"บอสคะช่วยเซ็นต์เอกสารงานโปรเจคเชียงใหม่ให้ด้วยค่ะ"
"แล้วโปรเจคนั้นไปถึงไหนแล้วล่ะ"
"โปรเจคระยองเหรอคะ"
"อืม" ชายหนุ่มร่างหนาที่นั่งอยู่เก้าอี้ประจำตำแหน่งแบบน่าเกรงขาม ในมือถือปากกา และกำลังเปิดดูแฟ้มเอกสารที่เลขาเพิ่งจะถือเข้ามาให้เพื่อต้องการรายชื่อของเขา
"โปรเจคที่ระยองยังไม่เรียบร้อยเลยค่ะ แนนอยากจะเสนอให้เปลี่ยนคนไปดูงานที่นั่นเพราะเธอคนนั้นดูเหมือนว่าจะทำงานไม่ค่อยเป็นเลยค่ะ" เลขารายงานตามคำที่ได้ยินมาจากเพื่อนร่วมงานของผู้หญิงอีกคนที่กำลังพูดถึง โดยที่ไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง
"เด็กเส้นเด็กฝากก็แบบนี้แหละ ผมก็บอกแม่แล้ว.. ว่าจะรับใครเข้ามาก็ให้ดูคนหน่อย"
"จริงค่ะบอส..เห็นเพื่อนในกลุ่มของเธอบอกว่าเก่งแต่อ่อยผู้ชายไปวันๆ"
"ให้เวลาเธออีกสามวัน ถ้าไม่จบโปรเจคนั้น ก็เปลี่ยนทีมใหม่ไปดูงาน เดี๋ยวผมจะพูดกับแม่เอง"
นายณภัทร CEO บริษัท ณภัทรเทคโนโลยี จำกัด ผู้ผลิตรายใหญ่ ส่งออกทั่วประเทศและต่างประเทศ เขาเริ่มต้นจากศูนย์จนได้เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของประเทศ
และเธอนางสาวหวานใจ ผุดผ่อง เด็กบ้านนอกที่เข้ามาดิ้นรนหางานในเมืองกรุง เพื่อส่งเสียครอบครัว ถือว่าตอนนี้เธอเป็นหัวหน้าครอบครัว พ่อเธอเสียชีวิตตอนเรียนยังไม่จบปวส.เลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นครอบครัวของเธอต้องดิ้นรนกว่าจะผ่านพ้นมันมาได้ จนตอนนี้เธอได้มาทำงานที่บริษัทใหญ่โตเพราะความช่วยเหลือของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอบังเอิญเจอ และได้ช่วยไว้
เหตุการณ์วันนั้น..
"ว้าย!!ช่วยด้วยย!!" หญิงวัยกลางคนร้องตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
เพราะตอนนี้มีผู้ชายวัยรุ่นตัวผอมๆ คนหนึ่งวิ่งกระชากกระเป๋าของนาง
"หยุดนะ!!" หญิงนิรนามที่เพิ่งเดินผ่านพัชรีไปเมื่อกี้ เธอถึงกับหยุดชะงักแล้วหันกลับมา
ฟิ๊วววววตุ๊บ!! "โอ๊ย!! ใครวะ"
"เอากระเป๋าคืนป้าเขาไปซะ ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัว"
"กูไม่คืน!! มึงอยากได้ก็เข้ามาแย่งเอาสิ" มันยังกล้าท้าทายเธอ เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง
"ได้!! แล้วมึงอย่าหาว่าผู้หญิงรังแกผู้ชายแล้วกัน"
ตุ๊บ!! ตั๊บ!! เท้าและกำปั้นหมัดของหญิงสาวรัวเข้าใส่ไอ้วัยรุ่นคนนั้น
จนเวลาผ่านไป..
"กระเป๋าของป้าใช่ไหมคะ ป้าลองเช็คดูนะว่าของข้างในอยู่ครบไหม" หญิงสาวยื่นกระเป๋าในมือส่งให้หญิงวัยกลางคนที่ยืนตัวสั่นระริกเพราะตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก
"หนูเป็นยังไงบ้างเจ็บตรงไหนไหมหนูเก่งจังเลย" พอตั้งสติได้พัชรีก็ตรงเข้าไปเช็คร่างกายของพลเมืองดี นางไม่ได้สนใจกระเป๋าเลยด้วยซ้ำตอนนี้นางสนใจผู้หญิงคนนี้มากกว่า
"หนูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะแค่นี้จิ๊บจ๊อย ว่าแต่คุณป้าลองดูกระเป๋าหน่อยนะคะว่ามีอะไรเสียหายไหม"
"เรื่องกระเป๋าช่างมันเถอะจ้า ว่าแต่สำเนียงการพูดของหนูเหมือนไม่ใช่คนกรุงเทพเลยหนูมาจากที่ไหนหรอ"
"หนูเป็นคนโคราชค่ะ เข้ามาหางานได้สี่ห้าวันแล้ว แต่ไม่มีที่ไหนรับหนูเลย" นัยน์ตาของหญิงสาวดูเศร้าหมอง
"แล้วหนูพักที่ไหนล่ะลูก"
"พักทุกที่ค่ะ" เธอไม่รู้จะบอกป้าคนนี้ยังไงดีว่าเธอพักตามสวนสาธารณะหรือป้ายรถเมล์ ที่ไหนที่พอมีแสงสว่างและห้องน้ำให้เธอ หญิงสาวก็นอนตรงนั้น
วันที่พัชรีมาฝากหวานใจเข้าทำงาน..
"ทำไมแม่เชื่อคนง่ายจัง แล้วทำไมแม่ไม่บอกผมตั้งแต่วันนั้นจะได้แจ้งตำรวจ แม่รู้จักคำว่านางนกต่อไหม" ชายหนุ่มผู้ที่ไม่ค่อยเปิดใจเรื่องพวกนี้เขาจะคิดเผื่อไว้สองด้านเสมอ
"ถ้าลูกไม่ฝากงานให้เธอทำ ถ้างั้นแม่หางานอื่นให้เธอก็ได้"
"แม่จะให้เธอทำงานอะไร" ใบหน้าคมคายถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูง เมื่อได้ยินคำที่แม่เอ่ยออกมา
"ก็ให้มาเป็นเลขาส่วนตัวของแม่ไง ลูกอยากจะให้มีคนติดตามแม่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"
"ผมก็เสนอให้แม่แล้วแต่แม่ไม่รับเอง ผมไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้ถ้าจะให้ติดตามแม่"
"แบบนั้นก็ไม่ได้แบบนี้ก็ไม่เอา ถ้างั้นแม่จะให้หนูหวานใจเป็นลูกบุญธรรมของแม่เลยแล้วกัน ดีเหมือนกันแม่จะได้ส่งเสียให้เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ"
"ไม่ได้!! ถ้างั้นก็ให้เธอเข้ามาเป็นแม่บ้านทำความสะอาดบริษัทแล้วกัน"
"ไม่! สงสัยว่าออกจากห้องนี้ไปแล้ว แม่คงต้องไปที่ห้องทนายแล้วล่ะ" พูดจบประโยคแม่ของเขาก็ยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่กำลังนั่งอยู่ และพร้อมที่จะออกจากห้องนี้ไปได้ทุกเมื่อถ้าไม่ได้ยินคำตอบที่พึงพอใจ
"ก็ได้ครับ! ผมจะหางานที่เหมาะสมให้เธอแล้วกัน"