“ขอบใจอะไรคะ” เธอทำเสียงเง้างอน ทำหน้าย่น ๆ โกรธตัวเองมากกว่าที่รู้สึกดีไปกับเขาด้วย
“ขอบใจที่เปรี้ยวให้จูบ หรือขอบใจที่แกล้งหลอกคนอื่นว่าเป็นแฟนของพี่ดอย หรือขอบใจเรื่องอะไรคะ” เธอพูดด้วยความนอยด์ล้วน ๆ รู้สึกเปลืองตัวจริง ๆ กับพี่ชายคนนี้
“ขอบใจทุกอย่างเลย แต่พี่อยากให้เปรี้ยวรู้ไว้ว่าพี่ทำทุกอย่างมาจากใจจริง ๆ ของพี่นะ” เขาทำน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเดิม ดูท่าทางเขาจะรู้แล้วว่า สาวน้อยแพ้ทางผู้ชายแบบนี้
“อือ...” เธอขานรับเบา ๆ ยิ่งตอนนี้เขากดจมูกบนแก้มนวลอีกแล้ว
“พี่ดอย...” เธอเรียกชื่อเขาเสียงแผ่ว
“ครับผม” เขาขานรับกอดเธอเอาไว้แน่น
“ให้โอกาสพี่นะ เป็นแฟนพี่จริง ๆ ได้ไหม” สิ้นคำของเขา เปรี้ยวออกอาการตกใจขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่ดอยไข้ขึ้นหรือเปล่าคะ พูดอะไรออกมา” เธอหันหน้าไปว่าเขา ดอยรวบขาเธอขึ้นให้นั่งสะพายข้าง ก่อนจะรั้งร่างบางมานั่งบนตัก เปรี้ยวกลัวตกรีบคว้าแขนของเขาเอาไว้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยกแขนขึ้นโอบรอบคอของภูผาเอาไว้แน่น
“ทำอะไร เดี๋ยวก็หล่นลงไปทั้งคู่หรอกค่ะ” เธอทำเสียงเขียว หน้าตาตื่น
“จะหล่นได้ไง ก็พี่กอดเปรี้ยวเอาไว้ทั้งตัว”
เขาชิดใบหน้าลงมา เปรี้ยวจ้องสบตาที่มองเขาอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ยิ่งสั่นสะท้านหนักกว่าเดิม รู้สึกเขินหน้าแดงเข้าไปอีก แล้วหัวใจก็ไม่ซื่อสัตย์กับเจ้าของเอาเสียเลย ปากว่าไม่ แต่ใจเหมือนตอบรับเขาไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์
“พี่เชื่อว่าพี่ทำให้เปรี้ยวรักพี่ได้” เขาบอกอย่างมั่นหน้า
“อื้อ...” เธอได้แต่ครางประท้วง ตามองตอบเขาแบบมีแววหวั่นไหว
“นะ เรามาเป็นแฟนกันจริง ๆ นะ” เขาอ้อนใหญ่ ส่งสายตาเว้าวอน
“เร็วไปไหมคะ” เธอถามออกมาหน้าแดงระเรื่อ แอบลุ้น
“จะรอทำไมถ้าใจเราตรงกัน” เขาใช้สำนวนหวานชวนเลี่ยน
“ใครบอกว่าใจเปรี้ยวตรงกับพี่ดอย” เธอต่อปากต่อคำ
“ให้พิสูจน์อีกทีไหม” เขาพูดท่าทีเอาจริง
“คะ?” สิ้นคำ
พี่ดอยก็ฉกริมฝีปากเร่าร้อนลงมาปิดปากนุ่มนิ่มของเธออีกครั้ง เขาบดเบียดริมฝีปากร้อน ๆ เข้าหาริมฝีปากหวาน ๆ ครั้งนี้ทั้งเร่าร้อนและอ่อนโยน เธอหลับตาพริ้มลงทันทีใจเต้นรัวระดับสิบ ได้แต่อยู่นิ่ง ๆ ให้ภูผาหาความสุขสำราญได้เต็มที่
เขาสอดปลายลิ้นเข้าไปหาความหวานภายใน ปลายลิ้นเรียวตวัดรัดตรึงเชิญชวนให้เธอเคลิบเคลิ้ม หญิงสาวปลื้มนายภูผาอยู่เป็นทุน และด้วยใจสิเน่หาที่มีต่อเขาที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน เปรี้ยวปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่าเธอก็รู้สึกชอบการกระทำของเขาเสียแล้ว เด็กสาวเผลอจูบตอบตวัดรัดปลายลิ้นเรียวของเขาอย่างอ่อนนุ่มหวานละมุน
“จูบพี่หวานไหม” เขาถามออกมาอย่างหน้าไม่อาย
“บ้าแล้ว พี่ดอยอะ” เธอเขินทุบตีหน้าอกของเขายกใหญ่
“ตกลงเป็นแฟนตัวจริงของพี่นะ” เขารุกถาม
“อืม...” เธอตอบรับน้ำคำ ออกอาการสะเทิ้นอาย
“วู้...” เสียงดอยและท่าทางของเขาที่ตะโกนแหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้า
“เป็นอะไรคะพี่ดอย ทำอะไร”
“ก็พี่ดีใจ”
“ดีใจอะไรคะ”
“แฟนผมน่ารักไหมครับ” เขาตะโกนถามขึ้นไปบนฟ้า
“เซี้ยวใหญ่แล้ว ไม่อายฟ้าดิน ก็อายเจ้าสีชามันด้วยนะคะ แล้วเราจะไม่ลงไปเดินข้างล่างจริง ๆ หรือคะ สงสารสีชานะคะ คงหนักน่าดู” เธอยิ้มหวานให้เขา
“นั่นสิ ก็บรรยากาศบนหลังเจ้าสีชามันดีนี่ครับ ดูสิคนบางคนขัดขืนไม่ได้เลย” เขาพูดล้อเลียน
“พี่ดอย... แผนเยอะนะคะ” สองคนยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
‘วันนี้แล้วสินะ งานหมั้นของพี่ดินกับปลา แล้วผมจะทำยังไง พี่ดินผมอยากขอโทษ’ ดอยมองภาพตรงหน้า ปฐพีกำลังพูดสายกับปภัสสรคุยกันเรื่องงานคืนนี้
“ว่าไงครับปลา” เขารับสายด้วยเสียงที่นุ่มนวล จนสองหนุ่มสาวที่อยู่ข้าง ๆ ต้องหันไปมอง เพราะสะดุดชื่อที่เขาเรียก
(“ปลาไปแต่งตัวที่ห้องพี่บาสนะคะ”) เธอเอ่ยถึงชื่อเพื่อนช่างแต่งหน้าชื่อดังที่เธอชักชวนให้มาร่วมงานนี้ด้วย อาจจะมีค่าจ้างให้อีกด้วย พร้อมกับทีมเสื้อผ้าหน้าผมที่ขนมาจากกรุงเทพฯ
“เอาสิ ให้สวยที่สุดเลยนะครับ” เขาพูดทำสีหน้ายิ้มกับตัวเอง
(“ปลาไม่ให้พี่ดินน้อยหน้าใครแน่ ๆ ค่ะ ว่าแต่ว่างานนี้จะไม่มีเซอร์ไพรส์จริง ๆ หรือคะ”) เธอหยอดคำออเซาะมาตามสาย
“ถ้าพี่บอกปลา ปลาก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ” เขาพูดหวานกลับไปเช่นเดียวกัน
ภูผาที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขารู้สึกตะขิดตะขวงใจ จะเอ่ยปากบอกพี่ชายได้อย่างไรว่าเขามีอะไรกับว่าที่พี่สะใภ้ของเขาแล้ว และเขาก็ยังรักเธอ
“พี่ดินครับ” เสียงน้องชายเรียกชื่อปฐพีขึ้นมา หลังจากที่เขาส่งเปรี้ยวให้กับคนดูแลม้า ให้พาเปรี้ยวไปทดลองขี่เดินวน ๆ ในสนามที่มีรั้วรอบ เพราะเป็นสถานที่ฝึกม้าเพื่อเตรียมเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในมวกเหล็ก แพลนงานชิ้นใหม่ของปฐพีที่จะเปิดในสิ้นปีนี้เป็นต้นไป
“ว่ามาสิ” พี่ชายนั่งลงก่อนจะถอดหมวกปีกกว้างที่ใส่ออกจากศีรษะ ดอยขยับนั่งลงต่อหน้าพี่ชาย ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ใบหน้าของเขาดูหมองหม่นและนัยน์ตาที่หนักใจเป็นอย่างมาก
“พี่มั่นใจแล้วหรือครับที่จะหมั้น...เอ่อ...กับ...” แค่ชื่อของปภัสสร ภูผาก็ยังไม่อยากจะเอ่ยถึงเลย มันเจ็บช้ำจนพูดไม่ออก
“ทำไม ดอยมีอะไรจะพูด” ปฐพีเอ่ยถามออกมาทันใด เหมือนจะรู้เรื่องที่เขาและปภัสสรทำอะไรไม่ดีเอาไว้ลับหลัง แต่ในฐานะพี่ชาย ปฐพีควรให้อภัยน้องชายของตัวเองมิใช่หรือ
“เอ่อ...ผม...”ภูผาอ้ำอึ้ง เพราะเหมือนน้ำท่วมปาก ความผิดครั้งนี้หากเขาพูดไปไม่รู้พี่ชายจะอภัยให้เขาได้หรือเปล่า ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะตัณหาหน้ามืดและความไร้ยางอายของทั้งตัวภูผาและปภัสสรเอง
“พี่มั่นใจ ว่าพี่ดูคนไม่ผิด อีกอย่างพี่คิดว่าพี่รักเธอ อาจจะเร็วไป ถ้าพี่อยากจะบอกว่าอยากปกป้องและต้องการรับผิดชอบ” ปฐพีพูดไปพลางนึกถึงหน้าของสาวน้อย นามว่า ม่อน
“พี่ดิน...” น้องชายอุทานชื่อเขาออกมาเบา ๆ ขืนเขาพูดออกไปตอนนี้คงไม่เหมาะแน่ ๆ รังแต่จะทำให้ทุกคนเจ็บปวด และทำให้บรรยากาศแห่งความชื่นมื่นของพี่ชายหายไป ภูผาไม่อยากทำลายมัน
“แล้วเราล่ะดอย คิดจะจริงจังกับใครบ้าง อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ ใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ อีก พี่เป็นห่วงดอยนะ” เขาพูดประโยคที่อยากจะบอกน้องชายที่เขารักมากที่สุดมาแสนนาน และก็จะรักตลอดไป