“ก็ถ้าเราสองคนอยู่ต่ออีกสักสองสามวัน พี่ว่าเปรี้ยวคงขี่สีชาได้คล่องปร๋อแหละ” เขาพูดพลางหนุนหลังให้เธอขึ้นไป ก่อนจะช่วยยกสะโพกมนให้ขึ้นไปนั่งบนหลังม้าสีชาเรียบร้อย
“โอ้ย... พี่ดอย มันสูงจัง เปรี้ยวกลัวตก” เธอบอกเขา ทำขาสั่นพั่บ ๆ ดอยได้แต่หัวเราะในกิริยาของเธอ หึ ๆ
เขาคว้าเชือกก่อนจะสอดเท้าเข้าไปในที่เหยียบแล้วเหวี่ยงตัวนั่งประกบทางด้านหลังของเด็กสาว เปรี้ยวร้องวี้ดออกมาเบา ๆ และหันไปมองหน้าพี่ชายรู้สึกใจเต้นตึก ๆ
“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวพี่โอบเปรี้ยวไว้ทั้งตัว” เขาพูดใช้มือข้างหนึ่งถือเชือก อีกข้างหนึ่งโอบกอดที่เอวคอดของเด็กเปรี้ยวเอาไว้แน่น
“หายกลัวยัง” เขาพูดข้าง ๆ ใบหูและแก้มนวล เธอหายใจออกมาแรง ๆ หัวใจเต้นตึกตักยิ่งกว่าเดิม เมื่อเขาทำตัวใกล้ชิดขนาดนี้ สองมือของเธอลูบไล้ขนตรงที่หลังม้าแก้เก้อ
ภูผาเตะขากระทบเนื้อข้างตัวม้าดังเปรี๊ยะ ทำให้เจ้าสีชาขยับ เธอผวาตกใจนิด ๆ รีบพิงหลังไปบนหน้าอกของพี่ดอยในทันที สองมือจับมือของเขาที่รัดเอวเอาไว้แน่น
“ช้า ๆ นะคะพี่ดอย” เธอบอกเขาออกมาทันที เพราะนึกถึงภาพเวลาคนขี่ม้าในทีวีแล้วเกิดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง เปรี้ยวมองไปยังพื้นหญ้าเบื้องล่างเล่นเอาใจหายแว็บ
“ให้หนูรู้สึกชินกับม้าก่อนนะคะ” เธอรีบบอกเพราะเห็นว่าเจ้าสีชาเริ่มขยับก้าวขาเร็วขึ้น
“จะไปถึงท้ายไร่เมื่อไรกัน ถ้าขี่แบบนั้น พี่มีที่สวย ๆ จะพาเราไปดูตั้งเยอะแยะ” เขาพูดเสียงดังข้าง ๆ แก้ม หัวใจของเปรี้ยวเต้นเร็วกว่าเดิมเข้าไปอีก เมื่อแก้มนวลสัมผัสกับริมฝีปากของพี่ดอยที่ขยับพูดอยู่ใกล้ ๆ
“จริงหรือคะ” เธอหันหน้ามามองเขาอย่างตื่นเต้น แก้มใสชนกับริมฝีปากที่ชิดแนบใบหน้านวล เขาแกล้งจุ๊บและหอมเธอหนัก ๆ
“พี่ดอย” เธอเรียกชื่อเขา ยกมือขึ้นเช็ดข้างแก้มที่ยังรู้สึกถึงผิวสัมผัสของภูผาแผ่ว ๆ หน้าเริ่มออกแดงเพราะความเขิน
“จ๋า...” เขาขานรับเสียงยาน ทำหน้าทะเล้น
“แกล้งเปรี้ยวอีกแล้วนะ” เธอต่อว่าเขา
“ใครบอกว่าแกล้ง ทำจริง ๆ ก็เปรี้ยวทำตัวน่ารักเอง” เขาพูดออกมาดื้อ ๆ เตะเท้าไปยังสีข้างของม้า แล้วกระตุกเชือกให้ม้าออกวิ่ง
สาวน้อยถึงกับร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกใจ เอนตัวเข้าหาพี่ดอยโดยอัตโนมัติ อิงแอบหลังของตัวเองแนบสนิทไปกับแผงอกแน่น ๆ และใช้มือจับแขนของพี่ดอยข้างที่โอบตัวเธอเอาไว้ด้วยอาการเกร็ง
-------------------------
“ไปทางนู้นดีกว่า เดี๋ยวช้า กลับมาแต่งหล่อไม่ทัน” เขาบอกสาวน้อย เร่งฝีเท้าม้าให้เร็วขึ้น สายลมตีพัดลมเย็น ๆ ปะทะใบหน้า เปรี้ยวเริ่มมีสีหน้าดีขึ้น ความตื่นเต้นลดน้อยลงเมื่อเห็นวิวที่สวยตรงหน้า ทุ่งหญ้าที่เขียวขจีช่างเป็นภาพที่แปลกตาเหลือเกินสำหรับเธอ
“สนุกจังค่ะ” เธอบอกเขาออกมาด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าของเปรี้ยวฉาบไปด้วยรอยยิ้ม ดอยดีใจที่เปรี้ยวมีความสุข เขากระชับเอวคอดเอาไว้แน่น ก่อนจะออกแรงควบม้ามุ่งหน้าไปยังริมลำธารอย่างรวดเร็ว
“ถึงแล้วจ้ะ” เขาบอกเธอก่อนจะชะลอฝีเท้าของม้าลดความเร็ว และบังคับทำให้มันหยุดลง
“โอ้ย... มันเป็นบ้า” เธออุทานออกมาด้วยความเคยชิน
“ป๊อก...” เขาเขกหัวเธอดังป๊อก สาวน้อยยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองด้วยความเจ็บ หันหน้าไปค้อนให้เขา
“พี่ดอยมาเขกหัวเปรี้ยวทำไม” เธอว่าเขาก่อนจะกระแทกหลังเข้ากับแผ่นหน้าอกกว้าง ๆ ของภูผาเพื่อเอาคืน
“พูดไม่เพราะเลยครับ” เขาว่าให้ กอดเอวเธอเอาไว้แน่น แล้วพิงหน้าลงบนไหล่ของเปรี้ยวแบบวิสาสะ
“ถึงแล้วก็ลงสิคะ” เธอพูดเพราะเห็นเขายังทำอ้อยอิ่ง และรู้สึกขนลุกเพราะลมหายใจที่เป่ารดอยู่ตรงต้นคอขาวนวล
“ก็พี่อยากอยู่แบบนี้อีกสักพักนะเปรี้ยว นะ...” เขาทำเสียงอ้อน ๆ อยู่ข้าง ๆ แก้ม พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ
“ถามเปรี้ยวหรือยังคะ ว่าเปรี้ยวยังอยากอยู่ข้างบนหลังม้าแบบนี้อีกนานไหม” เธอต่อว่าเขา หน้าแดงออกอาการเขิน รู้สึกพี่ดอยชักจะอ้อนผิดเวลาและดูจะมากขึ้นจนทำให้เปรี้ยวอึดอัด
“แล้วตอนนี้ก็ไม่ใช่อยู่ต่อหน้าคนอื่น ๆ จะมาทำแบบนี้” เธอหยิกหนึบไปที่แขนของภูผา เขารีบยึดมือน้อย ๆ ที่กำลังจะทำให้ตัวของเขาเจ็บขึ้นมาอีก
“อย่าดื้อสิ” เขาบอกเธอเบา ๆ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ตอนนี้รู้สึกดีที่มีเปรี้ยวอยู่ข้าง ๆ
“อาการไม่เห็นเหมือนคนอกหักเลย” เธอย้อนเขาด้วยคำพูด
“ก็พี่มียาดีอะ ก็เปรี้ยวไง” เขาหยอดคำหวานกับเธอน้ำเสียงฟังดูจริงจัง
“พูดอะไรก็ไม่รู้ ใครว่าเปรี้ยวจะ...” เธอกำลังจะขยับปากพูดอะไรบางอย่าง
ภูผาใช้อีกมือล็อกใบหน้านวลให้หันหน้าเข้าหา ก่อนจะปิดปากนุ่มนิ่มนั้นทันที
“อือ...” เธอครางออกมาทันใด ไม่มีโอกาสได้ขัดขืน แล้วได้แต่ยิ่งนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนหลังเจ้าสีชาด้วยแล้ว เปรี้ยวไม่กล้าดิ้นเพราะกลัวจะร่วงตกลงไป
ปลายลิ้นของเขาสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของเธอ ควานหาความหวานอย่างตั้งใจ เปรี้ยวหลับตาลง ปล่อยให้พี่ชายเอาแต่ใจทำในสิ่งที่เขาโหยหา บรรยากาศก็ช่างเป็นใจอีกด้วย
สายลมที่พัดเอื่อย ๆ ปะทะผิวกายของเธอทำให้ขนลุกชันไปทั้งตัว ความรู้สึกอบอุ่นวาบหวิวเกิดขึ้นมาในหัวใจของเปรี้ยว เขายิ่งบดเบียดรุกเร้าหนักหน่วง หัวใจสาวน้อยโบยบิน รู้สึกตัวเบา ๆ เหมือนอยู่ในความฝัน เธอเผลอใจจูบตอบเขาเมื่อถูกเชิญชวนรุกหนัก หัวใจดวงน้อย ๆ เต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมาข้างนอกเสียให้ได้
ทั้งสองคนจูบกันอยู่เนิ่นนาน เปรี้ยวเหมือนจะขาดอากาศหายใจ เมื่อพี่ดอยผละริมฝีปากออกมาเธอถึงกลับส่งเสียงขึ้น และมีอาการหอบนิด ๆ
“พี่ดอย... เปรี้ยวโกรธแล้วนะ” เธอว่าเขา หันหน้ากลับด้วยความเขินอาย ครั้งนี้เธอเผลอตัวเผลอใจไปกับเขาเต็ม ๆ
“ห้ามโกรธพี่นะ ก็พี่อดใจไม่ไหวนี่นะ ก็เปรี้ยวทำหน้าตาน่ารักเองทำไม” ดูพี่ดอยพูดเข้า ไม่มีคำแก้ตัวเลยด้วยซ้ำไป สองอ้อมแขนใหญ่กอดรัดร่างของเปรี้ยวเอาไว้
“ขอบใจนะ ที่อยู่เคียงข้างพี่” เขากอดเธอแน่นเข้าไปอีก ตอนนี้ไม่อยากจะปล่อยมือจากสาวน้อยคนนี้เลย ภูผารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเร็วไปหากจะบอกว่าเขารักเธอ แต่ตอนนี้เขาก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่า เขาชอบสาวน้อยคนนี้เข้าแล้วจริง ๆ