“ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น ฉันเสียใจด้วยนะรัก”
“อื้ม ขอบใจแกมากนะที่มา”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปช่วยดูแลแขกด้านนอก แกพักสักหน่อยนะเดี๋ยวเป็นอะไรไปอีกคนล่ะแย่เลย”
“อื้ม”
แรกรัก มองตามเพื่อนสนิทอย่าง ซอลลา ที่เดินออกไปอย่างรู้สึกขอบคุณแต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมาเมื่อตอนนี้เธอแทบไม่มีแม้กระทั่งเรี่ยวแรงจะลุกเดินออกไปต้อนรับแขกเหรื่อด้านนอกที่แทบจะล้นพื้นที่ของวัดเมื่อ คุณนิรุต เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังบิดาของเธอพึ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปเมื่อวาน ก่อนจะหันกลับไปมองรูปที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนใจดีของคนที่พึ่งจากไป พลันน้ำตาที่พึ่งเหือดแห้งก็เอ่อล้นออกมาอีกครั้ง ร่างเล็กบอบบางสั่นสะท้าน เธอไม่เคยคิดว่าคุณนิรุตจะจากไปเร็วขนาดนี้ เมื่อวันก่อนเธอยังพูดคุยหยอกล้อกับบิดาอยู่แท้ๆ แต่วันนี้กลับต้องสูญเสียกันไปตลอดกาลอย่างไม่มีวันกลับ ยิ่งคิดแรกรักยิ่งสะอื้นไห้หนักขึ้นเรื่อยๆจนแขกที่มาร่วมงานต่างมองอย่างสงสาร เพราะใครๆต่างก็รู้ว่าคุณนิรุตนั้นมีเพียงแรกรักที่เป็นญาติเพียงคนเดียว มาด่วนจากไปอย่างนี้ภาระหนักก็คงตกอยู่กับหญิงสาวตัวคนเดียวอย่างเธอเป็นแน่
“รัก ทำใจดีๆไว้นะ คุณอาไปสบายแล้ว อย่าร้องไห้อีกเลยนะเดี๋ยวจะไม่สบาย”
“พี่คิม ฮือๆๆ คุณพ่อ ฮือๆๆ คุณพ่อจากรักไปแล้ว ฮือๆๆๆ แล้วรักจะอยู่ยังไง ฮือๆๆ รักไม่เหลือใครแล้วค่ะพี่คิม ฮือๆๆๆ”
คิมหันต์ นายแพทย์หนุ่มสุดหล่อผู้หลงรักแรกรักอย่างสุดหัวใจเดินเข้ามานั่งลงข้างกายบางก่อนจะโอบกอดหญิงสาวอย่างปลอบโยน แรกรักซุกหน้าไปกับอกกว้างพร้อมกับสะอื้นไห้ออกมาอย่างไม่อายตอนนี้เธอเสียใจเหลือเกิน เสียใจจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปเมื่อคนที่เธอรักเพียงคนเดียวในโลกนี้อย่างคุณนิรุตมาด่วนจากไป
“รักยังมีพี่...พี่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งรักไปไหน พี่จะปกป้องและดูแลรักแทนคุณอาเอง อย่ากังวลไปเลยนะ”
คิมหันต์บอกขึ้นพร้อมกับโอบกอดร่างเล็กแน่น เมื่อทุกสิ่งที่พูดออกมานั้นไม่ต่างจากการสารภาพรักของเขาเลย เหลือแค่เพียงคำว่ารักที่เขาเองยังไม่กล้าพูดมันออกมาเท่านั้นเอง
“สองคนนั้นเหมาะสมกันนะคะ หากคุณนิรุตมองอยู่ก็คงหมดห่วงถ้าคิมหันต์จะเป็นคนดูแลหนูรักต่อ”
“ครับ เราเคยพูดกันเอาไว้ว่าจะให้ลูกของเราแต่งงานกัน...แต่ไม่นึกว่ารุตมันจะมาจากผมไปก่อน”
“ดิฉันเสียใจด้วยนะคะ คุณอำนาจกับคุณนิรุตเป็นเพื่อนรักกันคงเสียใจมาก ยังไงคนจากไปก็หมดทุกข์หมดโศก ไอ้เราที่อยู่ก็ต้องใช้เวรใช้กรรมกันต่อไป ส่วนโรงพยาบาลหนูรักก็คงดูแลคนเดียวไม่ไหว ในฐานะเพื่อนของคุณนิรุต ผู้บริหารคงต้องรบกวนคุณอำนาจช่วยดูแลต่อ”
คุณสุนีย์ หนึ่งในอดีตผู้บริหารของโรงพยาบาล กำลังนั่งคุยกับ คุณอำนาจ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของคุณนิรุตอย่างเห็นใจพร้อมกับมองไปที่แรกรักอย่างเวทนาที่ต้องมาสูญเสียบิดาไปกะทันหันอย่างนี้
7 วันต่อมา หลังจากงานศพคุณนิรุตเสร็จสิ้นแล้ว ทุกอย่างก็ดูจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่อแรกรักตัดสินใจจัดงานศพของบิดาเพียงสามวันเพราะไม่อยากให้ร่างสิ้นลมของบิดาต้องนอนอยู่ในที่แคบๆอย่างนั้นทั้งๆที่มีพวกผู้ใหญ่หลายคนพากันคัดค้าน แต่เธอก็ยังยืนยันว่าจะทำแบบนั้น
และหลังจากทุกอย่างจบลงแรกรักก็กลับมาทำงาน ทำเอาพวกหมอและพยาบาลต่างพากันมองร่างเล็กที่ผอมบางกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นอกเห็นใจและคิดว่าแรกรักควรหยุดงานเพื่อทำใจไปก่อน แต่พองานศพผ่านไปแรกรักก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม มีเพียงรอยยิ้มหวานเท่านั้นที่ไม่ได้กลับมาพร้อมกับเธอ เมื่อก่อนหน้าที่เรื่องอันน่าเศร้าจะเกิดขึ้น หญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยความสุข รอยยิ้มหวานจะประดับอยู่บนหน้าของเธอแทบจะตลอดเวลา
“รัก แกมาทำไม น่าจะพักต่ออีกสักหน่อย”
“ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”
“แล้วทำไมไม่บอก ฉันจะได้ไปอยู่เป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไร มาทำงานก็ดีเหมือนกันจะได้...ไม่มีอะไรหรอก แกไปทำงานเถอะ ฉันต้องไปตรวจคนไข้”
“รัก...เฮ้อ ยัยเพื่อนบ้า ไม่ส่องกระจกดูหน้าตัวเองบ้างรึไง”
ซอลลาที่ได้ข่าวจากพยาบาลว่าแรกรักมาทำงานแล้วรีบเดินมาหา และพอมาเห็นสภาพของเพื่อนรักเธอก็แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนอดหลับอดนอนของแรกรักทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเลยสักนิด
“พี่หมอมาหารักเหรอคะ โน่น ไปดูคนไข้แล้วค่ะ”
“อ่าว พี่มาช้าไปเหรอ”
“ค่ะ! ไหนพี่หมอบอกว่าจะช่วยดูแลยัยรักคะ ซอลเห็นสภาพยัยรักน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน!”
คิมหันต์ที่รีบเดินมาหาแรกรักเพราะพึ่งทำงานเสร็จกลับเจอแต่ซอลลา แถมยังเจอถ้อยคำกระแนะกระแหนจากซอลลาอีก เมื่อเขาเคยบอกว่าจะเป็นคนดูแลแรกรักต่อจากคุณนิรุต
“ก็พี่มีผ่าตัดด่วนแทบทุกวันนี่”
“ค่ะ! เพื่อนของซอลคงสำคัญไม่พอ!”
พูดจบซอลลาก็เดินปึงปังออกจากห้องทำงานของแรกรักไปทันที ทำเอาคิมหันต์ได้แต่มองอย่างรู้สึกผิด เพราะตั้งแต่งานศพของคุณนิรุตจบลงเขาก็แทบไม่ได้เจอแรกรักอีกเลย ใช่ ที่เขาบอกว่ามีผ่าตัดด่วนแทบทุกวัน แต่พอเขาเข้าไปหาเธอแรกรักกลับบอกว่าอยากอยู่คนเดียวไม่ให้เขาได้เข้าไปในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเธอเลยสักนิด แล้วจะให้เขาทำยังไงในเมื่อเธอยังไม่เปิดใจให้เขาอยู่ดี
“คุณอา...มาที่นี่ทำไมเหรอคะ”
“อามีเรื่องจะคุยกับหนูน่ะ พอจะมีเวลาให้อาไหม”
ตกเย็น ขณะที่แรกรักกำลังนั่งทำงานอยู่ ทนายไกรสรณ์ ทนายประจำตระกูลของเธอก็เดินหน้าเครียดเข้ามาหาหลังจากพยายามติดต่อแรกรักแต่หญิงสาวกลับปิดโทรศัพท์เลยมาหาที่โรงพยาบาลแทน
“ค่ะ คุณอาพูดมาได้เลยค่ะ รักไม่มีผ่าตัดแล้ว”
“อาว่าเราไปหาที่เงียบๆคุยกันดีกว่านะ เรื่องที่อาจะพูดสำคัญมาก อาไม่อยากให้ใครเข้ามาได้ยินหรือขัดจังหวะ”
แรกรักมองไปที่ทนายไกรสรณ์อย่างเริ่มสงสัย เธอเข้าใจว่าพอบิดาเสียเรื่องทรัพย์สมบัติต่างๆทนายก็ต้องมาคุยกับเธอ แต่ที่เห็นจากสีหน้าของทนายไกรสรณ์ในตอนนี้ดูเหมือนมันจะมีอะไรมากกว่านั้นแน่นอน
“งั้น...ห้องทำงานคุณพ่อแล้วกันนะคะ”
“ก็ดี น่าจะเป็นส่วนตัวที่สุด”
แรกรักบอกขึ้นก่อนจะลุกเดินนำทนายไกรสรณ์ขึ้นไปที่ห้องทำงานของบิดา ที่อีกไม่นานคงเป็นห้องทำงานของเธอหรือไม่ก็ใครคนหนึ่งในคณะผู้บริหารที่อาจมีการประชุมแต่งตั้งในอีกไม่นานนี้แน่นอน
“คะ? อะไรนะคะ!”
