บทที่ 9 กามเทพโดนเสียเอง

2985 คำ
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกรังเกียจนางเพียงใดสุดท้ายแล้วเพราะต้องการไปเยี่ยมมู่ลี่เอ๋อร์จึงทำให้หลงเฟยเยี่ยยอมติดตามนางมาพร้อมกับองครักษ์เจี้ยนหลาง ในขณะที่หลัวเซียงเซียงเองก็อารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยหลังจากที่เรื่องเกิดขึ้นกับนางเอกแล้วนางก็ไม่กล้าโผล่หน้าไปเยี่ยมอีก ด้วยกลัวว่าจะถูกสวรรค์กลั่นแกล้ง แต่หากนางไม่ทำตัวเป็นกามเทพน้อยแสนน่ารัก เห็นทีว่ากว่าพระเอกซื่อบื้อคนนั้นจะหาทางพบนางเอกได้คงใช้เวลานานมาก ดังนั้นวันนี้นางจึงเป็นคนดำเนินเรื่องทำให้สองคนได้พบกันเสียเลย หลัวเซียงเซียงมั่นใจว่าแผนการของตัวเองนั้นดีเลิศ ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด เมื่อมาถึงจวนแม่ทัพหลัว หลงเฟยเยี่ยและองครักษ์ของเขาซึ่งขี่ม้าตามมาติด ๆ ส่งสายจูงม้าให้ทหารรักษาจวน พร้อมกับลูบศีรษะของม้าตนเองเบา ๆ "ดูแลมันให้ดี" ทหารผู้นั้นรับคำแล้วจูงม้าไปยังโรงเลี้ยงม้าของจวนที่อยู่อีกฟากหนึ่ง หลัวเซียงเซียงลงมาจากรถม้าของตนเอง ด้วยท่าทางที่ไม่ได้ดูเป็นกุลสตรีแม้แต่น้อย หลงเฟยเยี่ยมองกิริยานั้นแล้วถึงกับต้องส่ายศีรษะ หลัวเซียงเซียงเดินมาหาเขา ใบหน้าแย้มยิ้มเป็นมิตร แต่ในใจกลับคิดว่า อ๋องปากสุนัขนี่จ้องอะไรข้านักหนา ทว่าวาจาที่เอ่ยออกไปนั้นกลับตรงกันข้าม "ไยท่านอ๋องจ้องข้าเช่นนี้เพคะ" หลงเฟยเยี่ยสีหน้าเฉยชา "ไม่ต้องมากความ นำทางเถิด" "อ่อ ที่แท้ก็คิดถึงแฟนจนทนไม่ไหว วัยรุ่นไฟแรงก็แบบนี้ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ" หลงเฟยเยี่ยชักจะเคยชินวาจาไร้สาระฟังไม่รู้เรื่องของนางแล้ว เขาจึงไม่เอ่ยคำใดได้แต่เดินตามนางไปอย่างช้า ๆ หลัวเซียงเซียงจึงหันไปสั่งสาวใช้ของตนเอง "หลิงหลิง เจ้าให้คนไปนำชาที่ดีที่สุดในจวน และขนมของว่างมาที่เรือนพี่ลี่รับรองแขก" "เจ้าค่ะ" หลัวเซียงเซียงผายมือแล้วเอ่ยต่อ "เชิญท่านอ๋องทางนี้เพคะ แต่ท่านองครักษ์เจี้ยนข้าคงให้ท่านรอที่ตำหนักรับรองก่อน จวนด้านในของข้าไม่เหมาะให้บุรุษที่ยังไม่ออกเรือนเข้าไป" องครักษ์เจี้ยนหลางพยักหน้า "ท่านอ๋อง ระวังตัวด้วย" เจี้ยนหลางเอ่ยแผ่วเบา หลงเฟยเยี่ยพยักหน้า จวนนี้เป็นจวนแม่ทัพหลัว ทหารล้วนเป็นคนมีฝีมือเขาไม่อาจดื้อดึงติดตามหลงเฟยเยี่ยเข้าไปได้ แม้จะไม่วางใจในความปลอดภัยของท่านอ๋อง เจี้ยนหลางก็จำต้องยอมทำตามกฎของจวน สาวใช้นางหนึ่งเดินนำทางเขาไปยังเรือนรับรอง จั่วเจี้ยนทอดสายตาห่วงใยไว้ที่ร่างของหลงเฟยเยี่ย ก่อนที่จะเดินตามบ่าวนางนั้นไป หลัวเซียงเซียงขมวดคิ้ว กิริยาท่าทางแปลกประหลาดของผู้ชายสองคนนี้ดูมีซัมติงกันอยู่ นางเองก็อ่านหนังสือวายมาไม่น้อย อ้ะ หรือว่า ผู้แต่งจะใส่ความเป็นวายเข้าไปในนิยายเรื่องนี้ 'ท่านอ๋องตัวร้ายกับนายองครักษ์' อร้าย แค่ชื่อที่นางคิดขึ้นมากะทันหันก็ทำให้นางเขินแล้ว หลัวเซียงเซียงกำลังเหม่อลอย ใบหน้าแดงก่ำ หลงเฟยเยี่ยเห็นท่าทางประหลาดของนางจึงงอนิ้วเคาะเข้าไปที่ศีรษะคราหนึ่ง "อ้ะ ท่านตีข้าทำไม เจ็บนะ" "กำลังคิดเหลวไหลอะไรอยู่" หลัวเซียงเซียงกล่าวหยอกเย้า "ท่านอ๋อง ที่แท้คนที่ห่วงใยท่านที่สุดก็คงเป็นคุณชายเจี้ยนหลางสินะ" น้ำเสียงของนางดูแปลกประหลาด ฟังแล้วให้ความรู้สึกชวนกระอักกระอ่วนในใจ "เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ จากสายตาของเจ้าข้าพอมองออกว่ากำลังคิดเรื่องเหลวไหลไร้สาระอยู่ใช่หรือไม่" "เปล๊า ไม่คิดอะไรเลยจริงจริ๊ง ท่านอ๋องข้าเคยบอกแล้วว่าท่านอย่ามองโลกในแง่ร้ายสิ ระวังจะเป็นบ้าเอานะ" หลงเฟยเยี่ยถูกนางจ้องด้วยดวงตากลมโต จู่ ๆ ก็รู้สึกทนไม่ไหวเขากระแอมแล้วเอ่ยเสียงเข้ม "หุบปากแล้วนำทางได้แล้ว ข้ามาเยี่ยมคนไม่ใช่มาต่อล้อต่อเถียงกับเจ้า" หลัวเซียงเซียงมองล้อเลียน นางยิ้มอย่างงดงาม ดูเหมือนเขาจะสามารถพูดคุยกับนางโดยไม่มีสายตาเคียดแค้นแล้ว เช่นนั้นก็...ได้เวลาคืนดีกันแล้วสินะ "อ่อ คิดถึงแฟนจนทนไม่ไหวแล้ว ก็ไม่รีบบอก แต่ว่าก่อนจะไปพบคนงามของท่าน ข้าอยากพูดบางอย่างก่อน" "มีสิ่งใดอีก" "ท่านอ๋องถึงที่ผ่านมาข้าไม่มีความดีในสายตาท่านเลยข้าย่อมรู้ดีและสำนึกผิดเป็นอย่างยิ่ง แต่ต่อไปข้าจะพยายามทำทุกอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ท่านกับญาติผู้พี่ของข้าได้ครองรักกัน ดังนั้นพวกเราสองคนมาคืนดีกันก่อนได้หรือไม่เพคะ" "ข้าหรือจะกล้าโมโหเจ้า บุตรสาวยอดดวงใจของแม่ทัพหลัว ข้าคงไม่บังอาจ" เหอะ เจ้าลูกสุนัขนี่ยังกล้าพูดจายอกย้อนข้าอีก ถึงจะไม่พอใจ แต่นาทีนี้คือนาทีแห่งการปรองดอง หลัวเซียงเซียงพยายามยิ้มกว้าง ยกนิ้วก้อยขึ้นมา "ท่านอ๋อง อย่าพูดแบบนี้สิเพคะ เซียงเซียงเสียใจจริง ๆ กับเรื่องที่ผ่านมา ตอนนี้สำนึกแล้วท่านอ๋องจะไม่ให้อภัยเชียวหรือ อย่าคิดเล็กคิดน้อยเลยน่า พวกเรามาปรองดองกัน เป็นเพื่อนกันดีหรือไม่" เขาปัดมือของนางทิ้งแล้วเอ่ยน้ำเสียงไม่น่าฟังทันใด "เสแสร้ง" หลัวเซียงเซียงรู้สึกถูกหยามเกียรติ ที่หลงเฟยเยี่ยกล้าปัดมือของนางออก แต่เพื่อความอยู่รอดนางจะไม่ยอมโกรธ เพราะหากโกรธนางก็จะกลายเป็นนางร้ายในนิยายทันที หลัวเซียงเซียงจึงยังคงรอยยิ้มทว่ากลับเป็นรอยยิ้มอำมหิตโดยที่ไม่รู้ตัว นางก้มหน้า ยกมือขึ้นขยี้ดวงตาจนแดงก่ำ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น "ท่านอ๋อง ตอนนี้ท่านอ๋องอาจจะไม่เชื่อเซียงเซียง แต่เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าข้าพูดความจริง" "พอได้แล้ว ตกลงว่าวันนี้จะพาข้ามาเยี่ยมคนหรือมาฟังเจ้าพล่ามวาจาไร้สาระเช่นนี้" หลัวเซียงเซียงยังคงรอยยิ้มและดวงตาแดงก่ำเอาไว้ "ก็ได้เพคะ เช่นนั้นเชิญตามหม่อมฉันมาด้านนี้" ร่างบอบบางเดินนำหน้าเขาไปแล้ว หลงเฟยเยี่ยยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย กิริยาประหลาดของหลัวเซียงเซียงทำให้เขาแปลกใจ สตรีนางนี้จู่ ๆ ก็ยอมรับผิดในเรื่องที่ก่อ ยังคิดง้อขอคืนดี จากที่เคยกีดกันไม่ให้เขาได้พบกับมู่ลี่เอ๋อร์วันนี้กลับเป็นคนนำทางเสียเอง เรื่องเหล่านี้ยิ่งคิดยิ่งชวนให้สงสัย หรือว่านางจะกินยาผิดจนสติเพี้ยนไปแล้วจริง ๆ วันนี้ที่จวนของนางผู้อาวุโสล้วนไม่อยู่ บิดาของนางออกไปตรวจเยี่ยมทหารที่ค่ายนอกวังหลวงตั้งแต่เมื่อวาน ในขณะที่ท่านย่าพาท่านแม่รวมทั้งอนุของบิดาคนอื่นเข้าวัดสวดภาวนาอีกหลายวันกว่าจะกลับ ดังนั้นเส้นทางพาหลงเฟยเยี่ยมมู่ลี่เอ๋อร์จึงไม่มีใครขัดขวาง หลัวเซียงเซียงคิดว่าหลังจากวันนี้แล้ว นางยังต้องหาโอกาสให้หลงเฟยเยี่ยได้พบกับนางเอกอีกหลายครั้ง หลัวเซียงเซียงรู้ว่าไม่นานตัวเองก็ต้องแต่งให้หลงเฟยเยี่ย ยามนั้นนางจะทำตามเนื้อเรื่องเดิมคือให้หลงเฟยเยี่ยรับมู่ลี่เอ๋อร์มาเป็นพระชายารอง แต่ไยนางต้องรอถึงวันนั้นเล่า หลัวเซียงเซียงคนนี้จึงคิดเขียนนิยายขึ้นมาใหม่ กักขังพระเอกนางเอกเอาไว้ด้วยกันพ่นยาปลุกกำหนัดให้มาก ๆ หน่อย เมื่อความรักความปรารถนาบังตา หลงเฟยเยี่ยย่อมทนไม่ได้เผด็จศึกมู่ลี่เอ๋อร์ในที่สุด เมื่อนางเอกท้อง เรื่องนี้ก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง และหลัวเซียงเซียงคนนี้ก็จะโบยบินไปยังโลกของนางเสียที แผนการของนางถูกวางเอาไว้อย่างรอบคอบ ย่อมไม่มีผู้ใดจับสังเกตได้ ในขณะที่หลัวเซียงเซียงกำลังกระหยิ่มในใจ หลงเฟยเยี่ยก็พิจารณาสีหน้าของหลัวเซียงเซียงเช่นกัน ปีศาจน้อยตัวนี้คิดจะทำสิ่งใดอีก คงกำลังวางแผนชั่วอยู่ใช่หรือไม่จึงได้มีสีหน้ามีความสุขเช่นนี้ หลงเฟยเยี่ยจึงระมัดระวังตัว เขาเคยถูกนางวางยาจนเสียท่ามาครั้งหนึ่งแล้ว เขาย่อมไม่ยอมให้เกิดเรื่องซ้ำซากเป็นครั้งที่สอง หลัวเซียงเซียงเดินนำหลงเฟยเยี่ยไปที่ปีกตะวันออก บ้านของมู่ลี่เอ๋อร์เป็นบ้านใหม่ที่นางจัดหาให้ ถึงจะอยู่ลึกห่างไกลผู้คน ยังอยู่ที่ท้ายจวนทว่าก็อบอุ่นและดีกว่าบ้านหลังเดิมร้อยเท่า ระหว่างทางนางก็เอาแต่คิดแผนการ และหลงเฟยเยี่ยก็กำลังคิดวิธีรับมือ กระทั่งมาถึงเรือนหลังหนึ่งที่อยู่ค่อนข้างไกลจากเรือนหลังอื่น "ท่านอ๋อง ที่นี่แหละ พี่สาวข้ารอท่านอยู่ด้านใน ท่านรีบเข้าไปเถิด" จากนั้นนางก็หมุนตัวกลับ หลงเฟยเยี่ยขยับกายรวดเร็วก็มายืนขวางทางนางแล้ว "ไปกับข้า" หลัวเซียงเซียงส่ายหน้า หากนางไปแผนการที่วางเอาไว้ย่อมไม่สำเร็จ "เชิญท่านเถิด ข้าจะรอข้างนอก" "เจ้าไม่เข้าไปหรือ" หลงเฟยเยี่ยเอ่ยถามด้วยความสงสัย หรือด้านในมีกับดักอันใดนางผู้นี้จึงไม่ยอมขยับ ในขณะที่หลัวเซียงเซียงรู้ดีว่าตนเองมีแผนการ ทว่าไม่คิดว่าหลงเฟยเยี่ยจะรู้ทันเช่นนี้ "ท่านเข้าไปเถิด ข้าไม่ชอบทำตัวเป็นก้างขวางคอผู้ใด" กล่าวจบนางก็เดินหนีทันใด ทว่าก่อนที่นางจะเดินจากไปข้อมือเล็กก็ถูกหลงเฟยเยี่ยคว้าเอาไว้ แน่อนว่าเขาย่อมไม่เชื่อ เขาเคยถูกสตรีนางนี้หลอกจนเสียท่ามาแล้ว หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีกเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด "ไปกับข้า" "ไม่" ข้อมือขาวถูกเขากำเอาไว้จนหลัวเซียงเซียงรู้สึกเจ็บ นางดึงข้อมือของตัวเองออกทว่าสุดท้ายกลับถูกหลงเฟยเยี่ยช้อนร่างเล็กขึ้นมาอุ้มแล้วเอ่ยเสียงเย็น "พวกเราเข้าไปด้วยกัน ข้าจะคอยดูว่าท่านวางแผนอันใดอีก" "ขะ ข้าไม่ไป ข้าไม่อยากเป็นตัวขัดขวางความรักของพวกท่าน ข้าเป็นคนดีแล้วท่านอ๋อง ข้าไม่ทำเรื่องผิดศีลธรรมอีกแน่ ๆ ข้าสาบาน" หลงเฟยเยี่ยเห็นนางปฏิเสธเช่นนี้ ก็ยิ่งไม่ไว้ใจ "หลัวเซียงเซียง ข้ากับเจ้ายามนี้แม้ยังไม่ได้เข้าพิธีสมรสแต่ทางร่างกายก็นับเป็นสามีภรรยากันแล้วมิใช่หรือ เช่นนั้นก็ไปกับข้าเถิด" หลัวเซียงเซียงตะลึงงัน นางดิ้นรนไม่เข้าใกล้นางเอก สุดท้ายกลับถูกพระเอกพามาเสียที หัวใจของนางเต้นรัวราวกับมีคนกำลังเอาไม้มาตีเป็นกลอง ให้ตายเถอะถ้านางเข้าไปแล้วเกิดอุบัติเหตุกับนางเอกจะทำเช่นไรกัน