ตอนที่สี่ ระหว่างสองเรา 2

1473 คำ
“คุณมันเลวบริสุทธิ์จริงๆ... ปล่อยนะ ฉันไม่ยอมคุณอีกต่อไปแล้ว คนเลว นิสัยไม่ดี อุ๊บ” เธอไม่มีโอกาสได้ด่าเขาต่อเพราะว่ามือหนาของเขาปิดปากเธอเอาไว้แน่น... ก่อนที่เขาจะลากตัวเธอไปที่กลางห้องซึ่งเป็นที่ตั้งของเตียงขนาดคิงไซส์... แล้วรั้งตัวเธอให้ลมลงนอนก่อนที่เขาจะนอนทาบทับเอาไว้แล้วกักกันร่างกายเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่ให้เธอได้ดิ้นหนีไปจากไหนได้เลย... “ป่านนี้แม่คุณกลับไปนอนห้องแล้วล่ะ ถึงปล่อยให้พวกท่านคิดว่าเรามีอะไรกันท่านก็ไม่ว่าหรอก เพราะพวกท่านเองก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว... ทางทีดีคุณทำเป็นไม่รู้ว่าพวกท่านรู้ดีกว่า... แล้วทุกอย่างก็จะเงียบไปเอง” เขาบอกราวกับรู้นิสัยมารดาเธอดีอย่างไงอย่างนั้น... ถึงมารดาเธอจะใจดีและอยากให้เธอได้แต่งงานกับคนดีๆ แค่ไหน แต่ท่านคงจะไม่ยอมหรอกที่จะให้เธอเข้ามานอนกับเขาง่ายๆ แล้วปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านเลยไป... เมื่อเธอนิ่งคิดเขาก็ปล่อยมือออกจากปากเธอ “อย่าร้องโวยวาย... มันไม่น่ารัก” “ช่างฉัน... ปล่อยนะ... ฉันจะออกไป ไปบอกแม่ว่าเราไม่ได้มีอะไรกัน ฉันแค่เข้ามาเตือนคุณว่าอย่ายุ่งกับน้องสาวฉันให้มากนักเท่านั้น” “ไม่ทันแล้วล่ะ... คุณคิดว่าการที่คุณเข้ามาที่ห้องของผมตอนที่ผมโป๊อยู่ได้นี่ แปลว่าเราแค่คุยกันเฉยๆ เหรอถึงไปบอกแม่คุณตอนนี้ยิ่งเหมือนว่าร้อนตัวเท่านั้นแหล่ะ... อยู่เฉยๆ เถอะน่า” “อยู่เฉยได้ไงกัน...” ฉันไม่เอาหรอกนะให้พวกท่านเข้าใจว่าเรามีอะไรกันแล้วมาคาดหวังว่าเราจะต้องแต่งงานกัน... คุณไม่กลัวว่าจะต้องแต่งงานรับผิดชอบฉันหรือไง” “ไม่เห็นเป็นไร ผมแก่จนอายุสามสิบกว่าปีแล้วยังหาเมียไม่ได้ ได้แต่งงานกับน้องเลี้ยงก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ดีออกไม่ต้องหาเมียให้ยุ่งยาก ค่าสินสอดก็ไม่ขาดดุลกับคนบ้านอื่น เรือล่มในหนอง ทองก็ไม่หายไปไหน เคยได้ยินไหม” “แต่ฉันไม่เอา... ฉันไม่มีวันแต่งงานกับคุณแน่นอน... ให้ฉันกัดลิ้นตัวเองตายยังง่ายกว่า” เธอเถียงเขา มือบางได้เพียงรั้งบ่าเขาไว้เพราะทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว... เธอต่อรองเขาด้วยคำพูดได้เพียงเท่านั้น “อย่าคิดนะว่าคนไม่มีปัญญาหาเมียอย่างคุณจะมาตกล่องปล่องชิ้นกับฉันง่ายๆ” เธอพูดไม่ทันจบเขาก็หัวเราะดังลั่นราวกับว่ามันเป็นเรื่องขบขันเสียเต็มประดา... “ผมมากว่านะที่จะต้องกลัวเสียท่าให้คุณ ผมรวยกว่าคุณไม่รู้กี่เท่า บ้านที่คุณอยู่ก็ของผม โรงพยาบาลที่คุณทำงานอยู่ก็ของผมทั้งนั้น... มีคนอีกตั้งมากมายอยากแต่งงานกับผม... คุณน่าจะดีใจมากกว่านะที่มีโอกาสได้จับผมน่ะ” “ฉันจะดีใจทำไม ต่อให้เหลือผู้ชายคนเดียวทั้งโลกฉันก็ไม่เอาคุณหรอก เชิญหลงตัวเองคิดว่าตัวเองเพอร์เฟคไปคนเดียวเถอะ ออกไปจากตัวฉันได้แล้วฉันหนัก...” เธอแหวเขา ชายหนุ่มเพิ่งรู้ตัวว่าทิ้งน้ำหนักไปที่ร่างเล็กทั้งหมดก็เริ่มถอยตัวออกมานอนข้างๆ เธอเพราะกลัวว่าเธอจะแบนเสียก่อน แต่ทว่ามือเขาก็ยังไม่ปล่อยจากร่างเธอเลย... “อ๊ะๆ แผนสูงนะเรา” เธอทำเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอเมื่อเขาจับได้ว่าเธอทำเป็นหาเรื่องคุยกับเขาเพื่อที่จะล่อให้เขาตายใจ แล้วจะกระเด้งลุกหนีจากเขา แต่เขารู้ทันและคว้าได้ทัน เธอจึงเป็นคนแผนสูงในสายตาเขาไปเลย... “คุณปล่อยฉันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันค่อยมาหาคุณใหม่ก็ได้ ฉันสัญญาว่าจะไม่เบี้ยว แต่วันนี้แม่เห็นเราสองคน ฉันไม่อยากให้ท่านเสียใจค่ะ... ปล่อยฉันออกไปก่อนนะคะ” เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง... ลูกอ้อนของเธอก็ทำให้เขาแทบทำอะไรถูกเหมือนกัน “ผมล้อเล่น” เขาก้มลงมากระซิบบอกที่ข้างหูเธอก่อนจะจูบแก้มเนียนแผ่วเบา... “อะไรนะ” เธอหันมาจ้องหน้ายิ้มๆ ของเขา... นิ้วของชายหนุ่มไขว้กันหราซ่อนอยู่ด้านหลังของเธอ ตติยาภาเลยไม่มีโอกาสได้รับรู้และได้เห็น... “ผมล้อเล่นว่าแม่คุณเห็นเราสองคน ทำเป็นตกใจไปได้ ถ้าผมรู้ว่าท่านเห็นผมจะทำแบบนี้ทำไม... เดี๋ยวท่านได้เอาผมตายพอดี คุณคิดว่าถ้าแม่คุณเห็นแล้วจะปล่อยให้คุณเข้าห้องผมง่ายๆ หรือไง” เธอคิดตามเขาแล้วก็พยักหน้าน้อยๆ นั่นสินะ เขาเองก็เป็นผู้ชาย ถ้ามารดาเธอเห็นท่านคงไม่ปล่อยให้เข้ามาอยู่ได้นานขนาดนี้แน่... “ถ้างั้นก็นอนกันเถอะ จะได้รีบตื่นรีบไปทำงาน” เธอบอกเขา ก่อนจะดันตัวเขาให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วหันหลังให้เขาซุกหน้าลงกับหมอนหน้าตาเฉย... “นี่ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า” เขาสะกิดเรียกเธอจากด้านหลัง “อะไรเล่าคนจะนอน... ก็ให้มานอนเป็นเพื่อนฉันก็มานอนแล้ว อย่าเรื่องมากนักได้ไหม” เธอแกล้งทำเสียงสูงข่ม ทั้งที่กลัวใจจะขาด... ร่างกายเธอรับรู้ได้ว่าร่างสูงที่กอดเธออยู่นั้นไม่มีอาภรณ์ใดปกปิดอยู่เพราะผ้าเช็ดตัวเขาคงหลุดตั้งแต่ตอนชุลมุนกันแถมเธอยังรับรู้ได้ถึงไออุ่นที่แนบชิดร่างกายเธอได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ดังนั้นเธอจะต้องแกล้งทำเป็นนิ่งเฉยเอาไว้... อย่าให้ได้เสียเปรียบเขาเป็นอันขาด “ผมไม่ใช่เกย์นะคุณ จะได้เอาผู้หญิงมานอนกอดแทนหมอนข้างโดยที่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น...” คำพูดของเขาทำให้เธอเกร็งตัวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด... คนช่างแกล้งลอบยิ้ม... ทั้งที่เขาเหนื่อยอยากนอนเต็มแก่ แต่เขาก็ยังสนุกกับการแกล้งเธออยู่... ไม่น่าเชื่อว่าคนตัวเล็กนี้จะเนื้อหอม กอดนิ่ม สัดส่วนที่ไม่ได้ผอมบางเกินไปนั้นทำให้เขารู้สึกว่าตุ๊กตามีชีวิตนี้น่าเก็บเอาไว้กอดทุกคืนเสียจริงๆ... เขาซุกหน้าเข้ากับเรือนผมด้านหลังของเธอก่อนจะสูดเอากลิ่นแชมพูหอมอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นกายสาวเข้าจมูกก่อนจะหลับตาพริ้มอารมณ์เย็นลงราวกับว่าสูดกลิ่นอโรม่า... มุมปากเขายิ้มนิดๆ เมื่อเห็นว่าเธอนอนนิ่งเกร็งตัวเหมือนท่อนไม้ เธอคงคิดกลัวไปไกลว่าเขาจะทำอะไรเธอแน่... ไม่ใช่วันนี้หรอกนะตาล... เขากระซิบบอกเธอในใจ ก่อนจะหลับตาลง ตติยาภานอนนิ่งนานก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น... เธอระแวงเขาหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหัวใจก็ค่อยๆ เต้นเบาลงเป็นปรกติ... แล้วเธอก็ค่อยพลิกตัวหันกลับมามองเจ้าของร่างสูงที่เงียบเสียงไปได้ครู่หนึ่ง... ความโล่งใจที่สุดในชีวิตเกิดขึ้นเมื่อเธอเห็นว่าเขาหลับตาพริ้มดวงหน้าคมริมฝีปากหยักยิ้มนิดๆ ราวกับว่ากำลังฝันหวาน... ลมหายใจสม่ำเสมอของเขาทำให้เธอค่อยได้หายใจหายคอโล่งขึ้น... วันนี้เขาคงทำงานเหนื่อย... เธอถึงได้รอดตัว... เธอคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ก่อนจะค่อยๆ ปลดแขนเขาออกจากตัว ซึ่งวันนี้ก็ปลดอย่างแสนง่ายดายเพราะเขาหลับสนิทแล้ว.... ตติยาภาค่อยขยับร่างกายออกมาให้ห่างจากเขาอย่างเชื่องช้า... ก่อนจะหาผ้าห่มมาห่มให้เขาตามสัญชาติญาณผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลคนอื่นไม่ปล่อยให้เขานอนหนาวโดยไม่ดูดำดูดีแม้ว่าตอนนี้เธอกำลังจะทิ้งเขากลับไปนอนที่ห้องตัวเอง... หญิงสาวค่อยๆ ลุกย่องออกไปอย่างเงียบกริบ.. แขนเรียวเล็กโอบตัวเองเอาไว้อย่างปลอบโยน... วันนี้รอดไปได้อีกหนึ่งวัน... แต่วันข้างหน้า ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร... แต่อย่างน้อยเธอก็ตัดสินใจถูกกว่าดีที่เธอเป็นคนรับมือเขา ไม่ใช่น้องสาวที่ยังเป็นเด็กไม่ประสีประสาอย่างยัยเตย... เพราะฉะนั้นเธอจะปกป้องน้องสาวให้ห่างเขาให้ได้มากที่สุด...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม