“เป็นอะไรคะ ทำไมวันนี้คุณดูเหนื่อยๆ”
ทางด้านคริสเตียน พอคุยกับทอมมี่เสร็จเขาก็ขับรถตรงไปหาติช่าที่คอนโดประจำของเขาทันทีซึ่งที่นี่เป็นที่ๆเขาเอาไว้เริงรักกับสาวๆ
“ก็เหนื่อยนะสิถึงมาให้คุณช่วยให้หายเหนื่อย”
คริสเตียนบอกขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาร่างสูงของนางแบบสาว ที่พึ่งนอนกับเขาเพียงครั้งสองครั้ง และที่เธอยังอยู่เพราะรสรักอันช่ำชองที่ทำเอาเขาแทบคลั่งเลยทำให้เขายังไม่เปลี่ยนคู่นอนทั้งๆที่ปกติแล้วแทบไม่มีใครได้อยู่บนเตียงของเขาเกินสองครั้งเลยจริงๆ
“ถ้าทำให้ผมหายเครียดได้ ผมจ่ายสองเท่า...”
เสียงกระซิบอันทรงเสน่ห์ที่ทำเอานางแบบสาวแทบระทวย ยิ่งมันดังอยู่ข้างๆหูเธอยิ่งแทบละลาย เธออยากที่จะหลงรักเขาจริงๆถ้าไม่ติดตรงที่ว่า กฎข้อเดียวของคริสเตียนคือไม่ผูกมัดไม่ว่าจะทางใดก็ตาม และถ้าเกิดผู้หญิงคนไหนทำท่าทีหึงหวงหรือต้องการจับเขา ชายหนุ่มจะยุติทุกอย่างลงในทันที เลยทำให้พวกผู้หญิงไม่กล้าคิดที่จะเป็นเจ้าของคาสโนว่าหนุ่มที่มีบทรักอันร้อนแรงและจ่ายหนักที่สุดเท่าที่พวกเธอเคยเจอมา
และจากนั้นติช่าก็เริ่มจัดการกับร่างใหญ่ เสื้อผ้าราคาแพงถูกถอดออกอย่างเชื่องช้าเนิบนาบอย่างที่เธอเคยทำ ก่อนลิ้นเรียวเล็กจะค่อยๆแตะเลียไต่ไปตามกายกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันน่าหลงใหล คริสเตียนที่ตอนนี้นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ได้แต่หลับตาพริ้ม เพราะอีกไม่นานบทรักอันแสนร้อนแรงจะถูกส่งมาที่เขาอย่างไม่หยุดไม่หย่อนแน่นอน
“มีอะไรเหรอคะคุณอา”
ทางด้านแรกรัก ชีวิตของเธอก็เริ่มวุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อพวกผู้บริหารพากันเข้านอกออกในห้องทำงานของเธอเป็นว่าเล่น ทุกอย่างชะงักไปหมดเพราะไร้ตำแหน่งประธาน เธอเองก็อยากบอกว่าตอนนี้เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อทายาทของคุณนิรุตยังไม่กลับมาเปิดพินัยกรรมสักที
“เห็นว่าคณะกรรมการจะพากันประชุมจัดตั้งประธานกันเอง อาคิดว่ามันไม่ถูกต้อง”
“แล้วจะให้รักทำยังไงคะในเมื่อเขาไม่ยอมมา พินัยกรรมก็เปิดไม่ได้”
ทนายไกรสรณ์รีบร้อนมาหาแรกรักอีกครั้งเมื่อตอนนี้พวกผู้บริหารจะพากันแต่งตั้งคนมาดำรงตำแหน่งกันเองเพราะตอนนี้มันร่วมเดือนแล้วที่ตำแหน่งว่างลง
“เฮ้อ อาก็ได้แต่รอคำตอบจากลูกชายคุณนิรุต คนที่อาส่งไปก็ถูกไล่กลับมาอีก ถ้าเป็นแบบนี้มีหวังได้วุ่นวายกันไปใหญ่แน่”
แรกรักได้แต่มองไปที่ทนายไกรสรณ์อย่างไม่รู้จะช่วยยังไงเมื่อทางนั้นไม่ยอมมา
“จะเป็นไปได้ไหมถ้าเราไปหาเขาที่นั่นแล้วก็ทำการเปิดพินัยกรรม เพราะถ้าไม่อย่างนั้นคุณนิรุตคงตายตาไม่หลับ อาก็ไม่อยากให้ท่านเป็นกังวล”
“ถ้าไปแล้วเขาไล่เรากลับมาอีกล่ะค่ะ ไม่มีทางเปิดโดยไม่มีเขาเหรอคะคุณอา”
ทนายไกรสรณ์ส่ายหัวให้เป็นคำตอบ เมื่อเขารู้ว่าเนื้อหาในพินัยกรรมฉบับนี้นั้นต้องมีบุตรชายของคุณนิรุตอยู่ด้วย
“งั้นเราก็ไปหาเขาที่โน่น ทุกอย่างมันจะได้จบๆ”
“ใช่! หนูไปได้ใช่ไหม เดี๋ยวอาจัดการทุกอย่างเอง แล้วอาจะโทรมาบอกวันเวลาที่ต้องบิน หนูเตรียมตัวเอาไว้นะ”
“ค่ะ...”
เมื่อไม่รู้จะหาทางออกยังไงสำหรับเรื่องนี้ แรกรักเลยตัดสินใจที่จะไปเปิดพินัยกรรมกันที่อังกฤษ ทุกอย่างที่คาราคาซังจะได้สิ้นสุดลงสักที
ประเทศอังกฤษ
“ทำไมแกต้องเอาฉันมาด้วยล่ะ ฉันไม่อยากมาเลยสักนิด”
เสียงบ่นของซอลลาดังขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนมาถึงอังกฤษเธอก็ยังไม่หยุดบ่น แรกรักที่รำคาญจนแทบจะหยุดรำคาญได้แต่เดินแบบไม่สนใจเสียงบ่นของเพื่อนสนิทที่เหมือนจะโดนเธอบังคับให้มาด้วย แต่ก็แค่เหมือนเมื่อซอลลาเล่นหอบกระเป๋าใบใหญ่มาด้วยถึงสองใบพร้อมกับใบเล็กอีกหนึ่งใบเหมือนกับต้องการจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ตรงข้ามกับเสียงบ่นว่าไม่อยากมาโดยสิ้นเชิง
“ก็บอกแล้วว่าไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา”
“ก็...ฉันเป็นห่วงนี่”
“งั้นก็เลิกบ่น เราถึงโรงแรมแล้ว”
“จริงเหรอ! โอโห นี่มันโรงแรมที่ฉันเคยเห็นพวกดารามาพักแล้วถ่ายรูปลงไอจีนี่ อ๊าย! ฉันต้องได้ถ่ายบ้าง”
และพอได้เห็นที่พัก เสียงกรีดร้องแห่งความตื่นเต้นของซอลลาก็ดังขึ้น ทำเอาแรกรักได้แต่มองเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มเพราะเธอรู้ดีว่าซอลลานั้นอยากมาด้วยแค่ปากแข็งเท่านั้นเอง
“แล้วคนอื่นๆล่ะทำไมมีแค่เราสองคน”
“คนอื่นคุณอาไกรสรณ์ให้พักโรงแรมอื่นน่ะ เข้าไปกันเถอะ ง่วงแล้ว”
พอชื่นชมด้านนอกเสร็จแรกรักก็พาซอลลาเข้าไปในโรงแรม ก่อนพนักงานจะพาเธอสองคนขึ้นมายังห้องพัก ที่ดูหรูหราไม่ต่างจากภายนอกเลยสักนิด พรุ่งนี้ทนายไกรสรณ์แจ้งว่าจะพาเธอและพยานที่พามาเข้าไปพบบุตรชายของคุณนิรุต ซึ่งมันเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างเธอกับพี่ชายบุญธรรม ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเจอหรือรู้จักกันแรกรักก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เพราะลึกๆในจิตใจของเธอนั้นเธอก็ยังมีพี่ชายซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
“อะไรนะคะ ทำไมล่ะ เราขอเวลาไม่ถึงวันด้วยซ้ำ”
“เดี๋ยวอาจะพยายามดูอีกที หนูรักพักผ่อนกันไปก่อนนะ ได้เรื่องยังไงอาจะติดต่อไป”
“ค่ะ...เดี๋ยวค่ะคุณอา รักขอเบอร์โทรและที่อยู่ที่ทำงานของเขาได้ไหมคะ เผื่อเขาจะยอมให้รักพบ”
เช้าวันต่อมาขณะที่แรกรักกำลังจะออกไปเจอทนายไกรสรณ์แต่ทนายไกรสรณ์กลับโทรเข้ามาหาเธอแล้วบอกว่าทางนั้นไม่อนุญาตให้พวกเธอเข้าพบทำเอาหญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก ขอพบแค่ไม่นานทำไมเขาถึงไม่อนุญาตล่ะ ยิ่งคิดเธอยิ่งไม่เข้าใจ
“หนูแน่ใจเหรอ ให้อาคุยกับเขาก่อนดีไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ เขาคงไม่ใจดำไล่หนูออกมาหรอกมั้งคะ”
“งั้น...เดี๋ยวอาส่งข้อความไปให้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็โทรหาอาได้เลยนะ”
“ค่ะ”
ทนายไกรสรณ์บอกอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะขนาดตนเองโทรเข้าไปขอเข้าพบยังโดนฝ่ายนั้นปฏิเสธมาแทบทันที
“บอสคะ มีคนมาขอเข้าพบ...”
“ผมบอกคุณไปชัดแล้วนะ ว่าไม่ต้องการพบใคร”
ทางด้านคริสเตียนที่หันไปทำหน้าหงุดหงิดใส่เลขาของตนเองเมื่อเขาไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบแต่ก็ยังมาบอกเขาว่ามีคนขอพบเขาอยู่อีก
“แต่ผู้หญิงคนนี้บอกว่าเป็นน้อง...เอ่อ ค่ะ ฉันจะบอกให้เธอกลับไปนะคะ”
ยังพูดไม่ทันจบเลขาของคริสเตียนก็ต้องรีบตัดบทแล้วเดินออกไปเมื่อสายตาอันน่ากลัวของเจ้านายถูกส่งมาที่เธอจนอดขนลุกไม่ได้
“เฮ้อ น้องบ้าน้องบออะไร ฉันไม่มีน้อง...น้องเหรอ? เฮ้ย!”
พอเลขาเดินออกไปได้สักพัก เสียงถอนหายใจของคริสเตียนก็ดังขึ้นพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเด้งตัวขึ้นเมื่อพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเขามีน้องสาวนอกไส้อีกคน ชายหนุ่มถึงกับลุกวิ่งออกไปนอกห้องทันที แต่กลับไม่เจอเลขาของเขาเสียแล้ว เขาเลยวิ่งตรงไปที่ลิฟต์และพบว่ามันกำลังลงไปชั้นล่าง
“บ้าเอ้ย!”
ชายหนุ่มตัดสินใจวิ่งลงบันไดอย่างไม่คิดรอลิฟต์ เมื่อน้องที่เลขาบอกนั้นคงเป็นแรกรักอย่างแน่นอนเพราะก่อนหน้านี้เลขาของเขามาบอกว่าพวกที่เคยมาพบเขานั้นกลับมาขอพบเขาอีกครั้งและเขาก็ปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้ว
“บอส! มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ ทำไมถึง...”
“แฮ่กๆๆ ไปไหน แฮ่กๆๆๆ ไปไหนแล้ว”
“คะ? เอ่อ ใครไปไหน”
“น้อง...น้องไง”
“คะ? น้องเหรอ”
“ก็คนที่มาพบผมน่ะ ไปไหน!”
“อ้อ พึ่งกลับออกไป...”
“โธ่เว้ย!”
คริสเตียนสบถเสียงดังก่อนจะวิ่งออกไป ทำเอาพวกพนักงานพากันมองอย่างนึกแปลกใจระคนสงสัยกับท่าทีของเจ้านายหนุ่ม
“หยุดก่อน!”
“คะ? เอ่อ พวกเราเหรอ”
คริสเตียนวิ่งออกมาจนเจอสาวร่างเล็กสองคนเลยตะโกนเรียก ทำเอาทั้งแรกรักและซอลลาถึงกับสะดุ้งรีบหันมามอง ก่อนที่ซอลลาจะถามขึ้น
“ใช่ แฮ่กๆๆๆ พวกคุณนั่นแหละ”
เสียงหอบกระเส่าอันเหน็ดเหนื่อยของคริสเตียนบอกขึ้น ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้สองสาวที่เริ่มเดินถอยหนีอย่างนึกกลัว
“พวกคุณมาพบผมใช่ไหม แฮ่กๆ”
“พวกเรามาพบ เอ่อ คุณคริสเตียน?”
“ใช่ ผมนี่แหละคริสเตียน”
สองสาวมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ เลขาของเขาลงมาบอกว่าเขาไม่ต้องการพบพวกเธอแต่ทำไมเขากลับวิ่งหน้าตั้งตามพวกเธอมาล่ะ
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
แรกรักถามขึ้นอย่างตกใจโดยลืมไปเลยว่าเป็นพวกเธอเองที่มีเรื่องอยากคุยกับเขา
“ก็...พวกคุณมาหาผมไม่ใช่เหรอ”
“อ่าว เอ่อ ใช่ๆๆ พวกเรามาขอเจอคุณ”
“อืม งั้นตามผมมา”
ชายหนุ่มบอกขึ้นพร้อมกับเดินนำสองสาวกลับเข้าไปในบริษัท ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าที่ใจเต้นแรงเพราะเหนื่อยหรือว่าเพราะได้เจอแรกรักอีกครั้งกันแน่