บทที่ 11 มนุษย์ถ้ำ

1196 คำ
“ก็ได้” “จริงปะ...ขอบคุณนะ” อัญญาเงยหน้าขึ้น ส่งยิ้มแป้นให้เขาทันที “ไปหาที่นอนเอาเอง แล้วก็รีบนอนเอาแรง” “ได้ ๆ” อัญญารีบกุลีกุจอ หาที่นอนเหมาะ ๆ จากนั้นก็ล้มตัวลงนอน คืนนี้เธอเจออะไรมามากมายเกินไป ทั้งตื่นเต้น หวาดกลัว และดีใจ จนคิดว่าตัวเองคงจะไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ แต่ไม่ถึงชั่วโมง นทีก็ได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอเบา ๆ ทำให้รู้ว่าเธอหลับไปแล้ว ส่วนเขาก็คงต้องกลับ เพื่อไม่ให้ใครสงสัย อีกอย่างคงต้องคิดวางแผนกับเพื่อนร่วมทีมใหม่อีกครั้ง เมื่อมีตัวแปรเพิ่มเข้ามา         อัญญาตื่นขึ้นมาพบว่าข้างกายเธอว่างเปล่า ไม่เห็นผู้ชายหน้าหนวดคนนั้นแล้ว หญิงสาวกวาดตามองรอบโพลงถ้ำอีกครั้ง มีแสงเล็ดลอดเข้ามา แสดงว่าตอนนี้คงเป็นช่วงเวลากลางวัน แต่ไม่สามารถเดาได้ว่ากี่โมง ท้องร้องโครกครากขึ้นมา ทำให้เธอขยับตัวลุกด้วยความเมื่อยขบ ขาก็ปวด เมื่อคืนเธอวิ่งเต็มฝีเท้าโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพิ่งจะมารู้ตัวเอาตอนนี้         ขยับตัวลุกขึ้นได้ เธอก็ตรงไปยังมุมที่นทีบอกไว้เมื่อคืนว่า มีเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว บางทีอาจจะมีของกินให้เธอพอประทังหิวไปได้บ้าง เมื่อเจอถุงดำมัดปากอย่างดี มือเล็กก็จัดการรื้อค้นหาทันที ก่อนจะเจอขนมปังและอาหารแห้งสามสี่ห่อ ทำให้เธอยิ้มออกมาได้         รอดตายแล้ว         หลังจากทำความสะอาดเนื้อตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้ว อัญญาก็มานั่งลงกัดขนมปังในมือกิน ในหัวก็คิดว่าจะเอาไงต่อ จะหาทางหนีออกจากที่นี่ด้วยวิธีไหน จู่ ๆ ลำคอก็ตีบตันขึ้นมา ขนมปังแทบจะกลืนไม่ลง เมื่อรู้ว่าไม่มีหวัง เพราะเธอคงไม่สามารถว่ายน้ำจากเกาะไปขึ้นฝั่งได้         แล้วเขาล่ะ นายหนวดจะช่วยเหลือเธอได้ไหม จะพาไปส่งถึงฝั่งหรือเปล่า หรือต้องรออย่างที่เขาบอก รออะไรก็ไม่รู้ หวังว่าเขาคงปลอดภัยหนีกลับไปห้องพักได้โดยไม่มีใครเห็น         เฮ้ย...ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก ห่วงตัวเองเถอะ จะเอาไงต่อ         อัญญาสะดุ้งตื่น เมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ ร่างบางรีบเร้นกายเข้าไปซ่อนหลังซอกหินก้อนใหญ่ สายตาเพ่งมองตรงไปยังปากทางเข้าถ้ำ ที่พวกเธอเข้ามาเมื่อคืน ทั้งจ้องมอง ทั้งก้มหน้าหลบ พยายามทำตัวลีบเล็ก ความเครียดทำเอาเธอแทบจะหยุดหายใจ ถ้าเป็นโลกภายนอก ป่านนี้เธอคงกดโทรหานที ขอความช่วยเหลือจากเขาแล้ว แต่นี่เป็นโลกที่ไร้เทคโนโลยี ไร้เครื่องมือสื่อสาร เธอกำลังอยู่ในยุคมนุษย์ถ้ำชัด ๆ         นทีก้าวเข้าไปในโพลงถ้ำ กวาดตามองด้วยความแปลกใจ เมื่อไม่เห็นหญิงสาวที่เขาพามาหลบซ่อนตัวเมื่อคืน กำลังจะก้าวขาเข้าไปด้านใน พลันสายตาก็เหลือบมองเห็นหลังไว ๆ จึงสาวเท้าเข้าไปทางก้อนหินใหญ่ ยื่นมือเข้าไปสะกิดหญิงสาว กำลังจะอ้าปากเรียก อัญญาหันขวับมา ดวงตากลมโตเบิกกว้างช็อคตาตั้ง ก่อนจะฟุบหน้าลงไปแน่นิ่ง นทีถึงกับทำอะไรไม่ถูก เฮ้ย!! นทียกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง เริ่มไม่มั่นใจว่าเธอช็อคจนหมดสติ เพราะตกใจหน้าเขา หรือตกใจว่ามีคนเข้ามากันแน่ ชายหนุ่มส่ายหัวช้า ๆ นี่มันภาระชัด ๆ นอกจากต้องกลับมาดูว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ยังต้องมาปฐมพยาบาลคนเป็นลมอีก มือช้อนเข่าเธอและยกขึ้นอุ้มเดินตรงไปวางยังพื้นหินเรียบ มือหนาตบหน้าเธอเบา ๆ ปลุกอย่างไรหญิงสาวก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น จึงต้องลุกไปเอาน้ำมาเช็ดหน้า ให้ความเย็นช่วยเรียกสติเธอกลับมา ผ่านไปสักพัก อัญญาค่อย ๆ ลืมตา ก่อนจะทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง และจ้องนิ่งมองผู้ชายหน้าหนวดที่อยู่ตรงหน้า ด้วยความดีใจ เธอถลาเข้าไปกอดเขาไว้แน่น คิดว่าตัวเองจะดวงซวยเจอกับพวกมันซะแล้ว “นาย...โอ้ย...ดีใจนะเนี่ยที่เป็นนาย นึกว่าเป็นพวกมันซะแล้ว” เสียงอู้อี้ดังอยู่ตรงซอกคอเขา อัญญากอดนทีเอาไว้แน่น เนื้อนุ่มนิ่มแนบชิดกับแผ่นอกหนาจนสัมผัสได้ และถ้าให้เดาทั้งร่างเธอคงไม่ได้ใส่อะไร นอกจากเสื้อตัวโคร่งกับกางเกงผ้ายืด         “เออ...ยังไม่มีใครรู้จักที่นี่หรอก ตอนนี้ยังปลอดภัย แต่อนาคตไม่แน่”         “นั่นดิ” หญิงสาวผละออกจากเขาทันที เมื่อรู้ตัวว่าเผลอกอดรัดนทีแน่น จนแทบจะสิงร่างเขา         “แล้วเป็นไง เมื่อคืนนายกลับออกไปตอนไหน แล้วเจอใครหรือเปล่า มีใครสงสัยนายมั้ย” เธอรัวคำถามใส่ทันที หลังจากทนเก็บกดนั่งคิดนอนคิดคนเดียวมาทั้งวัน         “ไม่มี”         “แล้ว...นายคนนั้น...คนที่เฝ้าฉันเมื่อคืน...เขาตายมั้ย”         “มันแค่สลบ” ฝีมือเธอมันไม่ตายหรอก แต่ตายเพราะวิทย์ยิงทิ้งโทษฐานปล่อยให้ตัวประกันหนีไป เขาคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องบอกเธอ         “ค่อยยังชั่วหน่อย ยังไม่อยากมีบาปติดตัว แค่นี้ก็ลำบากมากพอแล้ว” อัญญาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก         “แล้วเรื่องของฉะ...อัญล่ะ นายพลทัตว่าไง” หญิงสาวเริ่มพูดดีกับผู้มีพระคุณ อย่างน้อยเขาก็ช่วยเหลือเธอให้รอดพ้นจากมือวายร้ายพวกนั้น         “ตอนนี้มันกำลังทำเรื่องสำคัญอยู่ ไม่มีเวลาสนใจเธอหรอก”         “จริงดิ”         “อือ”         “สาธุเจ้าป่าเจ้าเขา ขอให้งานของมันยุ่งยาก วุ่นวาย ฉิบหาย จนไม่มีเวลามาสนใจเรื่องของข้าพเจ้าเลย..เพี้ยง ๆ”         “แต่ได้ยินว่า...เธอต้องเป็นของสมนาคุณให้ลูกค้ารายใหญ่ของมันล็อตนี้ ยังไงไม่เกินสองสามวันก็คงออกตามล่าอีก” อัญญาดีใจได้ยังไม่ถึงนาที นทีก็ดับฝันเธอด้วยประโยคเด็ดตามมา “ทะ...ทำไม ก็ไหนบอกว่ามันยุ่งอยู่ไง”         “ลูกค้ารายนี้เขาชอบสาวสวยบริสุทธิ์ พลทัตมันก็ต้องหาไปบริการ เอาใจ จะได้ซื้อง่ายจ่ายคล่อง แล้วเธอก็เป็นเหยื่อที่มันต้องการ”         “สมมตินะว่า ถ้าพ่อของอัญมาช่วย หรือยอมคืนสิ่งที่มันต้องการ นะ...เอ่อ..พี่นทีว่ามันจะยอมปล่อยอัญไปมั้ย”         “ไม่!”         “เฮ้อ...ก็คิดไว้อยู่แล้ว ว่าต้องเป็นแบบนี้”         “แล้วถ้าอัญไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ มันยังต้องการอยู่มั้ย”         “คงไม่... เพราะลูกค้ามันไม่เอา”         “แล้วพี่นทีคิดว่าเราจะมีโอกาสรอดไปจากเกาะนี้มั้ย”         “อย่าเพิ่งคิดไปไกล เอาให้รอดไปแต่ละวันก็พอ แล้วถ้าเกิดมันอยากได้ตัวเธอ พรุ่งนี้ปูพรหมหาทั้งวัน เกาะนี้ไม่ใหญ่นัก คิดว่าจะรอดไปได้มั้ย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม