บทที่ 13

1822 คำ
"ต้นอย่าเล่นกับน้องแรงนะลูก" "ครับป้า" ต้นกล้าเป็นลูกชายของของยี่หวา "เดี๋ยวฉันออกไปตลาดก่อนนะพี่ ฝากต้นกล้าด้วยล่ะ" ตั้งแต่แม่เธอเสีย สองพี่น้องก็ย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ แถวชานเมือง จัดงานศพให้แม่เสร็จไม่นานเท่าไหร่หวานใจก็รู้ว่าตัวเองท้อง เธอจึงไม่กล้าแบกหน้าอยู่แถวนั้นอีกต่อไป หวานใจเอาเงินก้อนนั้นที่เขาให้มาจ่ายค่าโรงพยาบาลและจัดงานศพให้แม่ที่เหลือเธอเอามาซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่แถวชานเมืองกับน้องสาวและหลานชาย แต่ตอนนี้เงินก้อนนั้นที่ณภัทรให้มาก็หมดแล้ว ยี่หวาหาของไปขายที่ตลาด เพื่อมาเลี้ยงพี่สาวกับหลานและลูกชายของเธอ ตอนที่ยี่หวาท้อง พี่เธอก็ให้กำลังใจแล้วดิ้นรนหาเงินมาเลี้ยงน้องและแม่ ยังมีหลานตัวเล็ก ๆ อีกคน ตอนนี้กลับกันเธอให้กำลังใจพี่ กว่าทั้งสองจะผ่านมันมาได้ก็เกือบแย่ [ ตัดมาที่พัชรี ] "แก้วตาได้ยินพี่นะบอกว่าแม่ไม่สบายก็เลยมาเยี่ยมค่ะ" "ก็โรคคนแก่นั่นแหล่ะสามวันดีสี่วันไข้" "แล้วทำไมคุณแม่ไม่พักผ่อนคะ แล้วนี่อะไร เยอะแยะเลย" แก้วตาเดินไปจับกระดาษขึ้นมาดู "นักสืบส่งมาให้แม่ดูไม่มีอะไรมากหรอก เอาวางไว้ตรงนั้นแหละเดี๋ยวแม่เก็บเอง" ใช่แล้วพัชรียังไม่ยอมแพ้ นางยังตามหาหวานใจ เพราะพัชรีคิดว่าลูกชายของนางต้องทำอะไรหวานใจไว้แน่ เพราะหวานใจเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากไม่มีวันที่เธอจะหนีหายไปแบบนั้นโดยที่ไม่บอกกล่าวก่อน "คุณแม่ยังตามหาผู้หญิงคนนั้นอยู่อีกเหรอคะ แก้วตาไม่ชอบเลย" อีกไม่นานแก้วตาก็จะเข้ามาเป็นสะใภ้ของบ้านหลังนี้แล้ว ตอนนี้เธอเริ่มจะเข้ามาวุ่นวายทั้งบริษัทและก็บ้าน "แม่แค่สงสัยว่าอยู่ดี ๆ คนทั้งคนจะหายไปแบบไร้ร่องรอยได้ยังไง" "คุณแม่เลิกตามหาได้แล้วค่ะ ถึงเธอจะกลับมาก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว" แก้วตาพูดทิ้งหางเสียงไว้เหมือนไม่พอใจ แล้วก็หยิบกระดาษโน๊ตทั้งหมดของพัชรีไปวางลงถังขยะแล้วเดินออกจากบ้านไป หญิงวัยกลางคนได้แต่มองตามหลังผู้หญิงที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของนางในอนาคต [ บริษัทณภัทรเทคโนโลยีจำกัด ] "สวัสดีค่ะคุณแก้วตา ตอนนี้บอสมีแขกอยู่ค่ะ" แนนรีบเดินมาบอกแก้วตาที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของณภัทร "ฉันเป็นใครเธอจำไม่ได้หรือไง" "จำได้ค่ะแต่บอสบอกว่า.." แนนยังพูดไม่จบแก้วตาก็เปิดประตูห้องทำงานของเขาแบบถือวิสาสะ "พอดีใกล้เที่ยงแล้วแก้วตาอยากจะมาชวนคุณไปทานข้าว" "ผมกำลังคุยงานอยู่" "แก้วตารอได้ค่ะ เดี๋ยวแก้วตานั่งเล่นเงียบ ๆ รอ" "วันหลังเราค่อยคุยกันต่อก็ได้ครับคุณณภัทร คุณไปทำธุระเถอะครับ" คนที่เข้ามาคุยงานรีบลุกขึ้นแบบเกรงใจ "ไม่เป็นไรครับ ผมจะคุยงานกับคุณต่อ แนนช่วยพาคุณแก้วตาไปรอที่ห้องรับรองแขกก่อนนะ" ณภัทรพูดกับลูกค้า ก่อนที่จะหันไปสั่งเลขา "งานอะไรนักหนา แล้วนี่เมื่อไหร่คุณจะว่างไปดูการ์ดแต่งงานกับแก้วตาคะ" "เรื่องนั้นเราค่อยคุยกัน แต่ตอนนี้คุณออกไปรอที่ห้องรับรองแขกก่อน" แก้วตาก็เดินออกไปแบบไม่พอใจ แล้วแนนก็วิ่งไปเปิดประตูห้องให้เธอ [ ตัดกลับมาหาหวานใจ ] "ต้นกล้าน้องล่ะ" หวานใจให้ต้นกล้าเฝ้าภาคินแป๊บนึงเธอไปเข้าห้องน้ำพอเดินออกมาก็ไม่เจอลูก "เมื่อกี้น้องก็อยู่ตรงนี้นะครับ" "ภาคินลูก!! ภาคินลูกไปไหนต้นกล้าหาน้องช่วยป้าเร็ว" เป๊กกกกก!!! เสียงแตรรถดัง เอี๊ยกกกโครม!! แล้วสักพักก็มีเสียงเหมือนรถชนอะไรบางอย่าง "กรี๊ดดดด!! ภาคิน!!!" ชั่วโมงผ่านไป... "ทำไมเด็กถึงมีเลือดกรุ๊ปพิเศษครับ" หมอวิ่งออกมาหาหวานใจ ที่เดินไปเดินมาหน้าห้องผ่าตัดแบบกระวนกระวาย น้ำตาของเธอยังไม่หยุดไหลตั้งแต่พาลูกมาส่งโรงพยาบาล "ฉันไม่รู้ค่ะหมอทำไมคะ งื้อออ คุณหมอช่วยลูกฉันด้วยนะคะ" หญิงสาวยกมือไหว้ขอร้องทั้งน้ำตา "เลือดพวกนี้จะมีแค่พวกลูกครึ่งเท่านั้นครับ ทางโรงพยาบาลไม่มีเลือดสำรองไว้เลย" "ลูกครึ่งงั้นเหรอ!" ปู่ของณภัทรเป็นชาวอเมริกา มาได้ภรรยาที่เมืองไทยจนมีพ่อของเขา แล้วพ่อของเขาก็มีเขามาอีกที เขาก็เลยได้เลือดตัวนั้นติดตัวมา และตอนนี้ลูกชายของเขาก็ได้เลือดของพ่อมาเต็ม ๆ "ทำไงดีพี่..แล้วหลานของฉันจะเป็นอะไรไหมคะหมอ" ยี่หวาได้ยินข่าวก็รีบมาที่โรงพยาบาล แทบจะเป็นลมหลายตลบเหมือนกัน "คุณควรติดต่อไปหาพ่อเด็กนะครับ เผื่อเขามีเลือดเดียวกัน ตอนนี้เด็กต้องการเลือดด่วน ถ้ารับบริจาคคงไม่ทัน" "ค่ะ" ตอนนี้เธอคิดแค่อย่างเดียวว่าต้องช่วยลูกให้รอดก่อน หวานใจรีบออกมาขึ้นแท็กซี่เพื่อที่จะไปหาเขาที่บริษัท หญิงสาวนั่งรถมาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงเพราะเธออยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก ตอนนี้เธอหวังแค่ให้เขาอยู่บริษัทก็พอ อย่าให้เขาออกไปดูงานที่ต่างจังหวัดเลย [ บริษัทณภัทรเทคโนโลยีจำกัด ] "ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครทำไมหน้าคุ้น ๆ " "จริงด้วยนั่นมันผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่หรอ" พอเธอลงแท็กซี่ที่หน้าบริษัท หญิงสาวก็รีบตรงเข้ามาด้านในโดยที่ไม่แลกบัตรผ่าน เพราะบริษัทของเขาต้องยื่นบัตรประชาชนก่อนที่จะเข้าผ่านเข้าไป "คุณคะหยุดก่อนค่ะ คุณจะมาพบใครคะ" พนักงานที่ด้านหน้ารีบวิ่งตามเธอมาจนถึงหน้าลิฟต์ "ฉันจะมาพบคุณณภัทร" "ว้าย! ไม่ได้นะคะ..คุณจะต้องมาแลกบัตรแล้วก็รอให้ฉันติดต่อขึ้นไปหาคุณแนนก่อน" "ไม่ทันแล้วค่ะ ฉันขอขึ้นไปพบเขาตอนนี้เลยได้ไหม" หญิงสาวถึงกับยกมือไหว้ขอขึ้นไปหาเขาก่อน แต่พนักงานก็ไม่สงสารเธอเลย "ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ถ้าไม่งั้นฉันจะเรียกรปภ.แล้วนะ" พอลิฟต์เปิดหวานใจไม่รอแล้ว เธอรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ทันที.. แล้วผู้หญิงคนนั้นก็รีบเข้าไปชุดกระชากตัวเธอไว้ ทันใดนั้นลิปต์ก็ปิดลงก่อน หญิงสาวรีบกดขึ้นไปที่ชั้นผู้บริหารทันที "คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" "ฉันจำเป็นต้องพบเขาจริง ๆ ขอเวลาแค่แป๊บเดียวเอง" สักพักลิฟต์ก็มาเปิดที่หน้าชั้นผู้บริหาร พอลิฟต์เปิดออก ณภัทรที่กำลังรออยู่กับแก้วตาถึงกับชะงัก "คุณ! คุณไปกับฉันหน่อยได้ไหมคะ" หวานใจรีบเดินไปคว้ามือของณภัทรที่ตอนนี้แก้วตากำลังยืนควงอยู่อย่างแนบชิด "เธอ!!" ณภัทรและแก้วตาพูดออกมาพร้อมกัน ใช่แล้วผู้หญิงที่ยืนอยู่กับณภัทรเมื่อสองปีที่แล้วก็คือแก้วตา เขาเรียกแก้วตามาพบที่บริษัทเพื่อที่จะให้เธอมากีดกันหวานใจนั่นเอง "ฉันไม่ยอมให้คุณนะไปกับเธอหรอก เธอมีสิทธิ์อะไรปล่อยมือแฟนของฉันนะ!" "ฉันขอยืมตัวเขาแป๊บเดียวเองค่ะ" "ทำไมฉันต้องไปกับเธอด้วย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับแกะมือของหญิงสาวออก "งั้นฉันขอถามคุณตรงนี้เลยก็ได้ เลือดของคุณเป็นกรุ๊ปพิเศษใช่ไหม" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นไม่ได้สั่นแค่เสียง ตอนนี้มือไม้ ปากของเธอสั่นไปหมดเพราะกลัวว่าจะกลับไปช่วยลูกไม่ทัน "อืม..ทำไมเธอรู้" เขามีเลือดพิเศษก็จริงแต่หน้าตาของเขาไม่ค่อยจะเหมือนลูกครึ่งเท่าไหร่ "เลือดพิเศษคืออะไรคะ" แก้วตาสงสัยก็เลยถาม "ฉันกำลังต้องการเลือดของคุณด่วน คุณช่วยลูกฉันหน่อยได้ไหม ลูกฉันเกิดอุบัติเหตุตอนนี้เขารออยู่ที่ห้องผ่าตัด คุณช่วยเขาหน่อยได้ไหม" เธอพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินเพราะเธอกลัวว่าเขาจะไม่ช่วยลูก "เธอหมายความว่ายังไง" "ช่วยลูกเราด้วย ช่วยภาคินหน่อยได้ไหม ฉันจะไม่ขออะไรจากคุณอีกเลย นี่เป็นครั้งสุดท้ายคุณไปช่วยเขาหน่อยได้ไหม" หวานใจทิ้งตัวคุกเข่าลงต่อหน้าเขาโดยไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรอีกต่อไป เธอกลัวว่าเขาจะไม่ยอมช่วย หญิงสาวพนมขึ้นเพื่อกราบไหว้ขอร้องวิงวอน เธอทำทุกอย่างเพื่อให้เขาสงสาร "ภาคิน!! คือใคร?" [ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ] ที่ต้องพาลูกเข้าโรงพยาบาลเอกชนเพราะมันเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ตอนนั้นเธอคิดแค่ว่าต้องช่วยลูกให้รอดก่อน ถึงแม้ว่าเขายังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ชายหนุ่มก็ยอมตามเธอมาที่โรงพยาบาล "คุณหมอคะฉันพาพ่อของเด็กมาแล้ว ลูกของฉันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ" "เราขอตรวจเลือดให้ละเอียดก่อนนะครับ ว่าเลือดคุณพร้อมที่จะบริจาคไหม" แล้วณภัทรก็เดินเข้าห้องตรวจ "เขาคือพ่อของภาคินเหรอพี่" ยี่หวารีบเดินมาถามพี่สาว "ใช่" หวานใจไปพบเจออะไรมาบ้าง เธอไม่เคยโกหกน้องสาวเลย เธอเล่าให้น้องสาวฟังทุกอย่าง "ยังดีนะที่เขายังมีความเป็นคนอยู่บ้าง" เพราะถ้าเป็นผู้ชายบางคน ก็คงไม่ตามมาแบบนี้ ............... "เม็ดเลือดของคุณตรงกับเด็กทุกอย่างคุณพร้อมที่จะบริจาคแล้วใช่ไหม เราจะถ่ายเลือดโดยตรงเลยเพราะว่าเด็กต้องการเลือดด่วน" พอหมอตรวจวิจัยเลือดเสร็จก็ถามณภัทร "พร้อมครับ" เขานั่งมองเด็กชายคนหนึ่งที่ตอนนี้มีสายระโยงระยางเต็มตัวไปหมด หน้าตาของเด็กคล้ายเขามาก สมัยนี้การถ่ายเทเลือดโดยตรงไม่นิยมให้ใช้เพราะจะผิดกฎหมายอาจจะได้รับเชื้อโรคจากผู้บริจาคได้ง่ายมาก แต่ถ้าผู้รับบริจาคอยู่ในขั้นวิกฤตต้องรีบใช้เลือดด่วนก็สามารถทำได้ แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากญาติก่อน ซึ่งแม่ของภาคินก็ได้เซ็นต์ยินยอมไว้ก่อนแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม