บทที่สอง

2171 คำ
ขณะที่สาว ๆ กำลังจ้องมองอ้าปากค้างไปที่เป้าหมายและดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัว เขาหันมาเขม้นมองกลุ่มสาว ๆ ที่จ้องมาอย่างเอาเป็นเอาตาย และทันทีที่เขาเห็นว่าหนึ่งในนั้นคือพี่สาวที่พึ่งเจอกันเมื่อตอนเย็น รอยยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มที่ข้างแก้มก็ปรากฏขึ้นก่อนเขาจะหันไปหากลุ่มเพื่อน พูดอะไรบางอย่างก่อนจะแยกตัวออกมาแล้วสาวเท้ามายังโต๊ะของสาว ๆ ทันที “เชี่ยมาแล้ว ทิชา มาจริง ๆ ด้วยว่ะ” “เออ เห็นแล้ว” ทิชาตอบปากคอสั่นด้วยความตื่นเต้น ไม่นานเขาก็มาถึงโต๊ะแล้วค้อมศีรษะลง “เจอกันอีกแล้วนะครับพี่ทิชาคนสวย สวัสดีพี่คนสวยทุกคนด้วยนะครับ” พูดพลางหันไปส่งยิ้มให้ทุกคนรอบวงที่ต่างก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจที่ได้เป็นคนสวยโดยปริยายในขณะนี้ ทิชายิ้มค้างแต่ก็แอบแปลกใจไม่ได้ เมื่อเย็นที่คุยกันเธอยังไม่ได้บอกชื่อตัวเองกับเขาไปเลยนะ แล้วเขารู้จักชื่อเธอได้อย่างไร เอ๊ะ หรือว่าบอกนะ เธอเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน “หวัดดีจ้ะน้องมาวิน” เป็นแจนที่กล่าวทักทายกลับ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย “รู้จักชื่อผมด้วยเหรอครับ” “รู้จักสิ ก็ไอ้ทิชามันเล่าเรื่องของน้องให้พวกพี่ฟังด้วย” “จริงเหรอครับ ดีใจจังเลย” “จริง นี่ก็กำลังคุยกันเรื่องน้องอยู่เลยนะ จู่ ๆ น้องตัวจริงก็โผล่มาเลยตกใจไง” ทิชาเอื้อมมือไปเขย่าแขนแจนให้พูดน้อยลงหน่อยแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว “พี่ชื่อแจนนะ ส่วนนั่นเนย ขิง ส้มโอ ส่วนที่สวยที่สุดนี่น้องรู้อยู่แล้วว่าชื่อทิชาถูกไหม” “ต้องรู้อยู่แล้วสิครับพี่ ๆ ส่วนผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ชื่อมาวินนะครับ เรียกวินเฉย ๆ ก็ได้ ” มาวินว่าพลางส่งสายตากับรอยยิ้มหวานผ่านแว่นข้ามโต๊ะมาให้ “เดี๋ยวนะ แล้วนี่อยู่มออะไร อายุเท่าไหร่ เข้าผับได้แล้วเหรอ” “วินกำลังจะขึ้นมอหกครับ จริง ๆ ก็ยังไม่ได้หรอกแต่พอดีที่นี่เป็นของพ่อวินเอง” “อ๋อ” เนยตอบพลางพยักหน้าหงึกหงัก “พึ่งขึ้นมอหกแปลว่าพึ่งจะสิบเจ็ดย่างสิบแปดดิ ทำไมตัวโตจัง ตอนเด็ก ๆ พ่อแม่เอายีราฟให้กินเหรอ” คนถูกตามหัวเราะร่วน “จริง ๆ วินสิบแปดย่างสิบเก้าแล้วครับ เพราะไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ออสมาปีนึงก็เลยเป็นเด็กโข่ง” “อ๋อ ถึงว่าสิ ทำไมดูโตจัง มานั่งด้วยกันสิวิน” เป็นแจนที่เอ่ยชวน ทิชาตาเหลือกพลางหันไปจ้องแจนตาเขม็งแต่อีกฝ่ายไม่รับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น “วินเกรงใจอ่ะ เดี๋ยวจะทำให้พวกพี่อึดอัดเปล่า ๆ” “โอ๊ยไม่อึดอัดหรอก พอดีทิชาพึ่งบอกเลิกแฟนไปเลยถือโอกาสมาฉลอง