“ผม...” ดอยน้ำตาเอ่อ เขาก็ไม่รู้ทำไมถึงอยากที่จะร้องไห้ ดอยโผเข้ากอดพี่ชายของเขาเอาไว้แน่น ดินลูบหลังและกอดกระชับน้องชายคนเดียวของเขาเอาไว้เช่นเดียวกัน
“อะไรที่มันแล้ว ๆ มา ก็ให้มันผ่านไป ขอแค่ให้ดอยนะรู้จักเป็นผู้ใหญ่ให้มากกว่าเดิม และหาสิ่งที่ดีที่สุด” ปฐพีปลอบใจภูผา และสอนไปในคำพูดเหล่านั้นด้วย
“ครับ” น้องชายรับปากเสียงแผ่ว จุกแน่นไปทั้งหน้าอก เขาทรยศพี่ชายที่แสนดีของเขาได้อย่างไรกัน
ตอนแรกเขาสนใจปลาและรู้สึกรักเธอ การพาเธอมาเที่ยวบ้านในครั้งแรก กลับเป็นการเริ่มต้นสายสัมพันธ์ของปฐพีและปภัสสร ภูผาถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่เฝ้ามองสองคนอี๋อ๋อกัน ทั้ง ๆ ที่ปวดร้าวในใจเป็นที่สุด สิ่งที่ตอนนั้นภูผาทำให้คือได้แต่รอคอยอย่างสิ้นหวัง
เมื่อความหลงมันบังตาบังใจทำให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
“ปลาได้พักกองตั้งอาทิตย์ ดอยก็ได้พักด้วยนี่ใช่ไหม” ปภัสสรถามขึ้นและนั่งลงใกล้ ๆ ภูผา
“พี่ชายคุณก็ไม่อยู่ ปลาเซ็งนะคะแบบนี้” เธอทำสีหน้าละห้อย และดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“ช่วงนี้ให้ผมเป็นตัวแทนของพี่ดินได้ไหมครับปลา” เสียงพูดที่เว้าวอนมาจากความรู้สึกที่ปิดเอาไว้แสนนาน
“คะ?” เธอถามเขาเสียงสูง พอจะสงสัยเรื่องที่ภูผาแอบรักเธอ แต่หญิงสาวทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสีย
“คุณอยากไปเที่ยวไหน ผมจะพาไป” เขาขันอาสา ส่งยิ้มหวานให้
“ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย และรู้สึกดีเท่าที่ไร่ปฐพีหรอกค่ะ” เธอบอกเขาด้วยสีหน้าแช่มชื่น เพราะดาราที่มีชื่อเสียงตกเป็นข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ไม่ได้
“ไปเที่ยวที่ไร่ก็ดีเหมือนกันครับ ได้กลับบ้านด้วย” ภูผาเห็นด้วย ทั้งสองจึงออกเดินทางด้วยกันเย็นนั้น
‘ผมผิดไหมครับที่ผมรักเธอมาก่อนที่พี่จะรัก ผมขอโทษ แต่ผมทำใจไม่ได้’ คำตัดพ้อของเขาที่อยู่ในใจ
ตลอดเส้นทาง ภูผาเอาใจเธอมากมาย และไม่ปิดกั้นสายตาของตัวเองที่บอกว่ารักชอบเธอ ปลื้มออกมาอย่างเปิดเผย
ปภัสสรรู้สึกเหมือนเจ้าหญิงก็ไม่ปาน ระหว่างปฐพีกับภูผา ดีกรีความหล่อกินกันไม่ลง แต่ความน่ารักและเอาใจใส่คงสู้คนน้องไม่ได้ เธอตอบรับไมตรีเขาเกินคำว่าน้องของคนรัก
“ผมจะแวะซื้อเครื่องดื่ม ปลาเอาอะไรเป็นพิเศษไหม” เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“จะดินเนอร์ใต้แสงเทียนหรือคะ” ปภัสสรเปิดทาง ภูผาถึงกับยิ้มร่า
“งั้นให้ผมเป็นคนเทกแคร์คุณคืนนี้นะครับ” เขายกยิ้มอย่างพอใจ ใจเต้นแรง ไม่ได้นึกถึงปฐพีพี่ชายของเขาแม้แต่นิดเดียว
เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ สองหนุ่มสาวตระกองกอดกันซบอิงแอบกันอยู่ในห้องโถงนั้น
“ผมมีความสุขมากคุณรู้ไหม” ชายหนุ่มเปิดเผยความรู้สึกออกมา
“ดอย...” เธอเรียกชื่อคำเสียงอ่อนเสียงหวาน หน้าร้อนแดงออกด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ทั้งสองนั่งชนแก้วกันอยู่เมื่อกี้ ท่าทีของเธอนั้นเมาพอประมาณ
ปภัสสรเงยหน้าขึ้นมองเขา ทำตาหวานเชื่อม เผยอปากเชิญชวนอย่างเซ็กซี่ ในใจของนางเอกสาวตอนนี้ก็ลืมเลือนผู้ชายที่ชื่อปฐพีไปเลย
ภูผาประกบริมฝีปากที่ร้อนฉ่าลงบนริมฝีปากสีหวานที่ยวนยั่วตานั้นไม่ไหว จุมพิตของเขาทั้งรุนแรงและดูดดึง สองมือที่ประสานจับมือเธอเอาไว้แน่นอีกข้างบีบไปที่สะโพกมนผายอย่างมันมือ
