เข้าใกล้เข้ามาอีกนิด

1744 คำ
เคทเริ่มแสดงความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้นกับลิตาอย่างชัดเจน ผ่านการสัมผัสที่ละเอียดอ่อนและการแสดงออกทางกายที่อบอุ่นมากขึ้น ในระหว่างทำงาน เคทเริ่มแตะแขนของลิตาเบาๆ ขณะพูดคุยหรือให้คำแนะนำ การสัมผัสนี้เป็นการแสดงความเอื้อเฟื้อและการให้ความสำคัญ การจับมือของลิตาในช่วงการสนทนาเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ทำให้รู้สึกถึงความเชื่อมโยงและการสนับสนุนที่ลึกซึ้ง เคทยังแสดงออกด้วยการนั่งใกล้กับลิตาในระหว่างการประชุมและการพูดคุย ทำให้บรรยากาศเป็นกันเองและอบอุ่น เคทอาจโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อแสดงความสนใจ และการสัมผัสที่อ่อนโยน เช่น การวางมือบนไหล่ของลิตา หรือการลูบหลัง ทำให้ลิตารู้สึกถึงความรักและการสนับสนุน เคทยังจัดกิจกรรมที่เป็นกันเอง เช่น การเดินเล่นในสวนหรือการไปดื่มกาแฟด้วยกัน เพื่อสร้างความรู้สึกถึงความใกล้ชิด ในช่วงกิจกรรมเหล่านี้ เคทมักจับมือของลิตาหรือแตะแขนขณะเดิน เพื่อให้ลิตารู้สึกถึงความอบอุ่นและความใกล้ชิด เมื่อวันหนึ่งลิตาเดินเข้ามาในห้องทำงานของเคทด้วยความรีบเร่งและความตื่นเต้นที่มีเรื่องสำคัญต้องพูดคุย ระหว่างที่เธอเปิดประตูและก้าวเข้าไป เธอทำพลาดและสะดุดกับขอบพรมที่ปูอยู่บนพื้น ลิตาทำท่าจะล้มลงอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ขณะที่ร่างของเธอกำลังพุ่งไปข้างหน้า เคทที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานหันไปเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในทันที ด้วยความรวดเร็วและสัญชาตญาณ เคทรีบลุกขึ้นและตรงไปที่ลิตา เมื่อถึงจุดที่ลิตากำลังจะล้มลง เคทได้ยืดแขนออกและคว้าตัวลิตาไว้ได้ทันที ผลจากการกระทำนี้ทำให้เคทและลิตาทั้งสองคนล้มลงบนพื้นห้องไปพร้อมกัน เคทพยายามควบคุมทิศทางการล้มและลดความแรงของการตกลงเพื่อไม่ให้ลิตาได้รับบาดเจ็บ การล้มลงของทั้งสองคนทำให้ร่างของพวกเขากอดกันบนพื้น เคทตกอยู่ในท่าทางที่คร่อมอยู่บนลิตา ซึ่งทำให้ ร่างของเธอเบียดติดกับลิตาอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ทั้งสองคนตกอยู่ในท่าทางที่แนบแน่นบนพื้น ลิตาสามารถรู้สึกได้ถึงหน้าอกของเคทที่กดทับอยู่บนหน้าอกของเธอ ทำให้ร่างกายของพวกเขาแนบชิดกันความใกล้ชิดระหว่างพวกเขายิ่งชัดเจนและไม่สามารถปฏิเสธได้ เคทรีบหันไปมองลิตาด้วยความห่วงใยขณะที่ลิตาค่อยๆ ลืมตาขึ้นและพบว่าเคทกำลังมองอยู่เหนือเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล ลิตารู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นในแก้มของเธอและหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น ความรู้สึกเขินอายเกิดขึ้นทันทีเนื่องจากการสัมผัสที่ใกล้ชิดและความใกล้ชิดระหว่างหน้าอกของพวกเธอ ความเขินอายนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสถึงความใกล้ชิดเช่นนี้กับเคท ซึ่งเป็นการสร้างความรู้สึกใหม่และเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ลิตาพยายามหายใจลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ ขณะที่เธอรู้สึกถึงการสัมผัสที่ใกล้ชิดจากเคท เธอหลบตาแล้วมองไปที่เพดานห้องเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับเคท ความเขินอายของลิตาทำให้เธอรู้สึกถึงความร้อนในใบหน้าและรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่เร็วรัว เคทเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "เจ็บไหมคะลิตา?" ขณะที่ลิตาอยู่ในท่าทางที่แนบแน่นกับเคท เธอรู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นในใบหน้าและรู้สึกเขินอายอย่างมาก ขณะที่เธอพยายามตอบคำถามของเคท ปากของเธอสั่นและน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นคง ลิตาตอบด้วยความลำบากใจว่า "มะ มะ ไม่เป็นไรค่ะคุณเคท" หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องทำงาน ลิตารู้สึกสับสนในใจเล็กน้อย ความรู้สึกเขินอายและการสัมผัสที่ใกล้ชิดกับเคททำให้เธอเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเอง ลิตารู้สึกถึงความอบอุ่นและความใกล้ชิดที่แตกต่างจากการสัมผัสทั่วไป แต่ไม่แน่ใจว่านี่คือความรู้สึกพิเศษที่เธอมีต่อเคท หรือแค่ผลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความสับสนนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร และทำให้เธอมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของเธอ ด้านเคทเองก็เริ่มวางแผนร้ายในใจ ทำให้การทำโอทีดึกกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอและลิตา โดยลากยาวมาจนเกือบสองอาทิตย์ ความจริงแล้ว เคทตั้งใจให้ลิตาต้องอยู่ดึกด้วยกัน เพื่อสร้างสถานการณ์ให้พวกเธอได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ทั้งๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของงาน แต่ในใจของเคทนั้น กลับมีแผนการร้ายแฝงอยู่ เธอหวังว่าความเหนื่อยล้าและเวลาที่พวกเธอใช้ร่วมกัน จะทำให้ลิตาเริ่มรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่มากกว่าคำว่า "เจ้านายกับเลขา" ในทุกคืนที่ทำโอทีกันจนดึกดื่น เคทมักจะมีวิธีการแอบยั่วลิตาอย่างแนบเนียน เธอมักปลดกระดุมเสื้อลงหนึ่งถึงสองเม็ด ทิ้งให้เสื้อตัวบางเปิดเผยให้เห็นหน้าอกอวบใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใน ลิตาไม่อาจละสายตาได้ แต่ก็ต้องพยายามเก็บอาการไว้ เธอรู้สึกถึงความไม่ปกติ แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา ทำได้แค่คุมสติแล้วทำงานต่อไป ทั้งที่ในใจนั้นกลับรู้สึกกระวนกระวายทุกครั้งที่เคทใช้วิธีนี้ยั่วเธออย่างไร้คำพูด ในคืนหนึ่งที่ลิตาทำงานล่วงเวลา เคทเริ่มใช้กลยุทธ์ที่เต็มไปด้วยความเซ็กซี่เพื่อดึงดูดความสนใจของลิตา เคทยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ ลิตา โดยใช้การสัมผัสและท่าทางที่มีนัยสำคัญ เคทลูบหลังของลิตาอย่างนุ่มนวล ขณะที่ลิตากำลังตั้งใจทำงาน การสัมผัสนี้ทำให้ลิตารู้สึกถึงความอบอุ่นและความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้น ความรู้สึกนี้ทำให้ลิตารู้สึกกระวนกระวายและตึงเครียดในเวลาเดียวกัน บางครั้ง เคทยืนอยู่ข้างๆ ลิตาและกระซิบข้างใบหูของเธอ การกระซิบนี้มีความเซ็กซี่และทำให้ลิตารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเคท การกระทำนี้สร้างความตึงเครียดทางอารมณ์และเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างพวกเขา ลิตารู้สึกถึงความตึงเครียดและความเขินอายจากการกระทำของเคท เธอรู้สึกกระวนกระวายและสับสนเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเอง ความใกล้ชิดนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ไม่คุ้นเคย และสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสับสนในความรู้สึกของเธอ เคท: "ลิตาคะ วันนี้เลิกดึก เดี๋ยวเคทขับรถไปส่งนะคะ" ลิตา: "ขอบคุณค่ะคุณเคท แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันกลับเองได้" เคท: "ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ ลิตา เคทอยากให้ลิตาปลอดภัย และการไปส่งก็ไม่ไกลจากที่ทำงานเลย" ลิตา: "คือ... ขอบคุณนะคะ แต่เคทคงเหนื่อยแล้ว" เคท: "เคทไม่เป็นไรเลยค่ะ แค่ให้ลิตารู้สึกสบายใจ และพูดคุยกันเล็กน้อยระหว่างทางก็เป็นสิ่งที่ดี" ลิตา: "โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมากเลยนะคะ" เคท: "ดีค่ะ งั้นเราไปกันเถอะ พร้อมแล้วนะคะ" มิเชลเพื่อนจากต่างประเทศมาหาเคทที่ทำงาน การพบกันนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสนิทสนมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมิเชลเดินเข้ามาที่ทำงาน เคทรีบเดินไปต้อนรับด้วยรอยยิ้มกว้างและความกระตือรือร้น พวกเขากอดกันอย่างสนิทสนม การกอดนี้ไม่เพียงแสดงถึงความรักและความคิดถึง แต่ยังสื่อถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและแน่นแฟ้น แม้จะไม่ได้เจอกันมานาน แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงมีความใกล้ชิดเหมือนเดิม ในขณะที่พวกเขาพูดคุย เคทและมิเชลแลกเปลี่ยนเรื่องราวชีวิตและประสบการณ์ที่ได้เจอในช่วงเวลาที่ไม่ได้พบกัน ความสนทนาเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความจริงใจ เคทแสดงความสนใจในเรื่องราวที่มิเชลเล่า และมิเชลก็ฟังเคทด้วยความตั้งใจและให้ความเห็นใจ เสียงเคาะประตูดึงความสนใจของทั้งเคทและมิเชลจากการพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เมื่อประตูเปิดออก ลิตาเดินเข้ามาพร้อมกับถาดกาแฟที่จัดเตรียมมาอย่างเรียบร้อย เมื่อประตูปิดลงหลังจากที่ลิตาออกไป มิเชลหันมามองเคทด้วยความสนุกสนานและอารมณ์ขัน เธอพูดขึ้นด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความสนใจ มิเชล: "เลขาของเธอนี่ รูปร่างน่าตาแบบนี้สเปคของใครน๊าาาา?" มิเชลยิ้มอย่างร่าเริง ขณะที่เคทเริ่มยิ้มกริ่ม ความรู้สึกของเคทที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยความพอใจและความมั่นใจ เคทพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมทั้งตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เคท: "อย่าเอะอะเลยนะคะ มิเชล เดี๋ยวไก่ตื่น" เคทพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความลับและความเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มของเธอเผยให้เห็นถึงความพอใจ มิเชล: "อย่าช้านะ เดี๋ยวฉันมาซิวไปนะน่ารักๆ แบบนี้" มิเชลหัวเราะเบาๆ ด้วยความขบขันและแกล้งทำเป็นคิดจริงจัง ขณะที่เคทถลึงตาใส่มิเชลด้วยความเข้มขรึม เคท: “ของงงงข้าาาาใครอย่าาาแตะ เคทพูดด้วยเสียงที่ชัดเจนและมีน้ำหนัก ความเข้มงวดในน้ำเสียงของเธอทำให้บรรยากาศรู้สึกถึงความแน่นอนและความตั้งใจของเธอ รอยยิ้มของมิเชลและความเป็นมิตรยังคงอยู่ แต่ก็ต้องเข้าใจถึงความจริงจังในท่าทีของเคท หลังจากลิตากลับมาที่โต๊ะทำงานหลังจากที่เคทและมิเชลพูดคุยกัน เธอเริ่มรู้สึกถึงความไม่สบายใจที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกหึงหวงที่เกิดขึ้นเมื่อเห็นเคทและมิเชลมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกละเลยและไม่สำคัญ ลิตาพยายามหลีกเลี่ยงการมองไปที่เคทและมิเชลมากเกินไป และมักจะทำหน้าบึ้งเล็กน้อยเมื่อพวกเขาอยู่ใกล้ บรรยากาศรอบๆ โต๊ะทำงานเริ่มเต็มไปด้วยความตึงเครียดจากความรู้สึกไม่สบายใจและความสับสนที่ลิตารู้สึก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม