ตอนที่ 4
ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวกลับมืดมิดไปด้วยเหยี่ยวทะเลทรายที่โผผินบินว่อน บ้างโฉบลงมาจิกกินอาหารบนโต๊ะ บางตัวเกาะอยู่บนพุ่มไม้และทั่วทุกหนแห่งของงาน เพียงเสี้ยววินาทีอาชานับสิบก็กรูเข้ามาจนฝุ่นตลบและเสียงปืน!
“ข้าฮิบรานขุนโจรแห่งภูเขาเฮดามาแล้ว ใครไม่กลัวตายก็ดาหน้าเข้ามา ส่วนใครที่กลัวตายก็รีบปลดทรัพย์สินมีค่าโยนมากองไว้ตรงหน้าข้าเดี๋ยวนี้!”
ผู้เป็นหัวหน้านั่งอยู่บนอาชาตัวดำใหญ่คำรามน้ำเสียงดุดัน พร้อมยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่เป็นระยะ ทำให้ผู้คนที่มาร่วมงานหวีดร้องเสียงหลง รีบทำตามคำสั่งอย่างเร่งรีบลนลาน แต่ยังมีบุคคลผู้หนึ่งที่แม้ขุนโจรใหญ่สาดสายตาดุกร้าวตวัดมองไปยังหนุ่มน้อยหน้าตาเข้มขึง ท่าทางองอาจผึ่งผาย ไม่มีท่าทางกริ่งเกรงกลัวแม้แต่น้อย สร้างความขุ่นเคืองใจแก่ฮิบรานจนเป็นเดือดดาล กราดยิงกระหน่ำไปทั่วทุกสารทิศพร้อมเสียงหัวเราะที่ผสมผสานราวกับปีศาจผุดขึ้นมาจากขุมนรกก็ไม่ปาน
ผู้คนที่มาร่วมงานต่างตกใจกรีดร้องเสียงหลง วิ่งหลบห่ากระสุนที่สาดมาอย่างโกลาหล คนไหนหนีไม่ทันก็ล้มคลุกพื้น ไม่ตายก็บาดเจ็บ ส่งเสียงร้องโอดโอยสร้างความเวทนาให้กับคนที่ได้เห็น ไม่ต่างจากอันเดซาอีซึ่งรีบจับแขนเจ้าสาวพาวิ่งลัดเลาะไปเพื่อหลบภัย อีกทั้งคิดไปนำเอาอาวุธมาต่อสู้กับโจรร้าย เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ในครอบครัวที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่ให้รอดพ้นภัย ทว่าเขาก็ไปได้เพียงแค่เล็กน้อย โจรร้ายที่หาญกล้าบุกมาปล้นฆ่าผู้คนทั้งที่อยู่ในช่วงเวลากลางวันก็เหยาะย่างอาชาใหญ่มาดักไว้เบื้องหน้าเสียก่อน
“จะไปไหนเล่าไอ้หนุ่ม ข้ามาตามคำเชิญของเจ้าแล้วอย่างไร มารับอาหารแห้ง เงินทองแล้วก็...” สายตาราวกับสุนัขจิ้งจอกไปหยุดที่สาวน้อยร่างเล็กบอบบางซึ่งขลาดกลัวจนตัวสั่น ขยับไปจนกายเล็กถูกกายใหญ่บดบังจนมิด
ขุนโจรร้ายยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจกับรูปร่างของสาวงามผู้เลอโฉม ความงามของบุตรสาวพ่อค้าวานิชลือเลื่องขจรกระจายไปไกล จนเหล่าขุนโจรผู้เป็นลูกน้องต่างก็ยุให้เขานั้นมาฉุดคร่าไปทำเมียเสียหลายครั้ง แต่ตอนนั้นเขาคิดว่านางยังเด็ก แล้วเขาไม่ชอบเด็กที่จะต้องคอยเอาอกเอาใจ ยามทำอะไรไม่ถูกใจคุณเธอทั้งหลายด้วย
“อีกไม่นานโว้ย ข้าจะไปพาผู้หญิงคนนั้นมาทำให้พวกเอ็งอิจฉาเล่น ฮ่าฮ่า...” เมื่อเมรัยเข้าปากก็เกิดความคึกคะนอง คำพูดคำจาจึงเต็มไปด้วยความฮึกเหิม แต่ไม่เคยคิดจริงจัง ด้วยรอบกายเขามีสาวงามคอยคลอเคลียเอาอกเอาใจให้ความสำราญอยู่แล้ว แต่เมื่อได้มาเห็นในวันนี้...
ม่านผ้าสีขาวผืนบางฉลุลายดอกไม้สีชมพูอ่อนจาง ที่มิอาจปกปิดใบหน้างามผุดผ่องแรกแย้มราวดอกไม้แรกผลิได้ นัยน์ตากลมโตฉายแววหวาดหวั่นหวาดกลัวแต่มีชีวิตชีวา ทำเอาหัวใจจอมโจรร้ายถึงกับสะดุด อยากยื่นมือไปสัมผัสโอบอุ้มเรือนกายอรชรอ้อนแอ้นบอบบางที่ต้องการคนเข้มแข็งและแกร่งกล้าเช่นคนอาจหาญอย่างเขาปกป้องคุ้มครอง เสียดายสุดใจขาดดิ้นที่ไม่เชื่อคำยุของเหล่าสมุนโจรผู้อหังการ เร่งรุดไปจับเอาเธอมาทำเมีย! เสียตั้งนานแล้ว แต่...
ถึงจะมาเจอในวันนี้ก็ยังไม่สายเกินไปนี่นา ในเมื่อนางผู้งามสง่า คู่ควรกับเขา...ฮิบราน ผู้เป็นหนึ่งแห่งขุนเขาเฮดา เหมาะที่จะเป็นแม่หญิงผู้ให้กำเนิดบุตรชายผู้ที่สืบทอดและปกคลุมกองโจรสืบนับเนื่องต่อไปเสียจริง! หญิงสาวที่แสนจะบริสุทธิ์ผุดผ่องทำให้นึกถึงดอกไม้ตูมเต่งที่จะผลิบานในอุ้งมือ ยามถูกโลมเล้าอย่างสนิทด้วยเพลิงเสน่หาเร่าร้อน
“มารับ...เมีย!”
ไอซาย่าถึงกับสะดุ้งหน้าซีดเผือด แค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ก็ทำให้เธอกลัวจนตัวสั่นอยู่แล้ว นี่ยังมีชายท่าทางน่ากลัวนั่งตระหง่านราวกับภูผาหินบนอาชาตัวใหญ่และเสียงเข้มดุกระโชกโฮกฮากดังสอดแทรกเข้ามาในโสตประสาท ยังจะสายตาโลมเลียไปทั่วร่างอีก หัวใจที่เต้นรัวระทึกด้วยความขลาดกลัวร่วงหล่นไปกองอยู่ที่ปลายเท้า อากาศรอบกายร้อนราวกับถูกเผาไหม้ ทว่าร่างกาย มือและเท้ากลับเย็นยะเยือกราวกับถูกน้ำแข็งเกาะ
สายตาคมดุเต็มไปด้วยความหื่นกระหายน่าสะอิดสะเอียน มองมาราวกับจะทะลุผ่านเนื้อผ้าสีขาวไปเห็นถึงเนื้อในดั่งเช่นทารกแรกเกิด แม้ก้าวหลบหลังร่างหนาใหญ่ไอซาย่าก็ยังรู้สึกถึงกระไอแห่งความน่ากลัวที่แผ่ซ่านมาครอบคลุมจนอึดอัดหายใจไม่ออก
“ไม่ต้องกลัวนะไอซาย่า ฉันจะไม่ให้ใครหน้าไหน ทำอะไรเธอได้แน่นอน” อันเดซาอีบอกกล่าวคนรัก มือหนาทาบทับบีบกระชับมือนุ่มนิ่มเย็นเฉียบอย่างต้องการปลอบประโลม ทั้งที่ตัวเขาเองไม่แน่ใจเลยสักนิด จะทำอย่างคำพูดได้หรือเปล่า ในเมื่อรอบกายตอนนี้มีแต่ขุนโจรร้ายอยู่รายรอบพร้อมอาวุธครบมือ ขณะที่เขาไม่มีอะไรเลย
“ฮ่าฮ่า แกนี่มันไม่ดูน้ำหน้าตัวเองเลยนะไอ้หนูน้อย ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ยังไปห่วงคนอื่นอีก” ขุนโจรร้ายหัวเราะเสียงดังลั่น หันไปมองลูกน้องที่ทำหน้าที่ของตัวเองไม่ขาดตกบกพร่อง เหลือเพียงแค่เขา...
“ฉันว่าแกไปซุกอกกินนมแม่ดีกว่าไอ้หนูน้อย ส่วนแม่สาวน้อยแสนสวยนี่...เธอเป็นของฉันว่ะ”
“กรี๊ด!!” ไอซาย่าหวีดร้องเสียงหลง เพียงแค่พริบตานิดเดียวเท่านั้น กำแพงหนาที่ใช้เป็นเกราะกำบังกายอันตรธานลอยไปล้มคลุกฝุ่น มุมปากด้านหนึ่งปริแตกมีเลือดไหลซึมออกมา ในขณะที่ตัวเธอก็ลอยละลิ่วไปนั่งอยู่บนอาชาตัวใหญ่ มีแขนกำยำราวกับเหล็กกล้ารัดรอบลำตัว สองมือถูกจับมัดเอาไว้ด้วยมือหยาบเพียงข้างเดียว ด้วยอีกข้างนั้นถือปืนเล็งใส่อันเดซาอี!
“ไม่! ปล่อยฉันนะ! ซีกัลป์ช่วยด้วย!” ไอซาย่าหวีดร้องเสียงดังลั่น พร้อมพยายามไขว่คว้าหาคนรักให้มาพาตัวเองออกไปจากไอ้คนกักขฬะ แต่ก็ยังกลัวอันเดซาอีจะเป็นอันตรายอยู่เหมือนกัน
เมื่อต้องทนเห็นคนรักอยู่ในอ้อมแขนคนอื่นโดยเขาทำอะไรไม่ได้ อันเดซาอีอึดอัดคับแค้นใจจัดจนหน้าตาแดงคล้ำ มองสบตาโจรร้ายอย่างอาฆาตแค้น เหลียวมองไปรอบๆ เพื่อหาดูว่ามีอะไรพอที่เขาสามารถใช้ช่วยเหลือไอซาย่าได้บ้าง แต่ก็ยิ่งทำให้ขุ่นเคืองใจ ด้วยไม่มีอะไรเป็นอาวุธได้เลย
“ปล่อยฉันนะ!!”
เสียงหวีดร้องด้วยความกลัวของไอซาย่าจุดประกายเพลิงโทสะในกายหนุ่มน้อยจนร้อนรุ่มราวถูกไฟเผา
“ปล่อยเมียฉันนะไอ้สถุล!” อันเดซาอีคิดว่าเขาตวาดดังกึกก้องแล้ว ทว่าเสียงที่เปล่งออกไปกลับเบาหวิว เป็นเรื่องตลกให้ไอ้เจ้าโจรร้ายหัวเราะหยามหยัน
“เมียแกหรือ...แล้วทำไมถึงมาอยู่ในอ้อมกอดฉันได้ล่ะไอ้หนุ่ม” ขุนโจรร้ายเอ่ยพลางหัวเราะกลั้วคอ มองหน้าเจ้าบ่าวหนุ่มน้อยขณะกดใบหน้าแนบบริเวณซอกคอระหง
เมียรักถูกลวนลาม ไอ้โจรร้ายก็ยังจะหัวเราะเสียงดังก้องเยอะเย้ยตามมาอีก อันเดซาอีทนไม่ไหว แม้เขาจะด้อยกว่าในทุกทาง แต่ก็ไม่ได้ทำให้คิดยอมแพ้ ร่างสูงใหญ่พุ่งโผนไปข้างหน้าอย่างสุดตัว เพื่อช่วยตัวเจ้าสาวสุดที่รักจากอุ้งมือจอมโจรร้ายที่ตั้งหลักคอยรับอยู่แล้ว
เหมือนแก้วในหูสั่นสะเทือน เมื่อปลายกระบอกปืนฟาดไปที่ใบหน้าหล่อเหลาจนคนถูกทำร้ายถึงกับเห็นดาวลอยวิ้งๆ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอันเดซาอีก็รู้สึกถึงแรงปะทะบนยอดอกจนเซถลาไปคลุกฝุ่น ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นช่วยดวงใจอย่างหวังไว้ก็ถูกรุมสกรัมด้วยเท้าอีกหลายครั้ง จนเขาคิดว่าอาจมีบางส่วนของร่างกายหัก แต่ชายหนุ่มไม่คิดยอมแพ้ รีบพาร่างกายบอบช้ำลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล