป็นอันขาด เธอได้แต่ปิดปากเงียบปล่อยให้ช่างฯ ทำงานต่อจนเสร็จแล้วไปให้เจ้านายดูตัวก่อนไปทำภารกิจ
“หึ ขี้เหร่น้อยลง”
คำก็ขี้เหร่สองคำก็ว่าขี้เหร่ขนาดแปลงโฉมเป็นแหม่มผมทองแล้ว ที่ผ่านมาคำขอบคุณหรือชื่นชมก็ไม่เคยมีสักคำ ที่สำคัญไม่เคยเรียกชื่อเธอเลยสักครั้ง
ถ้าไม่ใช่ภารกิจคงไม่อยู่ให้เสียสุขภาพจิตเป็นแน่
“รินถือเป็นคำชมนะคะ ขี้เหร่น้อยลงแปลว่าสวยขึ้น ขอบคุณค่ะดอน” มิรินคลี่ยิ้มหวานกลายเป็นดันเต้นิ่งไปราวต้องมนตร์สะกดเพราะไม่เคยเห็นรอยยิ้มโง่ ๆ ที่ดูจริงใจเช่นนี้มาก่อน
แล้วการพูดขอบคุณทั้งที่โดนถากถางมันหมายความว่าอะไรกัน
“ประสาทฉิบ!”
“อะไรนะคะ” ร่างบางถามแต่ก็ถูกสั่งให้ออกจากห้องทันที
ปลายทางคือคลับดนตรีแจ๊ซที่อยู่ในชุมชนชาวเยอมนี โชคดีที่มิรินมาทันการแสดงสดที่ได้นักเปียโนรูปงามฉายาราชสีห์แห่งดูลซัลดรอฟ
“เพอร์ซี่ เขาคือเพอร์ซี่ วากเนอร์แน่ ๆ” ในที่สุดก็ได้เจอพระเอกนิยายผู้ปิดตำนานหมาป่าคลั่ง สิ่งที่จะเกิดจากนี้คือการลอบสังหารที่ฟลอเรนซ์
ระหว่างการแสดงมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งทยอยลุกจากโต๊ะแล้วเดินหายไปหลังร้านแล้วพูดคุยกันด้วยภาษาดอยซ์โดยไม่รู้ว่ามีคนแอบตามไปบันทึกวิดีโอไว้ได้
“เราทุ่มเทให้ขนาดนี้ไม่ซาบซึ้งในน้ำใจก็คงไม่รู้จะว่าไงแล้ว” เธอบ่นด้วยความเหนื่อยหน่ายใจระหว่างทางกลับบ้าน แม้ภารกิจจะจบลงในเวลาอันสั้นแต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
การปลอมตัวครั้งนี้ไม่อาจเล็ดลอดสายตาของเพอร์ซี่ได้ ฝ่ายนั้นพลาดตรงที่ลุกออกไประหว่างการแสดงแล้วหายเข้ากลีบเมฆ ทั้งที่ควรจะกลับมานั่งต่อจนจบ
ยกเลิกภารกิจก่อนเถอะครับ คนของหมาป่ามาที่นี่
ข้อความแจ้งเตือนที่ทำให้ความคิดเห็นแตกเป็นสองฝั่งทันที แต่ส่วนใหญ่อยากทำตามแผนเพราะรอไม่ได้แล้ว
ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด คนโดนหมายหัวที่รู้เหตุการณ์อยู่ก่อนแล้วกำลังเริงสวาทแบบ 3 ต่อ 1 ในห้องประตูแดงอย่างสบายอารมณ์ ดวงตาสีเทาคมกริบดุจนักล่ามองสามสาวที่แย่งกันปรนเปรอแท่งร้อนด้วยปาก
“อ่าห์~ โอ้ว ซี๊ด!...อ่าห์ เสียวเว้ย!”
ต่อไปตากูนะไอ้พวกลอบกัด