“ดอย...” เธอถึงกับครางระรัว ตอนที่เขาผละออกจากริมฝีปากอ่อนนุ่มแล้วคลุกหน้าลงบนซอกคอขาว ๆ นั้น
“ผมรักคุณ” เขาเอ่ยออกมาเสียงกระเส่า แล้วยกหน้าขึ้นมองสบตากับเธอ
“ดอย...” เธอเรียกชื่อของเขาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นสอดประสานด้านหลังท้ายทอยของเขา โน้มใบหน้าหล่อเหลาของเขาเข้ามาแนบชิด ใช้ริมฝีปากสียวนปิดปากของเขาที่กำลังจะเอ่ยอะไร สองร่างกอดรัดกันด้วยแรงปรารถนาที่อยู่ภายในใจ
ชายหนุ่มผู้รักเธอด้วยความจริงใจ แอบเก็บงำความรักที่ซ่อนเร้นไว้ในซอกหลืบของหัวใจ
หญิงสาวรักเหรอ อาจจะไม่ใช่ แค่ความเหงาและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ต่างหาก ผู้หญิงที่หลอกลวงหัวใจตนเอง หลงกลกับรสสัมผัสและจิตใจที่โลเลไม่มั่นคง เผลอไผลไปกับกามเทพแผลงศรชั่วคราว เมื่อตกบ่วงลงไปแล้วคงยากที่จะถอนตัว
“โอ้ว...” ชายหนุ่มผู้แข็งแกร่ง จิตใจอ่อนยวบไปด้วยฤทธิ์สิเน่หาลุ่มหลง จนไม่คิดถึงความถูกผิดและความดีงามถูกต้อง
“ไปที่ห้องคุณกันดีไหมคะ” น้ำเสียงหวาน ๆ เอ่ยเชิญชวนจ้องมองตาเขาหวานหยดย้อย
“ครับ” เขาตระกองกอดเธอขึ้นสู่อ้อมแขน ก่อนจะพาเธอขึ้นบันไดไป และก็จบลงที่บนเตียงหนานุ่มของภูผาในคืนนั้น
และช่วงฮอลิเดย์ก็เหมือนวันที่ทั้งสองมาฮันนีมูนกันก็ไม่ปาน
“เริ่มต้นใหม่สิ” ปฐพีบอกน้องชายทำให้ภูผาตื่นจากภวังค์ ความรู้สึกของปฐพีก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างหากเกิดขึ้นแล้วคงย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้
‘ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดังหรอก’ พี่ชายปลอบใจตัวเอง เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น และเรื่องนี้ ระหว่างผู้หญิงกับน้องชาย ปฐพีขอเลือกน้องชายร่วมสายเลือดของเขามากกว่า
---------------------
“พี่ดอยคะ” เปรี้ยววิ่งเข้ามาหาภูผาด้วยรอยยิ้มที่สดใส สองพี่น้องรีบผละออกจากกัน
“พรุ่งนี้เราว่างมาขี่ม้าเล่นกันอีกนะคะ” เธอดูมีความสุขและสนุกไปกับของเล่นใหม่ ๆ ที่เพิ่งเคยสัมผัส
“ม้ากับเปรี้ยวเป็นของคู่กันจริง ๆ” เธอยกยิ้มอย่างพอใจ ดอยลุกขึ้นตรงไปหาเธอ ปากของเธอก็ยังคุยจ้อไม่หยุด เปรี้ยวจับมือดอยให้วิ่งไปดูม้าตัวที่เธอขี่เมื่อกี้นี้ด้วยกัน
“อย่าลืมกลับไปอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวหล่อ ๆ สวย ๆ นะ” เสียงพี่ชายตะโกนตามหลัง สองหนุ่มสาวหันมายิ้มให้กับเขา
ในห้องนอนของเปรี้ยวและพี่ดอย
“พี่ดอยคะ รูดซิปที่หลังให้เปรี้ยวหน่อยสิคะ” เปรี้ยวส่งเสียงเรียกภูผาทันทีที่ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ
ดอยหันไปตามเสียง ถึงกับตะลึงในความสวยสดใสของเปรี้ยว เธอเดินออกมาจากห้องน้ำสองมือจับชุดเกาะอกเอาไว้แน่น เธอทำสีหน้าเอียงอาย ยิ้มนิด ๆ มุมปาก เปรี้ยวรวบผมขึ้นโชว์ลำคองามระหง ใส่สร้อยเส้นเล็กที่เจ๊ฉิ่งให้ใส่ติดตัวไว้ เจ๊ฉิ่งบอกกับเปรี้ยวว่า
“เป็นนางเอกต้องมีเครื่องประดับราคาแพงใส่อยู่ตลอด และตุ้มหูที่เข้าชุดกัน”
“ฉันคิดเงินในค่าตัวหล่อนย่ะ ไม่ต้องมาขอบคงขอบคุณอะไร” เจ๊พูดก่อนจะหัวเราะออกมาฮึ ๆ เปรี้ยวชะงักมือที่กำลังยกมือไหว้ แต่ก็ยิ้มให้และเอ่ยขอบคุณเจ๊ฉิ่งซ้ำ ๆ
สองสามวันก่อน เปรี้ยวโดนเทรนเรื่องการแต่งหน้าอยู่สองวันเต็ม ๆ และเรื่องการพัฒนาบุคลิกภาพ เธอแต่งหน้าโทนอ่อนตามช่างแต่งหน้าได้สอนเอาไว้ ใบหน้าของเธอตอนนี้ช่างงดงาม