ถ้าวินมาร่วมวงด้วยอีกคนจะได้ช่วยฮีลใจให้ทิชา ดีขึ้นไว ๆ” คำพูดนั้นทำให้ดวงตาคมหลังแว่นเป็นประกายบางอย่างแว่บหนึ่ง “วินก็กำลังนึกถึงพี่ทิชาอยู่พอดีเลย เป็นห่วง ไม่รู้ว่าจะยังนั่งอยู่ตรงนั้นอีกนานแค่ไหน ได้รู้ว่าเลิกกับคนใจร้ายได้วินก็ดีใจมากแล้วครับ” “เอ๊ ทำไมต้องดีใจที่ได้รู้ว่าเพื่อนพี่เลิกกับแฟนแล้วด้วยน้า หรือว่าแอบคิดอะไรกับเพื่อนพี่คะ” ขิงว่าปรายตามามองทิชาที่ได้แต่นั่งอึ้งที่เพื่อนฝูงต่างก็ปูทางให้อย่างเต็มที่ “แล้วถ้าบอกว่าคิดจะผิดไหมครับ” “อู๊ยยย !” สาว ๆ อุทานแล้วต่างก็หันไปพยักเพยิดให้กัน ส่วนทิชานั้นหน้าแดงก่ำ ทั้งเขินทั้งอายจนแทบจะมุดลงไปใต้โต๊ะอยู่แล้ว “งั้นเดี๋ยววินกลับมานะครับ ขอตัวไปบอกเพื่อนก่อนเพราะว่ามาด้วยกัน เดี๋ยวมานะครับ รอนะ” พูดพลางส่งยิ้มข้ามโต๊ะมาให้ทิชาที่นั่งเงียบพูดไม่ออกบอกไม่ถูก อ้าปากค้างอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งร่างสูงเดินจากไป แจนเอื้อมมือมาดันคางให้ปากของเธองับลงนั่นแหละจึงรู้ตัว “อ้าปากค้างเลยนะ อ้ารออะไรมายัดเหรอจ๊ะ” “ไอ้แจนทะลึ่ง พวกแกทำอะไรกันเนี่ย น้องเขาพึ่งอยู่มอหกเองนะเว้ย ยังเด็กอยู่เลย” “เอาอะไรมาเด็กวะ ตัวก็ใหญ่กว่าไอ้เหี้ยแทนแฟนแกแล้ว ส่วนอย่างอื่นก็น่าจะใหญ่ตามไปด้วยแหละ” “ให้แก้ผ้าเช็กเลยดีไหมวะ” “บ้า” “แล้วแกก็ต้องทำตามที่พูดออกมาด้วยนะทิชา ไอ้ที่ว่าถ้าเจออีกจะลองเลียน้องเขาน่ะ” “โอ๊ย ไปกันใหญ่แล้ว ฉันพูดเล่น ใครจะกล้าทำวะ ไม่เอาด้วยหรอก” ทิชาบ่นพึมพำ “อยากเข้าห้องน้ำ” “ไป ๆ ฉันไปเป็นเพื่อน” แจนว่าก่อนที่ทั้งคู่จะลุกขึ้นแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน โชคดีที่ตอนนั้นเป็นจังหวะที่นักดนตรีกำลังเล่นเพลงเร็วที่กำลังฮิตติดชาร์ต ผู้คนเลยมัวเมามันกับการออกเสต็ป ในห้องน้ำเลยไม่มีใครนอกจากสองสาวที่กำลังเติมหน้าอยู่ที่หน้ากระจก “ทิชา” แจนเรียกเพื่อน ทิชาเงยหน้าขึ้นพลางทาลิปสติก สบตาเพื่อนผ่านกระจก “หืม” “แกไม่ชอบน้องวินเหรอ” ทิชาหลบสายตาเพื่อนทันที “แกจะบ้าหรือไงแจน พึ่งเจอกันแค่ครั้งเดียวเอง อีกอย่างน้องเขาเด็กกว่าเราด้วย” “แล้วไงวะ ฉันเห็นที่ผ่านมาแกคบรุ่นพี่ก็แล้วรุ่นเดียวกันก็แล้วแม่งก็เฟลตลอดอะ เหี้ยกันถ้วนหน้า ลองเด็กบ้างจะเป็นไรไป แล้วไม่ต้องยกเหตุผลที่น้องมันเด็กกว่ามาพูดเหอะ เด็กแค่อายุแต่อย่างอื่นไม่เด็กเลย” “นั่นแหละที่น่ากลัวแจน” ทิชาว่าพลางเงยหน้ามาสบตาเพื่อนผ่านกระจกอีกครั้ง “น่ากลัวยังไงวะ” “ก็น้องมันอายุยังน้อย แค่กำลังขึ้นมอหกแต่ดูเป็นหนุ่มเกินอายุมากเลย ทั้งท่าทางคำพูดคำจาแพรวพราวกร้านโลกไปหมด เผลอ ๆ เก่งกว่าพวกเราด้วยซ้ำ ทั้งหล่อทั้งพูดเก่งแถมเป็นลูกชายเจ้าของผับแบบนี้รับรองว่าผู้หญิงวิ่งชนชนิดสับรางไม่ทันแน่ ฉันไม่อยากหนีเสือปะจระเข้หรอกนะแก” แจนนิ่งไป เห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อน แต่เงียบได้ไม่นานก็พูดขึ้นอีก “แต่มันก็ไม่ผิดไม่ใช่เหรอวะที่เราจะปล่อยจอยให้ชีวิตบ้าง แกพึ่งจะอกหักมา ให้เลือดมันสูบฉีดบ้างจะเป็นไรไปวะ” “ฉันไม่อยากใช้ใครมาทำประชดใครหรอกนะ” “อย่างน้อยน้องเขาก็ห่วงใยแกและทำให้แกดีขึ้น ไม่ใช่เหรอวะทิชา” ทิชายิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้า “ก็ใช่” “นั่นไง ก็ใช้สิ่งนี้ฮีลใจสิวะ มันไม่ผิดหรอกนะทิชา ดีกว่ามานั่งจมจ่อมอยู่เฉย ๆ” “นี่แกหมายความว่าจะให้ฉันหลอกใช้น้องเขาทำให้ตัวเองดีขึ้นเหรอ” “เปล่า แค่อยากให้แกดีขึ้น รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นก็แค่นั้น ผัวที่ดีคือผัวใหม่แกไม่เคยได้ยินเหรอ” “นี่ใจคอแกจะให้ฉันเอาน้องเขาทำผัวเลยหรือไง” ทิชาพูดขำ ๆ แต่เจนตอบมาอย่างจริงจัง “จริง ๆ ถ้าได้ก็ดีนะทิชา ทั้งหล่อทั้งแซ่บน่ากินขนาดนั้น หรือแกจะบอกว่าไม่อยาก” ทิชาไม่ตอบแต่เลือกที่จะก้มหน้าก้มตาเก็บของเข้ากระเป๋า “ไป ๆ ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวพวกนั้นมันบ่น” “ถ้าแกไม่อยากฉันขอนะ” แจนพูดทีเล่นทีจริง ทิชาหันมาจ้องเพื่อนเขม็งทำให้อีกฝ่ายหัวเราะพรวดออกมา “เห็นมะ ขนาดนั้นล้อเล่นแบบนี้แกยังหึงน้องเขาเลย” “จะบ้าหรือไง ใครจะหึง ยังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ก็แค่รู้สึกว่าไม่ควรป่ะวะ กินต่อเพื่อนไรงี้” “ล้อเล่นน่า แกก็รู้ว่าฉันและเพื่อนคนอื่นในกลุ่มไม่มีวันทำหรอก แต่ผู้หญิงคนอื่นน่ะทำแน่ ฉันเห็นมีแต่สาว ๆ จ้องน้องวินตาเป็นมันทั้งนั้นเลย ถ้าแกไม่เอาล่ะก็หมาคาบไปแดกแน่” ทิชาไม่พูดอะไรทั้งนั้น คว้าแขนของแจนไว้แล้วลากกลับไปที่โต๊ะ แต่หัวใจของเธอต้องกระตุกวาบเพราะบัดนี้โต๊ะของเธอถูกต่อให้ยาวขึ้นและมีสมาชิกเพิ่มขึ้นนั่นคือเพื่อน ๆ ของมาวินนั่นเอง ส่วนเขาก็นั่งอยู่ข้าง ๆ ที่นั่งของเธอ “ว้าว รุกแรงเว้ย น้องไม่ได้น่ากินคนเดียวแต่เพื่อนน้องยังน่ากินกันทุกคนเลยว่ะ คืนนี้แม่จะลองกินเด็กมอปลายซะหน่อย” แจนว่าพลางยิ้มกริ่มแต่ขาก็ต้องชะงักลงเมื่อเห็นใครบางคนอยู่อีกมุมของผับ รอยยิ้มบนใบหน้าก็เหือดหายลงเช่นกันพร้อมกับหันกลับมาหาทิชา “เห็นป่ะทิชา ไอ้เหี้ยแทนก็มาว่ะ” ทิชาใจหายวาบ “ไหนวะ” “โน่นไง ฝั่งซ้ายใกล้ประตูทางออก ยืนเต้นอยู่กับอีดิว ตลาด ปวช.สาม กูเชื่อมันเลยว่ะ เย็นอยู่กับอีกคนแถมกลางคืนอยู่กับอีกคน เหี้ยสมบูรณ์แบบจริง ๆ” ทิชาตัวสั่นมือสั่นไปหมดพร้อมกับล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาง้อเมื่อราวสามนาทีก่อนให้แจนดู “แกดูสิ มันพึ่งส่งข้อความมาง้อฉันทั้งที่มันมาที่นี่กับผู้หญิงคนอื่น” “มีอะไรกันเหรอครับ” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ยืนชิดกับทิชาแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าสองสาวมีใบหน้าเครียดและไม่ยอมไปนั่งที่โต๊ะ “แฟนของทิชาน่ะสิ เมื่อเย็นที่มันผิดนัดทิชาทิ้งให้ทิชารอแล้วส่งข้อความมาตอแหลว่าแม่มันไม่สบาย แต่ความจริงคือพี่แจนเห็นมันพาผู้หญิงอีกคนไปนอนที่หอ แล้วดูนั่น ตอนนี้มันพาอีกคนมาเที่ยวทั้งที่มันพึ่งส่งข้อความมาง้อทิชาที่พึ่งส่งข้อความไปบอกเลิกมันอยู่เลย เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นผู้ชายคนไหนตอแหลได้ขนาดนี้” มาวินตวัดสายตาไปยังปลายทางที่เป็นชายคนหนึ่งผู้มากับเพื่อนอีกสามคน และแต่ละคนมีผู้หญิงมาด้วยคนละคนเช่นกัน ดูเหมือนนายคนนั้นจะรู้ตัวแล้วว่ามีใครกำลังจ้องมองอยู่ เขาปล่อยมือจากผู้หญิงคนนั้นแล้วลุกขึ้นยืน มองมาจุดที่ทิชายืนอยู่ทันที เธอเชิดหน้าขึ้น ขอบตาร้อนผ่าว มือสั่นเทาไปหมด ทั้งโมโหทั้งเสียใจ พลันนั้นก็มีมืออุ่น ๆ สอดเข้ามาเกาะกุมมือเธอเอาไว้ อีกมือหนึ่งโอบรอบเอวคอดแล้วรั้งเข้าไปหาอ้อมอก ทิชาเงยหน้าขึ้นก็พบว่าใบหน้าของมาวินก้มลงมาใกล้จนแทบจะชิดกันอยู่แล้ว “พี่โอเคไหมครับ” “เอ่อ... โอเคค่ะ” “วินทำแบบนี้เพื่อที่ไอ้หมอนั่นมันจะได้รู้สึกตัวบ้างว่าโง่แค่ไหนที่ทิ้งผู้หญิงอย่างพี่ไปหาคนอื่นแบบนี้” “ทำดีค่ะ จงทำต่อไปค่ะน้องวิน” เป็นแจนที่หันมามองแล้วพูดขึ้นอย่างสะใจเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของแทนไทที่มีต่อภาพตรงหน้า ทิชาเป็นแฟนสาวที่ดีและซื่อสัตย์อยู่เสมอ แต่ทำไมวันนี้ส่งข้อความมาบอกเลิกพร้อมกับยืนกอดอยู่กับไอ้หนุ่มหน้าหล่อสูงใหญ่ที่ไหนไม่รู้หน้าตาเฉย แทนไทอยากจะเดินเข้ามาเคลียร์มาคุยแต่ก็ติดที่ว่าเขามีสาวมาด้วยและกลุ่มของมาวินก็มากกว่า ตัวใหญ่กว่า เขาเลยได้แต่ยืนนิ่ง ๆ ทำตัวไม่ถูกอยู่อย่างนั้น แต่สายตายังคงจ้องมาไม่หยุด ขณะนั้นทิชาก็เอื้อมมือไปคล้องลำคอแกร่งของมาวินเอาไว้ “ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ วินช่วยพี่ไว้หลายอย่างเลย” รอยยิ้มจริงใจผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา “ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งครับคุณผู้หญิง” พูดเย้าพลางรั้งเอวเธอแล้วออกเดินไปที่โต๊ะ “ไปนั่งคุยกันที่โต๊ะดีกว่าครับ” “ค่ะ” ทิชาตอบ ยินยอมพร้อมใจให้เขาแตะเขาต้องและเดินตามเขาไปแต่โดยดี รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด ใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจาง ๆ จากตัวเขา อีกใจก็รู้สึกสะใจเหลือเกินเมื่อปรายตาไปเห็นว่าแทนไทนั้นหงุดหงิดจนนั่งไม่ติด จะได้รู้เสียบ้างว่าคนอย่างเธอไม่ใช่ของตายของใครทั้งนั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม