“ยาย! ยายนี่แสบมากเลยนะ ยายทำกับมะนาวแบบนี้ได้ไง ทำไมต้องติดหวย! ทำไมไม่อยู่ใช้หนี้ให้หมดก่อนตาย!”
ฉันเหลืออดเหลือทน หันไปตวาดรูปถ่ายบนผนังที่ยิ้มแป้น ยายฉันก็เป็นแบบนี้หล่ะ ท่านติดหวยไทย หวยลาว หวยพม่า ยันหวยเวียดนาม แถมยังคบค้าสมาคบกับเพื่อน ๆ ที่คอหวยด้วยกัน ที่วัน ๆ ไม่ทำอะไรทั้งนั้น นอกจากตีหวยรายวันและนินทาลูกหลานชาวบ้าน ฉันเบื่อสังคมแบบนี้ชะมัด
จนคิดว่าจบหมอ จะตั้งใจทำงานหาเงินซื้อบ้านโครงการดี ๆ พายายออกไปจากวงจรบ้า ๆ นี่ แต่ยายก็ดันทำเรื่องและดันตายซะก่อน
โถ่... โถ่... ชีวิตนังมะนาว จะรอดตายถึงสิ้นเดือนมั้ยก็ไม่รู้ ไอ้รายจ่ายที่ได้มาใหม่หลังจากที่ยายจากไป มันก็สามเดือนพอดี เจ้าหนี้เจ๊จิ๋มเน่า ต้องบุกเข้ามาทวงค่าหวยคนสวยผู้อาภัพอย่างฉันแน่ ๆ
ฉันนอนคิดทั้งคืนว่าจะทำยังไง จนอยากจะให้ยายมาเข้าฝันไม่ก็เป็นผีมาหลอกฉัน เพราะฉันจะด่า ๆ ๆ เอาให้กลับไปเกิดไม่ทันเลยจะบอกให้
ฉันบอกแล้ว ว่าหวยให้เพลา ๆ แต่นี่เล่นจนเสียบ้านและเป็นหนี้ทิ้งไว้ให้ฉัน บุญคุณขอไม่นับนะ ถ้าจะทำกันขนาดนี้!
โรงพยาบาลรัฐ XX
“หน้าบึ้งมาอีกแล้ว แกยิ้มให้เป็นศิริมงคล กับวัน Extern วันแรกของเราหน่อยสิ”
“โรงพยาบาลนี้แจกข้าวฟรีมั้ย? ฉันหิว” ฉันหันไปบอกอันติงทันที จนเพื่อนสนิทชะงักแล้วกะพริบตาปริบ ๆ
“อะ อะไรนะ?”
“ฉันหิว ฉันคิดวิธีแก้ปัญหาที่ยายก่อไว้ทั้งคืน จนตาลายหมดแล้ว” อันติงขมวดคิ้วมองฉันงุนงง ก่อนจะวางมือเล็กของเธอที่ไหล่ฉันแทน
“เครียดอะไร แกบอกฉันสิ”
“ถ้าถาม... แล้วจะเปย์ฉันอีกก็ไม่ต้อง หางาน MC มาให้ฉันไม่ก็ผัวรวย ๆ ก็พอ ฉันขี้เกียจและเหนื่อยมาก อยากอยู่เฉย ๆ ให้ผู้ชายเลี้ยง”
ฉันบอกไปตามความจริง แค่เห็นตารางราวด์วอร์ดที่ต้องขึ้นไปดูคนไข้ทุกเจ็ดโมงเช้า และรายงานผลต้องส่งอาจารย์ทุกเคส ฉันก็แทบไม่มีเวลาหายใจแล้ว ไหนจะต้องท่องตำราเตรียมสอบ OSCE สิ้นปีนี้อีก มีผัวรวยคือทางออก!
“งั้น... พี่ชายฉันมั้ย ซีอีโอสายการบินเวลฟายเลยนะ” ฉันขนลุกซู่ จนลูบแขนตัวเองทันที บ้า! พี่ชายอันติงสูงเกินไป สูงมาก ชั้นสูงแบบไม่มีอะไรกั้น หน้าตาก็ดี เก่ง ฉลาด เขาไม่เอาฉันหรอก
“ไม่เอา ๆ เอาแค่พอเลี้ยงฉันได้ก็พอ”
“ก็ฉันนี่ไง ป่ะ ๆ ไปกินข้าว วันนี้ฉันเลี้ยงข้าวแกเอง ฉลองที่เราจับฉลากExtern ได้โรงพยาบาลนี้ด้วยกัน”
แล้วอันติงก็ดึงร่างไร้เรี่ยวแรงฉันไปที่โรงอาหาร สั่งข้าวแกงมาแปดอย่าง น้ำปั่นสาม ของหวานหก มันทำอย่างกับฉันเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องที่มีสี่กระเพาะ (ควาย)
“กินให้หมดนะ ฉันเลี้ยง”
“หมดนี่ฉันคงอ้วก” ฉันตอบพลางหยิบช้อนส้อมเตรียมกิน จนอันติงนั่งลงตรงข้าม และท้าวคางมองหน้าฉัน
“กินเถอะน่า จะได้มีแรงทำงานและแก้ปัญหาของแก ชอบปฏิเสธความช่วยเหลือจากฉันนัก งั้นเพิ่มพลังงานไปเยอะ ๆ เลย”
“ฉันไหวแก... ไม่ต้องห่วง ขอบใจนะ”
อันติงพยักหน้าแล้วนั่งมองฉันกินต่อไป ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันราวด์คนไข้คนละแผนก เสร็จเที่ยงก็สรุปส่งรายงานพี่ Intern (แพทย์จบแล้วใช้ทุนและเป็นพี่เลี้ยง) หลังจากนั้นก็ไปสิงสถิตอยู่แผนกผู้ป่วยนอก OPD ต่อจนเลิกงาน ซึ่งกว่าฉันจะหอบร่างกลับถึงบ้านได้ ก็เล่นเอาขาแทบลาก
“เหนื่อยชะมัด” ฉันบ่นอุบอิบ และเดินทุบต้นแขนตัวเองเบา ๆ ไปตามถนนหน้าหมู่บ้าน จนผ่านร้านอาหารตามสั่ง ที่ยายฉันชอบมานั่งนินทาลูกหลานคนอื่น และผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ป้าอุไร
แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ! ทำไมป๊าอุไรเห็นฉัน ถึงรีบปัดมือไล่แบบนั้นล่ะ แถมยังทำปากบอกว่า ไป ๆ อีกด้วย
ฉันมองป้าอุไรด้วยความสงสัย และพอชะเง้อเข้าไปหลังป้ายชื่อร้าน ใหญ่ ๆ ก็ต้องรีบเร่งฝีเท้าเปลี่ยนจุดหมายทันที เจ๊จิ๋มกับลูกน้อง!
“นั่นไงมะนาว พวกแกตามไป เอาดอกมาก่อนนะ!”
“ครับเจ๊!”
เท่านั้นแหละฉันก็ไม่รอช้า สาวเท้าก้าวยาว ๆ จนสุดท้ายวิ่งออกจากตรงนั้นทันที ขณะที่มีเสียงรองเท้าหนัก ๆ ตามหลังมาติด ๆ หลายคู่
‘ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ’
“อย่าตามมา! ไม่มีเงินให้หรอกนะ!” ฉันตะโกนบอก
“หยุดนะนังเด็กโง่ จ่ายดอกที่ยายแกติดไว้สามเดือนมา!”
“ไม่มี ไม่รู้เว้ย ไปทวงกับยายฉันเลย!”
ฉันแหกปากตะโกนกลับไป แต่ไม่กล้าแม้จะหันกลับไปมองด้วยซ้ำ กลัวพวกนั้นตามทัน กลัวว่าพวกมันจะฆ่าฉัน กลัวไปหมดทุกอย่าง ฉันจึงเร่งฝีเท้าเร็ว ขึ้น ๆ จนเสื้อกาวน์สั้นเปียกไปด้วยเหงื่อและกระโปรงพีชพลิ้วตามลม ส่วนทรงผมช่างหัวมันเถอะ มันกระเจิงตั้งแต่เห็นหน้าเจ๊จิ๋มแล้ว
“หยุด!”
“ไม่! หยุดก็โง่สิ”
“หยุด! เจ๊จิ๋มล็อคประตูบ้านแกไว้หมดแล้ว ถ้าไม่จ่ายดอก แกไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่”
อะไรนะ? ฉันสติหลุด จนเหม่อนึกตามประโยคนั้น ก่อนที่ปลายเท้าจะสะดุดเข้ากับก้อนอิฐ ที่มันถูกรื้อขึ้นมาจากฟุตบาทจัง ๆ จน...
“กรี๊ด...”
‘เอี๊ยด’
‘ตุ๊บ’ ฉันล้มออกไปนอนกลางถนน ที่ข้าง ๆ เป็นรถสปอร์ตหรูติดป้ายทะเบียนเบอร์ตอง และอีกนิดเดียว นิดเดียวจริง ๆ มันก็ถึงตัวฉันแล้ว
“จับมัน!”
ฉันหันขวับไปตามเสียงทันที ก่อนที่จะเห็นลูกน้องเจ๊จิ๋มวิ่งมา และพยายามลุกขึ้นคลานหนี แต่พอคลานไปข้างหน้า ก็ต้องชะงักเงยขึ้นมองเบื้องบนทันที เพราะมีคนมาขวางทางไว้
“รถฉันไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย?”
ฉันส่ายหน้ารัว ๆ ปฏิเสธ อะไรอีกพอสักทีเถอะ! แค่หนี้ยายฉันก็จะตายอยู่แล้ว จนอยู่ ๆ ผู้ชายคนนั้นจับแขนฉันฉุดลุกขึ้น และทำให้ลูกน้องเจ๊จิ๋มที่เพิ่งมาถึงหยุดทันที
แต่ดีแล้วอย่าเพิ่งมา ขออยู่แบบนี้ก่อน เพราะสะดุดตากับความหล่อไม่ไหวแล้ว หน้าเขาหล่อมาก และฉันก็คุ้นมาก ๆ เหมือนเคยเห็นในทีวีหรือข่าวซุบซิบการเมืองมาก่อน และขณะที่ฉันคิดทบทวนใบหน้าฟ้าประทานนั้น ผู้ชายตรงหน้าที่จับแขนฉัน ก็ก้มลงมาถามว่า...
“เธอหนีอะไรมา?”
“นะ หนีผู้ชายพวกนั้น มันทวงหนี้ฉัน ช่วยฉันด้วยค่ะ”
รู้แบบนั้น เขาก็เงยขึ้นมองไปข้างหลังฉันทันที ก่อนที่จะอมยิ้ม จนฉันที่หลงในภวังค์ความเท่ห์ กะพริบตาปริบ ๆ มองตาม นาทีนี้อยากยื่นมือรับไมค์ ร้องเพลงแม่พุ่มพวงดวงจันทร์ชะมัด
อื้อฮื้อ หล่อจัง อะฮ้า หล่อจริง คู่ใครนะนิ้งเป็นบ้านี่แค่มองสบตา ห่างกันตั้งสี่วา อะฮ้าใจหายว้าบ~
“ส่งเด็กนั่นมาไอ้พี่ชาย! ยายมันค้างจ่ายดอกผมมาสามเดือนแล้ว”
“เท่าไหร่?” เขาถามกลับไปทันทีโดยไม่ฉุกคิด แถมยังปล่อยแขนฉัน ไปล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองอีกด้วย
“หกหมื่น ดอกสามเดือน”
“เดี๋ยวผมโอนให้” แล้วเขาก็เว้นช่วงหันมาที่ฉัน
“ส่วนเธอน่ะไปรอที่รถ ฉันเคลียร์เงินเสร็จ ฉันจะไปส่ง”
ฉันยังงุนงง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้ปฏิเสธความหวังดี จึงปล่อยให้เขาเดินไปหาลูกน้องเจ๊จิ๋มที่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งให้ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถสปอร์ตหรู ที่เปิดไฟผ่าหมากไว้ริมถนน
หล่อ เท่ห์ ใจดี สปอร์ต! เหมาะที่จะส่งเสียค่าเทอมให้นักศึกษาแพทย์นามว่ามะนาว เลี้ยงหนูมั้ยคะ? หนูน่ารัก และเลี้ยงง่ายนะ
แล้วเมื่อฉันขึ้นมาบนรถ เอี้ยวหันไปเปิดกระเป๋าผ้า ตั้งใจหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเซิร์ชหาชื่อเสียงเรียงนามของผู้ชายคนนี้ ความสงสัยทั้งหมดทั้งมวลก็กระจ่างราวกับฟ้าประทานทันที เพราะฉันเห็นนามบัตรใบนึง วางไว้ที่คอนโซลรถใกล้ที่จุดบุหรี่ และหน้านามบัตร มันก็มีชื่อว่า...
อลัน อัครวัชร์ อัครบดินทร์สกุล ว้าย... นามสกุลของตระกูล ZER กรุ๊ป! ฉันหันขวับมองชายหนุ่มผู้ใจดี สลับกับนามบัตรสามสี่ครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะพิมพ์เซิร์ชชื่อ และหารูปถ่ายในกูเกิ้ลว่าหน้าตาตรงกันหรือไม่?
แต่... ตรงเป๊ะ! การแต่งตัวออกไปทางเพลย์บอย เซตผมลวก ๆ เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมสองเม็ด และในข่าวก็มีภาพเปรียบเทียบความหล่อของสองพี่น้องอีก จนทำให้ฉันรู้ ว่าเขาคนนี้มีฝาแฝดที่หน้าคล้ายกันอยู่ชื่อเซอร์ อัครวิชญ์ อัครบดินทร์สกุล และคน ๆ นั้นก็ดูสุขุม เนี้ยบ แตกต่าง เพราะทุกรูป ไม่มีรูปไหนยิ้มเลย