“คุณนิรุตทำพินัยกรรมเอาไว้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องให้ทายาททุกคนเข้าร่วมการเปิดพินัยกรรมในครั้งนี้ด้วย”
“ทายาททุกคนอย่างนั้นเหรอคะ”
“ใช่...อันที่จริงคุณนิรุตมีลูกชาย เป็นลูกกับภรรยาชาวต่างชาติที่ท่านเคยไปเรียนต่อที่โน่น ทั้งสองเลิกรากันก่อนที่จะได้ใช้ชีวิตคู่กัน”
“......................”
แรกรักถึงกับพูดไม่ออกกับความจริงที่พึ่งรู้ ไม่ใช่ว่าเธอโกรธหรือเสียใจแต่แค่คาดไม่ถึงว่าเธอยังมีพี่ชายอยู่อีกคน
“เรื่องนี้มีเพียงคุณนิรุตกับอาเท่านั้นที่รู้ แม้กระทั่งเพื่อนสนิทอย่างคุณอำนาจก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นหนูอย่าถือโทษโกรธท่านเลยนะที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับหนู”
“แล้วตอนนี้เขา...”
“อาให้คนบินไปที่อังกฤษแล้ว อีกไม่นานคงได้เรื่อง ส่วนเรื่องพินัยกรรมคงต้องรอลูกชายของคุณนิรุตด้วย”
“ค่ะ รักยังไงก็ได้”
แรกรักบอกขึ้นก่อนจะเอ่ยขอตัวไปทำงานต่อ โดยระหว่างทางหญิงสาวแทบไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเมื่อเอาแต่คิดไปถึงสิ่งที่เธอพึ่งได้รับรู้ ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้หรือระแคะระคายเรื่องนี้เลยจริงๆ
“รัก...รัก!...รัก!!”
“คะ! เอ่อ อ่าว พี่คิมมีอะไรรึเปล่าคะ”
“หือ? เราน่ะมีอะไรรึเปล่า พี่เรียกตั้งนาน”
“อ้อเปล่าคะ รักแค่คิดอะไรเพลินๆน่ะ ว่าแต่พี่คิมมีอะไรรึเปล่าคะ”
“พี่ว่าจะชวนไปทานข้าวกับคุณพ่อน่ะ ท่านบอกว่าอยากทานข้าวกับรัก”
“เอ่อ...งั้นเดี๋ยวรักขอไปเอากระเป๋าที่ห้องก่อนนะคะ”
“ครับ”
แรกรักบอกขึ้นอย่างไม่ค่อยเต็มใจเพราะยังไม่อยากเจอหรือพบใครในตอนนี้เมื่อเธอรู้ดีว่าเรื่องของผลประโยชน์นั้นไม่เข้าใครออกใคร ไม่ใช่แค่คุณอำนาจที่อยากเจอเธอ ผู้บริหารแทบทุกคนในตอนนี้นั้นต้องการเจอเธอเหมือนกันหมดแล้วก็พยายามขอนัดเจอตั้งแต่ศพของคุณนิรุตยังไม่เผาด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุผลเดียวกันคือขอให้เธอสนับสนุนจะได้เข้ารับตำแหน่งประธานของโรงพยาบาลที่ยังว่างอยู่นั่นเอง
“อ่าว มาแล้วเหรอหนูรัก นั่งเลยลูกลุงสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะไปหมด ของที่หนูชอบทั้งนั้นเลยนะ”
หลังจากที่เก็บของเสร็จแรกรักก็ยอมที่จะมากับคิมหันต์เพราะเห็นว่าคุณอำนาจเป็นเพื่อนสนิทของคุณนิรุต และก็เป็นอย่างที่เธอคิดเมื่อคุณอำนาจเอาแต่พูดถึงคุณงามความดีของตนเองที่เคยช่วยเหลือบิดาของเธอมาก่อนโดยไม่รู้เลยว่าสิทธิ์และอำนาจทั้งหมดนั้นมันไม่ได้เป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวแล้ว แต่มันเป็นของบุตรชายแท้ๆของคุณนิรุตร่วมด้วยต่างหาก