“พี่ไปหลายปีจะไม่ดื้อใช่ไหม”
“เอยเคยดื้อด้วยเหรอคะ”
“ก็ไม่ แต่ไม่เคยก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ดื้อ”
“ไม่เคยก็ไม่ได้แปลว่าวันหนึ่งจะต้องเคยนี่คะ” เธอตอบโต้เขากลับด้วยคำพูดแสนฉลาดที่มาพร้อมกับเสียงน่ารักปนหวาน
“เข้าใจคำว่าดื้อของพี่รึเปล่าเรา”
“ก็...เข้าใจสิคะ” ขวัญเอยตอบคนที่มองหน้าเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง เข้าใจสิแต่เธอขอแค่อย่าพูดให้ตรงประเด็นมากเกินไปก็พอเพราะเธอคงอายเกินกว่าที่จะคุยกับเขาได้ เหมือนอย่างตอนนี้ไงที่คำพูดของเขากำลังทำให้เธออาย
“เข้าใจว่า?” เขาขยับเข้ามาหาเธอนิดหน่อยแต่แค่นิดเดียวก็ใกล้กันมากแล้ว
“ก็...เอยไม่ดื้อหรอกค่ะ” ขวัญเอยก้มหน้าหลบตาเขาก่อนจะตอบออกมาทำให้อีกคนยิ้มด้วยความเอ็นดูแล้วเอามือเชยคางเธอให้เงยหน้าสบตากับเขา
“...” เขาจะรู้บ้างไหมว่าเธอใจเต้นแรงแทบบ้าอยู่แล้ว ยิ่งพอได้สบสายตาอบอุ่นของเขาเธอก็มือไม้อ่อนแรงขึ้นมาทันที
“แค่สี่ปี รอพี่ก่อนนะเอย”
“...” เธอทำได้แค่ฟังและมองเขาเท่านั้นแต่เธอพูดอะไรไม่ออกเลยเพราะนอกจากความเขินอายก็มีความรู้สึกกังวลมากมายในใจเกิดขึ้น
“รอพี่นะเอยอย่าไปไหน รับปากพี่ได้ไหม”
“แต่...”
“พี่คุยกับผู้ใหญ่แล้วแค่พี่เรียนจบแค่นั้น ไม่มีใครไม่เอ็นดูเอยเลยนะ” มือที่เคยเชยคางขยับมาประคองแก้มของเธอช้า ๆ ยิ่งทำให้ขวัญเอยมีอาการมือไม้อ่อนแรงมากกว่าเดิม
“...”
“พี่รู้ว่าเอยกังวลเรื่องอะไร ไม่มีอะไรต้องกังวลรู้ไหม ขอแค่เราสองคนตั้งใจเรียนแล้วถึงวันนั้นพอเรากลับมาเจอกันทุกอย่างมันจะดี เอยเชื่อใจพี่ได้ไหม”
“...ค่ะ ตั้งใจเรียนนะคะ” เธออยากรับปากเขาแต่ไม่รู้จะพูดยังไงเลยพูดออกมาได้เท่านี้แต่เขาก็รู้ว่านั่นคือการตอบตกลงถึงได้ยิ้มแล้วขยับใบหน้าหล่อที่ใครต่อใครก็หลงใหลไปใกล้โดยที่ขวัญเอยทำได้แค่ยืนนิ่งเหมือนถูกสะกดไว้
ฟอด~
“...”
“พี่จะไม่มีใคร รอพี่กลับมานะเอย” เสียงอบอุ่นของเด็กหนุ่มที่กำลังจะก้าวเข้าสู้การเป็นผู้ใหญ่เอ่ยขึ้นแผ่วเบาหลังจากจูบหน้าผากของสาวน้อยที่เขาหลงรักมานาน จูบมัดจำเอาไว้ก่อนแล้วอีกสี่ปีข้างหน้าเมื่อถึงเวลาเขาค่อยกลับมาทำในสิ่งที่เขาต้องการทำ
-เวลาต่อมา-
“ขอบใจมึงมากนะที่มา” เจ้าของปาร์ตี้ในคืนนี้เอ่ยขึ้นในระหว่างที่แขกในปาร์ตี้เลี้ยงส่งของเขากำลังสนุกสนานกันอยู่
“ขอบคุณทำห่าไรกูไม่ได้ลำบาก แค่กระโดดข้ามรั้วมาก็ถึง”
“กูก็แค่ขอบคุณตามมารยาทมึงจะพูดขัดทำไมวะ”
“หึ ๆๆ เออ เดินทางปลอดภัยตั้งใจเรียน ฟันสาวเมกาเยอะ ๆ เผื่อกูด้วยแล้วกัน”
“ไม่มีทาง”
“ไม่เผื่อ?”
“ไม่ฟันสิวะ”
“กูไม่เชื่อมึง”
“กูไม่ใช่มึง พอ ๆๆ เลิกพูดเรื่องทะลึ่งสงสารเอยบ้าง”
“สงสารเอยหรือกลัวเอยได้ยินว่ามึงจะไปทำอะไรกันแน่วะ” อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเล่ห์ซึ่งแน่นอนว่าคนฟังรู้ว่าเพื่อนของเขาแถมยังเป็นเพื่อนบ้านแค่แกล้งเล่นเท่านั้น
“พอเลยมึงน้องยังเด็ก อย่าไปฟังมันล่ะเอย”
“ค่ะ” ขวัญเอยรับคำสั้น ๆ แล้วยิ้มเพราะเธอรู้ว่าพี่ชายข้างบ้านแค่พูดเล่นไปงั้น
“หึ ๆๆ ระวังมันหอบสาวเมกากลับมาบ้านนะเด็กน้อย”
“เอยว่าถ้าหอบมาน่าจะหอบมาฝากคนอื่นมากกว่า...สักโหลจะพอรึเปล่าคะ”
“...” อีกฝ่ายไม่ตอบโต้อะไรกลับแค่ยิ้มให้เธอเท่านั้นก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม แล้วจากนั้นทุกคนในวงสนทนาก็สนุกสนานกับปาร์ตี้คืนนี้จนเมามาย จะมีก็แค่ขวัญเอยเท่านั้นที่ไม่เมาเพราะเธอเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดและไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-เวลาต่อมา-
แอด~
“...ใครคะ?”
“...”
“เอยถามว่าใคร!”
หมับ!
“ว้าย! ปล่อยนะ! อื้อ! อื้อ!!”
แคว๊ก!
“อื้อ!!!”