ยังมีแผนการให้พวกเขาแนบชิดนั้นอีก แต่ไม่ว่าจะขอให้เขาปล่อยเพียงใด มือของหลงเฟยเยี่ยประดุจเหล็กกล้า แงะยังไงก็แงะไม่ออกเขาอุ้มนางพาดไหล่ด้วยมือข้างเดียว ในขณะที่อีกมือผลักประตูให้เปิดออกและโดยที่คนสองคนไม่รู้ประตูบานนั้นก็ถูกปิดลงทันใด หลงเฟยเยี่ยอุ้มหลัวเซียงเซียงเข้าไปด้านในกวาดตามองไปรอบ ๆ เรือนเล็กหลังนี้ และสิ่งที่สองคนเห็นด้านในนั้นก็คือห้องที่ว่างเปล่า หลงเฟยเยี่ยมองหน้านาง หลัวเซียงเซียงมองหน้าหลงเฟยเยี่ยแววตาของคนทั้งสองคนเต็มไปด้วยคำถาม "มู่ลี่เอ๋อร์อยู่ที่ใด" หลัวเซียงเซียงส่ายหน้า "ขะ ข้าไม่รู้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ข้าให้นางพักจริง ๆ ท่านดูสิ อบอุ่น แข็งแรง ทนทานเป็นอย่างยิ่ง ข้าทำดีแล้วใช่หรือไม่" หลงเฟยเยี่ยวางหลัวเซียงเซียงลงบนพื้นอย่างแรงกระทั่งนางก้นกระแทกพื้น หลัวเซียงเซียงเจ็บจนน้ำตาเล็ด "อ๋องปากสุนัขนี่ไม่รู้จักถนอมคนงามเอาเสียเลย พวกมาโซคิสม์ ป่าเถื่อน" หลัวเซียงเซียงก่นด่าไม่หยุด แล้วพยายามลุกขึ้นจนสำเร็จ นางมองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นว่าจะมีเงาคนอยู่ที่นี่ "เจ้าหลอกข้าหรือ ไม่ผิดจากที่คิด หลัวเซียงเซียงเจ้าหลอกข้า" "ไม่ใช่นะท่านอ๋อง ฟังข้าก่อน พี่สาวข้าคงออกไปข้างนอก โรงครัว ใช่ นางอาจจะไปทำอะไรให้ท่านกินก็ได้ ท่านอ๋อง รอก่อนข้าจะไปตามนางเอง" หลัวเซียงเซียงคิดเปิดประตู แต่ให้ตายเถิดประตูกลับไม่สามารถเปิดได้แล้ว "ทำไมเปิดไม่ได้แล้วล่ะ ทำไม" หลัวเซียงเซียงเงยหน้ามองฟ้า ตะโกนออกไปด้วยอารมณ์โกรธสุดชีวิต "นี่พวกเจ้าแกล้งข้าอีกแล้วใช่หรือเปล่า สวรรค์บ้านี่ปล่อยข้านะ ปล่อยข้าออกไปนะ" ท่าทางของหลัวเซียงเซียงยามนี้ นางกำลังคลุ้มคลั่งราวกับคนบ้า ทั้งยังชี้นิ้วก่นด่าสวรรค์ไม่หยุด หลงเฟยเยี่ยไม่สนใจนางที่วิปลาส เขาดันร่างเล็กของนางให้ถอยห่าง แล้วเปิดประตูด้วยตนเอง ทว่าประตูไม้กลับถูกปิดแน่นหนา ไม่ว่าหลงเฟยเยี่ยจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถเปิดประตูได้ โทสะของเขาเริ่มคุกรุ่นมองหน้านางอย่างอาฆาต "อย่าหวังว่าข้าจะแตะต้องเจ้าอีก แผนเดิม ๆ ยังกล้าสร้างขึ้นมาอีก เจ้าอยากให้ลี่เอ๋อร์ช้ำใจจนตายใช่หรือไม่" หลัวเซียงเซียงปฏิเสธจนลิ้นรัว แต่หลงเฟยเยี่ยย่อมไม่เชื่อนาง "ขะ ข้า ไม่ได้ทำนะ ท่านอ๋อง เป็นสวรรค์ หรือระบบอะไรสักอย่าง ที่แกล้งข้า ท่านอ๋องอย่าเข้าใจผิดนะ" แม๊งเอ๊ย ซวยซ้ำซวยซ้อน หากอีตาอ๋องปากสุนัขนี่คิดฆ่าข้าจริง ๆ คงได้ตายทันที และตายจริง ๆ ด้วย แม่จ๋า ช่วยด้วย ช่วยลูกด้วย แง แง และแล้วก็มีควันสีขาวถูกพ่นเข้ามาภายในเรือนแห่งนี้ หลัวเซียงเซียงสูดควันเข้าไปเต็ม ๆ ดวงตาของนางเบิกกว้าง ให้ตายเถอะ พวกเขากำลังพ่นยาปลุกกำหนัดเข้ามาแล้ว ด้วยความตกใจหลัวเซียงเซียงจึงตะโกนออกไปจนสุดเสียง หวังให้คนมาช่วยตัวเอง "โอ๊ย ช่วยข้าด้วย ช่วยด้วย ข้าไม่อยากนอนกับอ๋องไก่อ่อนคนนี้ ช่วยด้วย เปิดประตู หลิงหลิงเปิดประตู ข้าเองที่อยู่ในนี้ เป็นข้าเอง" "ไก่อ่อนหรือ!" แม้ว่าจะไม่คิดแตะต้องนางอีก ทว่าบัดนี้ยาปลุกกำหนัดกำลังเล่นงาน ร่างกายของหลงเฟยเยี่ยร้อนประดุจมีไฟแผดเผา ยังถูกกระตุ้นปลุกเร้าจากคำของหลัวเซียงเซียง ทำให้หลงเฟยเยี่ยบังเกิดอารมณ์ใคร่ และ โทสะไปพร้อม ๆ กัน เขากระชากร่างเล็กของหลัวเซียงเซียงที่ถอยร่นไปจนติดประตูเข้ามากอด เชยคางของนางขึ้นอย่างแรงแค่นคำโหดเหี้ยมน่ากลัวออกมา "ในเมื่อเจ้าคิดว่าข้าเป็นไก่อ่อน และยังวางแผนชั่วอีกครั้ง หลัวเซียงเซียงระหว่างข้ากับเจ้าก็ต้องล้างตากันสักหลาย ๆ ครา ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าคนเช่นข้า มิใช่ผู้ใดจะมาดูถูกได้ง่าย ๆ" เขากระตุกยิ้มชั่วร้าย กวาดมองไปทั่วเรือนร่างงามของหญิงสาว ดวงตาลุกโชนด้วยไฟปรารถนา "ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ไอ้บ้ากามปล่อยฉันนะ" "ปล่อยหรือ ไยยามนี้จึงคิดเปลี่ยนใจเล่า หรือว่านี่ก็เป็นการเสแสร้ง คิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าหรืออย่างไร" "ไม่นะ ปล่อยฉัน ไม่เอาแล้ว ฉันเป็นนางร้ายนะ นายก็ไปเอากับนางเอกของนายสิ จะมายุ่งกับฉันทำไม ให้ตายเถอะ อย่าฉีกเสื้อฉัน อีอ๋องบ้า อย่าจับตรงนั้น อ้ะ ก็บอกว่าอย่าไง อือ หลงเฟยเยี่ย อ้ะ อือ ปล่อย....อ้า...ปล่อย" เสียงร้องของหลัวเซียงเซียงหายเข้าไปในลำคอเสียแล้ว ยามนี้ยังไม่อาจควบคุมร่างกายของตนเองได้ เมื่อหลงเฟยเยี่ยฉีกเสื้อผ้าของนางออกพร้อมกับคลึงผลอิงเถาแสนหวานที่แข็งชูชันรอรับสัมผัสจากมือของเขา หลงเฟยเยี่ยสติหลุดจากร่างทันใด เมื่อเปิดเปลือยร่างบางจนสำเร็จ และกำลังครอบครองถันคู่งามอร่ามด้วยฝ่ามือและปากอุ่นชื้น หลัวเซียงเซียงบิดกายไปมารับรู้ถึงความปรารถนาของตนที่ค่อย ๆ พุ่งสูงขึ้นจนชื้นแฉะ "อ๊ะ...ยะ..อย่า...อื้อท่านอ๋อง"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม